War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2028

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2028 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ตอนที่ 2,028 : ตื่นตระหนกกันยกใหญ่!
 
เสียงกล่าวคำของต้วนหลิงเทียนช่างสงบราบเรียบนัก
 
คนที่ไม่รู้เรื่องราวมาก่อน อาจคิดว่าเขากำลังคุยกับสหายที่รู้จักกันมานานปี
 
อย่างไรก็ตามผู้คนในวังชินหั่วแทบจะทั้งหมดสามารถสัมผัสได้ชัดว่าบรรยากาศระหว่างต้วนหลิงเทียนกับต่งหลินยามนี้มันคุ้งกลิ่นดินปืนมากเพียงใด!
 
พวกมันย่อมเห็นกระจ่างตา
 
ว่าต่งหลินนั้นคิดสละเรือและคร้านยุ่งเรื่องราวใดๆอีก ทว่าต้วนหลิงเทียนกลับไม่ยอมปลอยไปง่ายๆ!
 
“ต้วนหลิงเทียนถึงกับกล้าไปหยุดขวางอาวุโสต่งหลินเลยหรือ…นี่มันไปเอาความกล้ามาจากไหนกันแน่?”
 
“นั่นสิ หากเป็นข้าล่ะก็ อาวุโสต่งหลินคิดจากไปข้าก็คงยอมให้ไปแต่โดยดี…เพราะถึงให้อาวุโสต่งหลินอยู่ต่อ เรื่องราวก็ยิ่งบานปลายใหญ่โตขึ้นไปเท่านั้น ไม่เพียงไม่เป็นผลดีต่อผู้อื่นยังไม่เป็นผลดีต่อตัวมันเองด้วย!”
 
“มันไม่ห่วงเรื่องที่อาวุโสต่งหลินจะยืนกรานให้มันทดสอบพรสวรรค์รากวิญญาณด้วยลูกแก้ววิญญาณใบใหม่หรือไง?”
 
….
 
ศิษย์ชั้นยอดบางคนยังกล่าวพร้อมส่ายหัวไปมา
 
ฟังจากคำพูดพวกมันแล้ว คล้ายเห็นว่าต้วนหลิงเทียนทำแบบนี้เสมือนไม่รู้ว่าอะไรดีต่อตัว
 
แน่นอนว่ายังมีศิษย์ชั้นยอดบางคนที่มองเรื่องราวอย่างเป็นกลาง และใช้เหตุผลเป็นหลัก
 
“ถึงขั้นนี้แล้วแต่ต้วนหลิงเทียนยังกล้าหยุดอาวุโสต่งหลิน ย่อมเผยให้รู้ชัดว่ามันมั่นใจเพียงใด! สมควรเป็นเพราะข่าวลือก่อนหน้าเรื่องรากวิญญาณสีเหลืองเป็นความเท็จ…ที่แท้มันมีรากวิญญาณสีน้ำเงินจริงๆ!”
 
“ถ้าหากรากวิญญาณของมันไม่ใช่รากวิญญาณสีน้ำเงิน การหยุดอาวุโสต่งหลินไว้ย่อมไม่ใช่เรื่องดีกับมันแม้แต่น้อย…ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวการอยู่ของอาวุโสต่งหลินจะส่งผลร้ายมากกว่าดี! แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ารากวิญญาณของมันสมควรเป็นรากวิญญาณสีน้ำเงินจริงๆไม่ผิดแน่!!”
 
“ถ้าเกิดวิญญาณของมันเป็นสีน้ำเงินจริง…จากลักษณะนิสัยไม่ยอมคนของต้วนหลิงเทียน อาวุโสต่งหลินคิดจากไปคงไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว!”
 
……
 
เหล่าศิษย์ชั้นยอดที่กล่าววาจาเหล่านี้ออกมา นับว่าชมมองเรื่องราวได้กระจ่างไม่น้อย
 
พวกมันมองจากสถานการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ในที่สุดก็ตระหนักได้…ว่ารากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนสมควรเป็นรากวิญญาณสีน้ำเงินจริงๆ!
 
แต่แน่นอนว่าศิษย์ชั้นยอดเหล่านี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
 
เหล่าศิษย์ชั้นยอดส่วนใหญ่ยังคงรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนกระทำเช่นนี้ก็รังแต่จะหาเรื่องใส่ตัวเท่านั้น!
 
“ต้วนหลิงเทียนหากเจ้าปล่อยให้ข้ากลับไปแต่โดยดี…ความขัดแย้งระหว่างเจ้ากับข้าวันนี้ข้าจะถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน! และข้าจะเป็นคนพาเจ้าไปแนะนำตัวที่หอคุมกฏเอง”
 
ต่งหลินเลือกส่งเสียงกล่าวบอกต้วนหลิงเทียนอย่างลับๆ ฟังจากวาจาเสียงอ่อนก็เห็นได้ชัดว่ามันคิดประนีประนอมหมายสงบศึกกับต้วนหลิงเทียนแต่เพียงเท่านี้
 
เหตุผลที่มันเลือกกระทำแบบนี้เพราะต้วนหลิงเทียนกล้าหยุดขวางมันเอาไว้!
 
ภายใต้การเคลื่อนไหวอย่างอุกอาจดังกล่าว ทำให้มันทราบได้ถึงความมั่นใจอันล้นปรี่ของต้วนหลิงเทียน! ไร้ซึ่งความหวาดกลัวแม้แต่น้อย!!
 
จังหวะนี้ต่งหลินจึงตระหนักได้ทันทีว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียน สมควรเป็นรากวิญญาณสีน้ำเงินแล้วจริงๆ!
 
หาไม่แล้วต้วนหลิงเทียนจะไปเอาความกล้าจากที่ใดมาหยุดมัน?
 
“อาวุโสต่งหลิน…นี่ข้าไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม ท่านส่งเสียงมาขอยุติเรื่องราวกับข้าจริงๆหรือ?”
 
ต่งหลินส่งเสียงกล่าวไปไม่ทันจบคำดี ต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวโพล่งออกมาตามติด และเสียงของเขาก็ดังพอให้คนในวังชินหั่วได้ยินกันชัดถนัดหู!
 
“ทำไมเล่าอาวุโสต่งหลิน…หรือท่านกลัวว่าเรื่องก่อนหน้านี้จะเปิดเผย?” ต้วนหลิงเทียนยังคงกล่าวออกมาสืบต่อ กันท่าไม่ให้ต่งหลินคิดรอดพ้นไปจากข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบง่ายๆ!
 
ต่งหลินไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ
 
กระทั่งมันเป็นฝ่ายริเริ่มหาหนทางสันติกับต้วนหลิงเทียนก่อนแล้วแบบนี้ แต่ต้วนหลิงเทียนยังไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ไม่ยอมรับการประนีประนอมของมัน!
 
กลัวเรื่องราวจะเปิดเผย!?
 
บัดซบ! เจ้าต้องพูดมันออกมาด้วยหรือ!?
 
จังหวะนี้สีหน้าของต่งหลินอดไม่ได้ที่จะแดงก่ำขึ้นมาด้วยโทสะ ลูกตายังเผยประกายเยียบเย็นมองต้วนหลิงเทียนอย่างดุร้ายเอาเรื่อง!
 
หากสายตาของมันฆ่าคนได้ ไม่ทราบต้วนหลิงเทียนจะตกตายไปแล้วกี่รอบ!
 
ขณะเดียวกันต่งหลินก็สัมผัสได้ชัดเจน ว่าทุกสายตาในวังชินหั่วกำลังมองจ้องมาที่มันด้วยสายตาแปลกๆ
 
และแทบจะพร้อมกันกับที่เสียงกล่าวต้วนหลิงเทียนดังจบคำ ในวังชินหั่วก็เริ่มเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง
 
“อะไร? อาวุโสต่งหลินกลับเป็นฝ่ายส่งเสียงไปกล่าวกับต้วนหลิงเทียนเพื่อขอสงบศึกก่อนจริงๆหรือ?”
 
“เรื่องพรรค์นี้จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ใครๆก็รู้ว่าอาวุโสต่งหลินห่วงหน้าตาถึงเพียงใด มีหรือจะยอมลงให้ต้วนหลิงเทียนถึงขนาดนั้น?”
 
“ฟังจากที่เจ้าว่า…ก็หมายความว่าต้วนหลิงเทียนแต่งเรื่องป้ายสีอาวุโสต่งหลินน่ะสิ?”
 
“เป็นไปได้สูง!”
 
……
 
แน่นอนว่าเหล่าศิษย์ชั้นยอดหลายคนย่อมไม่เชื่อคำพูดของต้วนหลิงเทียน พวกมันรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนสมควรใส่ร้ายต่งหลิน เพราะคนถือดีอย่างต่งหลินยากนักที่จะเป็นฝ่ายยอมลงให้คนอื่นก่อน
 
ได้ยินคำของเหล่าศิษย์ชั้นยอด ต่งหลินรู้สึกเสมือนมีคนเอาเกลือมาทาบนแผลสด หน้ามันม้านไปไม่น้อย เร่งกล่าวตะโกนออกมาแก้ตัวทันที “บัดซบ! ต้วนหลิงเทียนเจ้าบังอาจนัก! ถึงกับกล้าใส่ร้ายข้าอาวุโสเชียวรึ!”
 
สีหน้าของต่งหลินยามนี้แดงก่ำเผยโทสะอันเกรี้ยวกราด ราวกับมันโมโหที่ถูกต้วนหลิงเทียนใส่ร้ายจริงๆ!
 
เห็นฉากดังกล่าว เหล่าศิษย์ชั้นยอดหลายคนก็เริ่มเชื่อว่าเป็นต้วนหลิงเทียนกล่าววาจาใส่ร้ายต่งหลินเพื่อหาเรื่อง!
 
แน่นอนยังมีเหล่าศิษย์ชั้นยอดกลุ่มเล็กๆที่คิดว่าสมควรเป็นดั่งที่ต้วนหลิงเทียนกล่าว เพราะจากสถานการณ์ตอนนี้อาวุโสต่งหลินเสียเปรียบเต็มประตู!
 
ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่พวกมันจะเข้าใจว่าไฉนอาวุโสต่งหลินถึงเป็นฝ่ายริเริ่มขอคืนดีกับต้วนหลิงเทียนก่อน
 
ต่งหลินย่อมกลัวต้วนหลิงเทียนไม่เลิกรา และคิดเอาเรื่องถึงที่สุด!
 
เพราะสุดท้ายเป็นต่งหลินที่จงใจตัดสิทธิ์ต้วนหลิงเทียนไม่ให้เข้าหอคุมกฏก่อน โดยอ้างเหตุผลว่าพรสวรรค์รากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนคือรากวิญญาณสีเหลืองที่ต่ำต้อยและไม่คู่ควร
 
แต่เมื่อผลปรากฏออกมาว่ารากวิญญาณของต้วนหลิงเทียนที่แท้เป็นสีน้ำเงิน เช่นนั้นข้ออ้างนี้ของมันก็จำต้องตกไป และไม่เพียงข้ออ้างนี้จะใช้ไม่ได้ ยังจะกลายเป็นห่วงรัดคอมันอีกด้วย!
 
เพราะเมื่อเรื่องราวนี้นี้ลุกลามออกไป ผู้คนจะมองว่ามันใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว!
 
ในฐานะที่เป็นถึงอาวุโสคนหนึ่งของหอคุมกฏ มันต้องเป็นผู้ที่รักษากฏกอย่างเคร่งครัดยิ่งกว่าผู้อื่น! หากเรื่องมันใช้อำนาจโดยมิชอบแพร่กระจายออกไป ต่อให้ต่งหลินจะมีบิดาเป็นรองจ้าวหอคุมกฏก็เปล่าประโยชน์ มันต้องถูกลงโทษอย่างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้!!
 
ยิ่งกว่านั้นโทษทัณฑ์นี้ไม่ได้เบาเลย!
 
“อาวุโสต่งหลิน ท่านยังจะกล่าวให้คนเข้าใจผิดไม่เลิกอีกหรือ? หรือต้องให้ข้ายืนยันความจริง?” ต้วนหลิงเทียนเชิดหน้ามองลงมายังต่งหลินด้วยสายตาดูแคลน ก่อนที่จะแสยะยิ้มพร้อมใช้พลังเฉือนนิ้วจนหลั่งโลหิต ก่อนจะใช้พลังประคองหยดโลหิตขึ้นมา
 
เห็นหยดโลหิตลอยล่องอยู่โทนโท่ สีสันบนใบหน้าต่งหลินคล้ายจะเลือนหายไปทันที
 
สิ่งที่ต้วนหลิงเทียนกำลังจะทำคืออะไร…ไหนเลยมันจะไม่รู้ได้! ไม่พ้นอีกฝ่ายคิดจะพิสูจน์คำพูดตัวเองด้วยการกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์แน่!!
 
“ต้วนหลิงเทียน! หากเจ้ากล้ากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า…ข้าต่งหลินขอสาบาน ว่านับจากวันนี้ไปไม่เจ้าก็ข้าต้องตายกันไปข้าง!!”
 
สูดลมหายใจเข้าลึกๆคราหนึ่ง ต่งหลินก็เร่งส่งเสียงไปถึงต้วนหลิงเทียนอีกครั้งทันที
 
น้ำเสียงครานี้ยังไม่ละมุนละม่อมเหมือนก่อนหน้า
 
กลับแข็งกระด้างราวจะฆ่ากันให้ตายไปข้าง!
 
“อะไร? หรือตอนนี้ระหว่างเจ้ากับข้ายังไม่ถึงจุดที่ต้องตายกันไปข้าง?”
 
ได้ยินเสียงกล่าวข่มขู่ของต่งหลิน ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ก่อนที่จะใช้พลังส่งโลหิตขึ้นฟ้าไปทันที
 
“ข้าต้วนหลิงเทียนขอสาบาน หากต่งหลินไม่ได้เป็นฝ่ายริเริ่มส่งเสียงกล่าวมาถึงข้า เพื่อหาทางประนีประนอมกับข้าก่อน ขอให้ข้าถูกอัสนีสวรรค์พิฆาตร่างตายตก!!”
 
ต้วนหลิงเทียนไม่คิดสนใจคำขู่ของต่งหลิน เลือกที่จะกล่าวคำสาบานออกมาทันที
 
การกระทำดังกล่าวไม่ต่างอะไรจากตบหน้าต่งหลินดังฉาด!
 
เมื่อเห็นว่าภายใต้การข่มขู่ของตัว แต่ต้วนหลิงเทียนยังกล้ากล่าวคำสาบานออกมา ลูกตาของมันก็ฉายอำมหิตออกชัด ยังดุร้ายปานจะยิงลำแสงความร้อนออกมาได้
 
“ต้วนหลิงเทียนเจ้าตายแน่! เจ้าตายแน่!!”
 
ทันใดนั้นต่งหลินก็ส่งเสียงมาถึงต้วนหลิงเทียนอีกครั้งด้วยสำเนียงอาฆาตแค้นถึงที่สุด!
 
อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนไม่ได้แยแสเสี่ยงข่มขู่อะไรของมันแม้แต่น้อย
 
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
 
……
 
“ทัณฑ์อัสนีลั่นดังตอบรับคำสาบานแล้ว…”
 
เมื่ออัสนีฟ้าลั่นดัง 9 คำรบดังเข้าหูทุกผู้คนในวังชินหั่ว ทั้งหมดก็ตระหนักได้ทันที
 
กระทั่งเหล่าศิษย์ที่อยู่ในจัตุรัสกลางเองก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจไม่น้อย
 
“เสียงฟ้าผ่านี่มัน…ทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้างั้นหรือ?”
 
“ไม่รู้ใครมากล่าวคำสาบานที่จัตุรัสกลางกันแน่…จะว่าไปข้าก็วนเวียนอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาก็หลายปีแล้ว แต่นี่นับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีจริงๆ ที่ข้าได้ยินเสียงตอบรับคำสาบานของอัสนีสวรรค์ที่จัตุรัสกลาง”
 
“ข้าก็พึ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกเหมือนกัน”
 
……
 
เหล่าศิษย์ในจัตุรัสกลางจ้อกันดังสนั่น ต่างสงสัยกันไม่น้อยว่าใครมากล่าวคำสาบานแถวนี้ กระทั่งอยากรู้นักว่ามันสาบานเรื่องอะไรกัน
 
และเพราะศิษย์ชั้นยอดในวังชินหั่วยังไม่มีใครก้าวออกไปจากวังชินหั่วเลย ทำให้ไม่มีใครนำเรื่องนี้ไปแพร่งพรายด้านนอก
 
ทำให้เหล่าศิษย์ที่จัตุรัสกลางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ที่กล่าวคำสาบานคือต้วนหลิงเทียน
 
ต่างจากความประหลาดใจและสงสัยของเหล่าศิษย์ด้านนอก ตอนนี้เหล่าศิษย์ในวังชินหั่วถึงกับมองไปยังต้วนหลิงเทียนตาปริบๆ
 
พวกมันหลายคนไม่คิดไม่ฝันจริงๆว่าต้วนหลิงเทียนจะกล้ากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์ออกมา เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ใส่ร้ายต่งหลิน!
 
จังหวะนี้เมื่อเหล่าศิษย์ในวังชินหั่วมองต่งหลินอีกครั้ง สายตาที่ใช้มองยังเปลี่ยนไปเป็นแปลกๆ
 
“หลบไปให้ข้า!”
 
สัมผัสได้ถึงสายตาแปลกประหลาดที่มองมา ต่งหลินตอนนี้อับอายจนแทบอยากจะขุดหลุมแล้วมุดหลบลงไปนัก! มันตะคอกไล่ต้วนหลิงเทียนด้วยโทสะ หมายให้ต้วนหลิงเทียนเปิดทางไป!!
 
อย่างไรก็ตามแม้ต่งหลินจะตะคอกคำด้วยโทสะ แต่ต้วนหลิงเทียนก็ไม่หลบไปไหน
 
ต้วนหลิงเทียนยืนตระหง่านขวางทางดั่งรูปปั้น ทั่วร่างแผ่ซ่านกลิ่นอายอันน่าเกรงขามราวกับต่อให้ทัพนับหมื่นยกมาเบื้องหน้า เขาก็จะอาศัยหนึ่งต้านหมื่นอย่างไม่ย่นย่อ!
 
เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนดื้อรั้นไม่ฟังคำ ต่งหลินก็ทนไม่ไหวสืบไป ทั่วร่างปรากฏมวลพลังพวยพุ่งปะทุออก กลิ่นอายพลังยังเต็มไปด้วยความคิดฆ่าฟัน!
 
เห็นได้ชัดว่าต่งหลินคิดลงมือแล้ว!
 
ด้านเหล่าศิษย์ชั้นยอดทั้งหลายเมื่อสัมผัสไอพลังที่แผ่พุ่งออกมาท่วมร่างต่งหลิน พวกมันก็รู้สึกเสมือนมีไอเย็นแล่นผ่าน บรรยากาศโดยรอบคล้ายจะเย็นลงถนัดตา!
 
และแทบจะทันทีที่ต่งหลินเร่งเร้าพลังขึ้นมาดั่งเพลิงไฟ ร่างของมันก็ไหววูบออกไปปานสายฟ้า ฝ่ามือหนึ่งตบฟาดออกไปอย่างเกรี้ยวกราด คิดซัดทำร้ายให้ต้วนหลิงเทียนเปิดทาง!
 
“เหอะ!”
 
เผชิญหน้ากับฝ่ามือหอบมวลพลังอันเกรี้ยวกราดถาโถมเข้ามาของต่งหลิน ต้วนหลิงเทียนแค่นเสียงสบถเย็นออกคำหนึ่ง พลังเซียนสุริยันที่โคจรเตรียมพร้อมทั่วกายพลันปะทุระเบิดแล่นผ่านชีพจรเซียน 99 สายก่อเกิดเป็นวังวันน่ากลัวรอบกายทันที!
 
และทันทีที่วังวนดังกล่าวปรากกฏขึ้น พลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบพลันสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย!
 
เป็นผลพวงจากการใช้ปฐมเวทย์กลืนกินของต้วนหลิงเทียน!!
 
เมื่อปฐมเวทย์กลืนกินสำแดงเดช เหล่าศิษย์ในวังชินหั่วก็ตระหนักได้ทันทีว่าพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบมันวูบหายเข้าร่างต้วนหลิงเทียนไปจนไม่มีเหลือ!
 
ความรู้สึกที่ไร้ซึ่งพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบ ทำให้พวกมันรู้สึกผิดแปลกไม่สบายตัวอยู่บ้าง
 
“นี่น่ะเหรอ เวทย์พลังสนับสนุนอันร้ายกาจของต้วนหลิงเทียนที่ร่ำลือ!!”
 
“นี่มันเวทย์พลังสนับสนุนอันใดกันแน่!? ถึงกับดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินมหาศาลขนาดนี้ได้…นี่มันดูดกลืนไปจนในวังชินหั่วไม่เหลือพลังวิญญาณฟ้าดินแล้ว!”
 
“เวทย์พลังนี่น่ะหรือ ที่ทำให้ต้วนหลิงเทียนอาศัยด่านพลังเซียนปฐพีขั้นสูงสุด เอาชนะเวินเยี่ยนอันดับที่ 9 ในทำเนียบยอดฝีมือศิษย์ที่แท้จริงของลัทธิบูชาไฟเรามาได้”
 
“พวกเจ้าลองดูนั่นเร็ว! กลิ่นอายพลังทั่วร่างต้วนหลิงเทียนกำลังเพิ่มพูนสูงขึ้น! นี่มันเวทย์พลังผีสางอะไรกันแน่ ไฉนพลังถึงได้เพิ่มพูนขึ้นมหาศาลปานพลิกฟ้าคว่ำดินได้ขนาดนี้!?”
 
ศิษย์ชั้นยอดในวังชินหั่วตื่นตระหนกกันยกใหญ่
 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด