Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น ตอนที่ 738

อ่านนิยายจีนเรื่อง Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น ตอนที่ 738 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

EG บทที่ 738 กลยุทธ์ที่ดี
 
กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉาง ได้รับการจัดตั้งขึ้นและเริ่มดำเนินการแล้ว ก่อนอื่นพวกเขาจะต้องจัดการปัญหาในการยอมให้ฟาร์มของรัฐพวกนั้นเข้าลงทุนในบริษัทนี้ มีฟาร์มของรัฐมากกว่า 100 แห่งและพื้นที่ที่ดินของทุกฟาร์มและจำนวนประชากรมีความแตกต่างกัน
 
มีฟาร์มขนาดเล็กมากเกินไปและกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ของตัวเอง หน่วยงานของรัฐที่ดูแลอยู่จะจัดตั้งบริษัทของตัวเอง แบบนี้บริษัทที่ตั้งขึ้นโดยสำนักงานกระทรวงการเกษตรทั้ง 9 แห่งจะกลายเป็น บริษัทย่อยของกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉาง และหลังจากให้ฟาร์มที่พวกเขาเป็นเจ้าของเองลงทุนในบริษัท
 
ในระหว่างการประเมินมูลค่า ฟาร์มของรัฐมีมูลค่าต่ำมากและลดสัดส่วนของหุ้นที่กระทรวงการเกษตรอาจเป็นเจ้าของได้
 
กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางยังไม่สามารถหาป่าตามที่ต้องการได้ นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการก่อตั้งบริษัทการป่าไม้ที่รัฐเป็นเจ้าของขึ้นในจังหวัดหลงเจียง รัฐบาลระดับจังหวัดยังรู้เกี่ยวกับบริษัทนี้ แต่พวกเขาต้องการการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางเพื่อเข้าซื้อกิจการของบริษัทนี้
 
แต่สำนักงานกิจการป่าไม้แห่งรัฐไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะนี้อย่างมาก กลุ่มบริษัทการป่าไม้หลงเจียงเป็น บริษัททดสอบนำร่องแห่งแรกของจีนในอุตสาหกรรมนี้และทำได้ดีมาก บริษัทนี้จะไปควบรวมกับพวกคุณได้ยังไง?
 
ในข้อเสนอของซวี่ฉางโหย่ว ได้กล่าวถึงแผนการพัฒนาสำหรับอุตสาหกรรมป่าไม้ กลุ่มบริษัทการป่าไม้หลงเจียงแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดหลงเจียง ผู้นำจากสำนักงานกิจการป่าไม้แห่งรัฐรู้สึกว่าพวกเขาสามารถดำเนินการตามแผนของซวี่ฉางโหย่วได้เอง สุดท้ายแล้วพวกเขาจะยังคงต้องจ่ายภาษีของรัฐบาลระดับจังหวัดอยู่ดี
 
ในข้อเสนอของคุณ คุณพูดถึงข้อดีของการควบรวมกิจการและการมีฝ่ายบริหารเพียงแค่หนึ่งชุด แต่เราสามารถร่วมมือกันได้ กลุ่มบริษัทการป่าไม้หลงเจียงของเราสามารถร่วมมือกับกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉาง เรากำลังพัฒนาวัสดุก่อสร้าง การสร้างแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์อาหารป่า สมุนไพร การเพาะปลูก และอื่นๆ ตอนนี้ เราไม่ต้องการให้จังหวัดหลงเจียงเข้ามาแทรกแซงการดำเนินงานของเรา
 
การจัดตั้งกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางทำให้รัฐบาลจังหลัดหลงเจียงได้รับประโยชน์มากมาย พวกเขาได้รับเงินทุนจากรัฐบาลกลางและควบคุมฟาร์มของรัฐ กลุ่มบริษัทการป่าไม้หลงเจียงdHได้รับประโยชน์จากกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางเช่นกัน
 
รัฐบาลจังหวัดหลงเจียงต้องการขยายอำนาจไปยังกลุ่มบริษัทการป่าไม้หลงเจียง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ซวี่ฉางโหย่วได้รับการสนับสนุนจากผู้นำระดับสูงบางคน เขาได้รับอนุญาตให้ร่วมมือกับกลุ่มบริษัทการป่าไม้หลงเจียงและมีอำนาจในการตัดสินใจสูงสุดในเรื่องเกี่ยวกับความร่วมมือ
 
การที่จะทำตามแผนนี้ต้องใช้เวลานาน แต่โชคดีที่รัฐบาลระดับจังหวัดมีพนักงานที่มีความสามารถจำนวนมาก พวกเขาสามารถกำหนดขอบเขตหลักของข้อเสนอนี้ได้ พวกเขาคาดการณ์ว่าจะขาดทุนบ้างในปีนี้ แต่ตอนนี้เรื่องที่สำคัญกว่าสำหรับพวกเขาคือการจัดตั้งค่าแบรนด์ย่อย
 
ทุกคนรู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ธัญพืชและเนื้อสัตว์สามารถใช้ยี่ห้อเป่ยต้าฉางได้ เหล้าขาวยี่ห้อเป่ยต้าฉางก็ถูกควบรวมเข้ากับกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางด้วย โรงงานเหล้าขาวขนาดเล็กทั้งหมดก็ถูกเข้าซื้อกิจการเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อมุ่งเน้นและพัฒนาแบรนด์เดียว
 
เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลระดับจังหวัดพูดคุยหารือกันและรู้สึกว่ายี่ห้อเป่ยต้าฉางน่าจะรวมพวกผลิตภัณฑ์เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อหมู สัตว์ปีก แป้ง แป้ง เหล้าขาว และอื่นๆ เข้าไปด้วย
 
ยังมีแบรนด์สินค้าเกษตรจำนวนมากในจังหวัด ซึ่งรวมถึงเต้าเจี้ยวยี่ห้อเป่า ข้าวอู๋ฉาง และอื่นๆ
 
แต่มีความคิดเห็นต่างกันสำหรับเรื่องน้ำตาลและน้ำมันถั่วเหลือง
 
ธุรกิจในท้องถิ่นต่างต้องการให้แบรนด์ของพวกเขาได้รับเลือกจากกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉาง พวกเขาต้องการกำจัดแบรนด์อื่นและให้ตัวเองกลายเป็นแบรนด์เดียวที่เหลืออยู่ แต่แบรนด์พวกนี้ยังไม่มีชื่อเสียงเลย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์ที่ไม่มีคนรู้จักแม้แต่ในจังหวัดหลงเจียงเองก็ตาม อย่าว่าแต่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเลย มีเพียงผู้บริโภคบางรายเท่านั้นที่ได้ยินแบรนด์ของพวกเขาในเมืองท้องถิ่น
 
แบรนด์น้ำมันถั่วเหลืองและน้ำตาลที่โด่งดังที่สุดในจังหวัดหลงเจียงและทั้งประเทศคือแบรนด์ไหน? ก็คือแบรนด์ไท่หัวนั่นเอง!
 
เป็นเพราะแบรนด์ไท่หัวเลยทำให้ผู้บริโภคไม่รู้จักแบรนด์ท้องถิ่นอื่นๆ มันเป็นเพราะว่าก่อนที่แบรนด์ไท่หัวจะปรากฏตัวขึ้น บริษัทพวกนี้ไม่มีแนวคิดในการสร้างแบรนด์ สำหรับพวกเขาแล้ว ผลิตภัณฑ์พวกนี้เป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานและผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องเลือกแบรนด์
 
หลังจากที่น้ำมันปรุงอาหารพรีเมี่ยมไท่หัวและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ไท่หัววางจำหน่ายในตลาด บริษัท พวกนี้ก็ได้เห็นผลลัพธ์ของการสร้างแบรนด์และเริ่มพัฒนาแบรนด์ของตนเอง แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
 
ซวี่ฉางโหย่วไม่พอใจกับแบรนด์พวกนี้เลย ไม่มีใครเคยได้ยินยี่ห้อพวกนี้ และอะไรคือความแตกต่างระหว่างการใช้แบรนด์พวกนี้กับการสร้างแบรนด์ใหม่ พวกเขาอาจจะเอาแบรนด์เป่ยต้าฉางไปใช้เป็นแบรนด์ของตัวเองก็ได้!
 
แต่มีคนคัดค้านข้อเสนอแนะนี้ แบรนด์เป่ยต้าฉางมีผลิตภัณฑ์มากเกินไป มีทั้งเนื้อสัตว์ แป้ง แอลกอฮอล์ และถ้าพวกเขาเพิ่มน้ำตาลและน้ำมันปรุงอาหารเข้าไปอีก ก็จะมีความหลากหลายมากเกินไป นอกจากนี้ ยังมีอีกปัญหาหนึ่งก็คือพวกเขาจะแข่งขันกับแบรนด์ไท่หัว!
 
แบรนด์ไท่หัวยังขายน้ำมันปรุงอาหาร น้ำตาล เนื้อหมู และผลิตภัณฑ์อาหารที่เกี่ยวข้องกับหมูด้วย พวกเขาจะขายผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันและจะต้องแข่งขันกับไท่หัว พวกเขาจะต้องปวดหัวอย่างมากว่าจะแข่งขันกับ บริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวได้อย่างไร
 
บริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวได้จัดตั้งสำนักงานสาขาใน 3 จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้วและบางจังหวัดทางภาคใต้ ช่องทางการจัดจำหน่ายและการสร้างแบรนด์ของพวกเขานำหน้ากลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางไปไกลมาก แล้วพวกเขาจะเอาชนะบริษัทนี้ได้ยังไง?
 
ซวี่ฉางโหย่วขมวดคิ้ว ทำไมคุณถึงไม่พูดถึงเรื่องนี้ก่อนที่จะจัดตั้งกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉาง? มาพูดตอนนี้แล้วเราจะแก้ไขปัญหานี้ยังไง?
 
ไม่มีใครสามารถตอบคำถามของซวี่ฉางโหย่วได้ พวกเขาต้องแข่งขันกับบริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวจริงๆ หรอ? ดูแค่ซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวสิ แล้วคุณจะรู้ว่าแบรนด์ไท่หัวมีชื่อเสียงแค่ไหน
 
พวกเขาสามารถเอาชนะแบรนด์ดังแบบนี้ได้หรอ? ทุกคนรู้ว่าเจ้าของบริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัทเครื่องจักรเมืองปิง และเขาก็เป็นพ่อของเฝิงหยู่ด้วย
 
เมื่อทุกคนนึกถึงเฝิงหยู่ พวกเขารู้ว่าพวกเขาจะต้องแพ้แน่นอน ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเฝิงหยู่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า! พวกเขาต้องถูกโจมตีจนพ่ายแพ้แน่นอน
 
น่าเสียดายที่จางรุ่ยเฉียงไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดๆ ในกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉาง หากจางรุ่ยเฉียงสามารถเป็นตัวแทนของกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางเพื่อไปเจรจากับเฝิงหยู่ได้ ปัญหานี้ก็อาจจะได้รับการแก้ไข ทุกคนในรัฐบาลระดับจังหวัดรู้ว่าจางรุ่ยเฉียงและเฝิงหยู่สนิทกัน เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับแต่อย่างใด
 
หากพวกเขาทำให้จางรุ่ยเฉียงไปเจรจากับเฝิงหยู่ได้แม้ว่าเขาจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดๆ ในกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางก็ตาม ก็จะแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไร้ประโยชน์มากขนาดไหน
 
ตอนนี้มีบางคนค่อยๆ ยกมือ
 
“คุณมีข้อเสนอแนะหรอ?” ซวี่ฉางโหย่วเปิดรับฟังข้อเสนอแนะทั้งหมด
 
“เราร่วมมือกับบริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวไม่ได้หรอครับ?”
 
“ร่วมมือหรอ? เราจะไปร่วมมือกับพวกเขาได้ยังไง? เหมือนบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงงั้นหรอ? หลังจากที่เราร่วมมือกับพวกเขา พวกเขาก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นหลัก” มีคนคัดค้านข้อเสนอแนะนี้ทันที
 
ความรู้สึกนี้เหมือนกับการส่งลูกไปโรงเรียนและลูกก็เปลี่ยนไปใช้นามสกุลของครู แม้ว่าเด็กจะได้รับการศึกษาและสามารถหาเงินได้ เด็กคนนี้ก็ไม่ได้เป็นลูกของพวกเขาอีกต่อไป!
 
“มันจะเป็นไปได้ยังไง?! กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางของเรามีมูลค่าเท่าไหร่และบริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวมีมูลค่าเท่าไหร่กัน? อีกอย่าง ผมบอกว่าเราจะร่วมมือกับพวกเขา ไม่ได้หมายความว่าจะควบรวมกิจการกับพวกเขาสักหน่อย มันก็เหมือนกับวิธีที่เราทำงานร่วมกับกลุ่มบริษัทการป่าไม้หลงเจียงนั่นแหละ”
 
“อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมซิ” ซวี่ฉางโหย่วเริ่มสนใจ
 
“เราสามารถร่วมมือกันเพื่อพัฒนาแบรนด์ได้ น้ำตาลและน้ำมันปรุงอาหารแบรนด์ไท่หัวมีชื่อเสียงใช่มั้ยครับ? งั้นน้ำตาลและน้ำมันปรุงอาหารของเราก็สามารถขายภายใต้แบรนด์ของพวกเขาได้ เดี๋ยวก่อนนะครับ ผมขอพูดให้จบก่อน เราสามารถเพิ่มแบรนด์เป่ยต้าฉางของเราไว้อยู่เหนือแบรนด์ไท่หัวบนบรรจุภัณฑ์ได้! แบบนี้ผู้บริโภคจะคิดว่าแบรนด์ไท่หัวถูกกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางเข้าซื้อกิจการแล้ว ผู้บริโภคจะนึกถึงกลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉางทุกครั้งที่พวกเขาซื้อผลิตภัณฑ์ของไท่หัว!”
 
ทุกคนในห้องประชุมปรบมือ กลยุทธ์นี้อาจดูเหมือนชั่วร้าย แต่ถ้าพวกเขาประสบความสำเร็จ ก็จะสามารถแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ได้!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด