ตอนที่ 252-2 สวีโย่วเข้าดำรงตำแหน่ง

อ่านนิยายจีนเรื่อง ตอนที่ 23 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ลงชื่อวันแรกคนที่ไม่มามีเจ็ดแปดคน จางหู่หลี่หลงที่ได้รับคัดเลือกมาใหม่ก็มองผู้บัญชาการคนใหม่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยความระแวดระวัง แข็งใจรายงานชื่อของเจ็ดแปดคนที่หัวรั้นไม่มา/n /n /nสวีโย่วพยักหน้า สั่งให้จำไว้ทันที จากนั้นจึงสั่งคนให้รายงานผลลัพธ์ไปยังเจ็ดแปดคนนี้/n /n /nลงชื่อวันที่สองมีห้าคนไม่มา สวีโย่วยังคงไม่พูดอะไร เพียงแค่จำห้าคนนี้ไว้ และตัดเงินเดือนสามเดือน/n /n /nลงชื่อวันที่สามคนที่ไม่มามีเพียงสองคน นอกจากชีเว่ยที่พูดถึงก่อนหน้านี้แล้ว ยังมีบุตรอนุภรรยาผู้หนึ่งของจวนกงอ๋อง/n /n /nสวีโย่วยังไม่ได้พูดอะไร ก็ถอนคนทั้งสองออกจากตำแหน่งทันที แต่ว่าก่อนถอดถอนก็โบยคนละสิบครั้ง คนที่ลงโทษก็เป็นคนของกองปัญจทิศรักษานคร ไหนเลยจะกล้าโบยราชนิกุลสองคนนี้จริงๆ เพียงแค่เสแสร้งแกล้งทำก็เท่านั้นเอง หลังจากโบยสิบครั้งแล้ว บนร่างคนทั้งสองก็ไม่มีบาดแผลแม้แต่นิดเดียว โดยเฉพาะชีเว่ยคนผู้นั้น ตอนที่เขากระโดดขึ้นมา ชี้จมูกคนลงโทษก่นด่า ขึ้นเสียงจะเอาคืน/n /n /n“เอ๋ ท่านไหวหรือไม่ เด็กแซ่ชีผู้นั้นร้ายจริงๆ จะให้ฟังจงหลี่พาคนไปจัดการเขาสักหน่อยหรือไม่” เสิ่นเวยกระทุ้งแขนของสวีโย่ว กล่าวด้วยความแค้นเคือง/n /n /nมีความคิดนี้ได้อย่างไรกัน! ข้าคุณหนูสี่แซ่เสิ่นยังไม่ใช้อำนาจระรานในเมืองหลวงเลย ลูกคุณชายที่เอาแต่กินดื่มเที่ยวผู้หญิงติดพนันคนหนึ่งเช่นเจ้ากลับระรานไปทั่วเมืองหลวง คาดไม่ถึงว่ายังประกาศประจานสามีที่รักของนางอีก ข้าไม่ตีเจ้าจนเลือดออกจมูกเจ้าก็คงไม่รู้ว่าเหตุใดดอกไม้ถึงมีสีแดงเช่นนี้/n /n /nเสิ่นเวยถกแขนเสื้อเตรียมจะสั่งฟังจงหลี่ไปซุ่มต่อยคนโง่ชีเว่ย/n /n /nสวีโย่วรีบลากนางกลับมา กล่าวอย่างขบขัน “ในสายตาเวยเวย ข้าไร้ประโยชน์เพียงนี้เลยหรือ เศษสวะเช่นนี้ไหนเลยจะต้องให้เวยเวยออกมือ รอดูเถอะ!” ไม่ต้องให้เขาออกมือเอง ชีเว่ยผู้นั้นก็สามารถรนหาที่ตายเองได้/n /n /nเสิ่นเวยกะพริบตา กล่าว “ได้ ท่านจัดการก่อน หากท่านไม่ไหว ข้าจะออกมืออีกที เราเรียกนี่ว่าอะไรนะ สามีภรรยาใจเดียวกัน ตัดทองให้ขาดได้” เสิ่นเวยทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยค ทำให้สวีโย่วหัวเราะร่าด้วยความสุข/n /n /nหากเป็นเพียงการถอดถอนจากตำแหน่ง การตอบสนองของชีเว่ยอาจจะไม่ใหญ่เพียงนี้ อย่างไรเสียเขาก็ไม่ขาดเงิน ไม่ได้สนใจตำแหน่งงานนี้ ถอดถอนก็ถอดถอนไปสิ/n /n /nแต่สวีโย่วดันสั่งคนมาโบยเขาสิบครั้ง อีกทั้งยังโบยต่อหน้าแม่นางซูหว่านในหอเสพสำราญที่เขาชื่นชม เป็นความอัปยศอันใหญ่หลวง! ขายหน้า ขายหน้าเกินไปแล้ว ขายหน้าไปถึงบ้านยายแล้วรู้หรือไม่ เขาจะกล้ำกลืนความโกรธนี้ได้อย่างไร/n /n /nเขาจึงปรึกษากับสหายสนิทผู้เป็นบุตรอนุภรรยาจวนกงอ๋องผู้นั้น คิดอยากจะสั่งสอนสวีโย่ว แต่น่าเสียดายวันที่สองที่เคลื่อนไหว บุตรอนุภรรยาจวนกงอ๋องผู้นั้นกลับถูกพ่อเขาขังไว้ในจวน/n /n /nชีเว่ยสาปแช่งสหายสนิทว่าโง่เขลาต่างๆ นานา และทำได้เพียงปรึกษากันให้ดีอีกครั้ง/n /n /nวิธีล้างแค้นของชีเว่ยเรียบง่ายป่าเถื่อนอย่างถึงที่สุด แตกต่างแต่มีผลลัพธ์เดียวกันกับความคิดของเสิ่นเวยเล็กน้อย ก็คือนำคนไปปิดล้อมเส้นทางเลิกงานของสวีโย่ว คิดจะทุบตีสวีโย่วอย่างโหดเ**้ยม/n /n /nในสายตาเขา สวีโย่วก็คือคนขี้โรคที่ร่างกายผอมบางผู้หนึ่ง จัดการคนแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายดายหรอกหรือ/n /n /nหึ ไม่ต้องพูดถึงวิทยายุทธ์ที่สวีโย่วฝึกจนสมบูรณ์แบบนั่น เพียงแค่เจียงเฮยเจียงไป๋ที่ติดตามอยู่ข้างกายเขาก็ไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทหารคุ้มกันกล้าตายในที่ลับ/n /n /nชีเว่ยผู้นี้ยังคงเป็นคนโง่จริงๆ เจ้าบอกว่าเจ้าอยากซุ่มตีผู้บัญชาการสวี ขอเพียงแค่ขยับปากสั่งคนไปทำก็ได้แล้ว แต่เขาไม่ เขาดันพาคนลงสนามด้วยตัวเอง นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายเองหรือ/n /n /nดูสิ บนร่างสวีโย่วไม่เปื้อนแม้แต่เศษดิน เพียงแค่เจียงเฮยเจียงไป๋สองคนก็ตีชายแข็งแกร่งหนึ่งกลุ่มที่ชีเว่ยพามาจนลุกไม่ขึ้นแล้ว แม้แต่ชีเว่ยเองก็ถูกตีเกือบตาย นอนอยู่บนพื้นร้องโอดโอย/n /n /nเจียงเฮยเจียงไป๋เกลียดชีเว่ยผู้ที่ใส่ร้ายประณามนายของพวกเขายิ่งนัก ดังนั้นลูกน้องจึงไม่เหลือเยื่อใย นอกจากบนตัว ก็มีบาดแผลบนหน้าที่หนักที่สุด จมูกช้ำหน้าบวม ราวกับหัวหมู/n /n /nคราวนี้แย่แล้ว ชีเว่ยกลับไปถึงจวนด้วยสภาพเหมือนผีเช่นนี้ จวนเฉิงเอินกงก็ระเบิด ย่าเขาแม่เขาดึงเขาไปเช็ดหน้ำตา ซื่อจื่อเฉิงเอินกงพ่อเขาก็ตกใจและโมโหมากเป็นพิเศษ สีหน้าไม่ดีอย่างมาก แม้ลูกของตนจะทำตัวเหลวไหล แต่เจ้าผิงจวิ้นอ๋องก็ไม่อาจไม่ไว้หน้าเลยได้! อย่างไรเสียจวนเฉิงเอินกงของพวกเขาก็เป็นบ้านฝั่งมารดาของท่านไท่จื่อ ฮองเฮาเหนียงเหนียงยังมีอำนาจอยู่ในวัง ดูถูกจวนเฉิงเอินกงของพวกเขา ก็เท่ากับไม่เห็นฮองเฮาเหนียงเหนียงกับไท่จื่ออยู่ในสายตามิใช่หรือ/n /n /nชีซื่อจื่อทั้งโมโหทั้งเดือดดาล วันที่สองก็เข้าวังไปร้องทุกข์กับน้องสาวของเขาแล้ว/n /n /nเมื่อฮองเฮาเหนียงเหนียงกับไท่จื่อได้ฟังเรื่องนี้ ก็ตกใจอย่างถึงที่สุด “อะไรนะ ผิงจวิ้นอ๋องตีเว่ยเอ๋อร์หรือ เพราะเหตุใดกัน”/n /n /nฮองเฮาเหนียงเหนียงกับไท่จื่อไม่ค่อยเชื่อเล็กน้อย ความสุขุมของสวีโย่วเป็นที่ประจักษ์ แม้แต่ฝ่าบาทยังเคยชม ไม่ได้มีนิสัยทำชั่วต่อยตีหาเรื่องอย่างสิ้นเชิง/n /n /n“ท่านน้า ญาติผู้พี่สร้างเรื่องอีกแล้วหรือ” ไท่จื่อถามอย่างตรงไปตรงมา/n /n /nสีหน้าของชีซื่อจื่อไม่ดีอย่างยิ่ง เล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบหนึ่งรอบ กล่าวอย่างเคียดแค้น “เหนียงเหนียง ไท่จื่อ เว่ยเอ๋อร์มีความผิด แต่ผิงจวิ้นอ๋องก็ถอดตำแหน่งของเขาแล้ว เหตุใดยังต้องโบยเขาอีกเล่า เว่ยเอ๋อร์เป็นผู้ใหญ่แล้ว หน้าไหนเลยจะยังประดับได้อยู่ ไม่เห็นแก่หน้าภิกษุสงฆ์ก็ควรเห็นแก่หน้าพระพุทธรูป แม้จวนเฉิงเอินกงจะไม่ใหญ่อะไร แต่นี่ไม่เท่ากับว่าไม่เห็นเหนียงเหนียงกับซื่อจื่ออยู่ในสายตาหรอกหรือ”/n /n /nเขามองสีหน้าของฮองเฮาเหนียงเหนียง กล่าวต่อ “ยกเรื่องเมื่อวานมาพูด เว่ยเอ๋อร์เป็นคนซื่อ แต่ผิงจวิ้นอ๋องต้องการสั่งสอนก็เพียงแค่ระบายอารมณ์กับบ่าวก็พอ เหตุใดจะต้องตีเว่ยเอ๋อร์จนเป็นเช่นนั้นให้ได้ หมอบอกแล้วว่า บนร่างนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรักษาตัวครึ่งปี ต่อให้เว่ยเอ๋อร์จะไม่ดี นั่นก็ยังเป็นบุตรของขุนนาง เป็นญาติผู้พี่ของไท่จื่อ!”/n /n /nอันที่จริงอาการบาดเจ็บของชีเว่ยชีซื่อจื่อก็พูดเกินจริงเล็กน้อย บนร่างนั้นของเขาแม้ว่าจะดูน่ากลัว แต่ส่วนใหญ่ก็บาดเจ็บที่เนื้อหนัง อย่างมากรักษาตัวหนึ่งเดือนก็พอแล้ว ลูกน้องเจียงเฮยกับเจียงไป๋รู้หนักเบาดีอย่างยิ่ง/n /n /n“อาการบาดเจ็บของเว่ยเอ๋อร์สาหัสเพียงนั้นจริงหรือ” คิ้วของฮองเฮาเหนียงเหนียงขมวดมุ่น/n /n /nชีซื่อจื่อรีบกล่าวสาบาน “จริงแท้แน่นอน ไหนเลยจะกล้าหลอกเหนียงเหนียงกับไท่จื่อ”/n /n /n“ผิงจวิ้นอ๋องผู้นี้ ปกติก็ดูสุขุมยิ่งนัก เหตุใดถึงไม่รู้หนักเบาเช่นนี้เล่า เว่ยเอ๋อร์เด็กกว่าเขามาก สั่งสอนทางวาจาก็เพียงพอแล้ว เหตุใดยังจะต้องลงไม้ลงมืออีก” ฮองเฮาเหนียงเหนียงฟังคำพูดของพี่ชายจบแล้ว ในใจก็ตำหนิสวีโย่วเล็กน้อยเช่นกัน/n /n /nเว่ยซื่อจื่อเห็นว่ายั่วยุให้ฮองเฮาเหนียงเหนียงไม่พอใจผิงจวิ้นอ๋องสำเร็จ ก็แสดงท่าทีซื่อสัตย์ออกมา กล่าว “ไม่ใช่เพราะว่าจวนเฉิงเอินกงไร้ประโยชน์หรอกหรือ”/n /n /nฮองเฮาเหนียงเหนียงตำหนิทันที “ไร้ประโยชน์อะไรจวนเฉิงเอินกงเป็นบ้านฝั่งมารดาของไท่จื่อ จะไร้ประโยชน์ได้อย่างไร” ในใจก็ยิ่งไม่พอใจสวีโย่วมากขึ้น/n /n /nอย่างไรเสียไท่จื่อก็เป็นบุรุษผู้มีหน้าที่การงาน ไม่เหมือนเสด็จแม่ของเขาที่อยู่ในวังหลังตบตาเก่ง เห็นเขามองน้าเขาด้วยความไม่พอใจปราดหนึ่ง กล่าว “ท่านน้าเองก็น่าจะดูแลญาติผู้พี่รองหน่อย โตป่านนี้แล้วยังเอาแต่ก่อเรื่อง ผิงจวิ้นอ๋องเป็นผู้บัญชาการกองปัญจทิศรักษานครที่เสด็จพ่อสั่งด้วยตัวพระองค์เอง เขาปรับปรุงกองปัญจทิศรักษานครก็เป็นหน้าที่ที่รับผิดชอบ ญาติผู้พี่รองลงชื่อไม่ถึงสามครั้ง โบยเขาสิบครั้งยังเบา มิหนำซ้ำยังกำแหงนำคนไปซุ่มต่อยผิงจวิ้นอ๋อง สมควรแล้วที่เขาถูกสั่งสอน”/n /n /nคำพูดของไท่จื่อไม่เหลือเยื่อใยเลยแม้แต่นิดเดียว เขาไม่มีความรู้สึกดีต่อญาติผู้พี่รองผู้นี้เลยแม้แต่น้อย คนโง่ยังไม่พอ ยังไม่รู้จักเก็บกระบี่ เหตุใดบุตรอนุภรรยาจวนกงอ๋องผู้นั้นที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งและโบยเหมือนกันยังไม่วิ่งมาแก้แค้นผิงจวิ้นอ๋องเลยเล่า ท่านน้ายังมีหน้ามาฟ้องร้องเสด็จแม่อีก เห็นเลยว่าไม่มีเหตุผล ดังนั้นไท่จื่อจึงไม่พอใจจวนเฉิงเอินกงขึ้นมา/n /n /n“ท่านน้าไม่ได้ยินเรื่องคุณชายน้อยจวนเสนาบดีฉินหรือ ฝ่าฝืนกฎก็โดนเนรเทศตามระเบียบ คุณชายจวนเสนาบดีผู้ยิ่งใหญ่ น้าแท้ๆ ขององค์ชาย ถูกเนรเทศ พูดไปแล้วก็น่าขายหน้า ข้าไม่หวังให้ญาติผู้พี่รองช่วยข้า แต่ก็อย่าได้หาเรื่องข้างนอกมาให้ข้าทั้งวัน!”/n /n /nชีซื่อจื่อถูกไท่จื่อบุตรน้องสาวของเขาตำหนิจนหูแดงจัด ฮองเฮาเหนียงเหนียงเห็นท่าทีก็รีบหยุดลูกชาย “ไท่จื่อ!” จากนั้นจึงหันมาปลอบพี่ชาย “ช่วงนี้ไท่จื่อจัดการงานกับฝ่าบาท เห็นเรื่องฝ่าฝืนกฎเหล่านี้ไม่ได้ที่สุด เขามีนิสัยตรงไปตรงมา พี่ใหญ่อย่าได้ถือสาเขาเลย”/n /n /nชีซื่อจื่อย่อมไม่พอใจ ไท่จื่อแค่นเสียงเบาหนึ่งครากลับไม่พูดอะไรแล้ว แต่ท่าทางนั้นก็ทำให้ชีซื่อจื่ออึดอัดอย่างมาก/n /n /nส่งชีซื่อจื่อไปแล้ว ฮองเฮาเหนียงเหนียงก็พูดกับลูกชาย “อย่างไรเสียนั่นก็เป็นน้าของเจ้า ตั้งแต่เล็กก็รักเจ้าเอาใจเจ้า เหตุใดเจ้าถึงไม่ไว้หน้าเขาเลยเล่า”/n /n /nทว่าไท่จื่อกลับไม่คิดว่าตัวเองผิด “เสด็จแม่ ท่านไม่อาจตามใจท่านน้าพวกเขาแล้ว ดูเรื่องที่ญาติผู้พี่รองทำนี่สิ หรือว่าท่านเองก็หวังให้ราชสำนักเห็นลูกเหมือนที่เห็นพี่รองเป็นตัวตลก”/n /n /nฮองเฮาเหนียงเหนียงเห็นซื่อจื่อไม่พอใจแล้ว ก็กล่าวปลอบ “เอาล่ะๆๆ แม่รู้แล้ว แม่จะคุมบ้านน้าของเจ้าแน่นอน ไม่ให้พวกเขามาเป็นภาระเจ้า”/n /n /nทว่าเปลี่ยนเรื่องแล้วก็ยังกล่าว “แต่คำพูของน้าเจ้าก็มีเหตุผล! ญาติผู้พี่รองของเจ้าผิด แต่ตีหมาก็ต้องดูเจ้าของ ผิงจวิ้นอ๋องตีญาติผู้พี่รองของเจ้า นี่หมายความว่าไม่เห็นข้ากับไท่จื่อเช่นเจ้าอยู่ในสายตา ดูท่าแล้วผิงจวิ้นอ๋องผู้นี้จะได้รับความโปรดปรานมากเกินไปแล้ว กระทั่งเกิดความรู้สึกทะนงตน เจ้าเองก็คอยหาโอกาสพูดกับเสด็จพ่อเจ้าหน่อย”/n /n /nในใจไท่จื่อไหนเลยจะมีความสุข โมโหเพราะความเหลวไหลของญาติผู้พี่รองบ้านฝั่งมารดา ความรู้สึกที่มีต่อสวีโย่วเองก็ไม่พอใจสองส่วน ญาติผู้พี่รองก่อเรื่อง เจ้าผิงจวิ้นอ๋องก็ควรจับคนมาให้เขาตัดสินเงียบๆ หรือว่าเขาไม่สามารถตัดสินแทนเขาได้หรือ ต้องลงไม้ลงมือตีคนด้วยตัวเอง อย่างไรเสียก็ไม่เห็นไท่จื่อผู้นี้อยู่ในสายตาเลย!/n

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด