Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 953

อ่านนิยายจีนเรื่อง Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 953 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

หลิงฮันไม่โคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์แต่ควบแน่นกระดูกในร่างแทน
เมื่อเขาขัดเกลากระดูกผ่านทัณฑ์สวรรค์ กายหยาบของเขาจะแข็งแกร่งขึ้น
หลิงฮันไม่สามารถใช้หยดวารีอมตะได้ ไม่เช่นนั้นหากกระดูกที่เสียหายจากทัณฑ์สวรรค์ฟื้นฟูสภาพกลับมาเหมือนเดิม กระดูกของเขาก็จะไม่ถูกขัดเกลาและกายหยาบก็จะไม่เพิ่มขึ้นเป็นแร่โลหะระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง
“ไม่นะ เจ้าหนูนั่นจะตายเพราะทัณฑ์สวรรค์รึเปล่า!” ทั้งหกคนอุทานด้วยสีหน้าผิดหวัง
พวกเขาต้องการที่จะสังหารและนำความทรงจำของหลิงฮันออกมาล้วงความลับ แต่ทัณฑ์สวรรค์ได้เริ่มขึ้นแล้ว แล้วใครกันจะกล้าลงมือกับหลิงฮัน?
การขัดขวางทัณฑ์สวรรค์ของคนอื่น คนที่ขัดขวางก็จะถูกทัณฑ์สวรรค์เช่นกัน
“เขาน่าจะยังไม่ตาย ไม่เช่นนั้นทำไมทัณฑ์สวรรค์ถึงยังไม่หายไปล่ะ?” หนึ่งในหกคนเอ่ย
“ถูกแล้ว ถ้าจอมยุทธที่รับทัณฑ์สวรรค์ตกตาย ทัณฑ์สวรรค์ก็จะสลายไปทันที”
“นั่นหมายถึงเจ้าหนูนั่นยังไม่ตาย!”
“เฮ้อ ถ้าเขายังไม่ตายก็ดี แม้เขาจะไม่ตายแต่กายหยาบของเขาจะต้องได้รับบาดเจ็บเพราะทัณฑ์สวรรค์เป็นแน่ เช่นนั้นการสังหารเขาก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้น”
พวกเขากลับมามีท่าทีตื่นเต้นอีกครั้ง พวกเขามั่นใจในพลังอำนาจของทัณฑ์สวรรค์ ทัณฑ์สวรรค์นั้นมีพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวจนแม้แต่จอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งก็ไม่กล้าผลีผลาม
มีใครบ้างที่เมื่อผ่านทัณฑ์สวรรค์แล้วจะไม่สูญเสียพลังไปกว่าครึ่ง?
ผ่านไปสองชั่วโมง ในที่สุดกระดูกของหลิงฮันก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์ เขาโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เพื่อซ่อมแซมกระดูกที่เสียหาย ตอนนี้กระดูกของเขากลายเป็นแร่โลหะระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสองแล้ว ความทนทานของมันเพิ่มขึ้นจากเดิมหนึ่งขั้น
หลังจากกระดูกที่เสียหายคืนสภาพ โลหิตและกล้ามเนื้อก็ถูกซ่อมแซมขึ้นใหม่ สภาพร่างกายของเขาฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
เขาใช้เวลาที่เหลือในการดูดซับพลังของสายฟ้าและขัดเกลากายาอัสนี แต่เขากลับพบว่าความสามารถในการดูดซับสายฟ้านั้นมีจำกัด ไม่ใช่เพราะกายหยาบของเขาไม่แข็งแกร่งพอแต่เป็นเพราะทักษะอันสนีบาตเก้าทิวาไม่สามารถเปลี่ยนพลังสายฟ้าที่ดูดซับให้เป็นพลังของเขาได้
นั่นเป็นเพราะทักษะอัสนีบาตรเก้าทิวาเป็นทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมาอยู่บนดินแดนศักดิ์สิทธิ์มันก็ไม่ต่างอะไรกับทักษะธรรมดา
หลิงฮันอดส่ายหัวไม่ได้ เมื่อคิดให้ดีทักษะสามดาบเร้นลับเองก็เป็นทักษะสืบทอดของนิกายดาบสวรรค์ ซึ่งตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดของนิกายดาบสวรรค์คือจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา เพราะงั้นในไม่ช้าทักษะดาบนี้คงจะถึงคอขวดที่ไม่สามารถแสดงอำนาจที่แข็งแกร่งขึ้นได้
หากไม่ใช่ทักษะที่สร้างขึ้นด้วยตนเอง การจะเป็นเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ในจุดนี้หลิงฮันรู้สึกชื่นชมจักรพรรดิพิรุณมากที่สร้างทักษะหมัดแห่งบุตรสวรรค์ของตนเองขึ้นมา ทักษะหมัดแห่งบุตรสวรรค์ของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นไปพร้อมๆกับระดับพลังบ่มเพาะของเขา
‘พรึบ’ อักขระสีทองปรากฏขึ้นในหัวของหลิงฮัน อักขระเหล่านั้นเริ่มรวมตัวกันกลายเป็นรูปแบบคำบางอย่าง
มันคือทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดารา
ไม่สิ มันไม่ใช่ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราที่เขาเคยฝึกฝน แต่เป็นทักษะใหม่
นี่คือทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราที่แท้จริง มังกรที่สามารถบดขยี้ได้แม้แต่ดวงดาว! มีเพียงเมื่อทะลวงผ่านเป็นจอมยุทธระดับพระเจ้าแล้วเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติเรียนรู้ทักษะนี้
ก่อนหน้านี้หลิงฮันยังไม่ใช่จอมยุทธระดับพระเจ้าจึงไม่สามารถเรียนรู้ทักษะที่แท้จริงได้
หลิงฮันเผยรอยยิ้ม ทัณฑ์สวรรค์ค่อยๆสลายหายไป ตอนนี้เขาเป็นพระเจ้าที่แท้จริงแล้ว ด้านหลังของเขามีภาพของภูผาวารีที่กำลังก่อตัว
เมื่อสายฟ้าสายสุดท้ายผ่าลงมา ท้องฟ้าที่มืดครึ้มก็กลับไปเป็นสีแดงเข้มดั่งเดิม
‘ตุบ’ ทั้งหกคนกระโดดเข้ามายืนล้อมรอบตัวเขา
“นับว่ากล้าไม่เบาที่บังอาจดูดซับผลึกภูผาวารีของพวกข้า!”
“แต่เจ้าที่ถูกทัณฑ์สวรรค์โจมตีอย่างสาหัส แม้จะใช้สมุนไพรหรือเม็ดยาฟื้นฟูใดๆก็ไม่อาจกลับมามีสภาพสมบูรณ์ได้แน่นอน” ทั้งหกคนแสยะยิ้ม
ถึงแม้พวกเขาจะเป็นเพียงจอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้น แต่สองคนในกลุ่มพวกเขาบรรลุระดับภูผาวารีขั้นต้นชั้นสูงสุดแล้ว สามคนก็บรรลุชั้นปลาย ส่วนอีกหนึ่งคนเป็นระดับภูผาวารีขั้นกลาง
พวกเขาจะไม่สามารถจัดการจอมยุทธที่เพิ่งทะลวงผ่านระดับภูผาวารีได้เชียวรึ?
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ข้ารอพวกเจ้าอยู่แล้ว ครั้งนี้ข้าจะได้ชดใช้หนี้คืนพวกเจ้าเสียที! เข้ามาเลย จะทีละคนหรือหกคนพร้อมกันดีล่ะ?”
“ช่างปากดี!”
“คิดว่าแค่ก้าวผ่านระดับพระเจ้าแล้วเจ้าจะเหาะเหินบนท้องฟ้าได้?”
“ฉื่อหาว เจ้าเป็นคนจัดการเขา!”
“อืม!”
รุ่นเยาว์ผู้หนึ่งปล่อยฝ่ามือใส่หลิงฮันอย่างไม่แยแส ‘พรึบ’ ด้านหลังของเขาปรากฏเงาภาพของภูผาและวารี
เขาเป็นตอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นปลาย สายวารีของเขาจึงยังมีขนาดไม่ใหญ่มาก
หลิงฮันยังไม่แน่ใจในพลังต่อสู้ของตนเอง ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าประมาทอีกฝ่ายแม้แต่น้อย เขาควบแน่นพลังระดับภูผาวารีและปล่อยใหม่ปะทะกับอีกฝ่าย
‘ตูม!’
ฝ่ามือของทั้งสองเข้าปะทะกัน แต่ฝ่ามือของทั้งสองคนก็โต้ตอบกันได้เพียงชั่วครู่ก่อนที่มือของฉื่อหาวจะบิดเบี้ยว ‘แคร่ก แคร่ก แคร่ก’ กระดูกของฉื่อหาวแตกหักไปจนถึงช่วงไหล่
ทันใดนั้นทุกคนก็กลายเป็นแน่นิ่ง
นี่ตาของพวกเขาฝาดรึเปล่า?
ดวงตาของอีกห้าคนเปิดกว้าง ไม่ใช่ว่าฝ่ายที่กระดูกสมควรจะเป็นหลิงฮันหรอกรึ? พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น
พลังต่อสู้และกายหยาบเช่นนั้นมันอะไรกัน แต่หลิงฮันปล่อยหมัดออกมาก็ทำให้กระทั้งแขนของฉื่อหาวแตกหักได้แล้ว
“อ้ากก!” ฉื่อหาวเองก็ตกตะลึง เขารู้สึกจนปวดจนกรีดร้องออกมา ร่างของเขาค่อยๆเดินล่าถอยพร้อมกับแสดงสีหน้าหวาดกลัว
“พลังของหมัดเมื่อครู่ไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธระดับภูผาวารีขั้นต้นจะมีได้!”
“ระดับภูผาวารีขั้นกลางชั้นต้น หรืออาจจะสูงกว่านั้น!”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด