ตอนที่ 250-2 สาวงามหรือว่าหวานใจ

อ่านนิยายจีนเรื่อง ตอนที่ 27 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

“นี่ก็คือของขวัญวันเกิดที่ท่านให้ข้าหรือ ขอบคุณท่านพี่!” เสิ่นเวยอารมณ์ดี คำพูดที่ออกจากปากก็ไพเราะ จากมุมมองของนางสวีโย่วให้ปิ่นให้แหวนนาง ก็ไม่เท่าพานางออกมาเที่ยว/n /n /nนี่ยังเป็นครั้งแรกที่สวีโย่วได้ยินเสิ่นเวยเรียกเขาว่าท่านพี่ จิตใจทั้งดวงก็อ่อนยวบ เขากุมมือที่นิ่มราวกับไร้กระดูกของเสิ่นเวยแน่น เอียงหน้ามองนาง “แค่นี้ก็มีความสุขแล้วหรือ”/n /n /nเสิ่นเวยพยักหน้าทันที “ท่านไม่ใช่ไม่รู้นิสัยของข้า ทั้งชีวิตมีความชอบอยู่สองอย่างใหญ่ หนึ่งคือเงิน อีกอย่างคือเที่ยว” เสิ่นเวยกล่าวอย่างโอ้อวดไม่ละอายใจ/n /n /nสวีโย่วหัวเราะเบาๆ หนึ่งครา พูดเสริม “ข้าคิดว่าเวยเวยยังมีอีกหนึ่งความชอบมิใช่หรือ”/n /n /nเสิ่นเวยหันหน้า ถามด้วยความสงสัย “อะไร”/n /n /n“สร้างเรื่อง” สวีโย่วกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง ความสามารถในการสร้างเรื่องเวยเวยของเขาเป็นที่หนึ่ง เขาเพียงแค่ถูกฝ่าบาทเรียกเข้าวังครู่เดียวนางก็วิ่งไปเดินเล่นที่จวนเสนาบดีฉินแล้ว มิหนำซ้ำยังประมาทแหวกหญ้าให้งูตื่นอย่างยิ่ง แม้จะบอกว่าสุดท้ายแล้วหลบมาได้ แต่ก็ยังคงทำให้เขาเป็นกังวลอย่างถึงที่สุด!/n /n /nเสิ่นเวยย่นจมูก กล่าวอย่างไม่สนใจ “ข้าไม่ได้เต็มใจเสียหน่อย แต่เรื่องวิ่งเข้ามาหาเองต่างหาก”/n /n /nเหมือนเรื่องที่นางจับจ้องจวนเสนาบดีฉิน หากไม่ใช่ว่าฉินมู่หรานเด็กชั่วคนนั้นมีเรื่องกับน้องเจวี๋ยน้องชายของนางอยู่ก่อน จวนเสนาบดีพุ่งเป้ามาที่นางอยู่ข้างหลัง นางก็ขี้เกียจจะสนใจพวกเขา/n /n /nยังมีหมิ่นซือเหนียนที่เจอระหว่างทางกลับเมืองหลวงจากอวิ๋นโจว หากเขาไม่เกิดมีเจตนาร้ายลักพาตัวนางกลับไป นางก็คงจะไม่สนใจว่าหมิ่นซือเหนียนจะใช้อำนาจบาตรใหญ่ที่เมืองทงโจวอย่างไร/n /n /nแม้แต่คนโง่ผู้นั้นที่เจอคืนนั้นก็เข้ามาเอง นางไม่ได้หาเรื่องเองเลย/n /n /n“ใช่ๆๆ ล้วนแต่เป็นเรื่องที่เข้ามาหาเสิ่นเวย” สวีโย่วเห็นเสิ่นเวยเบ้ปาก ก็เลิกประนีประนอมตามหลักการทันที ท่าทางทาสภรรยานั้นทำให้ใบหน้าที่เย็นชาใบนั้นของโอวหยางไน่ที่อยู่ข้างๆ กระตุกอย่างแรง ท่านจวิ้นอ๋อง ท่านลุ่มหลงรักใคร่เช่นนี้จะดีจริงๆ หรือ โดยเฉพาะต่อหน้าสุนัขรับใช้หนึ่งกลุ่ม ช่างปวดใจดีจริงๆ!/n /n /nสวีโย่วชี้ความงดงามข้างฝั่งแนะนำให้เสิ่นเวยฟัง เสิ่นเวยพูดแทรกสองประโยคอยู่บ่อยๆ หลีฮวานำสาวใช้สองคนมาส่งผลไม้สดของว่างและชาหอมที่ชงมาอย่างดี สวีโย่วหยิบไม้เสียบผลไม้จิ้มสับปะรดหนึ่งชิ้นส่งไปที่มุมปากของเสิ่นเวย เสิ่นเวยกัดหนึ่งคำ น้ำที่เปรี้ยวหวานชั่วขณะก็กระฉูดอยู่ในโพรงปาก ริมฝีปากและฟันชุ่มฉ่ำ อดกัดอีกคำไม่ได้ กัดไปสองสามคำก็กินสับปะรดหนึ่งชิ้นลงท้องจนหมด สวีโย่วเห็นนางชอบกินก็รีบจิ้มมาอีกหนึ่งชิ้น/n /n /nคนหนึ่งกินคนหนึ่งป้อนเช่นนี้ ก็แสบตาจนทำให้ตาของทุกคนแทบบอดแล้ว/n /n /n“เอ๋ เสียงฉินที่ไหนกัน” เสิ่นเวยที่กำลังกินอย่างมีความสุขก็ลุกขึ้นมองไปรอบด้าน มองเห็นบริเวณที่ห่างจากด้านขวาของพวกเขาออกไปยี่สิบจั้งมีเรือสำราญลำหนึ่งเช่นกัน เสียงฉินกำลังดังออกมาจากเรือสำราญลำนั้น/n /n /n“นี่คือเรือสำราญของใครกัน ดีดฉินได้ไม่เลว” เสิ่นเวยเงี่ยหูฟังแล้วกล่าว กู่ฉินนางเองก็ดีดเป็น เคยดีดได้ไม่เลวเช่นกัน แต่ไม่ได้แตะนานแล้ว ไม่ชำนาญแล้ว แต่ความสามารถในการชื่นชมยังคงมีอยู่/n /n /nสวีโย่วปรายตาไปทางขวาปราดหนึ่ง กล่าว “ใครจะรู้เล่า ยังจะกินอีกหรือไม่ ตรงนี้ยังมีอีกหนึ่งชิ้น หากไม่พอประเดี๋ยวให้หลีฮวาไปเอามาเพิ่มอีกถาด”/n /n /nหนึ่งประโยคดึงความสนใจของเสิ่นเวยกลับมาทันที นางมองสับปะรดชิ้นสุดท้ายในมือสวีโย่วด้วยความตกใจ ไม่ใช่แล้วกระมัง สับปะรดถาดนี้อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีเจ็ดแปดชิ้น ถูกนางกินหมดแล้วงั้นหรือ นางไหนเลยจะตะกละเพียงนั้น รีบส่ายหน้า “ไม่เอาแล้ว” หากยังกินอีกฟันของนางก็จะคงเปรี้ยวจนหลุดแล้ว กลางวันพวกเขายังต้องย่างเนื้อกินบนเรือสำราญอีก นางต้องเก็บท้องไว้บ้าง/n /n /nสวีโย่วส่งสับปะรดชิ้นสุดท้ายเข้าไปในปากของตนเสีย เคี้ยวสองสามครั้งก็หมด ในขณะนี้เอง เสิ่นเวยก็มองเห็นเรือสำราญทางด้านขวาพวกเขาแล่นเข้ามา ตอนที่ยังเหลืออีกสามสี่จั้ง ก็ได้ยินเด็กสาวที่เหมือนสาวใช้ยืนอยู่บนเรือลำนั้นตะโกน “เรียนถามข้างหน้าใช้ท่านจวิ้นอ๋องหรือไม่ คุณหนูของพวกเราอยู่บนเรือสำราญ”/n /n /nเสิ่นเวยส่งสายตามองสวีโย่วอย่างประหลาดใจทันที จากนั้นก็เห็นสวีโย่วยกแก้วชาชิมชา ดวงตาไม่เหลือบขึ้นแม้แต่นิดเดียว เสิ่นเวยไม่ชอบท่าทางเย็นชาเช่นนี้ของเขาที่สุด เตะเขาจากใต้โต๊ะ “นี่ เรียกท่านน่ะ บอกมา นี่คือสาวงามหวานใจที่ไหนของท่าน” ตัวนางเองยังไม่รู้ตัวว่าในน้ำเสียงของตนมีความหึงหวงแฝงอยู่/n /n /nสวีโย่วเพิ่งจะชายตามองฝั่งนั้นปราดหนึ่งอย่างไม่สนใจ จากนั้นก็เก็บสายตากลับมาทันที “ไม่รู้จัก”/n /n /nไม่รู้จักหรือ เสิ่นเวยเชื่อก็แปลกแล้ว ไม่รู้แล้วเขาจะเรียกชื่อเรียกแซ่มาหาถึงที่หรือ ยังมีคุณหนูอะไรอีก ดูจากน้ำเสียงที่สนิทสนมของสาวใช้ผู้นั้น จะไม่รู้จักได้อย่างไร/n /n /nสาวใช้ตะโกนอีกครั้ง “บ่าวเคยพบท่านจวิ้นอ๋อง คุณหนูของพวกเราแซ่ซู ขอบคุณที่ครั้งก่อนท่านยื่นมือมาช่วย อยากจะขอบคุณท่านต่อหน้าสักครั้ง”/n /n /n“เอ๋ เป็นวีรบุรุษช่วยหญิงงามนี่” ใบหน้าของเสิ่นเวยเย็นเยียบในชั่วขณะ กล่าวเสียดสี หันหน้าสั่งหลีฮวา “เจ้าไปถามมาว่าเป็นคุณหนูตระกูลไหน”/n /n /n“ไม่รู้จักจริงๆ” สวีโย่วเห็นเสิ่นเวยโมโหแล้ว รีบกล่าวปฏิเสธ เขาเองก็น้อยใจยิ่งนัก เขาไม่รู้จักคุณหนูแซ่ซูอะไรนั่นจริงๆ/n /n /nตอนนี้เสิ่นเวยกำลังโกรธขึ้นหน้า สวีโย่วพูดอะไรนางก็ไม่เชื่อ “ไป เรียกเจียงไป๋มาให้ข้า” เจียงไป๋อยู่ข้างกายเขาทั้งวันทั้งคืน เขาไม่รู้จักเจียงไป๋จะไม่รู้จักได้หรือ/n /n /nเจียงไป๋มาเร็วอย่างยิ่ง “จวิ้นจู่ ท่านเรียกบ่าวหรือ” เสียงเรียกตะโกนของสาวใช้บนเรือสำราญลำนั้นเขาเองก็ได้ยินแล้ว กำลังร้องทุกข์อยู่เงียบๆ จวิ้นจู่ก็สั่งคนมาเรียกเขาดังคาด เขามองใบหน้าที่เย็นชาของจวิ้นอ๋องอย่างระมัดระวัง เหงื่อเย็นชืดกำลังจะไหลลงมาแล้ว/n /n /nเสิ่นเวยมองท่าทางสอพลอนั่นของเจียงไป๋ปราดหนึ่ง เพยิดคาง กล่าว “พูดมาเถอะ นั่นคือคุณหนูตระกูลใด นายพวกเจ้าลืมแล้ว ช้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องจำได้แน่นอน”/n /n /nสบสายตาที่น่ากลัวของเสิ่นเวย เจียงไป๋ไหนเลยจะกล้าโกหก “นั่นไม่ใช่คุณหนูตระกูลไหน เป็นแม่นางซูหว่านที่หอเสพสำราญ”/n /n /n“หอเสพสำราญหรือ” ได้ยินชื่อแล้วก็ไม่น่าจะเป็นสถานที่ทางการอะไร นั่นคือ หอโคมเขียวหรือ เสิ่นเวยประหลาดใจ ทันใดนั้นก็ตบโต๊ะลุกขึ้นด้วยความเดือดดาล “ดีจริงๆ สวีโย่ว รู้จักไปเที่ยวเสพสำราญแล้ว”/n /n /nเจียงไป๋ตกใจแทบแย่แล้ว รีบกล่าว “ไม่ใช่ ไม่ใช่ จวิ้นจู่ท่านฟังบ่าวพูดให้จบก่อน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายท่านจริงๆ ขอรับ นี่เป็นเรื่องเมื่อปีก่อน ระหว่างทางที่นายท่านกลับจวนเจอแม่นางซูหว่านผู้นี้ถูกอันธพาลท้องถิ่นหลายคนล้อมลวนลาม ปิดถนนทั้งหมด นายท่านรำคาญใจ จึงลงจากรถเดินไปเองก่อน ทิ้งบ่าวจัดการพวกอันธพาลท้องถิ่น”/n /n /n“จริงหรือ” เสิ่นเวยยังคงสงสัย/n /n /n“จริงขอรับ จริงขอรับ บ่าวกล้าสาบานด้วยชีวิต” เจียงไป๋พยักหน้าประหนึ่งตำกระเทียม/n /n /nสวีโย่วเองก็เอ่ยปากขึ้นมาพอดี “บอกแล้วว่าไม่รู้จัก เวยเวยเจ้ายังไม่เชื่อข้า” ได้ยินเจียงไป๋พูดเช่นนี้ สวีโย่วก็นึกเรื่องนี้ขึ้นได้แล้ว เขาจำได้เพียงแค่ถนนถูกปิด สำหรับซูหว่านหลี่หว่านอะไร ใครจะรู้ว่าหน้าตาเป็นเช่นไร/n /n /nเสิ่นเวยเห็นสีหน้าของพวกเขาไม่เหมือนเสแสร้ง จึงเชื่อเล็กน้อย ตอนนี้เองหลีฮวาก็กลับมาแล้ว “จวิ้นจู่ ฝ่ายตรงข้ามบอกว่าคุณหนูของพวกนางคือคุณหนูซูหร่วนของหอเสพสำราญ ปีก่อนได้รับความเมตตาจากท่านจวิ้นอ๋องออกมือช่วยชีวิต อยากจะมาขอบคุณด้วยตัวเอง”/n /n /nเมื่อเสิ่นเวยได้ฟัง ใบหน้าก็เย็นเยียบลงสามส่วนทันที ชี้สวีโย่วไม่พูดแม้แต่ประโยคเดียวก็หมุนตัวเดินเข้าไปข้างในแล้ว/n /n /nสวีโย่วรีบตามไป ยังไม่ลืมสั่งเจียงไป๋ “ให้พวกนางไสหัวไปให้ไกลข้าหน่อย” เพราะซูหว่านอะไรนั่นผู้เดียว หากไม่ใช่นาง เวยเวยจะโกรธได้อย่างไร/n /n /n“เวยเวย เวยเวย ข้าไม่ได้ทำจริงๆ ไม่เกี่ยวกับข้าจริงๆ!” สวีโย่วรีบสับขาเดินไปดึงแขนของเสิ่นเวย/n /n /nเสิ่นเวยออกแรงสะบัด สะบัดไม่ออก รู้สึกเพียงส่วนลึกในจิตใจมีเปลวเพลิงพวยพุ่งออกมาข้างนอก “ไม่เกี่ยวกับท่าน ไม่เกี่ยวกับท่านแล้วเหตุใดนางต้องมาหาผิงจวิ้นจู่ด้วยเล่า เหตุใดถึงไม่มาหาข้าจยาฮุ่ยจวิ้นจู่เล่า สวีโย่ว วันนี้เป็นวันเกิดของข้า ท่านฉลองให้ข้าเช่นนี้หรือ” เสิ่นเวยแสบจมูก น้อยใจอย่างยิ่งแล้ว/n /n /nคราวนี้สวีโย่วลนลานแล้ว เขาเคยเห็นเสิ่นเวยที่กำแหง เสิ่นเวยที่เจ้าเล่ห์ เสิ่นเวยที่ปลิ้นปล้อน อย่างเดียวที่ไม่เคยเห็นก็คือเสิ่นเวยที่น้อยใจเช่นนี้ หัวใจของเขาเจ็บปวดราวกับถูกเข็มแทง บีบรัดไม่หยุด “ใช่ๆๆ เป็นความผิดของข้าคนเดียว ข้าให้เจียงไป๋ไล่นางออกไปแล้ว เวยเวยเจ้าอย่าโกรธ หรือเจ้าจะตีข้าก็ได้” เขาเอามือของเสิ่นเวยไปตีลงบนร่างตัวเอง/n /n /nเสิ่นเวยยิ่งรู้สึกน้อยใจ “ท่านไม่รู้หรือว่าตัวเองมีใบหน้าดึงดูดสายตา ท่านยังจะลงจากรถ ท่านนั่งรอบนรถไม่ได้หรือ รู้อยู่แก่ใจว่าข้าก็อยู่บนเรือ ยังตามมาขอบคุณบุญคุณช่วยชีวิตอีก นี่ไม่ใช่ยั่วยุข้าหรือ แม้แต่ผู้หญิงหอโคมเขียวคนหนึ่งยังกล้าหมายปองสามีของข้าซึ่งๆ หน้าเช่นนี้ ท่าน ท่านสวีโย่วทำเช่นนี้ต่อข้าจริงๆ หรือ วันนี้เป็นซูหว่าน พรุ่งนี้ใช่จะเป็นจางหว่านหลี่หว่านหรือไม่ ชีวิตนี้จะผ่านไปอย่างไร เลิกกันไปเสียดีกว่า!”/n /n /nแม้สติปัญญาของนางจะรู้ว่าไม่เกี่ยวกับสวีโย่ว แต่เสิ่นเวยก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่ นางรู้สึกน้อยใจ น้อยใจอย่างถึงที่สุด เบื้องลึกในใจมีไฟโทสะที่มองไม่เห็นหนึ่งกลุ่มลุกโชนจนนางอึดอัดอย่างถึงที่สุด/n /n /nสวีโย่วได้ยินเสิ่นเวยพูดแม้แต่คำว่าเลิกกันออกมา ก็รู้แล้วว่าครั้งนี้นางโกรธจริงๆ ไม่สนเกียรติยศศักดิ์ศรีอะไรแล้ว กอดเสิ่นเวยไม่ปล่อยมือ “เวยเวย น้องสี่ พันความผิดหมื่นความผิดล้วนแต่เป็นความผิดของข้า เจ้าวางใจ ข้าจะเปลี่ยนแปลง ครั้งหน้าหากเจอเรื่องเช่นนี้อีกข้าจะไม่ลงจากรถเด็ดขาด เดินไปข้างหน้า ไม่สนเรื่องของคนอื่นเด็ดขาด ดีหรือไม่ ดีหรือไม่”/n /n /n“ปล่อย ท่านปล่อย” เสิ่นเวยออกแรงดิ้นพล่าน หมดหนทางหวีโย่วกอดนางแนบแน่น นางขยับไม่ได้แม้แต่นิดเดียว/n /n /n“เวยเวยทำอย่างไรเจ้าจึงจะไม่โกรธ ขอเพียงแค่ข้าทำได้ ไม่ว่าอะไรข้าก็รับปาก” สวีโย่วเสียใจยิ่งนัก วันเกิดดีๆ ถูกก่อกวน เขาตัดสินใจเงียบๆ แล้วว่าจะต้องโยนซูหว่านอะไรนั่นออกไปจากเมืองหลวงให้ได้/n /n /n“ได้ ท่านพูดเองนะ” เสิ่นเวยดิ้นไม่หลุด ก็กัดฟันชี้แม่น้ำกล่าว “กระโดดลงไป อยู่ถึงหนึ่งชั่วยามข้าจะให้อภัยท่าน”/n /n /n“ได้ ขอเพียงแค่เวยเวยไม่โกรธ ข้าอยู่สองชั่วยามก็ไม่เป็นไร” สวีโย่วกล่าวอย่างตั้งใจ ดีดตัวคราหนึ่งก็กระโดดจากเรือสำราญลงไปในแม่น้ำแล้ว/n /n /n“ท่านจวิ้นอ๋อง” เจียงเฮยเจียงไป๋สองพี่น้องตกใจหน้าถอดสี เหล่าทหารคุ้มกันก็ปากอ้าตาค้าง นี่ช่าง ช่างเชื่อฟังเกินไปแล้วหรือไม่ มีเพียงหลีฮวาและสาวใช้คนอื่นๆ กับโอวหยางไน่ที่ไม่สะทกสะท้าน จวิ้นจู่ของพวกเขาโกรธจนเป็นขนาดนี้แล้ว จะให้ท่านจวิ้นอ๋องไปสำนึกในน้ำแล้วอย่างไร/n /n /nทหารคุ้มกันที่โอวหยางไน่พามาก็มีคนที่อยู่ในกองทหารรักษาพระองค์ด้วย มองหน้ากันอย่างอดไม่ได้ อารมณ์ร้อนของจยาฮุ่ยจวิ้นจู่ผู้นี้รุนแรงจริงๆ! สตรีคนอื่นเจอเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่ควรอดทนหรอกหรือ ส่วนผิงจวิ้นจู่ก็คาดไม่ถึงว่าปล่อยให้นางทำเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ ตนเองก็ยังกระโดดลงไปในน้ำจริงๆ นี่ ภาพนี้คล้ายผิดปกติเล็กน้อย!/n /n /nเสิ่นเวยน่ะหรือจะอดทน นางจะระบายอารมณ์แล้วอย่างไร นางสร้างเรื่องอย่างไม่มีเหตุผลแล้วอย่างไร นางจะไม่สบายใจในใจแล้วอย่างไร นางจะรำคาญสตรีทั้งหมดที่หมายปองชายของนางแล้วอย่างไร/n /n /nเพราะสวีโย่วคนเดียว เพราะสวีโย่วคนเดียว เรื่องนี้ในวันนี้ล้วนเป็นเพราะเขาคนเดียว! วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบอายุสิบหกปีของนางไม่ใช่หรือ เสิ่นเวยอึดอัดใจจนอยากจะรื้อเรือสำราญทั้งลำจริงๆ/n /n /n“ท่านไม่ดี ทำให้คุณหนูโมโห ตีท่าน ตีท่าน” เถาฮวาวิ่งเข้ามาหยิบผลไม้สดในถาดปาไปที่สวีโย่วในน้ำ ถูกหลีฮวาและคนอื่นๆ ลากออกไปอีกฝั่งแล้ว/n /n /nนายท่านทะเลาะกันพวกเราสาวใช้เหล่านี้อย่าเข้าไปมีส่วนร่วมจะดีกว่า ไม่เห็นหรือว่าสีหน้าของเจียงเฮยเจียงไป๋ดำหมดแล้ว/n

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด