War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1546

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1546 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

แดนสวรรค์
 
‘คิดไปแล้วสมควรเป็นได้แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว…หลังจากข้าได้รับถ่ายทอดยอดใจกระบี่มา ข้าก็ไม่เคยเข้ามาในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติเลย…วันนี้เป็นวันแรกที่ข้าเข้ามาหลังได้รับสืบทอดยอดใจกระบี่ นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่!’
 
คิดถึงจุดนี้ใจต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นครั้งใหญ่!
 
จะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้ยังไงไหว?
 
กระบี่นิลสวรรค์มันเป็นยอดสมบัติสวรรค์ที่ไม่ต่างอะไรกับเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ! ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นยอดสมบัติสวรรค์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อการสังหาร!!
 
หากเขาใช้มันได้ มันย่อมเหนือกว่าศาสตราเซียนใดๆทั่วหล้า!
 
ต่อหน้ายอดสมบัติสวรรค์อย่างกระบี่นิลสวรรค์ ให้เป็น 10 สุดยอดศาสตราเซียนในรายนามศาสตราเซียนผู้ยิ่งใหญ่ ก็ห่างไกลเกินกว่าจะนำมาเทียบกับกระบี่นิลสวรรค์! กระทั่งต่อให้เป็นศาสตราเซียนที่จารึกอาคมเซียนระดับ 9 ไว้เต็มพิกัดก็ยังไม่คู่ควร!!
 
‘ในเมื่อมันกำลังร้องเรียกหาข้า…หมายความว่าข้าสามารถใช้มันได้แล้วงั้นเหรอ!?’
 
อยู่ดีๆใจต้วนหลิงเทียนก็บังเกิดความคิดนึ้ขึ้นมาดื้อๆ
 
พอคิดแล้วก็ยากจะห้ามไม่ให้คิด!
 
ภายใต้สายตางุนงงสงสัยของผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนเดินมาหยุดหน้าแท่นศิลาที่มีกระบี่นิลสวรรค์วางไว้ มือขวาค่อยๆเอื้อมออกไปอย่างช้าๆ บรรจงจับด้ามกระบี่นิลสวรรค์ เห็นได้ชัดว่าคิดยกกระบี่..
 
อย่างไรก็ตามผู้เฒ่าหั่วไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะยกกระบี่สวรรค์ขึ้นมาได้!
 
ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนจับด้ามกระบี่นิลสวรรค์ เขาก็พบว่าใจเขาที่ร่ำร้องมันสงบลงทันใด ยิ่งไปกว่านั้นกระบี่นิลสวรรค์ยังให้ความรู้สึกคุ้นเคยนัก ราวกับมันกับเขาผูกพันชิดใกล้กับเขามาแสนนาน!
 
วินาทีนี้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกเสมือนใจเขาได้ผสานเป็นหนึ่งเดียวกันกับกระบี่นิลสวรรค์!
 
หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนที่จับกระบี่นิลสวรรค์แล้ว ก็เริ่มออกแรงเพียงเล็กน้อย
 
แรงที่ใช้ออกยังไม่ถึง 1 ใน 10 ด้วยซ้ำ…ทว่ากระบี่นิลสวรรค์ที่แต่เดิมหนักเสมือนขุนเขาหมื่นแสนชั่ง กลับถูกหยิบยกขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย!
 
ถูกแล้ว!
 
ต้วนหลิงเทียนที่คล้ายจะออกแรงเพียงน้อยนิด กลับยกกระบี่นิลสวรรค์ขึ้นมาได้อย่างอัศจรรย์!
 
ทั้งต้วนหลิงเทียนยังรู้สึกเสมือนกระบี่ในมือได้เชื่อมโยงผูกพันกับสายเลือดเขาอย่างไรไม่ทราบ!
 
“นี่มัน…”
 
เห็นฉากนี้ผู้เฒ่าหั่วก็ถึงกับตกตะลึงพรึงเพริด
 
เพราะต่อให้เป็นมันตอนนี้ แม้อาจจะฝืนหยิบยกกระบี่นิลสวรรค์ขึ้นมาได้ แต่ก็ยังห่างไกลจากการใช้งานมันได้!
 
ทว่าตอนนี้กระบี่นิลสวรรค์กลับถูกต้วนหลิงเทียนถือเอาไว้ ทั้งกวัดแกว่งได้อย่างง่ายดาย ราวกับไร้น้ำหนักด้วยซ้ำ!
 
จังหวะนี้ผู้เฒ่าหั่วอดไม่ได้ที่จะใช้เนตรเทวะตรวจสอบพลังฝึกปรือต้วนหลิงเทียนทันที!
 
มันร้อนใจอยากรับทราบพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียนนัก!
 
แม้มันจะรู้ดีแก่ใจดีว่าพลังฝึกปรือต้วนหลิงเทียนอยู่ระดับใด แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก ถึงขั้นตรวจซ้ำอีกรอบ!
 
เขากลับหยิบยกกระบี่นิลสวรรค์ขึ้นได้จริงๆ!
 
ยามถือกระบี่นิลสวรรค์ไว้ในมือ ต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ถึงเจตจำนงกระบี่อันบางเบา ว่ามันคิดสยบโลกหล้าทั้งใบไว้แทบเท้า!
 
และตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนพลันทดลองจ่ายปราณแท้ลงสู่กระบี่นิลสวรรค์ และนั่นทำให้หน้าเขาเปลี่ยนสีทันที!
 
เพราะปราณแท้ที่เขาจ่ายไปยังกระบี่นิลสวรรค์ ประหนึ่งมันร่วงลงสู่หุบเหวอเวจีไร้ก้นบึ้ง! แถมตัวกระบี่กลับดูดกลืนปราณแท้ในร่างของเขาอย่างหิวกระหาย! กระทั่งปราณแท้ในทะเลปราณก็ถูกกระบี่ชักนำผ่านชีพจรเซียนทั้ง 99 เส้นเพื่อดูดกลืนด้วยความเร็วอันน่ากลัว!
 
จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะตกใจ และพบว่าการมีชีพจรเซียนมากมายก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องดีเสมอไป!!
 
ภายใต้เส้นสายชีพจรเซียนทั้ง 99 เส้น ปราณแท้ของต้วนหลิงเทียนแทบทั้งหมดถูกสูบกลืนไปในเวลาถึง 20 ลมหายใจ! เขาอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกถึงขั้นต้องโยนกระบี่นิลสวรรค์ลงบนแท่นหินเหมือนเดิมทันที
 
หลังจากที่โยนกระบี่ทิ้งไปแล้ว เขาก็พบว่าในทะเลปราณหลงเหลือปราณแท้อยู่แค่นิดเดียวเท่านั้น
 
มองไปยังกระบี่นิลสวรรค์อันมีรูปลักษณ์เรียบง่ายไร้เครื่องตกแต่งอะไรตอนนี้ กลับมีไอพลังสีครามฉาบอยู่จางๆ…ทว่าไอพลังสีครามนั่นเพียงเรืองสว่างอยู่ไม่นานมันก็ดับหายไป…
 
“อะไรกัน ดูดปราณแท้ข้าไปแทบหมดตัว…แต่ตอนนี้กลับใช้หมดแล้วเหรอ?!”
 
เห็นภาพนี้ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะตะลึง ยังอดหัวเราะออกมาแห้งๆเสียไม่ได้ ยังเสียใจไม่น้อยที่ดันทำอะไรผลีผลามลงไปแบบเมื่อครู่
 
“เจ้า…เจ้าใช้มันได้อย่างไร!?”
 
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังยิ้มขื่นขมจากการถูกสูลพลังไปแทบหมดตัว ผู้เฒ่าหั่วก็มองถามต้วนหลิงเทียนด้วยสีหน้าแตกตื่นปานเห็นผี “เจ้าเป็นแค่สู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบ ยังมิมีปราณแรกกำเนิดด้วยซ้ำ…ไฉนเจ้าถึงยกกระบี่นิลสวรรค์ขึ้นมาได้! กระทั่งใช้พลังอำนาจของมันได้แบบนี้!!”
 
“นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่!?”
 
วาจาสุดท้ายของผู้เฒ่าหั่วยังเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ ทั้งเหลือเชื่อ
 
สำหรับผู้เฒ่าหั่วต้วนหลิงเทียนย่อมไม่มีอะไรต้องปิดบัง เขาเล่าเรื่องการสืบทอดมรดกของเซียนกระบี่ฟงชิงหยาง รวมถึงเรื่องที่เขาได้รับเคล็ดบำเพ็ญจิตยอดใจกระบี่ออกไปทันที ทั้งยังบอกว่าตอนนี้เขาสำเร็จยอดใจกระบี่ขั้นแรกแล้ว!
 
“ที่แท้เป็นเช่นนี้…มิคิดเลยว่าในพิภพนี้กลับมีผู้ที่สามารถบรรลุ ใจกระบี่ ได้…คนผู้นี้กระทั่งเป็นแดนสวรรค์ก็ยังนับเป็นอัจริยะไร้ผู้ต้านคนหนึ่ง! หลังจากที่คนผู้นี้ย่างเยื้องไปถึงแดนสวรรค์แล้ว ว่าด้วยความสำเร็จในเชิงกระบี่…น่ากลัวจะกลายเป็นตัวตนอันไร้เทียมทานได้ในเวลาอันสั้น!!”
 
ผู้เฒ่าหั่วอดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หลังจากที่ได้ยินเรื่องเซียนกระบี่ฟงชิงหยาง
 
“ผู้เฒ่าหั่ว ท่านกล่าวเกินไปรึเปล่า?”
 
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามด้วยความสับสน ท่าทางยังรู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง
 
ใครคือผู้เฒ่าหั่ว?
 
อีกาทองคำ 3 ขา ในอดีตกาลครั้งรุ่งโรจน์ยังมีพลังอำนาจเหนือกว่าเทพสวรรค์เสียอีก
 
น่าแปลกใจนักไมน้อยเมื่อรู้ว่า ยอดใจกระบี่ ที่ฟงชิงหยางบรรลุกลับถูกตัวตนอย่างผู้เฒ่าหั่วกล่าวชมถึงขนาดนี้
 
“มิเกินเลยแม้ครึ่งคำ”
 
ผู้เฒ่าหั่วสายหน้าไปมาค่อยกล่าวออกเสียงขรึม “ในแดนสวรรค์ เท่าที่ข้ารู้เกรงว่าจักมีเพียงเง็กเซียนฮ่องเต้ และยอดคนอีกเพียงผู้เดียวเท่านั้น ที้สามารถเทียบกับคนผู้นี้ได้ในเต๋ากระบี่”
 
แม้ต้วนหลิงเทียนจะได้ยินผู้เฒ่าหั่วกล่าวถึงแดนสวรรค์เป็นครั้งแรก แต่เขารู้จักนามจักรพรรดิหยกดี
 
จักรพรรดิหยกนั้น เป็นอะไรที่คนในโลกเก่าเขารู้จักกันดี
 
ไม่ว่าจะในนามเง็กเซียนฮ่องเต้ จักรพรรดิสวรรค์หรืออะไรก็ตาม ล้วนคือจักรพรรดิหยกทั้งสิ้น นี่เป็นเทวะตำนานในโลกเก่าของเขาครั้งสมัยอยู่ประเทศหัวเซี่ย
 
ในเทวะตำนานกล่าวถึงจักรพรรดิหยกไว้มากมาย เป็นตัวตนที่อยู่สูงสุดใน อวี้หวงเทียน!
 
และอวี้หวงเทียนนั้น ก็คือแดนสวรรค์!
 
หลังจากที่ฟังผู้เฒ่าหั่วกล่าว จักรพรรดิหยกที่ว่าก็เป็นสุดยอดฝีมือคนหนึ่งในแดนสวรรค์
 
“ยอดคนอีกคนนอกจากจักรพรรดิหยกนั้น แต่เดิมก็เป็นเหมือนกันกับเจ้า…คนจากพิภพเหยียนหวง! ถึงแม้ชีพจรเซียนที่คนผู้นั้นทะลวงเปิดได้จักมิมากมายเท่าเจ้า ทว่ายังนับเป็นคนที่ 2 นอกเหนือจากจักรพรรดิหยก ที่มีพลังอำนาจสูงส่งจนได้กลายเป็นจักรพรรดิสวรรค์ ทว่าเป็นจักรพรรดิสวรรค์ในแดนสวรรค์อีกแดนหนึ่ง..”
 
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวสืบต่อ
 
“คนผู้นั้นเป็นใครหรือ?”
 
ได้ยินวาจาที่ผู้เฒ่าหั่วเกริ่นออกมา ต้วนหลิงเทียนก็เริ่มสงสัยว่าคนที่ผู้เฒ่าหั่วพูดถึงเป็นใคร
 
ไม่เพียงแต่จะบรรลุเต๋ากระบี่ทัดเทียมกับฟงชิงหยาง กระทั่งยังเทียบได้กับจักรพรรดิหยก ถึงขั้นได้กลายเป็นจักรพรรดิสวรรค์ในแดนสวรรค์แดนอื่น
 
“กงซุน เซวียนเหยียน”
 
เผชิญหน้ากับคำถามของต้วนหลิงเทียน ผู้เฒ่าหั่วกล่าวตอบออกมา 4 คำ
 
“กงซุน เซวียนเหยียน”
 
ได้ยินวาจานี้ของผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
 
ในฐานะที่เป็นคนของหัวเซี่ย ไหนเลยเขาจะไม่รู้จักนามนี้ได้!
 
จักรพรรดิเหลือง กงซุนเซียนเหยียน
 
พิภพเหยียนหวง…คำว่า หวงในที่นี้ ก็แทนนามของจักรพรรดิเหลือง!
 
เขาเองก็กล่าวได้ว่าเป็นลูกหลานของจักรพรรดิเหลือง!
 
จักรพรรดิหวงเปรียบได้ดั่งบรรพบุรุษของชนชาวหัวเซี่ยทุกคน!
 
“กงซุน เซียนเหยียนผู้นั้น…ด้วยกระบี่เซวียนเหยียนในมือ สามารถเข่นฆ่าสร้างเส้นทางโลหิตแผ้วทางไปถึงแดนสวรรค์อีกแดนที่มิใช่อวี้หวงเทียน ก่อนที่จะเข่นฆ่าจักรพรรดิสวรรค์ของแดนสวรรค์นั้น และขึ้นครองราชน์ในฐานะจักรพรรดิสวรรค์คนใหม่!”
 
ขณะกล่าวถึงกงซุยเซียนเหยียน สีหน้าแววตาผู้เฒ่าหั่วยังอดไม่ได้ที่จะเผยความเคารพเลื่อมไส
 
“ร้ายกาจนัก!”
 
ต้วนหลิงเทียนประหลาดใจไม่น้อย ยังตื่นเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้เขาจะเคยได้ยินตำนานของจักรพรรดิเหลืองมาบ้าง ทว่าล้วนเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์เท่านั้น
 
สำหรับเรื่องราวหลังจากนั้นเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
 
เห็นได้ชัดว่ายากที่มนุษย์ปุถุชนจะล่วงรู้ได้
 
“ผู้เฒ่าหั่วก่อนหน้านี้ท่านกล่าวว่า…นอกจากจักรพรรดิหยกก็มีจักรพรรดิเหลืองเพียงคนเดียว ที่มีเต๋ากระบี่ทัดเทียมกับเซียนกระบี่ฟงชิงหยาง?”
 
นึกถึงวาจาก่อนหน้าของผู้เฒ่าหั่วอดไม่ได้ที่ต้วนหลิงเทียนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
 
“มิผิด”
 
ผู้เฒ่าหั่วชักสีหน้าจริงจังกล่าวออกเสียงเข้ม “ข้ามิรู้ว่าฟงชิงหยางผู้นี้ดำรงอยู่ในยุคสมัยใด ถึงแม้ว่าตอนนี้อาจจะยังเอาชนะกงซุนเซวียนเหยียนไม่ได้ แต่ข้าเชื่อมั่นว่าในอนาคต…พลังฝีมือสมควรไม่อ่อนด้อยไปกว่ากงซุนเซียนเหยียน! มิแน่บางทีคนผู้นี้หลังจากที่เยื้องย่างขึ้นสู่สวรรค์ อาจจะเพิ่มพูนพลังฝีมือถึงขั้นกลายเป็นจักรพรรดิสวรรค์ในแดนสวรรค์แดนใดแดนหนึ่งไปแล้วก็เป็นได้”
 
เยื้องย่างขึ้นสู่สวรรค์!
 
เยื้องย่างขึ้นสู่สวรรค์อีกแล้ว!
 
ต้วนหลิงเทียนได้ยินคำเยื้องย่างขึ้นสู่สวรรค์มาหลายครั้ง แต่จนบัดนี้เขายังไม่มั่นใจนักว่าคำเยื้องย่างขึ้นสู่สวรรค์นั้น จริงๆแล้วมันคืออะไรกันแน่
 
“ผู้เฒ่าหั่วเยื้องย่างขึ้นสู่สวรรค์จริงๆแล้วมันหมายความว่าอะไรกันแน่ แล้วมันเกี่ยวข้องกับแดนสวรรค์อย่างไร?”
 
ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะกล่าวถาม
 
“ย่างเยื้องขึ้นสู่สวรรค์นั้น หมายความว่าเมื่อเจ้าบรรลุพลังฝีมือถึงระดับหนึ่ง เจ้าจักได้ยินเสียงเรียกหาจากพิภพสวรรค์ จากนั้นเจ้าจักเผชิญหน้ากับภัยพิบัติสู่สวรรค์ หากเจ้าสามารถเอาชนะและข้ามผ่านภัยพิบัติสู่สวรรค์ได้สำเร็จ เจ้าก็จักสามารถเข้าสู่พิภพสวรรค์ได้…เส้นทางสู่พิภพสวรรค์จักเปิดขึ้นสำหรับเจ้าโดยเฉพาะ”
 
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวอธิบาย
 
“ในห้วงจักรวาลอันไร้สิ้นสุดนี้ มีแดนสวรรค์ทั้งสิ้น 81 แดน! อวี้หวงเทียนที่ข้าเคยกล่าวเป็นหนึ่งในนั้น และหากใครบางคนจากพิภพเหยียนหวงประสบความสำเร็จในการย่างเยื้องขึ้นสู่สวรรค์ ก็จักขึ้นไปสู่อวี้หวงเทียน เพราะมันใกล้ที่สุด…สำหรับผู้คนบนโลกนี้ข้าเองก็มิแน่ใจเช่นกันว่าจะไปยังแดนสวรรค์แดนใดหลังจากเยื้องย่างขึ้นสู่สวรรค์…”
 
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวสืบต่อ
 
“และที่ข้าเคยบอกเจ้าก่อนหน้านี้ว่าเจ้าสามารถกลับโลกเหยียนหวงได้นั้น…ตราบใดที่เจ้าฝึกฝนจนบรรลุกระทั่งสามารถย่างเยื้องขึ้นสู่สวรรค์ได้แล้ว เมื่อไปถึงแดนสวรรค์…เจ้าสามารถใช้การเคลื่อนย้ายข้ามแดนสวรรค์เพื่อไปยัง อวี้หวงเทียนได้มิยาก และเมื่อไปถึงอวี้หวงเทียนแล้ว เจ้าก็สามารถลงไปยังโลกมนุษย์ของเจ้า พิภพเหยียนหวงได้อีกครั้ง”
 
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวออกมารวดเดียวจบ
 
และวาจาผู้เฒ่าหั่วรอบนี้ เป็นธรรมดาที่จะทำให้ต้วนหลิงเทียนตื่นตระหนก
 
ในเวิ้งจักรวาลอันไร้สิ้นสุด แดนสวรรค์มีทั้งสิ้น 81 แดนงั้นเหรอ?!
 
อวี้หวงเทียน เป็นแค่ 1 ในนั้น?
 
“ผู้ที่บรรลุใจกระบี่ในโลกใบนี้…ข้ากลัวว่าจักมีน้อยคนนัก กระทั่งในแดนสวรรค์ทั้ง 81 แดน ตัวตนเช่นนี้ยังมิอาจพบพานได้โดยง่าย…เช่นนั้นเจ้าอย่าได้คิดดูแคลนผู้ที่ถ่ายทอด ‘ยอดใจกระบี่’ ให้เจ้าเด็ดขาด”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด