ตอนที่ 235-2 หาเรื่องตำหนิอีกแล้ว

อ่านนิยายจีนเรื่อง ตอนที่ 58 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

“เจ้าพูดดีๆ ไม่เป็นหรือไร เย้ยหยันถากถางวางอำนาจอะไรกัน ยังจะมาเรียกจิ้นอ๋องอยู่อีก เจ้าจะแข่งวางอำนาจต่อหน้าข้างั้นหรือ” จิ้นอ๋องตำหนิอย่างไม่พอใจ/n /n /nสวีโย่วขมวดคิ้วมุ่น กล่าวโต้แย้งอย่างตั้งใจ “ที่ลูกพูดล้วนแต่เป็นความจริง หรือว่าลูกไม่ใช่ผิงจวิ้นอ๋องที่ฝ่าบาทพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ด้วยตัวพระองค์เอง ส่วนข้ออ้างว่าแข่งวางอำนาจอะไร เป็นเสด็จพ่อที่คิดมากไปเองทั้งสิ้น ท่านคือชินอ๋อง ลูกเป็นเพียงจวิ้นอ๋อง อยู่ต่ำกว่าท่านหนึ่งขั้น มีเพียงท่านที่วางอำนาจต่อหน้าลูก ลูกไหนเลยจะมีอำนาจอะไรมาแข่งต่อหน้าท่านได้” ปากพูดอย่างจริงจัง แต่คนที่นั่งอยู่ล้วนฟังคำเสียดสีในคำพูดของเขาออก/n /n /nชั่วขณะจิ้นอ๋องก็โมโหแล้ว ชี้สวีโย่วก่นด่า “เจ้าลูกอกตัญญู วันๆ ไม่ยั่วโมโหข้าเจ้าจะไม่สบายใจหรือไร ข้าว่าเจ้าหนึ่งประโยค เจ้ากลับมีสิบประโยคแปดประโยครอข้าอยู่ใช่หรือไม่ ข้า ข้าให้กำเนิดลูกอกตัญญูเช่นเจ้าได้อย่างไร!”/n /n /n“เสด็จพ่อพูดผิดแล้ว เห็นชัดๆ ว่าเสด็จแม่ให้กำเนิดลูก ไม่ได้คลานออกมาจากท้องของท่าน” สวีโย่วกล่าวอย่างเย็นชา เสิ่นเวยที่ก้มหน้าอยู่แทบจะหัวเราะออกมา คุณชายใหญ่เอ๋ย เหตุใดท่านถึงพูดความจริงเล่า หากท่านสามารถคลานออกมาจากท้องพ่อท่านได้จริงๆ หึๆ คาดว่าพ่อท่านก็คงจะถูกฝ่าบาทฆ่าด้วยตัวเอง!/n /n /n“หากพวกท่านเพียงต้องการตำหนิลูก เช่นนั้นด่าก็ด่าแล้ว ลูกขอพาเสิ่นซื่อกลับไปก่อน เดินเล่นมาทั้งวัน ร่างกายของลูกยังคงอ่อนเพลียจริงๆ กลับไปพักก่อนดีกว่า เลี่ยงไม่ให้ป่วยจนต้องกินยาทำลายงานมงคลของน้องสี่ ประเดี๋ยวพระชายาจะหาว่าลูกเป็นเสนียดจังไรอีก” สวีโย่วลุกขึ้นยืนทำท่าทีจะไป/n /n /nฉากสำคัญยังไม่ทันได้แสดง พระชายาจิ้นอ๋องจะยอมให้คนไปเช่นนี้ได้อย่างไร รีบกล่าวเรียก “โย่วเอ๋อร์กับภรรยาโย่วเอ๋อร์ช้าก่อน”/n /n /nสายตาของสวีโย่วมองเข้ามาอย่างรวดเร็ว “พระชายายังมีอะไรกำชับอีก” เสียงเกียจคร้าน ราวกับไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเลยแม้แต่นิดเดียว/n /n /nพระชายาจิ้นอ๋องโมโหอย่างถึงที่สุด แต่กลับยังพยายามข่มไว้ “เช้าวันนี้ภรรยาเหยียนเอ๋อร์แพ้ท้อง แม้แต่หมอหลวงในวังก็ยังตกใจ สั่งคนไปเชิญคนที่เรือนของพวกเจ้า บ่าวรับใช้บอกว่าพวกเจ้าออกจากจวนไปแล้ว รอจนถึงตอนนี้กว่าพวกเจ้าจะกลับมา” ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยการกล่าวโทษ/n /n /nเสิ่นเวยประหลาดใจแล้ว “พระชายา น้องสะใภ้สามแพ้ท้องเชิญหมอเชิญหมอหลวงก็ถูกแล้ว ลูกกับจวิ้นอ๋องไม่รู้การแพทย์ ช่วยอะไรไม่ได้เช่นกัน! หรือพระชายาคิดว่าน้องสะใภ้สามแพ้ท้องเป็นฝีมือของพวกข้าหรือ”/n /n /nไม่รอให้พระชายาจิ้นอ๋องโต้แย้ง เสิ่นเวยก็ร้องทุกข์ขึ้นมา “พระชายาทนเห็นลูกใช้ชีวิตอย่างสงบสุขสองวันนี้ไม่ได้หรือ สาดน้ำสกปรกแต่ละอ่างๆ นี้ ไม่คิดจะให้ร่างของลูกสะอาดบ้างหรือไร ลูกเติบโตในชนบท ไหนเลยจะรู้จักอุบายเหล่านี้ของเรือนหลังตระกูลใหญ่ตระกูลโต ยิ่งไปกว่านั้นลูกกับน้องสะใภ้สามก็ไม่ได้มีความแค้นต่อกัน ซ้ำยังลงมือกับทารกในครรภ์ มีเพียงคนที่โหดเ**้ยมอำมหิตเท่านั้นที่จะทำได้ลงคอ! พระชายาโปรดอย่าเอ่ยวาจาว่าร้าย ให้ทางหนีทีไล่แก่ลูกบ้างเถิด”/n /n /n“ไปๆๆ รีบไป สถานที่เน่าเฟะเช่นนี้ อยู่ต่อไปไม่ได้แม้แต่ชั่วขณะเดียว” สายตาที่สวีโย่วมองท่านจิ้นอ๋องอึมครึมขึ้นมา “เสด็จพ่อยังจะห้ามไม่ให้ลูกย้ายไปจวนจวิ้นอ๋อง ดูสิว่าเขาซาบซึ้งในบุญคุณท่านหรือไม่ ในเมื่อพระชายารังเกียจพวกข้าเพียงนั้น เช่นนั้นพวกข้าก็ไปเสียดีกว่า รังเงินรังทองก็ยังสู้รังหญ้าของตัวเองไม่ได้ บรรพบุรุษไม่เคยโกหกข้า”/n /n /nสวีโย่วจูงเสิ่นเวยเดินออกไปข้างนอกด้วยความเดือดดาล คราวนี้ทำให้จิ้นอ๋องโกรธจนหน้าหงายแล้ว “เจ้าลูกทรพีเจ้ากลับมาเดี๋ยวนี้ ย้ายอะไรกัน ยังไม่ครบหนึ่งเดือนข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะกล้าย้ายหรือไม่”/n /n /nสวีโย่วไม่ถูกพ่อเขาคุกคามอย่างสิ้นเชิง “เสด็จพ่อคำสัญญาของท่านยังทำไม่ได้ เหตุใดลูกจะไม่กล้าย้าย เสด็จพ่อท่านอย่าบังคับลูก หากบังคับจนร้อนใจลูกจะป่าวประกาศเรื่องข้างนอกของท่านออกมาทั้งหมด”/n /n /nจิ้นอ๋องร้องตะโกนอย่างเดือดดาลทันที “คาดไม่ถึงว่าเจ้ากล้าขู่ข้างั้นหรือ ข้าจะมีเรื่องอะไรได้ จะมีเรื่องอะไรได้”/n /n /nสวีโย่วสบตาเขาอย่างน่าสะพรึงกลัว มุมปากเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “มีเรื่องหรือไม่เสด็จพ่อท่านรู้ดีอยู่แก่ใจมิใช่หรือ อยากให้ลูกพูดออกมาตอนนี้หรือไม่”/n /n /nจิ้นอ๋องสบสายตากับลูกชายอยู่พักหนึ่ง ยอมแพ้อย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ละสายตาอย่างไม่มั่นใจเล็กน้อย “เจ้าลูกอกตัญญู เจ้าลูกอกตัญญู”/n /n /nไม่ว่าใครก็ดูออกว่าตอนนี้เขาแข็งนอกอ่อนใน สวีโย่วยกยิ้มอย่างเย็นชา/n /n /nพระชายาจิ้นอ๋องใจเต้น ในใจเกิดความระแวง ท่านอ๋องมีเรื่องข้างนอกปิดบังนางอยู่! สายตาที่สงสัยมองไปยังจิ้นอ๋องอย่างอดไม่ได้/n /n /nคราวนี้จิ้นอ๋องก็ยิ่งโมโหแล้ว กระทืบเท้ากล่าว “มองอะไร ข้าบอกแล้วว่าไม่มีอะไร เจ้ายังไม่เชื่อข้าอีกหรือ” สายตาหรี่ลงวางมาดโกรธทันที/n /n /nสวีโย่วหัวเราะเยาะต่อ ไม่ใช่รักซ่งซื่อผู้นี้ยิ่งกว่าทองจนไม่เสียดายแม้จะยั่วโมโหเสด็จแม่เขาจนตายก็ต้องพาซ่งซื่อเข้าจวนให้ได้หรอกหรือ ท่านก็อย่าเลี้ยงภรรยาน้อยข้างนอกสิ! ใบหน้านี้ตบจนดังเพี๊ยะๆ จริงๆ!/n /n /nพระชายาจิ้นอ๋องมั่นใจยิ่งขึ้นว่าเขามีเรื่องปิดบังตนอยู่แน่นอน ทว่าบนใบหน้ากลับไม่แสดงอารมณ์ “เชื่อสิ ข้าใช้ชีวิตอยู่กับท่านอ๋องมายี่สิบกว่าปีแล้ว ไหนเลยจะไม่เชื่อท่านอ๋อง”/n /n /nจากนั้นจึงละสายตาไปยังสวีโย่ว กล่าวอย่างเป็นมิตร “โย่วเอ๋อร์สองสามีภรรยาอย่าเพิ่งร้อนใจไป ข้าบอกเมื่อไรว่าน้องสะใภ้สามของพวกเจ้าแพ้ท้องเป็นฝีมือของพวกเจ้า ความหมายของข้าคือภรรยาเหยียนเอ๋อร์แพ้ท้องทำข้ากลัวแทบแย่ หากพวกเจ้าอยู่ในจวน จิตใจข้าก็มีที่พึ่งมิใช่หรือ พวกเจ้าไม่อยู่ จิตใจดวงนี้ของข้าก็ว่างเปล่า”/n /n /nพูดจาไพเราะยิ่งกว่าร้องเพลงเสียอีก ราวกับว่าพวกเขาสำคัญมาก/n /n /nเสิ่นเวยหัวเราะเยาะในใจหนึ่งครา กล่าวขยายความให้นางทันที “ดูพระชายาพูดเข้า เสด็จพ่อก็ยังอยู่ในจวนมิใช่หรือ ไม่พอจะเป็นที่พึ่งให้ท่านหรือ ไม่ใช่ยังมีน้องรองน้องสามน้องสี่น้องห้าอยู่หรือ ก่อนหน้านี้ท่านจวิ้นอ๋องของพวกเราก็อยู่ในจวนน้อยอย่างยิ่ง พระชายามีปัญหาแล้วจัดการอย่างไร กว่าท่านจวิ้นอ๋องจะกลับมาจากเขาก็สายไปแล้วกระมัง อีกทั้งน้องสะใภ้แพ้ท้อง เขาผู้เป็นลุงใหญ่คนหนึ่งไปเยี่ยมนับเป็นเหตุผลด้านใด”/n /n /n“ดูภรรยาโย่วเอ๋อร์พูดเข้า พูดจาเก่งเสียจริงๆ” พระชายาจิ้นอ๋องไม่โมโห กลับยิ้มแย้ม นางกำลังจะพูดอะไร ก็ถูกสวีโย่วตัดบทแล้ว “เรื่องแค่นี้หรือ ได้ อีกประเดี๋ยวเสิ่นซื่อให้คนเตรียมของขวัญไปเยี่ยมน้องสะใภ้สาม”/n /n /nรอยยิ้มบนใบหน้าพระชายาจิ้นอ๋องแข็งทื่อในชั่วขณะ กำหมัดแล้วจึงยกยิ้มอีกครั้ง “ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ ที่เชิญพวกเจ้ามาเพราะมีเรื่องอยากขอให้พวกเจ้าช่วย”/n /n /nสวีโย่วกับเสิ่นเวยต่างก็ไม่ได้พูดต่อ พระชายาจิ้นอ๋องจนใจ ทำได้เพียงกล่าวต่อไป “เป็นเช่นนี้ ภรรยาเหยียนเอ๋อร์แพ้ท้องใช่หรือไม่ ครั้งนี้นับได้ว่าเป็นครั้งที่สี่แล้ว หมอหลวงก็บอกว่าครรภ์นี้ของนางไม่ค่อยดีนัก เว้นเสียแต่หมอเทวดาจะช่วยบำรุงครรภ์ได้ มิเช่นนั้นก็ยากยิ่งที่จะปลอดภัย”/n /n /nพูดถึงตรงนี้นางก็เหลือบมองสวีโย่วปราดหนึ่ง เห็นเขาไม่แยแส ก็กล่าวต่อ “พูดถึงหมอเทวดาข้าก็ใคร่ครวญได้แล้ว โย่วเอ๋อร์รักษาตัวอยู่ที่เขาหลงหู่มิใช่มีหมอเทวดาดูแลร่างกายหรอกหรือ ข้าอยากรู้ว่าโย่วเอ๋อร์จะช่วยเชิญหมอเทวดาลงจากเขามาดูแลครรภ์น้องสะใภ้สามของพวกเจ้าได้หรือไม่ ไม่ว่าจะมีข้อแม้อะไรพวกข้าล้วนยินดี”/n /n /nอ้อ ที่แท้แล้วก็มีเจตนาเช่นนี้! เสิ่นเวยเข้าใจแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าสวีโย่วจะรับปากหรือไม่รับปาก นางมองสวีโย่วอย่างอดไม่ได้/n /n /n“เรื่องแค่นี้หรือ” สวีโย่วเลิกคิ้ว ไม่ออกความคิดเห็น สบสายตาของเสิ่นเวย เขาส่งแววตาปลอบโยนกลับไป จากนั้นก็มองพ่อเขา “เสด็จพ่อเองก็มีเจตนาเช่นนี้หรือ”/n /n /nจิ้นอ๋องลังเลครู่หนึ่ง ยังคงพยักหน้ากล่าว “เจ้าช่วยได้ก็ช่วยหน่อยเถิด อย่างไรเสียก็เป็นลูกคนแรกของน้องสามเจ้า”/n /n /nสวีโย่วมองจิ้นอ๋องนิ่งๆ มองจนพ่อเขาอึดอัดไปทั่วทั้งร่าง จากนั้นสวีโย่วจึงละสายตา มุมปากปรากฏรอยยิ้มแฝงความนัย “เสด็จพ่อ พระชายา พวกท่านช่างกล้าเสียจริงๆ!”/n /n /nเมื่อได้ยินประโยคนี้ เสิ่นเวยก็อดไม่ได้อีกครั้ง หลุดหัวเราะออกมา เพื่อที่จะปกปิด จึงทำได้เพียงพยายามแสร้งไอ/n /n /nสวีโย่วชายตามองนางปราดหนึ่งอย่างไม่พอใจ กล่าวต่อ “แม้แต่ฝ่าบาทยังเชิญคนลงมาไม่ได้ คาดไม่ถึงว่าพวกท่านให้ลูกไปเชิญ ทะนงตนยิ่งนัก! ตอนแรกที่ลูกป่วยเหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย ก็ทำเพียงถูกทหารองครักษ์แบกขึ้นเขา ตอนนั้นเสด็จปู่ยังอยู่ เขารับปากเงื่อนไขของหมอเทวดานับไม่ถ้วน หมอเทวดาจึงออกมือรักษาลูกอย่างเสียไม่ได้ หรือว่าน้องสะใภ้สามสำคัญกว่าลูกงั้นหรือ หมอเทวดาละทางโลกนานแล้ว ต่อให้น้องสะใภ้สามขึ้นเขาไปด้วยตัวเองเขาก็อาจจะไม่ออกมือด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับลงเขา”/n /n /n“พูดเช่นนี้โย่วเอ๋อร์จะไม่ยอมช่วยใช่หรือไม่” ใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋องเคร่งขรึม “นั่นคือน้องชายของเจ้า เจ้าจะทนมองน้องชายเจ้าเสียลูกไปเฉยๆ งั้นหรือ เหตุใดจิตใจเจ้าถึงได้เ**้ยมโหดเพียงนั้น”/n /n /n“ต่อให้เป็นพ่อข้าก็ไม่มีประโยชน์” สวีโย่วเสมือนมองไม่เห็นความดุร้ายบนใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋อง “พระราชโองการยังสั่งให้คนลงมาไม่ได้ เสด็จพ่อพวกท่านให้ลูกไปเชิญ นี่ไม่ใช่เป็นการฝืนใจคนหรือไร”/n /n /nเสิ่นเวยเองก็ถือโทษโกรธศัตรูเดียวกัน กล่วคล้อยตาม “ใช่แล้วๆ พระชายามิใช่ขืนใจท่านจวิ้นอ๋องของพวกข้าหรือ หรือว่าเกียรติของเขาสูงส่งยิ่งกว่าฝ่าบาทงั้นหรือ แทนที่จะบีบบังคับท่านจวิ้นอ๋องของพวกข้า ไม่สู้ไปจุดธูปไหว้พระในวัด ขอพระโพธิสัตว์คุ้มครองเสียยังดีกว่า มนุษย์ทำกรรม สวรรค์คอยมอง เหนือศีรษะยังมีเทพเทวดา ท่านทำดีสร้างบุญกุศล พระพุทธเจ้าย่อมมองเห็น กลับกัน หากท่านทำชั่วสร้างบาปกรรม เช่นนั้นก็ต้องชดใช้ผลกรรม กรรมไม่ตามสนองตนเองก็ต้องตามสนองที่ลูกหลานชนรุ่นหลัง ส่งผลให้เห็นแน่นอน”/n /n /nเสิ่นเวยกล่าวตามอำเภอใจ ใครจะรู้ว่าคำพูดจะกลายเป็นจริงหรือไม่ แน่นอน นั่นย่อมเป็นเรื่องในภายหลัง/n

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด