Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น ตอนที่ 651

อ่านนิยายจีนเรื่อง Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น ตอนที่ 651 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

EG บทที่ 651 เล่ห์เหลี่ยม 3
 
“เลานจ์เล็กๆที่ว่าใช่เลานจ์วิดีโอหรือเปล่า?”
หัวหน้าหลี่หยั่งเชิงถาม ในยุคนี้คนที่ทำงานในเลานจ์วิดีโอส่วนใหญ่จะไม่ได้มือสะอาดอย่างที่คิด พวกเขาอาจไม่ได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงแต่ส่วนใหญ่จะเข้าไปข้องเกี่ยวกับสื่อลามก!
สิ่งนี้สามารถพิจารณาเป็นความผิดและสามารถเรียกเก็บเงินในชั้นศาลได้ หัวหน้าหลี่มั่นใจว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน
“ใช่ครับ ผมทำงานอยู่ที่เลานจ์วีดีโอคือผมเป็นเจ้าของกิจการนะครับ”
เพราะเฉียนจิงคนนี้กล้าที่บอกว่าตนเองมีธุรกิจเลานจ์วิดีโอ เขาก็ควรใช้โอกาสนี้กำจัดสิ่งผิดกฎหมายพวกนั้นออกไปเช่นกัน
“เฉียนจิง นายมีพวกหนังอย่างว่าในร้านของนายหรือเปล่า?”
“ไม่มีแน่นอนครับ! เลานจ์วิดีโอของผมมีแค่แผ่นเพลงและแผ่นหนังทั่วๆไปเท่านั้นและแผ่นในร้านของผมก็เป็นของแท้ทั้งหมด”
เฉียนจิงตอบอย่างรวดเร็ว
“ดี แล้วนายเข้าคุกไปกี่ครั้งแล้ว?”
หัวหน้าหลี่ถามต่อ
“6 ครั้งครับ! ครั้งล่าสุดก็ผ่านมาหลายปีแล้ว อย่างที่ผมบอกไปว่าผมกลับตัวแล้วจริงๆ”
6 ครั้ง! นายคงถูกตราหน้าว่าเป็นคนเลวแล้วล่ะ? มีการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้กระทำความผิดว่าสามารถกลับตัวและเปลี่ยนชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นได้หรือไม่? โอกาสที่พวกเขาจะไม่กลับไปวงจรเดิมน้อยกว่า 1% ด้วยซ้ำและกลายเป็นว่าอาชญากรรมที่พวกเขาก่อจะรุนแรงมากขึ้นหลังจากการปล่อยตัวในแต่ละครั้ง หัวหน้าหลี่ไม่คิดจะถามอะไรอีกแต่เป็นเฝิงหยู่ที่ถามขึ้น
“ธุรกิจเลานจ์วิดีโอของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?”
“มันค่อนข้างดีนะครับ มีคนเข้ามาใช้บริการทุกวันและธุรกิจให้เช่าแผ่นวิซีดีก็ไปได้สวย”
แม้ว่าเฉียนจิงจะไม่รู้ว่าชายคนนี้เป็นใครแต่การที่เขานั่งอยู่ระดับเดียวกับหัวหน้าหลี่ก็แสดงว่าเขาไม่ใช่ธรรมดา
“คุณคิดค่าเช่าแผ่นวีซีดีเท่าไหร่?และค่าบริการเวลาดูหนังหรือฟังเพลงในแต่ละครั้งมีราคาเท่าไหร่? มีแผ่นวีซีดีในเลานจ์วีดีโอของคุณเยอะมั้ย? มีดิสโก้หรือไนต์คลับอยู่ใกล้ๆกับเลานจ์วิดีโอของคุณหรือเปล่า?พวกเขาใช้เครื่องเล่นวีซีดีกันหรือไม่? อ้อ!แล้วเครื่องเล่นวีซีดีที่คุณใช้เป็นยี่ห้ออะไร?”
เฝิงหยู่ยิงคำถามออกไปเป็นชุดและทุกคนที่อยู่ในนั้นถึงกลับตะลึงไปตามๆกัน ผู้จัดการเฝิงกำลังทำอะไรอยู่? หัวหน้าหลี่ก็สับสนเช่นกัน ทำไมจู่ๆเฝิงหยู่ก็ขัดจังหวะการสอบปากคำของเขาด้วยคำถามแปลกๆพวกนั้น?
มันเป็นเรื่องยากสำหรับเฝิงหยู่ที่จะมีโอกาสเจอคนทำงานในเลานจ์วิดีโอ เขาต้องการเข้าใจความต้องการของท้องตลาดให้มากที่สุด วินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์ถือเป็นลูกของเขาและเขาได้ใช้ความพยายามทั้งหมดทุ่มเทให้กับบริษัทนี้ เขาจะผลักดันให้บริษัทนี้เป็นเจ้าแรกของจีนที่จะไปยืนอยู่หัวตารางและอยู่เหนือบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด เฝิงหยู่ไม่ต้องการให้มีอะไรผิดพลาด
“ถ้าเป็นค่าเช่าวีซีดีเราคิดราคาวันละ 20 เซนต์ต่อหนึ่งแผ่น ส่วนค่าบริการดูหนังเราก็คิดราคา 20 เซนต์เช่นกัน ซึ่งเลานจ์วิดีโอของเราทั้งหมดเรียกเก็บในราคาเดียวกัน เลานจ์วิดีโอของเรามีแผ่นวีซีดีมากกว่า 1,000 แผ่นคือผมไม่ค่อยมั่นใจในตัวเลขที่แน่นอนเท่าไหร่นะครับ? อ้อ!มีบาร์อยู่ใกล้ๆร้านของเราและพวกเขาก็ใช้เครื่องเล่นวีซีดีเหมือนกัน ธุรกิจของพวกเขาก็ไปได้สวยเลยล่ะครับ ร้านของผมใช้เครื่องเล่นวีซีดียี่ห้อวินด์แอนด์เรนครับเพราะมันเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก”
เฉียนจิงรู้สึกงงว่าทำไมเฝิงหยู่จึงถามคำถามพวกนี้? แต่เขาก็เลือกตอบอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน เขารู้สึกว่าถ้าเขาตอบอะไรด้วยความบริสุทธิ์ใจ คนพวกนี้ก็จะปล่อยเขาและคนของเขาไป
ราคาของมันถูกกว่าตั๋วหนังและยังมีให้เลือกหลากหลาย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมภาพยนตร์ของจีนจึงไม่สามารถสร้างรายได้ในโรงภาพยนตร์ได้ มันไม่ใช่เพราะภาพยนตร์เหล่านั้นไม่มีคุณภาพแต่เป็นเพราะเลานจ์วิดีโอที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีน
มีไนต์คลับและบาร์ขนาดเล็กผุดขึ้นมาเรื่อยๆ นั่นหมายความว่ายอดขายวีซีดีจะเพิ่มขึ้นในอนาคต
“พวกคุณมีกันทั้งหมดกี่คน?”
เฝิงหยู่ถามขึ้นอีกครั้ง
หัวหน้าหลี่เริ่มตามความคิดของเฝิงหยู่ไม่ทัน คำถามของเขาก่อนหน้านี้คืออะไรและทำไม?แล้วจู่ๆเขาก็กลับมาเปลี่ยนหัวข้ออีกครั้ง? คนเดียวในห้องที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นคงมีเพียงผู้จัดการจ้าวเท่านั้นเพราะเขารู้ว่าเฝิงหยู่เป็นเจ้าของเครื่องเล่นวีซีดีวินด์แอนด์เรน
เฉียนจิงไม่คุ้นกับวิธีการถามของเฝิงหยู่แต่เขาก็ยังสามารถตอบได้เพราะเขาคิดไว้อยู่แล้วว่าจะถูกถามด้วยคำถามนี้
“เรามีกันแค่ 3 คนเท่านั้นครับ มีผม ต้าจวงและหยิงซี เรา 3 คนกำลังดูแลกิจการเลานจ์วิดีโอร่วมกัน ผมไม่รู้จริงๆนะครับว่าหยิงซีจะมาขโมยของในซุปเปอร์มาร์เก็ตของคุณ ผมเสียใจมากเลยครับแล้วผมจะเกลี้ยกล่อมให้หยิงซีรับผิดในโทษที่เธอก่อขึ้น”
“ดูเหมือนธุรกิจเลานจ์วิดีโอของคุณจะทำเงินได้มากเลยสินะ ดูสิ!คุณสามารถซื้อโทรศัพท์มือถือมาใช้ได้เลย”
เฝิงหยู่ยิ้มเย็น
เจ้าของเลานจ์วิดีโอสามารถซื้อโทรศัพท์มือถือได้หรือไม่? ถึงแม้ราคาโทรศัพท์มือถือจะลดลงมากแต่ก็ยังมีราคาถึง 20,000 หยวน มันเทียบได้กับเงินเดือนของคนทั่วไปถึง 2 ปีด้วยซ้ำ!
หัวหน้าหลี่ตระหนักได้ในทันที
“หากมูลค่าของที่ขโมยมามากกว่า 1,000 หยวน ค่าปรับก็ควรอยู่ที่ 5,000 หยวนและถูกจำคุกอย่างน้อย 15 วัน นายเองก็เตรียมตัวช่วยเธอจ่ายค่าปรับแล้วกัน”
5,000 หยวน!
เฉียนจิงตกตะลึง ทำไมราคาถึงสูงขนาดนั้น! ในอดีตค่าปรับมีราคาเพียง 200-300 หยวนเท่านั้น แม้แต่ราคา 200-300 หยวนก็ยังถือว่าสูงเกินไปด้วยซ้ำ! หัวขโมยบางรายไม่สามารถขโมยเงินได้จำนวนมากขนาดนั้นในหนึ่งสัปดาห์ได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมลูกน้องของเขาถึงเลือกโดยจับขังแทนที่จะยอมเสียค่าปรับให้กับตำรวจ
เฉียนจิงมองไปที่โทรศัพท์มือของตนเอง มันไม่ได้ถูกซื้อมาแต่เขาขโมยมันมาต่างหาก แม้ว่ามันยากที่จะเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์แต่มันก็ยังพอที่จะทำได้ คนอย่างเขาไม่ยอมเสียเงินจำนวนมากเพื่อซื้อโทรศัพท์เครื่องเดียวหรอกนะ?!
“เป็นอะไรไป? นายไม่มีเงิน 5,000หยวนหรือไง? โทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นก็ถูกขโมยมาสินะ?อ้อ!ถ้านายซื้อมันมาจริงก็ต้องมีใบเสร็จใช่มั้ย? หากนายขโมยของที่มีมูลค่ามากกว่า 10,000หยวน การลงโทษก็จะหนักขึ้น!”
หัวหน้าหลี่เคาะไปที่โต๊ะเป็นจังหวะช้าๆ
“นี่มันเป็นโทรศัพท์มือสอง มันไม่มีใบเสร็จหรอกครับแล้วผมก็ไม่มีเงินถึงขนาด 5,000หยวนหรอก! ถ้าเธอทำผิดเธอก็สมควรได้รับโทษตามที่เธอก่อไว้ ผมไม่รบกวนเวลาของพวกคุณแล้วล่ะครับ ผมขอกลับไปดูร้านก่อนดีกว่า”
เฉียนจิงพยายามที่จะออกไปจากห้องให้ได้
“นายจะออกไปงั้นหรือ? รอก่อน! หลิวเทียนเข้ามาได้!”
หัวหน้าหลี่ตะโกนเรียกคนที่อยู่ข้างนอกเข้ามา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งจะเข้ามาในห้องและโค้งคำนับหัวหน้าหลี่
“พวกเราพร้อมแล้วครับท่าน!”
“ดี! ปล่อยเจ้าร่างใหญ่นั้นไปแล้วสะกดรอยตามอย่าให้คลาดสายตา พวกนายห้ามปล่อยให้ผู้สมรู้ร่วมคิดของแก๊งค์นี้หนีรอดไปได้! ส่งคนไปกับเสี่ยวซูและผู้หญิงคนนั้นเพื่อตามของที่ถูกขโมยไปกลับคืนมาและจับกุมคนที่รับซื้อของที่ขโมยกลับมาด้วย!”
“ครับท่าน!”
ตาของเฉียนจิงเบิกกว้างด้วยความตกใจ นี่มันหมายความว่าอย่างไร? พวกเขาต้องการจับกุมพวกเราทั้งหมดอย่างนั้นหรือ?
“ท่านครับ! ผมทำอะไรผิด? ทำไมถึงต้องจับผมด้วย?”
“นายควรรู้ตัวเองนะว่าตัวเองทำอะไรผิด? ผู้หญิงคนนั้นสารภาพทั้งหมดแล้วและเธอยังบอกความผิดที่นายทำเอาไว้แล้วด้วย! นี่นายคิดว่าฉันจะเชื่อคำโกหกของนายงั้นหรือ? หากไม่ใช่เพราะจะทำให้ลูกน้องของนายตื่นตระหนก ฉันก็คงพานายออกทางประตูหน้าแล้วล่ะ!”
หัวหน้าหลี่รู้สึกหัวเสีย เขาเป็นถึงนายตำรวจใหญ่แต่ต้องออกทางประตูหลังอย่างนี้นะหรือ?!
ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับต้าจวงเพราะเขาจะเป็นคนพาตำรวจไปทลายแก๊งค์นี้จนถึงรังของพวกเขาและจับกุมพวกเขาทั้งหมด!
เฉียนจิงตระหนักได้ว่าตัวเองถูกหลอก ตัวเขาถูกจับแล้ว ส่วนต้าจวงที่ถูกปล่อยตัวไปก็จะไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรต่อ เขาจะเริ่มมองหาสมาชิกคนอื่นๆในกลุ่มเพื่อขอความช่วยเหลือจากพวกเขา
และด้วยวิธีนี้ตำรวจจะสามารถจับกุมทุกคนได้!
ส่วนที่น่าโมโหที่สุดคือการที่หยิงซีทรยศเขา เธอเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเขาทำอะไรไปบ้างและรู้ว่าของที่ขโมยมาซ่อนอยู่ที่ไหน ถ้าเฉียนจิงรู้ว่าหยิงซีจะทรยศ เขาจะไม่มีทางบอกความลับแก่เธออย่างแน่นอน
แต่นั่นล่ะ! สิ่งที่เขาซ่อนเอาไว้มีมูลค่าที่สูงมาก เขาจะต้องติดคุกนานหลายปี อาชญากรรมใดที่มีการทำงานเป็นแก๊งค์เป็นองค์กรจะถูกลงโทษอย่างหนัก
เฉียนจิงคิดเพียงแค่ว่าตนจะมาเจรจากับเจ้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตและก็จะไม่กลับมาขโมยของในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้อีก เขาคิดว่าตนเองสามารถพาคนของตนกลับไปได้และบางทีซุปเปอร์มาร์เก็ตอาจยัดเงินให้พวกเขาเพื่อไม่ให้พวกเขากลับมาที่นี่อีก
แต่มันกลับกลายเป็นแบบนี้
.
.
2 ชั่วโมงต่อมา หัวหน้าหลี่จ้องไปที่เพจเจอร์ซึ่งเหน็บอยู่บนเอวของเขา มีเพียงไม่กี่คำที่ปรากฏอยู่ในนั้น
‘ภารกิจเสร็จสมบูรณ์!’
 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด