Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 638

อ่านนิยายจีนเรื่อง Alchemy Emperor of the Divine Dao ตอนที่ 638 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

หลิงฮันครุ่นคิดและยิ้ม “ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเราในปัจจุบัน เรื่องแบบนั้นทำได้แค่คิดเท่านั้น ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะหรือแพ้ มันไม่ใช่เรื่องอะไรที่พวกเราสามารถเข้าไปแทรกแซงได้”
จักรพรรดิพิรุณและมูหรงชิงต่างแสดงความรู้สึกกระหายการต่อสู้ออกมา และเผยสีหน้าที่หลงใหล
จักรพรรดิพิรุณเป็นวีรบุรุษคนหนึ่ง พลังปราณของเขาน่าเกรงขาม ส่วนมู่หรงชิงนั้น เขาสนใจแค่กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเท่านั้น แม้พวกเขาทั้งสามคนจะมีบุคลิกที่แตกต่างกัน แต่มีสิ่งเดียวที่พวกเขาเหมือนกันคือมีความหลงใหลในวิถีวรยุทธ
มิฉะนั้น พวกเขาคงไม่สาบานร่วมกัน
“ในอีกสามสิบปีข้างหน้า ข้าจะตั้งหน้าตั้งตารอคำแนะนำจากพวกเจ้า!” พวกเขากล่าวด้วยความเร่าร้อน
เพียงแค่สามสิบปี พวกเขาคิดว่าจะทะลวงผ่านระดับทลายมิติแล้ว?
สิ่งที่พวกเขาพูดมันช่างไร้สาระที่สามารถทำให้ผู้คนหัวเราะจนตาย แต่พวกเขาทั้งสามคนเต็มไปด้วยความมั่นในในตัวเอง ด้วยพรสวรรค์ของพวกเขาบวกกับเม็ดยาของหลิงฮัน แน่นอนว่าพวกเขาจะมีโอกาสที่จะบรรลุระดับทลายมิติภายในสามสิบปี
“มีข่าวอย่างอื่นที่น่าสนใจอีกไหม?” หลิงฮันสงบสติอารมณ์และถามอีกครั้ง
“อืม ข่าวนี้ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว” จักรพรรดิพิรุณหยุดพูดชั่วขณะและพูดต่อว่า “เมื่อไม่นานมานี้ เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในภูมิภาคกลางจู่ๆก็จัดตั้งจักรวรรดิจันทราม่วงขึ้นมา”
หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ มันยังมีคนที่คิดจะก่อตั้งแคว้นอีกหรือ แล้วมันจะมีปัญหาอะไร?
นอกจากดินแดนทางตอนเหนืออันโดดเดี่ยว มันไม่มีความจำเป็นเรื่องการก่อตั้งแคว้นในสี่ภูมิภาคและภูมิภาคกลาง มีเพียงแค่ตระกูลเก่าแก่ นิกายโบราณและขุมพลังต่างๆ หรือพูดได้ว่าทวีปฮงเทียนนั้นไม่มีกฎระเบียบ ความแข็งแกร่งคือกฎ
แต่ทว่าการก่อตั้งแคว้นนั้นถือเป็นเรื่องดี ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบซึ่งสามารถลดการฆ่าฟันได้จำนวนมาก
หลิงฮันฉุดคิดขึ้นมาได้ว่าทำไมภูมิภาคกลางและอีกสี่ภูมิภาคถึงไม่มีจักรวรรดิ ย้อนกลับไป ทั้งที่พลังของจักรภพทำให้จักรพรรดิพิรุณเป็นจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานครึ่งก้าว แต่ก็สามารถปะมือกับจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานที่แท้จริงได้ ยกเว้นว่านั่นจะเป็นความแข็งแกร่งจักรพรรดิพิรุณเอง
“ในทวีปฮงเทียน การก่อตั้งจักรวรรดิเป็นเรื่องต้องห้าม” มู่หรงชิงกล่าว “ในภูมิภาคใต้ของข้ามีกฎเหล็กอยู่ ทุกขุมพลังสามารถแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงดินแดนได้ แต่ห้ามก่อตั้งจักรวรรดิ มิฉะนั้นทั้งภูมิภาคใต้จะถูกทำลาย”
“แต่ว่าภูมิภาคกลางเห็นได้ชัดว่าเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับฝึกฝนบ่มเพาะพลัง แต่ทำไมในทวีปฮงเทียนถึงไม่มีจักรวรรดิ?” หลิงฮันแสดงความอยากรู้อยากเห็นของเขาออกมาในชีวิตที่แล้วของเขาไม่มีการก่อตั้งจักรวรรดิ แม้เขาจะทุ่มชีวิตทั้งหมดให้กับศาสตร์ปรุงยาและไม่สนใจเรื่องพวกนั้นก็ตาม
“แต่ในสมัยโบราณที่อยู่ก่อนหน้านี้ไปอีก ทวีปฮงเทียนนั้นมีจักรวรรดิ และเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งมาก” หลิงฮันกล่าว เพราะทักษะอสนีบาตเก้าทิวามาจากสมบัติของจักรวรรดิโบราณและนี่ไม่ใช่ทักษะระดับสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุด
นั่นคือเรื่องหลายแสนปีที่ผ่านมา จักรวรรดิที่ปกครองยุคโบราณต้องการที่จะเปิดสวรรค์และพาทุกคนขึ้นไป แต่ดูเหมือนจะล้มเหลวทั้งที่จักรวรรดิที่ปกครองยุคโบราณนั้นรวบรวมผู้คนทั้งทวีปให้เป็นหนึ่งแล้วก็ตาม
“หรือว่าจักรวรรดิจันทราม่วงอยากลองดี?” จักรพรรดิพิรุณและมู่หลงชิงต่างอุทานออกมา
“แล้วใครคือจักรพรรดิ?” หลิงฮันถาม
“แซ่ของเขาคือหม่า เรียกว่าหม่าตั้วเป่า และเขาเป็นจักรพรรดิแห่งจื่อเย่ว” จักรพรรดิพิรุณกล่าว
พรวด หลิงฮันแทบสำลัก
หม่าตั้วเป่า?
เมื่อเขาคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหมื่นสมบัติ หม่าตั้วเป่าได้เชิญเขาเข้าร่วมด้วยเพื่อเปิดสวรรค์ แต่เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่เขาคิดเรื่องพวกนั้น เขาก็ลงมือทำเรื่องการใหญ่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีคนที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุน ตระกูลราชวังศ์จื่อเย่วจะคงอยู่ได้นานแค่ไหนกัน?
เดี๋ยวก่อน จักรวรรดิที่ปกครองยุคโบราณดูเหมือนจะล้มเหลวในการเปิดสวรรค์มาแล้ว แต่หม่าตั้วเป่ายังต้องการที่จะทำแบบนั้นอีกและก่อตั้งแคว้นขึ้นมา หรือว่าการเปิดสวรรค์จะต้องอยู่ในรูปแบบของแคว้น?
หลิงฮันรู้สึกว่าความคิดภายในหัวของเขาค่อนข้างสับสน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเหนือจากความรู้ของเขา
หม่าตั้วเป่าไม่ได้เป็นคนโง่ ในทางตรงกันข้าม ความแข็งแกร่งของเขาไม่อาจหยั่งรู้ได้ แม้แต่หลิงฮันยังไม่มองไม่ออก
ตอนนี้ยังมีนิกายพันศพอยู่อีก พวกมันเป็นเหมือนอสรพิษที่จ้องจะทำให้ทุกคนบนโลกกลายเป็นศพ ส่วนอีกด้านคือจักรวรรดิจันทราม่วง หากก่อตั้งแคว้นขึ้นมา แน่นอนว่าย่อมมีการขยายดินแดนและเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพิชิตโลกกลายเป็นหนึ่ง
“ดูเหมือนโลกจะต้องเกิดความวุ่นวายอีกครั้ง” หลิงฮันถอนหายใจ
“และยังมีอีกเรื่อง ห้านิกายใหญ่ทำนายว่าหายนะที่คล้ายกับที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนจะเกิดขึ้นอีกครั้ง” จักรพรรดิพิรุณกล่าว
“ข้ามีความสามารถแข็งฝึกฝนบ่มเพาะพลังและพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเอง และข้ามีความสามารถแค่ปกป้องตัวเองเท่านั้น” มู่หลงชิงกล่าว
หลิงฮันและจักรพรรดิพิรุณพยักหน้า
“นั่นมัน….” เจ้ากระต่ายที่ตั้งใจฟังมาอย่างยาวนานยกอุ้งเท้าของมันขึ้นมา “ดูเหมือนข้าจะรู้หายนะที่พวกเจ้ากำลังพูดกันอยู่”
“ถ้างั้นพูดออกมา!” หลิงฮันกล่าว
กระต่ายแสร้งทำเป็นเล่นตัว “ฮ่าฮ่าฮ่า เอาน้ำชามาเสิร์ฟให้ข้าก่อนแล้วข้าจะ… อ๊ากก!” มันยังพูดไม่ทันจบก็ถูกฮูหนิวกัด
“พูดออกมาว่า!” ฮูหนิวไม่พอใจ
เจ้ากระต่ายนี่แม้จะรู้อยู่แล้วว่าฮูหนิวชอบลอบกัด แต่มันก็ยังคงยั่วยุฮูหนิวอยู่ตลอด มันกระแอมและพูดว่า “มีข่าวลือในหมู่กระต่ายว่าทุกหมื่นปี สวรรค์จะทำการชำระล้างโลก และมีสิ่งมีชีวิตจำนวนน้อยมากที่สามารถอยู่รอดได้”
“ชำระล้าง?” หลิงฮันรู้สึกตกใจ นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
“แต่บรรพบุรุษของข้าที่อาศัยอยู่โลกเบื้องบนนั้นเป็นข้อยกเว้น แต่สำหรับเจ้า มันค่อนข้างเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก!” เจ้ากระต่ายพูด
หลิงฮันตอบกลับ “นี่เจ้าจะไม่แต่งเรื่องเกินจริงไปหน่อยหรือ”
“เจ้าหนู เจ้าคิดว่าข้าไปใคร ข้าเป็นกระต่ายเชียวนะ” กระต่ายพูดออกมาอย่างสบายใจ
“ถ้างั้นการชำระล้าง ทำไมพวกเราต้องถูกชำระล้างด้วย? แล้วใครเป็นคนทำ?”  หลิงฮันถาม
เจ้ากระต่ายชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าและพูดว่า “เหตุผลที่ว่าทำไม กระต่ายอย่างข้าจะไปรู้เรอะ”
สวรรค์? สวรรค์คือดินแดนสวรรค์ที่ไม่ควรทำอันตายต่อคนทั่วไป จากความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ของจื่อเสวี่ยนเซียน ดินแดนสวรรค์ต้องการทำลายโลกมนุษย์
หลิงฮันวกกลับไปที่คำถามเก่า ถ้าดินแดนสวรรค์ต้องการที่จะชำระล้างโลกมนุษย์จริง ห้านิกายโบราณจะรับมือได้อย่างไร?
มันจะต้องมีเหตุผลอื่นที่อยู่เบื้องหลังเป็นแน่ และคำตอบนั้นอาจซ่อนอยู่ในวิหารที่เขากำลังตามหาอยู่
เขาต้องรีบหาแผนที่โบราณนั่นให้เจอโดยเร็ว
“หลิงฮัน ออกมารับความตายได้แล้ว!”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด