Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ภาค 3 ตอนที่ 146 ใครเล่นละคร

อ่านนิยายจีนเรื่อง Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ตอนที่ 146 ใครเล่นละคร 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

คุณหนูจวินหายไปแล้ว 
 
ในค่ายเงียบสงบไปหมด จากนั้นก็วุ่นวายแล้ว 
 
ผู้คุ้มกันและคนของสำนักคุ้มภัยทั้งหมดแห่เข้ามา มองผ่านม่านที่ถูกทึ้งลงมาเข้าไปในกระโจม 
 
ในกระโจมมีแต่หลิ่วเอ๋อร์ยังนอนอยู่บนเสื่อนิ่งไม่ขยับ ไม่มีเงาร่างของคุณหนูจวิน 
 
“ใช่ออกไปเดินเล่นหรือไม่?” ผู้คุ้มกันคนหนึ่งเอ่ย 
 
คำพูดนี้ของเขาหามีความมั่นใจอะไรไม่ 
 
“คุณหนูจวินครั้งไหนเคลื่อนไหวลำพังเองบ้าง? ต่อให้จะเดินเล่นก็ต้องบอกพวกเราก่อนแน่” มีคนเอ่ยแย้งทันที 
 
ใช่แล้ว คุณหนูจวินแต่ไหนแต่ไรไม่ใช่คนที่ทำตามอำเภอใจ ทุกก้าวล้วนขบคิดสมบูรณ์แบบ ไม่มีทางให้ทุกคนตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ 
 
“หลิ่วเอ๋อร์!” เหลยจงเหลียนตะโกน 
 
หลิ่วเอ๋อร์ในกระโจมยังคงนิ่งไม่ขยับ 
 
หรือว่าถูกทำร้ายไปแล้ว? 
 
มีผู้คุ้มกันอยากพุ่งเข้าไป ถูกเหลยจงเหลียนขวางไว้ 
 
เหลยจงเหลียนปลดดาบที่เอวผลักไถลตามพื้นไปด้านในกระโจม ได้ยินเพียงเสียงชิ้งทีหนึ่ง บนพื้นเส้นไหมละเอียดเส้นแล้วเส้นเล่าก็ดีดขึ้นมามัดดาบไว้ 
 
ไม่เพียงถูกมัดไว้ ตัวดาบขาววาววับก็เหมือนตัดหญ้าเขียวบนพื้นขาด พริบตาน้ำสีเขียวหลายเส้นย้อมอยู่ด้านบน 
 
พวกของเหลยจงเหลียนที่ยืนอยู่นอกกระโจมล้วนฉุกคิดได้ 
 
นั่นย่อมไม่มีทางเป็นน้ำหญ้า หากเวลานี้ที่มัดอยู่คือคน น่ากลัวคงล้มลงไปตายแล้ว 
 
พวกเขามองแล้วหนาวจากก้นบึ้งหัวใจ ความหนาวเย็นนี้ประการแรกเพราะกลไกของคุณหนูจวินร้ายกาจ ประการที่สองคุณหนูจวินหายไปแล้ว กลไกนี่ถึงกับยังสมบูรณ์ไม่เสียหาย 
 
หากไม่ใช่คุณหนูจวินเดินออกไปเอง ถ้าอย่างนั้นใยไม่ใช่หมายความว่ากลไกนี่ไม่ได้ผลกับคนที่พาคุณหนูจวินไป? 
 
เป็นคนแบบไหนทำได้เช่นนี้? 
 
“หลิ่วเอ๋อร์!” เหลยจงเหลียนตะโกนอีกครั้ง 
 
บรรดาผู้คุ้มกันล้วนเลียนแบบท่าทางของเขา ลื่นดาบตามพื้นไป ไม่มีกลไกดีดขึ้นมาอีก 
 
กลไกของคุณหนูจวินไม่ใช่สำหรับจัดการศัตรูต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพียงแค่เพื่อเตือน 
 
เหลยจงเหลียนไม่หวั่นกลัวอีก พุ่งเข้าไปในกระโจม หลิ่วเอ๋อร์ที่นอนอยู่บนเสื่อปูพื้นตอนนี้ถึงบิดขี้เกียจพลิกตัว ลืมตามองเห็นบุรุษทั้งหลายพุ่งเข้ามา 
 
หลิ่วเอ๋อร์กรีดร้องทีหนึ่งลุกขึ้นนั่ง 
 
“พวกเจ้าทำอะไร!” นางตะโกนเอ่ย 
 
การเคลื่อนไหวกะทันหันนี้ของนางทำให้พวกเหลยจงเหลียนตกใจสะดุ้งโหยงไปด้วย 
 
ไม่ตายหรือ? 
 
“พวกเจ้าทำอะไรเอะอะจนข้าตื่น?” หลิ่วเอ๋อร์ถลึงตาตะโกน แล้วมองไปด้านข้าง “คุณหนูของข้าถูกเอะอะ..เอ๋? คุณหนูเล่า?” 
 
นางถึงกับสิ่งใดล้วนไม่รู้ 
 
พวกเหลยจงเหลียนในใจยิ่งเย็นเยียบไปหมด กระทั่งการคุกคามสักนิดก็ไม่รู้สึก ทั้งยังนอนหลับสบาย 
 
นี่เป็นผู้ใดทำ? 
 
ความรู้สึกเวลานี้นาทีนี้หวาดผวาเสียยิ่งกว่าตอนนั้นที่อารักขาบิดาของฟางเฉิงอวี่แล้วถูกดักซุ่มสี่ด้านเสียอีก 
 
เวลานั้นอย่างน้อยก็มองเห็นศัตรู แต่ตอนนี้ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นอย่างเงียบเชียบ นี่ไม่ใช่มนุษย์กระทำแล้ว 
 
องครักษ์เสื้อแพรที่ติดตามพวกเขามาตลอดถึงกับร้ายกาจปานนี้เชียวหรือ? 
 
เหลยจงเหลียนมือเดียวชักดาบอีกเล่มหนึ่งจากบนแผ่นหลัง 
 
“หา!” เขากัดฟันตวาด 
 
………………………………………. 
 
ม้าควบเร็วรี่บนทางภูเขา เพราะบนกีบเท้าม้าหุ้มหนังไว้ เสียงจึงไม่ได้กังวานนัก 
 
เลี้ยวผ่านสันเขาเส้นหนึ่ง บุรุษที่นำหน้าพลันรั้งบังเ**ยนม้า กระโดดลงมามองสำรวจรอบด้านครู่หนึ่ง 
 
“ด้านนี้” เขาเอ่ย ชี้ไปทิศทางหนึ่ง 
 
จินสือปามองเส้นทางสายน้อยที่เห็นชัดว่าไม่ใช่ทางหลวงแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเลี้ยวไปถึงที่ใดเส้นนั้น ส่ายศีรษะ 
 
“เหลี่ยมจัดจริงๆ” เขาเอ่ย “เด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่ง เรียนลูกเล่นเหล่านี้มาจากที่ไหน” 
 
พูดจบก็โบกมือ 
 
คนคณะหนึ่งควบม้าตามทางไป เพิ่งอ้อมยอดเขาลูกหนึ่งก็ได้ยินเสียงเอะอะมากด้านหน้า 
 
จินสือปายกมือรั้งบังเ**ยนม้า 
 
“เป็นเสียงคนพวกนั้นของคุณหนูจวิน” บุรุษคนหนึ่งเอ่ย 
 
นี่จะทำอะไรอีก? 
 
เขาสะบัดมือ ทั้งห้าคนลงจากม้ามุดเข้าไปในพงหญ้าเคลื่อนไปข้างหน้า 
 
เหลยจงเหลียนยืนอยู่บนทางภูเขาสีหน้าซีดขาว 
 
หาครึ่งวันแล้ว ไม่ได้อะไรสักอย่าง 
 
ไม่ใช่แค่หาคนไม่พบ ร่องรอยรอยเท้าม้าสักนิดก็ไม่มี รอบด้านสะอาดเกลี้ยงเกลาเหมือนกับสิ่งใดก็ไม่เคยเกิดขึ้น 
 
นี่น่าเหลือเชื่อจริงๆ เหมือนคุณหนูจวินระเหยหายไปในอากาศ 
 
“คุณหนูของข้าล่ะ? คุณหนูของข้าล่ะ?” 
 
เสียงร้องไห้ของหลิ่วเอ๋อร์สะท้อนไปรอบด้าน 
 
“นายท่านเหลย แจ้งทางการกับร้านแลกเงินเถอะ” ผู้คุ้มกันคนหนึ่งสีหน้าซีดขาวเช่นกันเอ่ยขึ้น 
 
อาศัยแค่พวกเขาหมดหนทางแล้ว นอกจากนี้ไม่อาจชักช้าเกินไปได้ 
 
เหลยจงเหลียนพยักหน้า 
 
“ได้แต่เช่นนี้แล้ว โชคดีพวกทหารยังไม่ทันจากไปไกล” เขาว่าพลางก้าวไปข้างหน้า 
 
“พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้…” ผู้คุ้มกันเอ่ย เสียงยังไม่ทันจบก็เห็นเหลยจงเหลียนฉับพลันกระโจนไปยังพุ่มไม้ด้านข้าง 
 
เสียงเช้งดังขึ้นทีหนึ่ง ศาสตราวุธชนปะทะ 
 
บรรดาผู้คุ้มกันกับคนของสำนักคุ้มภัยล้อมเข้ามาทันที มองดูบุรุษห้าคนที่กระโดดออกมาจากในพงหญ้า 
 
ดาบของเหลยจงเหลียนพาดอยู่บนดาบของคนหนึ่งในนั้น สองคนสี่ตาสบกัน 
 
บุรุษผู้นั้นจะลงมือต่อ เหลยจงเหลียนกลับไม่ขยับ 
 
“พวกเจ้าทำไมอยู่ที่นี่?” เขาเอ่ย สีหน้าเหมือนประหลาดใจ 
 
นี่เป็นละครอะไร? 
 
พวกเขาตามพวกเขาอยู่ตลอดรึ พวกเขาไม่ใช่รู้นานแล้วหรือ? 
 
จินสือปายิ้ม 
 
“บังเอิญจริง พวกเราบังเอิญผ่านทางมา” เขาเอ่ย สีหน้าจริงใจทั้งยังสบายๆ 
 
อย่างไรตั้งแต่ออกจากหยางเฉิงมาพวกเขาก็ไม่เคยพบปะกันซึ่งหน้ามาก่อน ใครพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาต้องการจับคนเล่า? 
 
ผู้คุ้มกันและคนของสำนักคุ้มภัยที่ล้อมเข้ามาตรงหน้าสีหน้าระวังทั้งยังโกรธแค้น 
 
เหลยจงเหลียนนิ่งไม่ได้เผยสีหน้าเยาะหยันสักนิดออกมาเพราะคำพูดนี้ 
 
“ปล่อยคน” เขาเพียงแววตาดุร้ายกัดฟันเอ่ยสองคำ 
 
จินสือปาขมวดคิ้ว 
 
“ปล่อยใคร?” เขาเอ่ยถาม “พวกเจ้ากำลังทำอะไร?” 
 
เสียงร้องไห้ของหลิ่วเอ๋อร์นาทีนี้ก็ลอยมาเข้าหูของพวกเขา 
 
จินสือปาสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย บุรุษคนอื่นหลายคนก็สบตากันทีหนึ่ง 
 
“หมายความว่ายังไง?” เขาเอ่ยถาม “คุณหนูจวินเป็นอะไรไปแล้ว?” 
 
พวกเหลยจงเหลียนล้อมพวกเขาอย่างระแวงต่อ 
 
“เลิกแกล้งไม่รู้เรื่อง” เขาเอ่ย พลิกดาบในมือ 
 
องครักษ์เสื้อแพรคนนั้นก็สะบัดดาบอีกครั้งเช่นกัน 
 
เสียงเช้งดังทีหนึ่ง ศาสตราวุธของทั้งสองคนปะทะกันอีกครั้ง 
 
แต่จินสือปาที่อยู่อีกด้านหนึ่งพลันกระโดดออกมาจากพงหญ้า โถมเข้าไปหาหลิ่วเอ๋อร์ที่นั่งร้องไห้อยู่หน้ากระโจม  
 
สถานการณ์สู้กันวุ่นวายทันที แต่ยังคงถูกเขาสองทีสามทีวิ่งไปถึงหน้าร่างหลิ่วเอ๋อร์ 
 
“คุณหนูจวินเล่า?” เขาตวาดถาม 
 
หลิ่วเอ๋อร์ฉับพลันถูกคว้าไว้ส่งเสียงกรีดร้อง แต่ไม่มีหวั่นกลัวสะบัดมือเท้าคว้าถีบสะเปะสะปะ 
 
“พวกเจ้าพาคุณหนูจวินไปไหนแล้ว?” พวกเหลยจงเหลียนตามมาติดๆ ล้อมไว้เช่นกัน 
 
บุรุษสี่คนปกป้องอยู่หน้าร่างจินสือปาแล้ว 
 
เพราะกลัวทำร้ายถูกหลิ่วเอ๋อร์ พวกเหลยจงเหลียนจึงไม่กล้าเข้าไปโจมตี 
 
จินสือปาไม่ได้เค้นถามหลิ่วเอ๋อร์ มองพวกเหลยจงเหลียน ฟังไม่กี่ประโยคนี้ต่อ เขาก็เดาเรื่องอะไรได้แล้ว 
 
กระทั่งคนของตนเองยังหาไม่พบ คนอื่นยิ่งหาไม่พบสินะ? 
 
คุณหนูจวินคนนี้สะบัดทหารยังไม่พบ ยังสะบัดคนของสำนักคุ้มภัยและผู้คุ้มกันของตนเองทิ้งด้วย จะเดินทางลำพังกลับหยางเฉิงหรือ? 
 
“ลูกเล่นของพวกเจ้าแพรวพราวจริงนะ!” เขาแค่นหัวเราะเอ่ย “เล่นเช่นนี้สนุกไหม?” 
 
นี่คือไม่ยอมรับ แสร้งเลอะเลือน? 
 
คิดไม่ถึง องครักษ์เสื้อแพรนี่นอกจากตามรอยใส่ความ ยังเล่นละครเก่งด้วย 
 
“ไม่ต้องมาเล่นละครพรรค์นี้ ข้ารู้ว่าพวกเจ้าทำ” เหลยจงเหลียนกำอาวุธแน่นตวาดขึ้น “ส่งคนมา” 
 
จินสือปามองบนจรดล่างประเมินเขา 
 
มองไม่ออกเลย ผู้คุ้มกันของสำนักคุ้มภัยที่เสียแขนไปข้างหนึ่งคนนี้เล่นละครสมจริงเอาการนะ 
 
สองฝ่ายตกสู่การประจันหน้าที่แปลกประหลาด 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด