War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1549

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1549 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ป๋ายลี่หงยืนกราน
 
 
“เจ้าสำนัก ข้ารู้ดีว่าเจ้าลำบากใจเรื่องอันใด…เพราะมันคือปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาว แต่เจ้าสำนักมั่นใจได้ หากมันพิสูจน์ได้ว่าการตายของจ้าวเฟิงมิมีใดเกี่ยวของกับมันจริงๆ ชายชราผู้นี้ยินดีก้มหัวขอขมาต่อมันเอง”
 
ชายชรากล่าวออกเสียงเข้ม
 
มาตอนนี้เจียงเว่ยรู้ดีว่ามิอาจห้ามชายชราได้อีกต่อไป และมันรู้ว่าถึงห้ามอย่างไรอีกฝ่ายก็ต้องกระทำให้จงได้
 
ชายชราตัดสินใจไปแล้ว ไหนเลยมันจะทำอะไรได้อีก
 
“อาจารย์ลุงเฉียนในเมื่อท่านตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะไปกับท่านด้วย”
 
เจียงเว่ยกล่าว
 
ชายชราไม่กล่าวใดเพิ่มเติม ปล่อยให้เจียงเว่ยติดตามมาแต่โดยดี
 
ไม่นานทั้งคู่ก็พากันมาถึงคฤหาสน์ป๋ายลี่หง
 
ป๋ายลี่หงที่ได้รับทราบข่าวลือมาก่อนแล้ว จึงไม่แปลกใจอะไรที่เห็นเจ้าสำนักมาที่นี่
 
อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็ไม่มีใดเกี่ยวข้องกับมัน ยังจะกังวลใจไปทำอะไร
 
อย่างไรเสียแม้ไม่กังวล แต่อารมณ์ก็มิใช่จะสู้ดีสักเท่าไร!
 
หากข่าวลือนั่นเป็นจริง ไม่ใช่ว่าจ้าวเฟิงคิดฆ่าศิษย์น้องของมันหรอกรึ?!
 
มันยังรู้สึกขอบคุณสวรรค์นัก…เพราะตอนแรกคิดว่ามีเพียงหลิวฮ่วนเท่านั้นที่คิดฆ่าศิษย์น้องของมัน ทว่าไม่เคยคิดถึงจ้าวเฟิงเลยแม้แต่น้อย ‘โชคดีที่มิมีใดเกิดขึ้นกับศิษย์น้อง…หาไม่แล้วข้าจะมีหน้าไปพบอาจารย์ในโลกหน้าอีกหรือ’
 
คิดถึงเรื่องนี้ ป๋ายลี่หงก็อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวในใจ
 
อย่างไรก็ตามเมื่อเดินมาถึงห้องโถงใหญ่ ป๋ายลี่หงก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
 
เพราะไม่ใช่แค่เพียงเจียงเว่ยเท่านั้นที่รออยู่ กลับมีใบหน้าคุ้นตาหนึ่งรออยู่ด้วย! ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นยอดฝีมือในขอบเขตเซียนที่มีน้อยคนในสำนักจันทร์จรัสแสง!
 
ยังเป็นอาจารย์ลุงของเจ้าสำนัก…เฉียนคง!
 
“เจ้าสำนัก อาวุโสเฉียน พวกท่านสบาย”
 
แม้ป๋ายลี่หงจะเป็นปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาว และมีฐานะอันพิเศษในสำนักจันทร์จรัสแสง แต่ก็ไม่กล้าละเลยท่าทีต่อเจียงเว่ยและเฉียนคง
(พ่อจ้าวเฟิงไม่ได้ชื่อจ้าวเฉียน…แต่เป็นเฉียนคง ตอนก่อนๆผมดูผิดไปขออภัยด้วย)
 
“อาวุโสป๋ายลี่”
 
เจียงเว่ยยิ้มตอบคำทักของป๋ายลี่หง
 
หากเป็นปกติเฉียนคงเองก็คงยิ้มตอบคำทักเช่นกัน อย่างไรก็ตามตอนนี้มันเลือกที่จะยิงคำถามออกมาตรงๆ “อาวุโสป๋ายลี่ ข้ามาวันนี้เพราะเรื่องของจ้าวเฟิง”
 
“มีข่าวลือกันว่าความสัมพันธ์ระหว่างจ้าวเฟิงกับอาวุโสเฉียนเป็นดั่งอาจารย์และศิษย์ปิดสำนัก ถึงแม้ข้าไม่รู้ว่าทำไมท่านถึงไม่ยอมรับจ้าวเฟิงเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการ แต่มาตอนนี้ท่านกลับทำเพื่อมันมิใช่น้อย”
 
ถึงแม้จะแปลกใจที่เฉียนคงมาด้วยตัวเอง แต่ป๋ายลี่หงก็ยังยิ้มตอบกลับไป
 
มันเองก็เคยได้ยินเรื่องของเฉียนคงกับจ้าวเฉียนมาแล้ว
 
มันเองก็สงสัยไม่น้อยว่าทำไมเฉียนคงไม่ทำเรื่องจ้าวเฟิงให้ชัดเจนกันไป
 
“ถึงแม้ว่าข้าจะเชื่อมั่นในตัวอาวุโสป๋ายลี่มิน้อย แต่ข้ายังหวังว่าจักได้รับคำยืนยันจากปากท่าน…ท่านมีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับการตายของจ้าวเฟิงหรือไม่?”
 
ลูกตาเฉียนคงมองป๋ายลี่หงไม่วางตา คล้ายจะจับทุกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนใบหน้าของป๋ายลี่หง
 
“มิมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าเลย”
 
ป๋ายลี่หงยังคงยิ้มตอบ หัวส่ายไปมา
 
“ท่านสามารถกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าได้หรือไม่ ว่าท่านมิมีส่วนรู้เห็นอันใดกับการตายของจ้าวเฟิง?”
 
เฉียนคงยังถามสืบต่อ คำถามนี้ยังเหลือเชื่อทั้งน่าตกใจไม่น้อย
 
พอได้ยินคำนี้ของเฉียนคง หน้าป๋ายลี่หงพลันแข็งไปทันใด รอยยิ้มสลาย กล่าวถามกลับไปเสียงเข้ม “หรืออาวุโสเฉียนมิเชื่อถือในคำข้า?”
 
“นี่มิใช่ข้ามิเชื่อท่านแต่อย่างใดอาวุโสป๋ายลี่…ข้าเพียงต้องการยืนยันให้แน่ชัดเท่านั้น หากท่านกล่าวคำสาบานว่ามิมีส่วนรู้เห็นต่อการตายของจ้าวเฟิง…ข้าเฉียนคงยินดีก้มหัวขอขมาท่าน!”
 
เฉียนคงกล่าวย้ำออกมาอีกครั้ง
 
วาจาของเฉียนคงแน่นอนว่าทำให้ป๋ายลี่หงตกใจไม่น้อย
 
เฉียนคงผู้นี้ยินดีก้มหัวขอขมามันป๋ายลี่หง?
 
กล่าวจริงหรือ?
 
จังหวะนี้ป๋ายลี่หงอดไม่ได้ที่จะมองเจียงเว่ยด้วยความสงสัย ราวกับจะถามว่าที่แท้เฉียนคงมีสัมพันธ์อันใดกับจ้าวเฟิงกันแน่ ถึงได้ยอมทำขนาดนี้
 
น่าเสียดายแม้เจียงเว่ยจะรู้เรื่องนี้ แต่มันก็ไม่อาจกล่าวตอบไปตามตรงได้
 
“อาวุโสป๋ายลี่ ข้าบอกท่านได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์ลุงเฉียนกับจ้าวเฟิงนั้น แน่นแฟ้นมิต่างอันใดจากบุตรบิดา…”
 
เจียงเว่ยได้แต่กล่าวตอบไปแบบนี้เท่านั้น
 
“มิต่างบุตรบิดา?”
 
ได้ยินคำนี้ของเจียงเว่ย ป๋ายลี่หงอดไม่ได้ที่จะเย้ยเยาะในใจ หากพวกเจ้าสนิทสนมกันถึงขนาดนั้น แล้วใยไม่ย่อมรับจ้าวเฟิงเป็นศิษย์ปิดสำนักให้เป็นเรื่องเป็นราวไปเลยเล่า?
 
“อาวุโสเฉียนท่านให้ข้ากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าเช่นนี้ ก็มิตองสงสัยเลยว่าที่แท้ท่านเห็นข้าเป็นคนอย่างไร…ตลอดชั่วชีวิตข้ามิเคยก้มหน้าโป้ปด! อย่างไรเสียในเมื่อท่านอยากให้ข้ายืนยันด้วยการสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้านัก ข้าก็จักทำให้ตามที่ท่านต้องการ!!”
 
ป๋ายลี่หงมองเฉียนคุนด้วยสายตาเฉยเมยกล่าวออกเสียงเย็น
 
หลังจากที่กล่าวจบ ก็จิกนิ้วหลั่งโลหิต กล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าทันที
 
เนื้อหาคำสาบานก็ไม่มีใดอื่น…มันไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆต่อการตายจ้าวเฟิงทั้งสิ้น
 
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
 
……
 
เมื่อเสียงอัสนีสวรรค์ลั่นดังก้องฟ้า 9 คำรบ ก็หมายความว่าสวรรค์ตอบรับสัตย์สาบานครั้งนี้แล้ว ในเมื่ออัสนีฟ้าไม่ผ่าพิฆาตลงทัณฑ์ นั่นหมายความว่าป๋ายลี่หงไม่ได้โกหก
 
จังหวะนี้เจียงเว่ยก็อดไม่ได้ที่จะโล่งใจ
 
มันล่ะกลัวใจเหลือเกินว่าป๋ายลี่หงจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ อย่างไรเสียตอนนี้มันก็ตกที่นั่งลำบากยัก เพราะต้องมาอยู่คั่นกลางระหว่างทั้งสอง!
 
เฉียนคงเป็นผู้พิทักษ์สำนักจันทร์จรัสแสง และมีศักดิ์เป็นอาจารย์ลุงของมัน
 
ป๋ายลี่หงก็คือปรมาจารย์จารึกเซียนระดับ 3 ดาวเพียงหนึ่งเดียวของสำนัก
 
ทั้งคู่ล้วนมีความสำคัญต่อสำนักจันทร์จรัสแสงอย่างยิ่งยวด มันไม่อาจยอมรับได้หากจะต้องเสียใครคนใดคนหนึ่งไป
 
และในที่สุดตอนนี้เรื่องราวก็จบลงด้วยดี
 
“อาวุโสป๋ายลี่ ข้าขอภัยสำหรับการสงสัยในตัวท่านครั้งนี้”
 
เฉียนคงก็นับว่าเป็นชนชั้นกล้าทำกล้ารับ เมื่อรู้ว่าป๋ายลี่หงกลับไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริงๆ มันก็ประสานมือก้มหัว โค้งร่างขอขมาต่อป๋ายลี่หงทันที
 
ถึงแม้ว่าท่าทางจะไม่ค่อยจริงใจเสียเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆมันก็ยอมลดศักดิ์ศรีของมันลงแล้ว
 
“อาวุโสเฉียน หากไม่มีเรื่องใดก็อย่าถือที่ข้าไม่ส่ง”
 
ป๋ายลี่หงกล่าวคำตัดบทออกมา เห็นได้ชัดว่าคิดขับไล่ผู้คน!
 
ปกติแล้วมันนับว่าเป็นคนใจกว้าง ทว่าการกระทำของเฉียนคงวันนี้ทำให้มันมีโมโหนัก!
 
“อาจารย์ลุงเฉียน พวกเราไปกันเถอะ”
 
จากสีหน้าท่าทางป๋ายลี่หง ไหนเลยเจียงเว่ยจะไม่ทราบได้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในอารมณ์อันใด มันเร่งชักชวนเฉียนคงให้กลับไปทันที
 
“ช้าก่อน”
 
อย่างไรก็ตามเฉียนคงกลับส่ายหัวไปมา สองตามองป๋ายลี่หงค่อยกล่าวสืบต่อออกมาอีกครั้ง “อาวุโสป๋ายลี่ ข้าต้องขออภัยท่านด้วย แต่ทว่าข้าอยากขอให้ท่านเรียกต้วนหลิงเทียนออกมาพบข้าหน่อย”
 
“อาวุโสเฉียน เรื่องนี้ท่านหมายความว่าอะไร?”
 
หน้าป๋ายลี่หงเปลี่ยนไปมหันต์ในทันใด กล่าวถามออกไปเสียงแข็ง
 
“อาวุโสป๋ายลี่ยามนี้ตัวข้าทราบแล้วว่าท่านมิมีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับการตายของจ้าวเฟิง…หากแต่ข้ามิอาจเชื่อได้ว่าเรื่องนี้จักมิมีอันใดเกี่ยวข้องกับต้วนหลิงเทียน! โปรดให้ศิษย์น้องของท่านออกมายืนยันและได้พิสูจน์ตัวเองเถอะ!”
 
เฉียนคงกล่าวคำขาด
 
“อะไร?! หรืออาวุโสเฉียนคิดให้ศิษย์น้องของข้ากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าเช่นเดียวกับข้า ว่ามิมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของจ้าวเฟิง?”
 
ป๋ายลี่หงกล่าวเย้ยออกมาเป็นการประชด
 
“ถูกแล้ว”
 
เฉียนคงพยักหน้ารับ
 
“อาวุโสเฉียนที่ข้ากล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าเมื่อครู่ นอกเหนือจากเห็นแก่หน้าท่านแล้ว ข้ายังมิอยากให้เจ้าสำนักต้องลำบากใจ…หาไม่แล้วด้วยนิสัยของข้า ตัวข้าไม่มีวันยอมกล่าวคำสาบานเช่นนี้เด็ดขาด! เรื่องนี้ทำให้ใจข้ารู้สึกอัปยศนัก!!”
 
ป๋ายลี่หงกล่าวออกด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวไม่พอใจ
 
“อาวุโสป๋ายลี่ ข้าต้องขออภัยท่านแล้วจริงๆ”
 
เฉียนคงกล่าวตอบเสียงเบา
 
“ท่านหมายความเช่นนั้นจริงๆ?”
 
ป๋ายลี่หงพลันฉีกยิ้มออกมาทันใด “อาวุโสเฉียนหากท่านคิดเช่นนั้นจริงๆ ข้าอยากให้ท่านกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าให้ข้าเรื่องหนึ่ง หากท่านมิได้กระทำเรื่องที่ข้าสงสัยข้าจะขอขมาท่านเอง ได้หรือไม่?”
 
“ทำไมจะไม่ได้?”
 
เฉียนคงกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
 
“ประเสริฐ! เช่นนั้นอาวุโสเฉียนช่วยกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าให้ข้ามั่นใจทีเถอะ ว่าเกิดมาท่านมิเคยลักลอบมุดผ้าห่มไปถล่มมารดาของท่านเลยสักครั้ง? แม้ข้าจะเชื่อมั่นในตัวท่าน แต่ข้ายังอยากให้ท่านกล่าวคำสาบานเช่นนี้สักครั้งเพื่อให้ข้ามั่นใจ อาวุโสเฉียน!”
 
แม้ใบหน้าเฉียนคงจะแปรเปลี่ยนไปปานหมึกตั้งแต่ครึ่งประโยคแรก แต่ป๋ายลี่หงก็ไม่แยแส เพียงกล่าวออกจนจบด้วยใบหน้าเฉยเมย
 
ลิ้นอาบยาพิษนัก!!
 
กลับเป็นเจียงเว่ยที่ที่อดไม่ได้ที่จะหน้าซีดปานศพ! ทั่วร่างยังเริ่มเร่งเร้าปราณแท้ออกมา ตระเตรียมป้องกันป๋ายลี่หง เพราะมันกลัวเฉียนคงจะลงมือด้วยโทสะแล้วจริงๆ!
 
ใจมันยังอดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความขื่นขมกระทั่งอับจนหนทางอยู่บ้าง ไฉนมันไม่เคยรู้มาก่อนกัน ว่าคำพูดป๋ายลี่หงจะร้ายกาจปานเคลือบยาพิษเช่นนี้!?
 
แม้เฉียนคงจะกล้ากล่าวคำสาบานเรื่องนี้อย่างไม่กลัวเกรง แต่เฉียนคงย่อมไม่มีวันกระทำเด็ดขาด!
 
เพราะนี่นับเป็นการดู่หมิ่นเหยียดหยามเฉียนคงอย่างแรง!
 
อีกทั้งไม่เพียงแต่ทำให้มันเสื่อมเสีย กระทั่งยังพาลให้มารดาเสื่อมเสียอีกด้วย!
 
“ป๋ายลี่หง หลายปีมานี้…เป็นเจ้าที่ทำให้ข้าคิดฆ่าคนครั้งแรก!”
 
เฉียนคงจับจ้องมองป๋ายลี่หงเขม็ง ลูกตายังวูบวาบด้วยแสงเย็นฉ่ำ
 
หากไม่ใช่เพราะเจียงเว่ยอยู่ข้างๆ และหากไม่ใช่เพราะมันเห็นแก่ตัวตนของป๋ายลี่หง เกรงว่ามันคงลงมือไปนานแล้ว!
 
“อาวุโสเฉียนข้าก็แค่อยากจะให้ท่านกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าในเรื่องที่ข้าไม่มั่นใจเท่านั้นเอง หากท่านไม่กล่าวสาบาน…ไหนเลยข้ายังพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร”
 
ป๋ายลี่หงไม่กลัวเฉียนคงแต่อย่างไร ยังกล่าวต่อไปอย่างไม่แยแส
 
หลังจากกล่าวจบก็ไม่รอให้เฉียนคงตอบกลับ เพียงหันไปมองเจียงเว่ยและเอ่ยออกมาอีกครั้งทันที “เจ้าสำนัก รายละเอียดของศิษย์น้องข้าต้วนหลิงเทียน ข้าคิดว่าท่านคงสืบจนแน่ชัดแล้ว…ท่านคิดจริงๆหรือว่าศิษย์น้องข้ามีพลังสามารถถึงขนาดนั้น? ฆ่าอาวุโสจ้าวเฟิงได้?”
 
“เพียงคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าของข้าก็นับว่ามากเกินพอแล้วที่จะเผยให้เห็นว่าการตายของจ้าวเฟิง ไม่เพียงแต่ไม่เกี่ยวข้องกับข้า ยังรวมถึงศิษย์น้องของข้าด้วย!”
 
ป๋ายลี่หงยังกล่าวยืนกรานออกมาเสียงแข็ง “วันนี้ข้ายอมให้อาวุโสเฉียนหมิ่นเกียรติข้าคนนึงแล้ว แต่ข้ามิอาจยอมให้อาวุโสเฉียนมาหมิ่นเกียรติศิษย์น้องข้าอีกคน!”
 
“หากข้าป๋ายลี่หง กระทั่งปกป้องศิษย์น้องเพียงคนเดียวยังทำไม่ได้ ข้ายังจะอยู่ในโลกนี้ไปเพื่ออันใด!?”
 
วาจาท้ายประโยคของป๋ายลี่หงนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ดื้อรั้นนัก
 
“อาวุโสป๋ายลี่อย่าได้มีโทสะไปเลย ทั้งหมดผิดที่ข้า…ที่ยังมิได้อธิบายเรื่องศิษย์น้องท่านให้อาจารย์ลุงเฉียนฟังชัดๆ”
 
เมื่อเห็นว่าป๋ายลี่หงยืนกรานออกมาอย่างดื้อรั้นแฝงโทสะ เจียงเว่ยก็กังวลใจหนักหนาเร่งกล่าวบอกเฉียนคงทันที “อาจารย์ลุงเฉียนเนื่องจากอาวุโสป๋ายลี่กล่าวคำสาบานไปแล้วว่ามิมีส่วนเกี่ยวข้องใดกับการตายของจ้าวเฟิง เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนก็ยิ่งไม่อาจเกี่ยวข้องไปใหญ่!”
 
“ศิษย์น้องอาวุโสป๋ายลี่ต้วนหลิงเทียนคนนี้…ข้าตรวจสอบแน่ชัดแล้วว่ามาจากเมืองชงซัน อันเป็น 1 ใน 18 เมืองใต้อาณัติของสำนักจันทร์จรัสแสงเรา…นอกจากนี้ต้วนหลิงเทียนยังมาจากทวีปมนุษย์ ไร้เบื้องหลังอันใด”
 
“ด้วยพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียน ย่อมไม่มีทางฆ่าจ้าวเฟิงได้เด็ดขาด…ทั้งต่อให้มีเบื้องหลัง ก็ไม่มีทางแข็งแกร่งเหนือไปกว่าอาวุโสป๋ายลี่หงได้”
 
เจียงเว่ยกล่าวออกมารวดเดียวจบ ส่วนใหญ่แล้วเพื่อขจัดความสงสัยใดๆให้หมดไป ด้วยกลัวเฉียนคงจะเอาเรื่องอะไรป๋ายลี่หงอีก
 
ได้ยินคำของเจียงเว่ย สีหน้าของเฉียนคงค่อยๆผ่อนคลายลง หากแต่ขณะมองไปยังป๋ายลี่หงในแววตายังเผยจิตฆ่าฟันให้เห็นชัด
 
ป๋ายลี่หงก็มองสบตาสวนไปไม่ได้หวาดกลัวอะไร และไม่กังวลว่าอีกฝ่ายจะกล้าลงมือ
 
“เหอะ!”
 
หลังจากสบถคำออกมาคำหนึ่ง ร่างเฉียนคงก็วูบหายไปฉับไวปานสายลม

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด