Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 885

อ่านนิยายจีนเรื่อง Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 885 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

“โอ้ ดูไม่ออกเลยนะว่าเจ้าก็พอมีความสามารถอยู่บ้าง!” นางกล่าวอย่างประหลาดใจ
การจะเพิ่มพลังต่อสู้เพียงหนึ่งดาวนั้นเป็นเรื่องยากราวกับยกสวรรค์ปฐพี สิ่งนี้แม้จะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีข้อยกเว้น จอมยุทธระดับทลายมิติส่วนใหญ่จะมีพลังต่อสู้เก้าดาว ในขณะที่มีบ้างส่วนน้อยที่เกินสิบดาว แต่คนที่ขัดเกลาพลังต่อสู้ให้ถึงสิบสี่ดาวได้คนนั้นจะนับว่าเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง
ในจอมยุทธระดับทลายมิติทั้งหมดมีเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่มีพลังต่อสู้สูงกว่าสิบดาว และหนึ่งเปอร์เซ็นต์นั้นคนที่ยกระดับพลังให้สูงถึงสิบดาวดาวได้ก็มีเพียงหนึ่งในหมื่น
ถึงแม้นางจะไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกไป แต่ฝ่ามือเมื่อครู่ก็สมควรมีพลังต่อสู้สิบสามดาวเป็นอย่างน้อย ดังนั้นการที่หลิงฮันสามารถหักล้างการโจมตีของนางได้จึงทำให้นางตกตะลึงอย่างมาก
“เข้ามาอีก!” นางรู้สึกตื่นเต้นและกระหน่ำโจมตีใส่หลิงฮันราวกับพายุทันที
หลิงฮันรู้ดีว่าอีกฝ่ายมีนิสัยคุณหนูผู้สูงศักดิ์ เขาไม่อาจล่วงเกินนางได้ หากเขาแพ้ก็ดีไปแต่ถ้าเขาชนะนาง นางคงจะไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ แต่เขาเองก็เป็นคนที่มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ทำไมเขาจะต้องยอมแพ้อีกฝ่ายด้วย? สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงค่อยๆยื้อสถานการณ์ไปเรื่อยๆ
เมื่อเห็นว่าการโจมตีของตนเองทำอะไรหลิงฮันไม่ได้ นางก็เคลื่อนไหวมืออย่างคล่องแคล่วและใช้พลังทั้งหมดออกมาเพื่อจะได้โค่นหลิงฮัน
โชคร้ายที่ในตอนนี้พลังต่อสู้ติดตัวของหลิงฮันบรรลุสิบหกดาวแล้ว ดังนั้นต่อให้เขาไม่ใช้ทักษะยุทธใดๆเขาก็สามารถจัดการอีกฝ่ายได้ไม่ยาก
แต่หลิงฮันย่อมไม่ทำเช่นนั้น เขาพยายามยื้อสถานการณ์ให้ตนเองดูไม่เก่งกว่าหรืออ่อนกว่าเกินไป ดังนั้นถึงแม้อีกฝ่ายจะดูเหมือนกับว่ากำลังได้เปรียบอยู่เล็กน้อย แต่นางไม่สามารถโค่นเขาได้เสียที
สิ่งที่หลิงฮันได้รับรู้คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่ที่แข็งทนทานมาก
หลิงฮันลองมองดูรอบๆ ถ้าหากจอมยุทธระดับทลายมิติสองคนสู้กันในโลกเบื้องล่าง ไม่ต้องกล่าวถึงสวนที่เขาอยู่ในตอนนี้เลย เกรงว่าพื้นที่และเมืองโดยรอบคงจะถูกปัดกระจุยไปแล้ว
แต่ตอนนี้ล่ะ? คลื่นพลังที่เกิดจากการต่อสู้ของพวกเขาทำได้เพียงสร้างลมให้ใบไม้ในสวนพลิ้วไหว หลิงฮันรู้สึกราวกับว่าตนเองกลับกลายไปเป็นจอมยุทธระดับหลอมกายา
‘ปัง ปัง ปัง’ ทั้งสองคนปะทะกันอย่างดุเดือด แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่โจมตีจะเป็นสตรีรุ่นเยาว์ ส่วนหลิงฮันนั้นเป็นฝ่ายป้องกัน สุภาพบุรุษไม่ควรต่อสู้กับสตรี หากเขาชนะนางได้แล้วเขาจะได้อะไร?
คนที่หลิงฮันต้องการโค่นคือห้านิกายโบราณกับตระกูลอ้าวต่างหาก และเป้าหมายในอนาคตของเขาคือการอยู่เหนือเหล่าจอมยุทธของตำหนักมัจฉาวายุภักษ์
“เหว่ยเหว่ย หยุดมือได้รึยัง?” เสียงอันองอาจดังขึ้น
หลิงฮันเป็นฝ่ายป้องกันมาตั้งแต่แรกแล้ว ตราบใดที่อีกฝ่ายหยุดมือ การต่อสู้ก็จะจบลง
“ไม่ ข้าจะโค่นเขาให้ได้! อีกแค่นิดเดียวข้าก็จะชนะแล้ว!” นางกล่าวและบุ้ยปาก ท่าทางของนางน่ารักเป็นอย่างมาก
ร่างสองร่างเดินออกมาจากที่พักมายังสวน ร่างหนึ่งคือชายที่ดูมีอายุสี่สิบปี เขาสวมชุดคลุมประณีต กลิ่นอายของเขาทรงอำนาจเป็นอย่างยิ่ง อีกร่างหนึ่งคือเซียงเฉิงหยิน เขานำมือทั้งสองข้างกุมไว้ที่ต้นขาราวกับเป็นคนรับใช้
ไม่บอกก็รู้ว่าชายวัยกลางคนผู้นี้คือผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย หลี่เฉิง หรืออีกชื่อหนึ่งคืออาวุโสหลี่ จอมยุทธระดับดารา
“เด็กน้อย เจ้าสู้กันมาตั้งนานยังไม่รู้อีกรึว่าชายคนนั้นกำลังออมมือให้เจ้า?” หลี่เฉิงยิ้ม
“ว่าไงนะ?” นางหยุดมือและจ้องเขม็งไปยังหลิงฮัน “บอกความจริงมาซะ เจ้าออมมือให้ข้ารึไม่?”
“คุณหนูสี่มีพรสวรรค์และพลังที่ยอมเยี่ยมมาก” หลิงฮันไม่ตอบคำถามแต่เบี่ยงไปกล่าวชื่นชมอีกฝ่ายแทน คำพูดของเขาไม่ใช่คำเยินยอ เพราะอย่างไรอีกฝ่ายก็ยอดเยี่ยมเช่นนั้นจริงๆ
นางไม่สังเกตเลยแม้แต่น้อยว่าหลิงฮันตอบไม่ตรงคำถาม คอของนางเชิดขึ้นอย่างภาคภูมิใจราวกับหงส์
ชื่อของนางคือหลี่เหว่ยเหว่ย บุตรสาวคนที่สี่ซึ่งก็คือบุตรคนเล็กสุดของผู้อาวุโสฝ่ายซ้าย ในทางตรงกันข้าม ผู้อาวุโสนั้นกลับมีบุตรชายอยู่ถึงแปดคน
อาวุโสหลี่กล่าว “เด็กน้อย เจ้ารู้รึไม่ว่าชายหนุ่มผู้คนนั้นเพิ่งมาจากโลกใบเล็ก”
“โอ้ เจ้าเพิ่งทะลวงมิติขึ้นมาสินะ!” หลี่เหว่ยเหว่ยไม่ตกใจอะไรมาก ในความรู้ของนาง ในรอบหนึ่งปีจะมีจอมยุทธหลายพันคนที่ขึ้นมาจากโลกใบเล็กหลังจากบรรลุระดับทลายมิติขั้นเก้าแล้ว
“แต่เจ้าบรรลุระดับทลายมิติขั้นเก้าแล้ว ความกล้าของเจ้าช่างน้อยนิด!” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงดูถูกเล็กน้อย ใครก็ตามที่บรรลุระดับทลายมิติย่อมมีคุณสมบัติบดขยี้ชั้นมิติและขึ้นมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แม้จะเป็นเพียงระดับทลายมิติขั้นห้าหรือขั้นหกก็สามารถทำได้ แต่หลิงฮันกลับรอให้ตนเองบรรลุระดับทลายมิติขั้นเก้าก่อนถึงจะขึ้นมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์
อาวุโสหลี่เปิดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เหว่ยเหว่ย เรามาพนันกันดีไหม?”
“ท่านพ่อต้องการพนันอะไรรึ?” เหว่ยเหว่ยถาม
“พนันว่าเจ้าจะชนะหลิงฮันได้รึไม่” อาวุโสหลี่หัวเราะ “ถ้าเจ้าชนะ ข้าจะไม่เจ้ากี้เจ้าการกับเจ้าอีกต่อไป เจ้าอยากไปเล่นที่ไหนก็มีอิสระเต็มที่!”
“ตกลง อย่าผิดสัญญาทีหลังล่ะ!” หลี่เหว่ยเหว่ยมีความสุข นางต้องการจะออกจากเมืองจักรพรรดิไปท่องเที่ยวโลกภายนอกมาตลอด แต่บิดาของนางกลับเป็นกังวลและห้ามไม่ให้นางไป
นางกลัวว่าบิดาจะเปลี่ยนใจเลยรีบเตรียมตัวเปิดศึกโจมตีหลิงฮัน
อาวุโสหลี่เอ่ยต่อ “แต่ถ้าหากเจ้าแพ้…”
“ข้าจะแพ้ได้อย่างไร?” หลี่เหว่ยเหว่ยพูดแทรก ในดินแดนแห่งนี้ คงมีนางคนเดียวที่เป็นจอมยุทธระดับทลายมิติแต่กล้าต่อเถียงกับจอมยุทธระดับดารา
อาวุโสหลี่ประคบประหงมลูกสาวคนนี้มาก ถึงแม้เขาจะมีบุตรอีกสาวสามคน แต่บุตรสาวสามคนแรกได้แต่งานไปเป็นพันเป็นหมื่นปีแล้ว ส่วนบุตรสาวคนนี้เพิ่งจะเกิดมาได้ไม่กี่สิบปี ดังนั้นเขาจึงเป็นห่วงนางมากกว่าบุตรสาวคนไหน
“ถ้าเจ้าแพ้ เจ้าจะต้องมีพลังระดับภูผาวารีเป็นน้อยถึงจะออกจากเมืองจักรพรรดิได้ ส่วนถ้าต้องการออกจากอาณาเขตของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ เจ้าจะต้องมีพลังระดับสุริยันจันทรา” อาวุโสหลี่ยิ้ม
“ตกลง!” หลี่เหว่ยเหว่ยพยักหน้า ต้องนี้นางต้องการชนะหลิงฮันแล้ว นางอยากจะออกจากเมืองจักรพรรดิและท่องเที่ยวไปทั่วโดยมีชีวิตอิสระ นางรีบพุ่งโจมตีใส่หลิงฮันอย่างรวดเร็ว
หลิงฮันยังคงทำเพียงป้องกันเช่นเดิม เขาไม่ต้องการเป็นเครื่องมือพนันของพ่อลูก
“หลิงฮัน เจ้ามีหนทางเดียวคือชนะ!” อาวุโสหลี่กล่าวกับหลิงฮัน ถึงแม้ใบหน้าเขาจะประดับไว้ด้วยรอบยิ้เขาก็ยังน่าเกรงขามอยู่ดี เหตุผลแรกคือเป็นเพราะเขาเป็นจอมยุทธระดับดารา ส่วนอีกผลหนึ่งคือเขามีสถานะเป็นถึงผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะ
หลิงฮันถอนหายใจ ถ้าเขาไม่ทำตาม เขาก็คงถูกผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายทุบตีเป็นแน่
เขาเพิ่มพลังต่อสู้ของตนเองขึ้นมาเล็กน้อยและกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบทันที แต่เขาก็ยังไว้หน้าหลี่เหว่ยเหว่ยโดยการแลกกระบวนท่าถึงหนึ่งร้อยกระบวนท่าก่อนจะเผด็จศึก
หลีเหว่ยเหว่ยยอมรับไม่ได้ เป็นไปได้อย่างไรที่จอมยุทธระดับทลายมิติขั้นเก้าที่มาจากโลกใบเล็กจะมีพลังต่อสู้เหนือกว่านาง? นางส่ายหัวก่อนจะกล่าว “ข้าไม่ยอมรับ มาสู้กันอีกครั้ง”
อาวุโสหลี่หัวเราะ “เด็กน้อย หลิงฮันคือจักรพรรดิของโลกใบเล็ก เขาเปิดสวรรค์สำเร็จเมื่อไม่กี่วันก่อนและพาโลกใบเล็กทั้งใบขึ้นมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้”
“อะไรกัน!” หลี่เหว่ยเหว่ยรู้ตัวแล้วว่าเข้าใจหลิงฮันผิด ที่เขารอให้ตนเองบรรลุระดับทลายมิติขั้นเก้าก่อนไม่ใช่เพราะเขาขี้ขลาดแต่เป็นเพราะการจะเปิดสวรรค์จำเป็นต้องมีพลังบ่มเพาะระดับทลายมิติขั้นเก้า
การที่เปิดสวรรค์ได้ หลิงฮันจะต้องเป็นคนที่มีศักยะภาพไร้ขีดจำกัด!
หลังโดนทั้งหลิงฮันและตาแก่ของนางหลอก
น่ารังเกียจ! ข้าโมโหแล้วนะ!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด