Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น ตอนที่ 862

อ่านนิยายจีนเรื่อง Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น ตอนที่ 862 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

EG บทที่ 862 ล้าสมัยภายใน 5 ปี
“ผู้อำนวยการฝางครับ ทุกอย่างง่ายมาก ผมแค่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณเพื่อเร่งการอนุมัติก่อนที่ชาวต่างชาติจะได้เงินทั้งหมดไปก่อน” เฝิงหยู่พูดติดตลก ประสิทธิภาพการทำงานของกระทรวงช้ามากเกินไป เฝิงหยู่ก็เลยมาขอความช่วยเหลือจากผู้อำนวยการฝางเพื่อให้ได้ใบอนุญาตการเข้าถึงเครือข่าย
“โทรศัพท์มือถือของคุณเป็นไปตามมาตรฐานสากลหรือแปล่า?” ผู้อำนวยการฝางสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ บริษัทแพนด้าขายโทรศัพท์มือถือมาหลายปีแล้ว ยังไม่กล้าอ้างว่าโทรศัพท์ของตัวเองดีเทียบเท่าแบรนด์ต่างประเทศเลย
“โอ้ ผมลืมไปว่าผมเอาตัวอย่างโทรศัพท์สองสามเครื่องมาให้คุณทดสอบด้วยครับ คุณสามารถทดลองใช้ดูก่อนได้เลย หากสินค้าผมดีไม่เท่าแบรนด์ต่างประเทศ ผมจะฉีกใบอนุญาตการเข้าถึงเครือข่ายทิ้งเลยครับแม้ว่าผมจะได้รับการอนุมัติแล้วก็ตาม!” เฝิงหยู่ประกาศกร้าว
ผู้อำนวยการฝางลองเล่นโทรศัพท์มือถือสักพัก ไม่มีปัญหาในการโทรออกและรับส่งข้อความ SMS ตัวอักษรหน้าจอก็ชัดเจนและคุณภาพเสียงก็ชัดมาก ขนาดเสียงเรียกเข้ายังดีกว่าเลย
“โทรศัพท์รุ่นนี้ดีจังเลย ทั้งการออกแบบและสีสันก็ดูดี คุณขายโทรศัพท์เครื่องนี้เท่าไหร่ครับ” ผู้อำนวยการฝางรู้สึกพอใจ
หากโทรศัพท์ในประเทศจีนสามารถแข่งขันกับแบรนด์ต่างประเทศได้ นั่นหมายความว่าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของจีนกำลังพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วและสามารถไล่ตามส่วนอื่นๆ ของโลกได้ทัน!
“ผู้อำนวยการฝางยินดีที่จะจ่ายเงินเท่าไหร่สำหรับโทรศัพท์เครื่องนี้ครับ?” เฝิงหยู่ถามกลับ
“มีฟังก์ชั่นเยอะมากและการออกแบบก็สวยงาม ถ้าเป็นสินค้านำเข้า ก็น่าจะมีราคาประมาณ 10,000 หยวน คุณผลิตโทรศัพท์เครื่องนี้ภายใต้แบรนด์ไอว่า ถ้าอย่างนั้น ราคาก็น่าจะอย่างน้อย 8,000 หยวนหรือเปล่าครับ?”
เฝิงหยู่ไม่พอใจ คุณหมายความว่าไงที่บอกว่ามีฟังก์ชั่นเยอะมากและออกแบบสวยงาม? เพียงแค่ว่าโทรศัพท์ของเราไม่ใช่สินค้านำเข้า ก็แปลว่ามูลค่าต้องน้อยลงงั้นหรอ?
แต่คุณคิดผิดแล้ว ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะขายโทรศัพท์ให้แพงมากอยู่แล้ว แม้ว่าโทรศัพท์มือถือจะยังคงเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แต่ก็ไม่ได้หรูหราเหมือนแต่ก่อน
นอกจากนี้โทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ในตลาดยังเป็นแบรนด์ต่างประเทศและแม้ว่าไอว่าจะเป็นผู้ผลิตเพจเจอร์อันดับต้นๆ ของจีน แต่ก็ยังคงเป็นน้องใหม่ในตลาดโทรศัพท์มือถือ ถ้าไอว่าขายในราคาใกล้เคียงกับโทรศัพท์มือถือแบรนด์อื่นๆ ในตลาด ก็จะเสียเปรียบมาก
“ผู้อำนวยการฝางครับ ราคาขายปลีกสำหรับโทรศัพท์เครื่องนี้ต่ำกว่า 7,000 หยวน แค่ 6,666 หยวนครับ! เลขนำโชคเลยนะครับเนี่ย”
ผู้อำนวยการฝางเกลือกตา “นักธุรกิจทุกคนเชื่อเรื่องโชคลางกันหมดเลยหรือไง?”
“เราไม่ใช่คนเดียวที่เชื่อเรื่องโชคลางนะครับ คนที่มีเงินซื้อโทรศัพท์มือถือก็เชื่อเรื่องโชคลางเหมือนกัน ‘ลิ่ว ลิ่ว ต้า ซุน’ ฟังดูดีจะตาย…” (สำนวนจีนแปลว่าทุกอย่างราบรื่น)
“คุณเป็นนักธุรกิจ แม้ว่าคุณจะขายในราคา 6,666 หยวน แต่กำไรก็น่าจะยังเยอะอยู่ จริงมั้ยครับ?” ผู้อำนวยการฝางหัวเราะ
“ผมไม่ได้บอกนิครับว่าผมขายโทรศัพท์พวกนี้โดยที่ผมขาดทุน อีกอย่างผมยังต้องจ่ายเงินเดือนแพงให้พนักงานด้วย ผมแค่ทำตามสิ่งที่รัฐบาลของเราบอก ซึ่งก็คือจ่ายเงินตามผลงานของพนักงาน” เฝิงหยู่เริ่มประจบสอพลอ
“ตามผลงานงั้นหรอ? คุณทำอะไรไปบ้าง?” ผู้อำนวยการฝางจงใจถาม
“ผมเป็นคนเสนอไอเดียนี้เอง และสิทธิบัตรการออกแบบก็เป็นของผม ฟังก์ชันส่วนใหญ่ในโทรศัพท์เครื่องนี้ก็คือผมที่เป็นคนแนะนำเอง ที่สำคัญที่สุดคือผมจ่ายเงินสำหรับการพัฒนาสินค้านี้ เงินของผมไม่ได้งอกขึ้นมาเองได้นะครับ ผมยังบริจาคเงินจำนวนมากด้วย ไหนลองบอกชื่อคนที่บริจาคเงินมากกว่าผมให้ฟังหน่อยสิครับ”
เฝิงหยู่บ่น
เมื่อพูดถึงเรื่องการบริจาค ผู้อำนวยการฝางถามอย่างสงสัย “ผมได้ยินมาว่าคุณบริจาคเงินจำนวนมากในปีนี้ที่จังหวัดหลงเจียงและพื้นที่ใกล้ทะเลสาบ เงินบริจาคทั้งหมดสำหรับเอาไว้สร้างเขื่อนและเสริมความแข็งแกร่งให้ริมฝั่งแม่น้ำ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าครับ? คุณอยากให้ผู้คนสร้างรูปปั้นเพื่อยกย่องคุณงั้นหรอ?”
“ผู้อำนวยการฝางครับ ผมทำการกุศลแล้วมันผิดตรงไหนหรอครับ? รัฐบาลไม่อนุญาตให้ทำหรอ? งั้นต่อไปผมเลิกบริจาคเงินแล้วก็ได้” เฝิงหยู่ ‘ขู่’ ผู้อำนวยการฝาง
“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่คุณกำลังขู่ผมหรอ? พวกผู้นำไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงทำแบบนี้ คุณทำตัวเหมือนว่าคุณชอบหาเงิน แต่คุณก็บริจาคมากกว่าคนอื่น คุณกำลังทำธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่ต้องการ “ความคุ้มครอง” ใดๆ จากรัฐบาล คุณช่วยบอกผมทีได้มั้ยว่าคุณต้องการอะไร?” ผู้อำนวยการฝางถาม
ผู้นำทุกคนในรัฐบาลกลางต่างสงสัยเกี่ยวกับแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังการบริจาคของเฝิงหยู่
เฝิงหยู่ยักไหล่ “ง่ายมากเลยครับ…คือผมใช้เงินไม่หมด!”
ผู้อำนวยการฝาง “ ……”
ผู้อำนวยการฝางไปต่อไม่ถูกเมื่อเจอเหตุผลที่อวดดีและตรงไปตรงมาแบบนี้ รัฐบาลกลางรู้ดีอยู่แล้วว่าเฝิงหยู่ เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีนและทรัพย์สินส่วนตัวของเขาก็มีมากกว่ารัฐวิสาหกิจหลายแห่ง เขามีเงินมากเกินกว่าที่จะใช้จ่ายได้หมด
นี่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับจีน แต่นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เฝิงหยู่บริจาคเงินทั้งหมดนั้นจริงๆ หรอ?
ไม่เป็นไร ตราบใดที่เฝิงหยู่ยังทำประโยชน์ให้กับประเทศ ใครจะไปสนใจว่าเขาคิดอย่างไร
“เฝิงหยู่ คุณคิดอย่างไรกับการพัฒนาด้านโทรคมนาคมของประเทศเรา บริษัทไอว่า อิเล็กทรอนิกส์ของคุณถือเป็นบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำในประเทศจีนและพวกคุณยังพัฒนาโทรศัพท์มือถือเองด้วย อย่าลืมช่วยเหลือเพื่อนชาวจีนของคุณด้วยล่ะ”
เฝิงหยู่มองหน้าผู้อำนวยการฝาง พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? ตอนที่ผมผลิตเพจเจอร์ กระทรวงต่างๆ ได้มาเยี่ยมชมโรงงานผม และรัฐวิสาหกิจต่างๆ ก็เริ่มผลิตเพจเจอร์บ้างหลังจากการเยี่ยมชมครั้งนั้น
ตอนนี้ผมกำลังผลิตโทรศัพท์มือถือและพวกคุณอยากจะเอาเปรียบผมอีกแล้วงั้นหรอ?
ผมสามารถให้สิทธิบัตรที่ล้าสมัยทั้งหมดแก่คุณได้หลังจากที่เราพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับโทรศัพท์มือถือของเราสำเร็จแล้ว แต่ถ้าคุณอยากได้เทคโนโลยีของเราตอนนี้ บอกเลยว่าไม่มีทาง!
“ช่วยชาวจีนงั้นหรอ? ผู้อำนวยการฝางครับ คุณล้อผมเล่นหรือเปล่า? การวิจัยทางเทคโนโลยีของประเทศเราก้าวหน้ากว่า ไอว่า อิเล็กทรอนิกส์ อีก พวกคุณมีนักวิทยาศาสตร์ตั้งหลายคนและทุกคนก็ได้รับเงินเดือนและสวัสดิการสูงมาก พวกเขายังต้องการความช่วยเหลือจากเราอีกหรอครับ? ผู้ผลิตสินค้าโทรคมนาคมของรัฐก็โชคดีที่ตามกระแสทัน แต่ด้วยการมองการณ์ไกลของพวกเขา ผมกล้าพูดได้เลยว่าบริษัทพวกนั้นจะต้องล้าสมัยภายใน 5 ปี!” เฝิงหยู่ยิ้มเยาะ
ผู้อำนวยการฝางถาม “ทำไมหรอ? บริษัทพวกนี้กำลังไปได้สวยเลยนะกับเพจเจอร์ของพวกเขาและจะทำกำไรได้มากขึ้นอีกหากพวกเขาผลิตโทรศัพท์มือถือได้ แม้ว่าพวกเขาจะเดินตามรอยเท้าของคุณ แต่ก็ไม่น่าจะถอยหลังลงคลองนะ”
ให้ตายสิ! ตามรอยเท้าเรางั้นหรอ? หน้าด้านมาก! พวกคุณกำลังทำตามกระแสและเลียนแบบคนอื่นอย่างไร้ยางอายต่างหาก!
เราผลิตเพจเจอร์ พอคุณทำตามบ้าง เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมไม่ได้ว่าอะไรพวกคุณเลยที่มาเลียนแบบการออกแบบวงจรภายในและรูปลักษณ์ภายนอกของเพจเจอร์เราเพราะเราต้องการส่วนแบ่งการตลาดจากโมโตโรล่า แต่พวกผู้นำรัฐวิสาหกิจกลับคิดว่าตัวเองสามารถผลิตเพจเจอร์ต่อไปได้อีก 20 ปี!
ภายใน 3 ปีเพจเจอร์จะถึงจุดตกต่ำและ 5 ปีต่อมาจะไม่มีการใช้เพจเจอร์อีกต่อไป เทคโนโลยีมีการพัฒนาเร็วเกินกว่าที่ผู้นำยุคเก่าจะจินตนาการได้
เฝิงหยู่รู้ว่ากว่าผู้นำพวกนั้นจะคิดได้ ก็คงสายเกินไปแล้ว โทรศัพท์มือถือแตกต่างจากเพจเจอร์ ไม่สามารถมาลอกเลียนแบบสุ่มสี่สุ่มห้าได้
บริษัทพวกนั้นมีพนักงานขายมากกว่านักวิจัยถึง 100 เท่าและพวกเขากล้าที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์งั้นหรอ? อืม … บางทีพวกเขาคงไม่รู้จะเอาเงินไปใช้จ่ายอะไรมั้ง
“เพจเจอร์จะล้าสมัยภายใน 5 ปี! โทรศัพท์มือถือจะเป็นอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมทั่วไปในอนาคต นี่คือการคาดการณ์ของผม ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเชื่อผมหรือเปล่า หากรัฐบาลยังคงให้สิทธิ์การเข้าถึงเครือข่ายแก่ผู้ผลิตเพจเจอร์พวกนั้นอยู่ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบเมื่อเกิดปัญหาขึ้น!”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด