War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1460

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 1460 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

เลือกเอาจากมุมนี้!
 
โดยทั่วไปแล้วศิษย์ฝ่ายนอกที่พึ่งเข้าสำนักมาใหม่นั้น แน่นอนว่าคะแนนอุทิศย่อมไม่ได้มีมากมายอะไร
 
อย่างไรก็ตามพอคิดว่าถึงยุงจะตัวเล็กแต่มันก็ยังมีเนื้อ ศิษย์ฝ่ายในก็ปรับทัศนคติกลับมาเป็นยิ้มแย้มกล่าวต้อนรับ และแนะนำสินค้าให้ต้วนหลิงเทียนอย่างกระตือรือร้น
 
“กิ่งไม้แห้งกิ่งนี้ดูแล้วไม่น่าจะธรรมดาเลย…เหมาะเอาไปทำฟืนจุดไฟติดเตา”
 
ต้วนหลิงเทียนหยิบกิ่งไม้แห้งๆกิ่งหนึ่งขึ้นมาจากแผง
 
กิ่งไม้แห้งนี้เป็นวุตถุดิบที่ผู้เฒ่าหั่วแนะนำมาเช่นกัน
 
แต่นอนนอนว่าคุณค่าของมันย่อมด้อยกว่าเศษหินหนี่วา
 
อย่างไรก็ตามที ต้วนหลิงเทียนยังอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เพราะไม่คิดเลยว่าแผงขายของศิษย์ฝ่ายในคนนี้กลับมีวัตถุดิบที่ใช้ซ่อมแซมชั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติอยู่ถึง 2 ชิ้น!
 
“เอ่อ…ซื้อกลับไปทำฟืนจุดไฟติดเตาหรือ?”
 
หลังจากได้ยินวาจาของต้วนหลิงเทียน ศิษย์ฝ่ายในถึงกับหน้าเหวอทำตาปริบๆ ไม่นานมันก็ก้มหน้าลงขบเคี้ยวฟัน ลอบกล่าวในใจ ‘ติดเตาบ้านเจ้าสิวะ!’ สุดท้ายก็เงยหน้าขึ้นมากล่าวบอกต้วนหลิงเทียนเสียงเข้ม “ศิษย์น้องเอย เจ้าอย่าได้เห็นว่ามันเป็นกิ่งไม้ธรรมดาๆไป นี่หาใช่อันใดที่ธรรมดาไม่!”
 
“เห ไม่ธรรมดาหรอ…แต่ข้าไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรพิเศษเลยนี่นา”
 
ต้วนหลิงเทียนหยีตาจือปาก ค่อยกล่าวออกมาคล้ายระแวง “เอาล่ะ ขอฟังราคามันก่อนแล้วกัน หากมันแพงเกินไปข้าก็ไม่ซื้อหรอก เก็บคะแนนไว้ดูของแผงอื่นดีกว่า”
 
หลังจากกล่าวจบต้วนหลิงเทียนก็วางกิ่งไม้แห้งลงอย่างไม่แยแส ยังทำท่าคล้ายจะเตรียมตัวหันหลังจากไป
 
“เฮ่ๆ ศิษย์น้องใจเย็นก่อน ข้าไม่ได้หลอกเจ้านา…”
 
เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนทำท่าจะเดินจากไป สีหน้าศิษย์ฝ่ายในเผยความกังวลทันที วันนี้ทั้งวันมันยังขายอะไรไม่ได้สักชิ้น! ในที่สุดก็มีลูกแกะน้อยหลงมา มันจะปล่อยไปง่ายๆได้อย่างไร…!!
 
“งั้นรบกวนพี่ชายบอกข้าทีได้ไหม ว่ามันไม่ธรรมดายังไง?”
 
ต้วนหลิงเทียนเลิกคิ้วกล่าวถาม
 
“ศิษย์น้องสิ่งนี้แม้ดูคล้ายกิ่งไม้แห้งๆเหมาะทำฟืน แต่มันหาใช่อะไรที่สามารถติดไฟง่ายๆไม่! มีปรมาจารย์เซียนหลอมระดับดาวเดียวมากมายในฝ่ายในที่ไม่แม้แต่จะเผามันให้ติดไฟได้ด้วยซ้ำ! และที่สำคัญสิ่งนี้นับเป็นกระสัยยาชั้นดีเลยนา!!”
 
ศิษย์ฝ่ายในกล่าวออกด้วยท่าทางจริงจัง
 
“ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
 
ต้วนหลิงเทียนแสร้งชักสีหน้าประหลาดใจกล่าวถามด้วยสายตาเหลือเชื่อ
 
“แน่นอนๆ ของดีๆ”
 
ศิษย์ฝ่ายในรีบกล่าวสืบต่อ “หากศิษย์น้องยังไม่เชื่อใจศิษย์พี่ เจ้าลองไปเชิญปรมาจารย์เซียนหลอมระดับ 1 ดาวมาทดสอบสักคนเถอะ! เจ้าไม่ต้องไปหาไกลหรอก แถวๆนี้ข้าก็เห็นเดินกันอยู่หลายคนทั้งยังเป็นปรมาจารย์เซียนหลอมของศาลาอุทิศอีกด้วย…เอ่อแต่เจ้าต้องจ่ายค่าคะแนนอุทิศในการว่าจ้างปรมาจารย์เซียนหลอมให้ตรวจสอบเองนะ ทว่าเจ้าไม่ต้องห่วงข้ามั่นใจว่าต้องไม่มีใครปฏิเสธ”
 
ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว และทำท่าสงสัยไม่เลิก
 
หลังจากที่หยิบกิ่งไม้แห้งมาพลิกๆดูอีกไม่กี่รอบด้วยสีหน้าครุ่นคิด โดยมีศิษย์ฝ่ายในจับจ้อง ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็คลายคิ้วที่ขมวด เงยหน้าขึ้นมากล่าวคำ “เอาล่ะงั้นข้าเชื่อพี่ชายสักครั้งแล้วกัน! ข้ามีคะแนนอุทิศไม่มากพอจะไปเชิญปรมาจารย์เซียนหลอมระดับ 1 ดาวอะไรหรอก…”
 
“แต่พี่ชาย ข้าต้องบอกท่านก่อนเลยนะ…พอดีคะแนนอุทิศที่ข้ามีมันก็ไม่ได้มากมายอะไร ถ้ามันแพงไปข้าก็จ่ายไม่ไหว”
 
ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วกล่าวออกอีกครั้ง
 
ถึงแม้ว่าเขาจะมีคะแนนอุทิศนับล้านในมือ แต่เขาก็ไม่คิดจะใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เพราะบางทีอาจมีสิ่งของอย่างอื่นในศาลาอุทิศที่เขาต้องการ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียคะแนนอุทิศไปในชั้นแรกให้มันมากนัก
 
“ไม่แพง ไม่แพงเลย!”
 
ศิษย์ฝ่ายในส่ายหัวพร้อมกล่าว
 
“ไม่แพงรึ? แล้วมันราคากี่คะแนนอุทิศกัน?”
 
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถาม
 
“แค่ 5,000 คะแนนอุทิศเองศิษย์น้อง”
 
ทันทีที่ศิษย์ฝ่ายในกล่าวจบคำมันก็มองต้วนหลิงเทียนอย่างตั้งใจ คล้ายไม่อยากพลาดรายละเอียดใดๆบนสีหน้าต้วนหลิงเทียนแม้แต่น้อย ราวกับคิดสำรวจดูว่าจะมีพอจ่ายหรือไม่
 
ต้องรู้ด้วยว่าเบื้องหน้าของมันคือศิษย์ฝ่ายในที่พึ่งเข้าสำนักมาใหม่รอบนี้ คะแนนอุทิศสมควรไม่ได้มีมากมายอะไร แต่อย่างไรก็ตามมันยังรู้เรื่องราวอีกประการหนึ่งดี
 
ศิษย์ฝ่ายนอกนั้นส่วนมากแล้วจะเป็นคนของจวนเจ้าเมืองต่างๆของ 18 เมือง
 
นอกจากนั้นอย่างต่ำๆ ศิษย์เหล่านี้ย่อมได้รับคะแนนอุทิศจากเจ้าเมืองไว้จับจ่ายใช้สอยราวๆ 10,000 ถึง 20,000 คะแนนอุทิศ
 
“5,000 คะแนนอุทิศ?”
 
พอได้ยินคำตอบของศิษย์ฝ่ายในต้วนหลิงเทียนก็ชักสีหน้าตกใจ ก่อนที่จะวางกิ่งไม้แห้ง แล้วหันหลังเดินจากไปโดยไม่กล่าววาจาใดแม้ครึ่งคำ
 
ก่อนจากไปนั้นแน่นอนว่าสีหน้าแววตาของต้วนหลิงเทียนส่อเจตนาชัด
 
ราวกับไม่คิดไม่ฝันว่ากิ่งไม้แห้งนี่จะแพงขนาดนั้น!
 
“ฮัยยา ศิษย์น้องช้าก่อน! ข้าล้อเจ้าเล่นหน่อยเดียวเอง…มันราคาแค่ 1,000 คะแนนอุทิศ! แค่ 1,000 คะแนนอุทิศเท่านั้นล่ะ!!”
 
แน่นอนว่าสีหน้าแววตาก่อนหน้านี้ของต้วนหลิงเทียน ศิษย์ฝ่ายในคนนี้ย่อมเห็นชัดเจน
 
ทันทีที่เห็นหน้าต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนสี และหันหลังเดินจาก มันก็รู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มชุดม่วงคนนี้มีคะแนนอุทิศไม่มาก
 
เกรงว่าหากมันรู้ว่าศิษย์น้องชุดม่วงที่แลดูยากจนในสายตาของมันคือ ‘ต้วนหลิงเทียน’ ศิษย์ฝ่ายนอกที่สร้างเรื่องราวใหญ่โตในฝ่ายนอกจนเป็นที่ร่ำลือไปทั่วล่ะก็…เกรงว่ามันคงได้กระอักเลือดด้วยโทสะแล้ว!!
 
ศิษย์น้องผู้นี้ประหนึ่ง ‘ทรราชท้องถิ่น’ ที่มีคะแนนอุทิศนับล้านในมือ แต่กลับทำหน้าเสียเพียงเพราะได้ยินราคา 5,000 คะแนนอุทิศ ทั้งยังเดินจากไปอย่างไม่ใยดี…
 
นี่เจ้าสมควรได้รับคะแนนอุทิศนับล้านแล้วจริงๆหรือ?
 
พอได้ยินเสียงเรียกจากศิษย์ฝ่ายในต้วนหลิงเทียนที่หันหลังเดินจากพลันยกยิ้มมุมปาก ทว่าเขาก็ไม่ได้หันกลับไปแต่อย่างไร เพียงค่อยๆก้าวเดินต่ออย่างไม่รีบร้อนทำราวกับจะไปแผงอื่น
 
“500! 500 คะแนนอุทิศพอศิษย์น้อง พอดีศิษย์พี่ลืมไปว่าวันนี้เป็นวันเกิดมารดา เช่นนั้นศิษย์พี่จะลดราคาให้เจ้าเป็นพิเศษ! ทว่าราคานี้ต่ำสุดเท่าที่ศิษย์พี่จะให้เจ้าได้แล้วนะ!! “
 
เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนจะเดินจากไปจริงๆ ศิษย์ฝ่ายในคนนั้นแม้จะขุ่นขึ้ง แต่ก็รีบประกาศราคาสุดท้ายที่มันรับไหวออกมาทันที
 
“หาก 500 คะแนนอุทิศก็พอได้อยู่…แต่ศิษย์พี่ต้องให้ของแถมข้าสักชิ้นนะ”
 
ต้วนหลิงเทียนเองก็รับทราบดีว่า 500 คะแนนอุทิศนั้นเป็นขีดจำกัดล่างของอีกฝ่ายแล้ว ดังนั้นเขาก็ไม่คิดจะกดราคาอะไรอีก หยุดเดินและหันกลับมาถามทันที
 
“ของแถมเหรอ?”
 
หลังได้ยินวาจาของต้วนหลิงเทียน ศิษย์ฝ่ายในอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมองมาด้วยความลังเล
 
แต่สุดท้ายพอมันเห็นว่าต้วนหลิงเทียน ยังมีทีท่าลังเลขณะหยิบกิ่งไม้แห้งๆขึ้นมาอย่างเก้ๆกังๆคล้ายไม่รู้จะวางลงหรือซื้อดี มันก็กัดฟันย่นคิ้วด้วยความเจ็บปวด ‘เวรกรรมแท้ๆ ไฉนข้าต้องเจอลูกค้ายากจนกันนะ!’
 
หากเสียงบ่นในใจของศิษย์ฝ่ายในผู้นี้ ไปดังให้ศิษย์ฝ่ายนอกได้ยินล่ะก็ เกรงว่ามันคงได้จมน้ำลายของศิษย์ฝ่ายนอกจนตาย!
 
เจ้ากล้าเรียก ‘ต้วนหลิงเทียน’ ผู้ล่ำซำว่าลูกค้ายากจนเรอะ!
 
แม้แต่อาวุโสฝ่ายในเกรงว่าก็คงไม่กล้ากล่าววาจาประโยคนี้!
 
“ศิษย์น้อง…500 คะแนนอุทิศนี่ก็ราคาต่ำสุดเท่าที่ข้าจะให้เจ้าได้แล้ว…ของแถมอะไร ข้าให้เจ้าอีกไม่ไหวหรอก”
 
ศิษย์ฝ่ายในกล่าวออกเสียงอ่อนด้วยท่าทางคล้ายจะวางเดิมพันกับความต้องการของต้วนหลิงเทียน
 
“งั้นก็ไม่เป็นไร ข้าไม่เอาแล้วกัน…”
 
ต้วนหลิงเทียนกล่าวอย่างขอไปที และทำท่าจะเดินจากไปอีกรอบ
 
“ช้าก่อน! ช้าก่อน!!”
 
ศิษย์ฝ่ายในไม่คิดเลยว่าสุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้อยากได้ของมันจริงๆ มันจึงอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล “เอาล่ะศิษย์น้อง เห็นแก่วันเกิดมารดาข้า ข้าให้ของแถมเจ้าอีกชิ้นก็ได้…แต่ของแถมนั่นข้าอนุญาตให้เจ้าเลือกจาก ของที่ข้าจัดให้เท่านั้นนะ”
 
“ตราบใดที่มีของแถม ข้าก็ไม่มีปัญหา”
 
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกอย่างเฉยเมยคล้ายไม่ได้สนใจสักเท่าไร ว่าของแถมจะเป็นอะไร
 
ศิษย์ฝ่ายในลอบสบถสาปแช่งต้วนหลิงเทียนในใจอีกรอบ ก่อนที่จะมองไปยังมุมหนึ่งของแผง แล้วชี้ให้ต้วนหลิงเทียนเลือก “ศิษย์น้อง ของแถมเจ้าเลือกจากของ 4-5 ชิ้นตรงมุมนี้แล้วกัน”
 
ต้วนหลิงเทียนหันมองไปทันที แน่นว่าของในมุมแผงที่อีกฝ่ายชี้ มีเศษหินหนี่วารวมอยู่ด้วย
 
“อะไรนะศิษย์พี่ ขยะพวกนี้เนี่ยนะ!?”
 
ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว “พี่ชาย…นี่ท่านให้ข้าเลือกของแถมจากกองขยะพวกนี้หรือ? จะ…จรรยาบรรณพ่อค้าท่านอยู่ที่ใด?”
 
“ฮัยยาศิษย์น้อง…หากเจ้าไม่รู้จักพวกมัน เจ้าอย่าได้เรียกมันว่าขยะสิ! นี่ของดีๆทั้งนั้นเลยนา ขยะอะไรที่ไหนเล่า!?”
 
ศิษย์ฝ่ายในกล่าวออกด้วยสีหน้าจริงจัง “นอกจากนี้เจ้าบอกเองนี่ว่าของแถมจะอะไรก็ได้ อย่าได้บอกข้าเชียวว่าเจ้าเสียใจ”
 
“ถูก ข้าเสียใจขึ้นมาจริงๆแล้วเนี่ย ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าพ่อค้าเช่นท่านเขี้ยวลากดิน…แต่ไม่คิดเลยว่าท่านจะตระหนี่กับศิษย์น้องอย่างข้าได้ลงคอ”
 
ต้วนหลิงเทียนเผยยิ้มขื่นขม
 
“วิญญูชนตกลงซื้อขายเสร็จสิ้นไม่พลิกลิ้นกลับคำ ศิษย์น้องเจ้าตกลงซื้อแล้วนา เจ้าไม่อาจเปลี่ยนใจได้แล้ว…”
 
ศิษย์ฝ่ายในกล่าวกระตุ้นเตือนออกมาอย่างระวัง
 
ต้วนหลิงเทียนถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก่อนที่จะหยิบๆจับๆของที่ตั้งอยู่ตรงมุมแผง
 
ทันทีที่เขาหยิบเศษหินหนี่วาขึ้นมา ใจเขาก็เต้นผิดจังหวะไปทันใด หากแต่เขายังสงบจิตใจและทำเป็นวางมันลงกลับไป และไปหยิบชิ้นอื่นพลิกๆแล้ววางลง ทำเช่นนี้จนครบทุกชิ้น
 
“ดูเหมือนจะไม่มีอะไรดีๆเลย…”
 
ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วกล่าว
 
หลังจากได้ยินคำบ่นของตค้วนหลิงเทียน ศิษย์ฝ่ายในเจ้าของแผงก็ลอบหัวเราะเยาะในใจ หากพวกมันเป็นของดีพี่จะให้เจ้าเลือกหยิบรึ!?
 
“ช่างเถอะ สุ่มๆเอามาสักอันแล้วกัน”
 
หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็ยื่นมือไปหยิบหินหนี่วามาด้วยท่าทางราวสุ่มหยิบอย่างขอไปที ค่อยกล่าวกับศิษย์ฝ่ายใน “พี่ชาย งั้นข้าเอาหินแปลกๆนี่แล้วกัน ท่านไม่มีปัญหาอะไรแล้วนะ”
 
เมื่อเห็นว่าที่ต้วนหลิงเทียนเลือกหยิบกลับเป็นหินประหลาดที่มันบังเอิญพบเจอ และมีคุณสมบัติตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้เท่านั้น มันก็แย้มยิ้มออกมาอย่างยินดี ค่อยพยักหน้ากล่าว “ไม่มีปัญหา แต่ศิษย์น้องข้าบอกก่อน หากเจ้าเลือกแล้ว ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าเปลี่ยนแล้วนะ…”
 
“ไม่แล้วล่ะ”
 
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวเบาๆก่อนที่จะหยิบบัตรแก้วออกมายื่นไปทางศิษย์ฝ่ายใน แตะบัตรโอนคะแนนอุทิศไปให้อีกฝ่าย 500 เป็นอันปิดการซื้อขาย!
 
จำนวนคะแนนอุทิศนั้นจะไม่แสดงให้เห็นหากไม่จ่ายปราณแท้ลงไปยังตัวบัตรแก้ว ดังนั้นศิษย์ฝ่ายในก็ไม่มีทางล่วงรู้เลย ว่าบัตรแก้วของศิษย์น้องยากจนที่มันว่า มีคะแนนอุทิศอยู่กว่าหนึ่งล้านเจ็ดแสนแต้ม…!!
 
หาไม่แล้วมันคงได้มีโทสะจนไฟลุกหัวแน่ๆ
 
‘วัตถุดิบ 2 ชิ้นนี้เสร็จข้าล่ะ!’
 
ขณะที่เก็บวัตถุดิบทั้ง 2 ชิ้นลงแหวนมิติ ใจต้วนหลิงเทียนก็คึกคักอักโขนัก
 
“ศิษย์น้อง แล้วเจ้าต้องการอะไรอีกหรือไม่…ดูก่อนได้นะ ของดีๆทั้งนั้น”
 
หลังจากที่มาตั้งแผงขายของที่ศาลาอุทิศแต่หัววัน ย่างบ่ายพอขายของชิ้นแรกได้เช่นนี้ อารมณ์ของศิษย์ฝ่ายในจึงมีความสุขความยินดีไม่น้อย กล่าวถามต้วนหลิงเทียนออกมาด้วยรอยยิ้ม
 
“ไม่เอาแล้วล่ะพี่ชาย ของท่านอาจจะดีแต่ข้าสู้ราคาไม่ไหวหรอก คะแนนอุทิศของข้ามีไม่เยอะ ข้าขอตัวไปหาของที่ข้าจ่ายไหวแผงอื่นก่อนล่ะ”
 
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกด้วยรอยยิ้มขื่นขม ก่อนที่จะเดินออกไปดูวัตถุดิบแปลกๆตามแผงอื่นๆทั่วชั้น 1 ของศาลาอุทิศสำนักจันทร์จรัสแสง
 
เมื่อเจอวัตถุดิบที่สามารถใช้ได้ ต้วนหลิงเทียนก็ใช้ลูกไม้เดิมในการต่อราคา จนสามารถซื้อทุกสิ่งได้ในราคาไม่แพงแต่อย่างใด และวัตถุดิบทั้งหมดที่ซื้อมาก็ไม่มีชิ้นใดมีราคาเกินกว่า 1,000 คะแนนอุทิศเลย นับว่าเขาสามารถกดราคาทั้งต่อรองให้ได้ราคาต่ำที่สุดเท่าที่จะต่ำได้เสมอ
 
“ผู้เฒ่าหั่ว วัตถุดิบที่ได้มารอบนี้ มันสามารถซ่อมแซมฟื้นฟูชั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติได้มากเท่าไหร่หรือ?”
 
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถาม
 
“หากไม่ได้เศษหินหนี่วานั่นก็คงไม่มากมายอะไร…แต่ตอนนี้ในเมื่อพวกเราได้หินหนี่วามาด้วย ชั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติสมควรฟื้นฟูได้ราวๆ 7 ส่วน”
 
ผู้เฒ่าหั่วกล่าวตอบ
 
ราวๆ 7 ส่วน?
 
เมื่ได้ยินคำของผู้เฒ่าหั่ว ลูกตาต้วนหลิงเทียนพลันทอแสงสว่างวาบขึ้นมาทันใด ใบหน้ายังเผยความประหลาดใจไม่น้อย
 
เขาไม่คิดเลยว่าวัตถุดิบที่แลดูไร้ค่าที่ไปตระเวณซื้อหามาจากแผงแบกับดินของชั้น 1 ศาลาอุทิศ จะสามารถซ่อมแซมฟื้นฟูชั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติได้มากมายขนาดนี้..ยังฟื้นฟูไปได้ถึง 7 ส่วน!!
 
ต้องทราบด้วยว่าก่อนหน้านี้ ชั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ พึ่งได้รับการฟื้นฟูซ่อมแซมไปแค่ 1 ส่วนเท่านั้น!
 
กล่าวอีกอย่างได้ว่า แค่ของที่เขาซื้อมาวันนี้ มันสามารถฟื้นฟูชั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติไปได้ถึง 6 ส่วน!!
 
“ผู้เฒ่าหั่ว หากอัตราการซ่อมแซมมันเร็วขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าอีกไม่นานชั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติจะฟื้นฟูได้เต็มที่หรอกเหรอ”
 
ต้วนหลิงเทียนกล่าวกับผู้เฒ่าหั่ว
 
สำหรับชั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัตินั้น แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนย่อมเฝ้ารอมันอย่างใจจดจ่อ เพราะไม่เพียงแต่สภาพแวดล้อมในการบ่มเพาะจะดีขึ้นเท่านั้น…
 
เวลาบนชั้น 3 ของเจดีย์ 5 วัน ยังเท่ากับเวลาในโลกภายนอกแค่วันเดียว!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด