ตอนที่ 231-1 พ่อลูกคุมเชิง

อ่านนิยายจีนเรื่อง ตอนที่ 67 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ตอนที่จิ้นอ๋องมาถึงในห้องก็กำลังวุ่นวายอลหม่านอยู่ ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ พระชายาจะบันดาลโทสะ ซ้ำยังใช้หมอนหยกปาใส่ฮูหยินใหญ่ กว่าพวกนางจะได้สติกลับมาจากความตื่นตกใจฮูหยินใหญ่ก็วิ่งออกไปแล้ว คิดจะตามไปก็สายแล้ว หรือจะบอกว่าพวกนางไม่กล้าตามไปอย่างสิ้นเชิง ไม่เห็นหรือว่าพระชายากับฮูหยินใหญ่ต่างก็ฉีกหน้ากันแล้ว พวกนางเป็นสาวใช้ของพระชายา หากไปไล่ตามฮูหยินใหญ่ ตกอยู่ในสายตาของพระชายาใช่จะเป็นการกินบนเรือนขี้บนหลังคาหรือไม่/n /n /nพระชายาจิ้นอ๋องเองก็โมโหจนฉุนเฉียว ตบผ้าห่มอย่างแรงสาปแช่งเสียงดัง/n /n /nภาพที่จิ้นอ๋องมองเห็นเป็นสิ่งแรกก็คือหมอนหยกใบนั้นที่ตกอยู่บนพื้น คิดถึงคำพูดของเสิ่นซื่อเมื่อครู่ สีหน้าก็แย่ยิ่งกว่าเดิม เขามองไปบนเตียง หวาเยียนหวาอวิ๋นกำลังล้อมพระชายาเกลี้ยกล่อมอยู่/n /n /n“ท่านอ๋อง!” ยังคงเป็นหวาอวิ๋นที่สังเกตเห็นจิ้นอ๋องก่อน ร้องอุทาน รีบทำความเคารพ “บ่าวเคารพท่านอ๋อง” สาวใช้คนอื่นๆ ก็พากันโค้งคำนับ/n /n /nพระชายาจิ้นอ๋องมองเห็นจิ้นอ๋องที่ยืนมือไพล่หลังอยู่หน้าประตู ตกใจเช่นกัน หลังจากนั้นความรู้สึกต่างๆ นานาก็จู่โจมหัวใจ “ท่านอ๋อง ในที่สุดท่านก็มาดูข้าแล้วหรือ”/n /n /nน้ำเสียงที่เสียใจนั้นทำให้ความทุกข์ทั่วทั้งใจของจิ้นอ๋องหายไปเล็กน้อย นึกได้ว่าเย็นชาต่อนางมาหลายวันแล้ว ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ “ป่วยแล้วก็รักษาตัวดีๆ ทรมานตนทำไม”/n /n /nเมื่อพระชายาจิ้นอ๋องได้ยินคำพูดนี้ ก็น้อยใจขึ้นมาทันที “ท่านอ๋องยังจำได้อีกหรือว่าข้าป่วย ข้ายังคิดว่าท่านอ๋องโกรธข้า ไม่ยอมเจอหน้าข้าแล้วเสียอีก”/n /n /nจิ้นอ๋องถอนหายใจอีกครั้ง แต่ไหนแต่ไรซ่งซื่อหยิ่งในศักดิ์ศรี ตั้งแต่ยังไม่แต่งงานก็ทะนงตน เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้เมื่อไรกัน อดนึกถึงความรักในวันวานไม่ได้ ก้าวเท้าเดินเข้ามาแล้ว/n /n /n“พระชายาจ้าเป็นอะไรไป” จิ้นอ๋องเห็นใบหน้าของพระชายาชัดเจน ชั่วขณะก็ตกใจอย่างยิ่ง เพียงแค่ไม่กี่วันสั้นๆ ที่ไม่ได้เจอ พระชายาที่สุขุมสูงศักดิ์เหตุใดถึงแก่ลงมากเพียงนี้ ราวกับหญิงชราที่อายุครึ่งร้อย/n /n /nจากนั้นจึงหันหน้าตำหนิสาวใช้ “พวกเจ้ารับใช้พระชายากันอย่างไร พระชายาป่วยหนักเช่นนี้แล้วเหตุใดถึงไม่รายงานให้ข้าทราบ เชิญหมอท่านใดมา เรียกหมอหลวงมาแล้วหรือยัง” ส่วนที่เสิ่นเวยบอกว่าพระชายาแกล้งป่วย คาดว่าเขาคงไม่ได้ยินอย่างสิ้นเชิง หรือไม่เขาก็ได้ยินแต่ไม่เชื่อ อันที่จริงหน้าใบนี้ของพระชายาจิ้นอ๋องมองดูก็รู้แล้วว่าป่วยหนัก/n /n /nหวาเยียนหวาอวิ๋นและสาวใช้คนอื่นๆ คุกเข่ายอมรับผิดทันที “บ่าวสมควรตาย เป็นความผิดของบ่าวทั้งสิ้น”/n /n /nยังคงเป็นหวาเยียนที่มีความกล้าหาญกล่าว “ทูลท่านอ๋อง ผู้ที่เชิญมาคือหมออาวุโสหวังแห่งโรงหมอเชียนจินเพคะ” นางแอบมองสีหน้าของท่านอ๋องปราดหนึ่ง ไม่กล้าพูดคำวินิจฉัยของหมออาวุโสหวัง/n /n /nใบหน้าของจิ้นอ๋องตึงลงทันที “เหตุใดถึงไม่เชิญหมอหลวง” ฝีมือการรักษาของหมออาวุโสหวังแห่งโรงหมอเชียนจินไม่เลวอย่างยิ่ง แต่จะเทียบหมอหลวงในวังได้อย่างไร/n /n /nหวาเยียนกัดริมฝีปากไม่กล้าพูด และไม่กล้ามองพระชายา นางพูดได้หรือว่าพระชายาไม่ให้เชิญ เพียงแค่ก้มหน้าต่ำๆ/n /n /nคนรับใช้ที่คุกเข่าวอยู่ภายในห้องต่างก็ไม่กล้าหายใจแรง จิ้นอ๋องก็ยิ่งโมโห “พวกเจ้ารับใช้นายเช่นนี้หรือ สมควรตาย สมควรตายทั้งหมด”/n /n /nในตอนนี้เอง พระชายาจิ้นอ๋องก็เอ่ยปากเงียบๆ “ท่านอ๋องจะโทษก็โทษข้าเถิด ไม่เกี่ยวกับพวกนาง เป็นข้าที่ไม่ให้พวกนางไปเชิญเอง”/n /n /nมือที่ยกขึ้นของจิ้นอ๋องหยุดชะงักกลางอากาศทันที ครู่ใหญ่จึงค่อยๆ วางลง มองพระชายาจิ้นอ๋องด้วยสีหน้าซับซ้อน กล่าวอย่างกลัดกลุ้ม “เจ้า เจ้าจะกลุ้มใจไปไย ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจทรมานร่างกายตัวเองได้ เจ้า เฮ้อ!”/n /n /nน้ำตาของพระชายาจิ้นอ๋องไหลลงมาทันที นางเบือนหน้าหนี “ท่านอ๋องโกรธข้า ข้ามีชีวิตอยู่จะยังมีความหมายอะไร ไม่สู้ตายไปเสียดีกว่า”/n /n /nจิ้นอ๋องได้ยินประโยคนี้ บวกกับสีหน้าป่วยไข้ของพระชายาจิ้นอ๋อง เขาก็เจ็บปวดใจทันที นั่งลงข้างเตียงโอบพระชายาไว้ในอ้อมอก “ตายอะไรอยู่อะไร อย่าพูดจาเหลวไหล! อายุปูนนี้แล้วยังอารมณ์ร้อนเพียงนี้ นี่ไม่ใช่ว่าข้ามาดูเจ้าแล้วหรือ”/n /n /nน้ำตาบนใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋องยิ่งไม่หยุดไหล กัดริมฝีปากกล่าวเสียงสั่น “ข้าก็มีนิสัยเช่นนี้ ท่านอ๋องยังไม่รู้อีกหรือ” นางถือโอกาสพิงไปในอ้อมอกของจิ้นอ๋อง แนบใบหน้าลงบนไหล่ของเขา/n /n /nจิ้นอ๋องรู้สึกเพียงบนลำคอเปียกชื้น ร้อนผ่าว ในใจก็ยิ่งไม่สบอารมณ์ ตั้งแต่ที่รู้จักซ่งซื่อมา นอกจากอุปสรรคช่วงนั้นในตอนแรก พวกเขาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมามากกว่ายี่สิบปี ไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน แม้แต่หน้ายังไม่เคยแดง ยี่สิบกว่าปีมานี้ ซ่งซื่อดูแลจวนอ๋องและชีวิตของเขาเขาได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เคยทำให้เขาทุกข์ใจมาก่อน/n /n /n“เอาล่ะ ถือว่าข้าผิดก็แล้วกัน เจ้าก็เหมือนกัน ทำตัวราวกับเด็ก มิหนำซ้ำยังโมโห เป็นแม่ของลูกแล้ว ไม่กลัวถูกหลานสาวหัวเราะเยาะหรือ” น้ำเสียงของจิ้นอ๋องอ่อนลง คิดแล้วก็กล่าวต่อ “เมื่อครู่ข้าเห็นเสิ่นซื่อร้องไห้วิ่งออกไปแล้ว เกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้าตำหนินางหรือ นางเพิ่งแต่งเข้ามา มีอะไรที่ไม่ถูกเจ้าสอนนางดีๆ ก็ได้แล้ว จะเข้มงวดเพียงนั้นเพื่ออะไร”/n /n /nเมื่อได้ยินท่านอ๋องเอ่ยถึงเสิ่นซื่อ ชั่วขณะพระชายาจิ้นอ๋องก็โมโหขึ้นมา “ท่านอ๋อง ข้าไหนเลยจะกล้าตำหนินาง นาง นาง ท่านยังคิดว่านางเป็นคนดีอยู่อีก วันนี้ข้าเห็นใบหน้าที่แท้จริงของนางกับตาแล้ว มาดูแลข้าแต่ไม่ยินยอมพร้อมใจ เอาแต่นอนหลับ ข้าอยากดื่มน้ำนางก็ไม่ยื่นมือให้ นี่ไหนเลยจะมาดูแลข้า ตั้งใจมายั่วโมโหข้ามากกว่ากระมัง ว่านางแค่ประโยคเดียวก็ไม่ได้งั้นหรือ หรือว่าข้าต้องบูชานางเป็นบรรพบุรุษตระกูล” พูดไปพลางอารมณ์ของนางก็เดือดดาลอีกครั้ง ไออย่างแรงขึ้นมา/n /n /n“มีอะไรก็พูดกันดีๆ เจ้าเดือดดาลเพียงนั้นทำไม” จิ้นอ๋องรีบช่วยนางตบหลัง รับชาที่หวาเยียนส่งเข้ามาแล้วส่งไปที่ริมฝีปากนาง “มา ดื่มชาสักหน่อย”/n /n /nเสียงไอของพระชายาจิ้นอ๋องสงบลงแล้ว จิ้นอ๋องจึงกล่าว “เช่นนั้นเจ้าก็ไม่อาจปาหมอนหยกใส่นางได้! นั่นคือสะใภ้ใหม่ ซ้ำยังเป็นจวิ้นจู่ที่ฝ่าบาททรงพระราชทานบรรดาศักดิ์ ท่านปู่ก็ยังเป็นราชครูของรัชทายาท เจ้า ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องให้เกียรตินางสักหน่อยหรือไม่” มิหนำซ้ำยังทำต่อหน้าสาวใช้ทั้งห้อง นี่จะให้เสิ่นซื่อเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไม่แปลกใจที่เสิ่นซื่อวิ่งร้องไห้ออกไปเช่นนั้น/n /n /n“ไม่ใช่ว่าปาไม่โดนหรอกหรือ” พระชายาจิ้นอ๋องพึมพำปากแข็งหนึ่งครา อันที่จริงในใจนางเองก็ขี้ขลาด แอบดีใจที่หมอหยกใบนั้นปาไม่โดนตัวเสิ่นซื่อ มิเช่นนั้นเรื่องนี้คงไม่อาจลงเอยด้วยดีได้ ตอนนี้นางคิดได้ว่าเสิ่นซื่อคือจวิ้นจู่ คิดได้ว่าเสิ่นซื่อมีฐานะดั้งเดิมจากจวนจงอู่โหว แม้นางจะสูงศักดิ์เป็นพระชายา แต่ในใจนางก็รู้ดีว่าฝ่าบาทไม่ชอบนางเท่าไรนัก หากเสิ่นซื่อหรือว่านายท่านผู้เฒ่าเสิ่นโหวไปร้องทุกข์ต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท เช่นนั้นนางก็จะต้องถูกเตือนแน่นอน ศักดิ์ศรีนั้นก็เสียไปอย่างใหญ่หลวง/n /n /nจิ้นอ๋องไหนเลยจะฟังไม่ออกว่าพระชายาไม่พอใจ ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา “เจ้าน่ะ หากไม่ชอบเสิ่นซื่อจริงๆ ก็ไม่ต้องพบนางสิ ไยจะต้องมาคิดเล็กคิดน้อยกับชนรุ่นหลังคนหนึ่ง อย่างไรเสียนางก็เป็นภรรยาของโย่วเอ๋อร์ เจ้าให้อภัยให้มากหน่อย”/n /n /n“ท่านอ๋องคิดเพียงแต่ว่าเสิ่นซื่อได้รับความไม่เป็นธรรม ไม่เคยคิดบ้างเลยหรือว่าข้าเองก็ได้รับความไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะพูดอย่างไรข้าก็เป็นแม่สามี หรือจะต้องให้ข้าไปเอาอกเอาใจลูกสะใภ้ผู้นี้เช่นนาง” พระชายาจิ้นอ๋องไม่พอใจเต็มทรวง ห้าคืนเต็มๆ นางไม่ได้เปรียบเลยแม้แต่นิดเดียว ซ้ำยังทรมานตัวเองจนเป็นเช่นนี้ นี่จะให้นางยอมได้อย่างไร/n /n /nจิ้นอ๋องยังไม่คิดจริงๆ ว่าพระชายาได้รับความไม่เป็นธรรม เสิ่นซื่อดูก็รู้ว่าเป็นคนหัวอ่อน ไหนเลยจะกล้ากระด้างกระเดื่องกับคนเป็นแม่สามี พระชายาคงอยากบังคับนางมากกว่ากระมัง มิเช่นนั้นเสิ่นซื่อเองก็คงไม่วิ่งร้องไห้ออกไป/n /n /nแต่เมื่อคิดว่าตอนนี้พระชายายังไม่สบายอยู่ จิ้นอ๋องก็ไม่กล้ายั่วยุนางแล้ว จึงกล่าว “นางเป็นเด็กไม่รู้ประสา เจ้าอย่าได้คิดเล็กคิดน้อยกับนางเลย”/n /n /nพระชายาจิ้นอ๋องยังคงกระหืดกระหอบ ในตอนนี้เองก็มีเด็กรับใช้วิ่งเข้ามาอย่างลุกลี้ลุกลน “ท่าน ท่านอ๋อง แย่แล้ว! คุณชายใหญ่จะ จะพาฮูหยินใหญ่ย้ายออกจากจวนอ๋อง” เขากุมอกหายใจหอบกล่าว/n /n /n“อะไรนะ” จิ้นอ๋องตกใจจนลุกขึ้นยืนในชั่วขณะ “เสี่ยวเฉวียนเล่า เจ้าค่อยๆ พูด เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่” ในใจมีลางไม่ดีแล้ว เสิ่นซื่อวิ่งร้องกลับไป โย่วเอ๋อร์จะยอมวางมือยุติเรื่องราวได้อย่างไร/n /n /nเด็กรับใช้คนนั้นพยายามกลืนน้ำลาย แล้วกล่าว “พ่อบ้านเสี่ยวเฉวียนกำลังเกลี้ยกล่อมอยู่ที่เรือนคุณชายใหญ่ ฮูหยินใหญ่ร้องไห้กลับเรือนก็โวยวายจะเอาหัวชนกำแพง คุณชายใหญ่ถามแม่นางเย่ว์กุ้ย ทราบว่าฮูหยินใหญ่ได้รับความไม่เป็นธรรมใหญ่หลวงที่เรือนพระชายา จึงออกคำสั่งให้บ่าวรับใช้ผูกม้าเข้ารถเทียมม้าทันที บอกว่า บอกว่าในเมื่อพระชายาไม่ชอบพวกเขา พวกเขาก็จะย้ายออกไป เลี่ยงไม่ให้ต้องอยู่ขวางหูขวางตาในจวนทำให้คนรังเกียจเดียดฉันท์” เขาลอบมองสีหน้าพระชายาอย่างระมัดระวังแล้วจึงกล่าว “พ่อบ้านเสี่ยวเฉวียนเกลี้ยกล่อมไม่ได้ จึงสั่งให้ผู้น้อยมารายงานท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”/n /n /n“คุณชายใหญ่จะย้ายออกจากจวนอ๋องหรือ ยังไม่ผ่านเดือนสมรสเลย นี่ไม่ใช่จะทำให้คนข้างนอกนินทาข้าลับหลังหรือ ท่านอ๋อง ข้าบอกแล้วว่าเสิ่นซื่อผู้นั้นไม่ใช่คนดี ท่านยังไม่เชื่อ ตอนนี้เชื่อแล้วหรือยัง” บนใบหน้าของพระชายาจิ้นอ๋องมีความโกรธปรากฏอีกครั้ง/n /n /nคิ้วของจิ้นอ๋องขมวดมุ่น มองพระชายาปราดหนึ่ง กล่าว “พอแล้ว เจ้าพักก่อนเถิด อย่างลืมเชิญหมอหลวงมาดูเจ้าด้วย ข้าไปดูที่เรือนโย่วเอ๋อร์ก่อน” พูดจบก็ก้าวยาวจากไป/n /n /nพระชายาจิ้นอ๋องโมโหจนทุบเตียงอย่างแรง เด็กชั่ว เอาข้ออ้างย้ายออกจากจวนมาขู่ตน กล้านักเจ้าก็ออกไปแล้วอย่าได้กลับมาอีกเลย/n /n /n“ถอยไป!” สวีโย่วถลึงตามองพ่อบ้านเสี่ยวเฉวียนที่ขวางหน้าเขาอยู่ กล่าวอย่างเย็นเยียบ/n /n /nพ่อบ้านเสี่ยวเฉวียนฉีกยิ้ม ร้อนใจจนเหงื่อท่วมศีรษะ “คุณชายใหญ่ มีอะไรก็ปรึกษากันดีๆ ท่านจะย้ายออกจากจวนไม่ว่าอย่างไรก็รอให้ท่านอ๋องมาก่อน ท่านรอสักครู่ อีกประเดี๋ยวท่านอ๋องก็มาถึงแล้ว ท่านกล่าวลาท่านอ๋องก่อนแล้วค่อยไปก็ได้ขอรับ”/n /n /nรอยยิ้มบนใบหน้าเขาแทบจะแข็งทื่อแล้ว ในใจสวดมนต์ไม่หยุด ท่านอ๋องท่านรีบมาเร็วๆ บ่าวใกล้จะไม่ไหวแล้ว ต่อให้จะไม่ไหว ท่านอ๋องยังมาไม่ถึงเขาเองก็ไม่กล้าปล่อยไป! มิเช่นนั้นท่านอ๋องจะต้องตำหนิว่าเขาทำงานไม่ได้เรื่องเป็นแน่ “คุณชายใหญ่ ท่านอย่าทำให้บ่าวลำบากใจเลย” เขาหน้าเจื่อน แทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว/n /n /n“ตอนนี้เป็นเจ้าต่างหากที่ทำให้ข้าลำบากใจ! ถอยไป!” แววตาของสวีโย่วเย็นเยียบยิ่งนัก พระชายาจิ้นอ๋องยายแก่ตายยากผู้นั้นวันนี้คาดไม่ถึงว่าปาหมอนหยกใส่ภรรยาของเขา นี่จะให้เขาทนได้อย่างไร “หากเจ้ายังไม่ถอยไปอีกก็อย่าหาว่าข้าไร้ความปราณี” เขาบอกเป็นนัยให้เจียงเฮยลากคนออกไปข้างๆ/n /n /nตอนที่จิ้นอ๋องมาถึงก็เห็นเหตุการณ์คุมเชิงนี้เข้าพอดี “หยุดเดี๋ยวนี้!” เขาตะโกนเสียงดัง ฝีเท้าข้างใต้เท้าเร่งความเร็ว “ยังไม่รีบปล่อยเสี่ยวเฉวียนอีก”/n /n /nเจียงเฮยได้ยินดังนั้น มุมปากยกขึ้น โยนพ่อบ้านเสี่ยวเฉวียนที่จับไว้ในมือลงไปบนพื้นทันที เดินกลับมาอยู่ข้างกายนายของเขาด้วยสีหน้าเมินเฉย/n /n /n“โอ๊ย!” พ่อบ้านเสี่ยวเฉวียนถูกผลักล้มก้นกระแทก เจ็บจนเขาแยกเขี้ยวยิงฟันครู่ใหญ่จึงจะคลานขึ้นมา/n /n /nสีหน้าจิ้นอ๋องก็ยิ่งไม่ดี ถลึงตาใส่สวีโย่ว “เจ้าจะทำอะไร”/n /n /n“เสด็จพ่อก็เห็นแล้วมิใช่หรือ ลูกจะย้ายออกจากจวนอ๋อง จวนจวิ้นอ๋องบูรณะเสร็จนานแล้ว ลูกมีจวนของตัวเอง ไยจะต้องอยู่ทนรับความคับแค้นใจที่นี่ด้วยเล่า” สวีโย่วกล่าวอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ/n /n /n“เหลวไหล! กลับมาเดี๋ยวนี้!” จิ้นอ๋องตำหนิเสียงดัง “คับแค้นใจอะไรกัน ไหนเลยจะมีใครทำให้เจ้าได้รับความคับแค้นใจ เจ้าเป็นลูกของข้า ข้ายังอยู่ที่นี่ เจ้าจะย้ายไปไหน”/n

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด