Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ ตอนที่ 329

อ่านนิยายจีนเรื่อง Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ ตอนที่ 329 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

” ไร้สาระอันใดกัน ?!  โม่เซี่ยเป็นหลานของเรา !  ชัดเจนว่าพวกเราจักไม่ปลอยให้เขาเจ็บตัว !  และเจ้าก็ยังเป็นน้องของพวกเรา !  เช่นนั้น เจ้าก็จักต้องไม่เป็นอันตรายเช่นกัน ! ”
ตงฟางเหวินเจี้ยนเบิกตากว้างและตอบ
” มิใช่ว่าข้าต้องการสิ่งนี้  อย่างไรก็ตาม ข้าได้รับข่าวกรองขณะเดินทาง พวกเราไม่รู้เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการก่อกบฏนี้อสูรเชวียนนี้ แต่ เรารู้ว่าเป็นการก่อกบฏครั้งยิ่งใหญ่  ความจริง ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นยากจินตนาการ !  มีรายงานว่า ราชัญอสูรเถียรฟานั้นเกรี้ยวกราดอย่างมาก และมีคำสั่งให้สัตวเชวียนระดับสี่ขึ้นไปเข้าร่วมสงครามนี้ ”
 
จวินวูอี้ยิ้มและมองไปยัง ตงฟางเหวินชิง
” สกุลตงฟางของเจ้าได้ทำปฏิญาณที่น่าสับสน  ดูเหมือนว่าคำสาปนั้นจักเกิดขึ้นแล้วครึ่งหนึ่ง ! ”
 
” อสูรเถียรฟาเผยตัวออกมา  แต่ผู้คนไม่ได้ตีความคำสายาของเราเช่นนั้น และบอกว่ามันจะสำเร็จเมื่อเหล่าอสูรเถียรฟาตาย?  เช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงได้บอกว่า คำสาปของพวกเราได้หายไปแล้วครึ่งหนึ่ง ? “
ตงฟางเหวินชิงซึ่งมีความสุขมากเมื่อครู่ ได้แสดงท่าทีที่สับสนอย่างรวดเร็ว
 
” นั้นเพราะ มีการยืนยันว่า การก่อกบฏนี้ถูกก่อขึ้นโดย ราชัญอสูรเชวียนที่สาม และที่สี่  ราชัญอสูรเชวียนที่แข็งแกร่งและลึกลับที่สุดยังมิได้เข้าร่วม ! ”
จวินวูอี้สูดหายใจยาวก่อนเขาเอ่ยต่อ
” นี่คือข่าวล่าสุดที่เค้าได้รับมา  อย่างไรก็ตาม ข้าเชื่อว่ายอดฝีมือเชวียนผู้แข็งแกร่งจำนวนมากจักมายังเถียรฟาเพราะสงความ  และจากนั้น ราชัญอสูรเชวียนที่แข็งแกร่งที่สุดจักมาเพื่อสนับสนุนอสูรเชวียนอื่นๆ  ข้าเชื่อในสิ่งนี้  ดังนั้น จึงเหลือสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในคำสาปของสกุลตงฟางเท่านั้น  และนั้นคือ .. หิมะบนยอดหุบเขาถล่อมลงมาเท่านั้น …”
 
” เป็นเช่นนั้น “
 
ความคิดของจวินโม่เซี่ยเคลื่อนไหม
ข้ามิรูว่าหน้าตาของหุบเขาสูงจักเป็นเช่นไร… แต่ข้าจักขึ้นไปดูถ้ามีเวลาว่าง …
 
“​ยิ่งไปกว่านั้น อาณาจักนเฉินซี และ อาณาจักนยูถัง ยังส่งกองทหารมาช่วยเหลือหลังจากพวกเขาได้เห็นความขัดแย่งที่ทวีความรุนแรงขึ้น  ความจริง ราชัญแห่งทุ่งหญ้าก็ได้ส่งกองทหารม้า หนึ่งหมื่นของเขามาด้วย  นี่คือข่าวกรองที่เชื่อถือได้ที่ข้ารวมรวมมาถึงตอนนี้  ข้ารู้สึกว่าทั้งสามอาณาจักรจักขัดแย้งกันในสงครามครั้งนี้เนื่องด้วยความเกลียดชัดที่ฝังลึก  ข้ายังได้รูว่า ผู้อาวุโสสองสกุลเซี่ยว เซี่ยวปู้หยู จักเป็นผู้นำกองกำลังของ นครพายุหิมะสีเงิน ยิ่งกว่านั้น กองทหารนี้มีคนสกุลเซี่ยวเป็นส่วนใหญ่  สกุลจวินของเรา มีความแค้นที่ฝังลึกและยาวนานกับสกุลเซี่ยว  นอกจากนั้น เซี่ยวฮั่นคือศัตรูคนสำคัญของข้า และพวกเรามีความเกลียดชังซึ่งกันและกัน  ด้วยเหตุนี้ ข้ามั่นใจว่าจักต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้น !
 
” รวมทั้งสกุลจวนของเรา และ มณฑลฉือฮั่น ยังมีความรู้สึกที่ไม่เป็นมิตรต่อกัน  เช่นนั้น พวกเราจักต้องเฝ้าระวังฝ่ายนั้นเช่นกัน ! ”
จวินวูอี้เอ่ยทั้งหมดในคราวเดียว  จากนั้น เขาถ่มน้ำลาย และเอ่ย
” สถานการณ์อึมครึม  อึมครึมอย่างมาก  มันแย่มากพอทำให้ข้าหดหู่ใจ ”
” และ จากนั้น แปดเซี่ยนผู้ยิ่งใหญ่ .. ยอดปรมาจารญ์ จุ้นเป้ยเฉินยังมาไม่ถึง  อย่างไรก็ตาม สามยอดปรมาจารย์ ฮั่นเฟิงฉือ … ยอดปรมาจารย์ โม่เหวินเทียน ยอดปรมาจารย์ เมิงฮ้งเฉิน มาถึงแล้ว “
จวินวูอี้ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้า  แต่ ดวงตาของเขา แผดเผาด้วยไฟอันแรงกล้า
 
จวินวูอี้เฝ้าคอยการได้เห็นยอดปรมาจารย์เหล่านั้น อย่างใกล้ชิด
 
” บางทีอาจมีคนผู้หนึ่งที่เจ้าไม่รู้จัก …”
ตงฟางเหวินชิงเอ่ยขึ้น
” คนผู้หนึ่งซึ่งถูก เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวปล้นตำแหน่งแปเซียนไป เฟิงจวนจุ้น เขากำลังเดินทาง  และบางที … อาจจะมาถึงที่นี่แล้ว ”
 
” เฟิงจวนจุ้น … ”
จวินโม่เซี่ยผู้ซึ่งนั่งนิ่งเงียบอยู่ด้านข้าง เลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินชื่อนั้น
ผู้นี้ มิน่ามีความแข็งแกร่งและทรงพลังมากพอเอาชนะเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวได้ใช่หรือไม่ ?
 
” สกุลทรงพลังอำนามากมาย นอกจาก นครพายุหิมะสีเงิน และ มณฑลฉือฮั่น ก็ได้ส่งคนของเขาออกไป  ผู้ที่มีชื่อจำนวนหนึ่งคือ สกุลเปียลี่ สกุลเดือนมู่ สกุลเป่ยกง สกุลเหวินเหริน สกุลเตียวอู้ สกุลโอวหยาง และ สกุลตงฟาง … เดิมทีเก้าสกุลที่ยิ่งใหญ่จักรวมตัวกันที่ เถียนฟา !   สกุลเหล่านี้มิได้ส่งคนออกไปมากนัก แต่คนเหล่านั้นทรงพลังอย่างมาก  โดยเฉพาะอย่างยุ่ง สกุลเดือนมู่ ผู้นำของพวกเขา เดือนมู่เฉาฝาน จักเข้าร่วการต่อสู้นี้ ! ”
 
” เดือนมู่เฉาฝาน ?  เหมือน เฉาฝาน ที่คือ ข้าวผัด ? “
จวินโม่เซี่ยเอ่ยขึ้นทันใด
” ชื่อนี้น่าจดจำล้ำลึกนัก ! ”
 
 
ตงฟางเหวินชิงหัวเราะและ อธิบาย
” ผู้นำสกุลเดือนมู่ มีนามว่า เดือนมู่เฉาฝาน เฉาฝานที่แปลว่าเกินธรรมดา  อย่างไรก็ตาม เขานั้นติดอ่างเล็กน้อย  เช่นนั้น เมื่อไรที่เขาเอ่ยชื่อตัวเอง … เขาจักเอ่ยให้ยาวขึ้น เนื่องจากเขาคิดว่ามันจักเป็นผลดีกับตัวเขาเอง  อย่างไก็ตาม ยิ่งชื่อของเขายาวขึ้น … คนอื่นก็ยิ่งได้ยินคำว่า เฉาฝาน เป็นข้าวผัดมากขึ้น  ดังนั้น ผู้คนจึงเรียกเขาว่า ข้าวผัดของเฉาฝาน ตั้งแต่การพบกันครั้งแรกของ เก้าสกุลใหญ่  ความจริง ชื่อที่แท้จริงของเขานั้นเกือบถูกลืมเลือนไปแล้ว ….. “
 
” โอ้ เข้าใจแล้ว ! ”
จวินโม่เซี่ยเอ่ยจริงจัง
“เช่นนั้น พื้นฐานแล้วคนผู้นี้เชื่องช้า  เขาควรเรียกว่า เฉาฝานเชื่อช้า  มันจักฟังดูเหมาะสมกว่า ! ”
 
” ฮ่า ฮ่า …. ”
ทุกคนหัวเราะพร้อมกัน  จากนั้น ตงฟางเหวินชิง เอ่ยต่อ
 
” อีทั้ง ปราสาททองท้น หุบเขาเจ็ดมังกร วังแยกวิญญาณ และ นครฟ้าโปร่ง ก็ได้ส่งคนของเขามาด้วย  ยิ่งกว่านั้น ยังมียอดฝีมือพเนจรผู้ทรงพลัง ผู้ใดจักรู้ถึงจำนวน ”
ตงฟางเหวินชิง ยิ่มเหนื่อยยาก และเอ่ยต่อ
” สารลับนี้ ลีจื้อเทียนเป็นผู้เผยกับเราก่อนพวกเราออกมา  อย่างไรก็ตาม เรามิรู้ว่ามีสิ่งใดที่เกิดขึ้นมาอีกหลังจากนั้น ”
 
จวินวูอี้คิ้วขมวดมากขึ้น ขณะที่เขาได้ยินชื่อเสียงเหล่านั้น  กำลังเสริมที่แข็งแกร่งเช่นนี้หมายความได้เพียงอย่างเดียวว่า การลุกฮือของสัตว์เชวียนนั้นรุนแรงยิ่งขึ้น
 
” แม่เจ้า !  จักเยอะเกินไปแล้ว ! ”
จวินโม่เซี่ยอดผิวปากมิได้  จากนั้น เขาเอ่ยต่อ
” พวกเขาจักเหยียบย่ำเถียรฟาได้ทั้งหมด หากถูกล้อมไว้ด้วยผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้  จากนั้น พวกเขาแต่ละคนสามารถจับ อสูรเชวียนและเอากลับไปเลี้ยงที่บ้านได้  สงครามเช่นนี้คืออันใดกัน ?  คนเหล่านี้เพียงแค่มีเติมเต็มและอยู่เฉยๆ ! ”
 
” เจ้ารู้สิ่งที่เจ้าเอ่ยหรือไม่ ? “
ปากทั้งสี่คำรามขึ้นพร้อมเพียงขณะที่ดวงตาทั้งแปดมองไปยังเด็กเหลือขอผู้นั้น
 
” เจ้าเด็กเลว !  ประสบการณ์ต่อสิ่งชั่วร้ายของเจ้าช่างตื้นเขิน !  ป่าเถียรฟานั้นกว้างใหญ่นับ หมื่นกิโล  และยังมี อสูรเชวียนมากมายอาศัยอยู่ !  อย่างน้อยมีพวกมันอยู่นับสิบล้าน … จากที่สามารถนับได้ !  และเช่นกัน ที่เรากำลังพูดกันอยู่นั้นเป็นเพียงสัตว์เชวียนระดับสี่หรือมากกว่าเท่านั้น !  ยอดฝีมือที่มารวมกันก็ยังมิอาจต่อสู้กับอสูรแห่งป่าเถียรฟาได้  ความจริงนี้มิน่าพิศมัย แต่เพียงน้ำลายของเหล่าสัตว์เชวียนก็เพียงพอจักทำให้เหล่าผู้ที่เรียกว่ายอดฝีมือจมน้ำ
 
ตงฟางเหวินชิงโกรธในความเขลาของหลายชายอย่างมาก  เช่นนั้น เขาจึงหันไปและจัดการกับความไร้การศึกษานั้น
 
” เจ้าต้องรู้ว่าต้องใช้พื้นที่มหาศาลที่จักเผชิญหน้ากับพวกมันในคราวเดียว  อสูรเชวียน สิบล้าน .. พวกมันมิถูกบีบให้ตายในทุ่งหญ้าหรือ ?  …. ไม่ต้องเอ่ยถึงท่ามกลางหุบเขาเหล่านี้ ! ”
 
คุณชายน้อยจวิน แสดงสีหน้ารังเกียจ และพยักหน้า
” มีผู้คนที่ทรงพลังมากมายที่นั้น และที่นี่  การต่อสู้เล็กๆเริ่มขึ้นเมื่อคนเริ่มต่อสู้กัน  การต่อสู้ของทหารเกิดขึ้นการการต่อสู้เหล่านั้น  และ การสู้รบมากมาย เขาจึงเรียกกันว่าสงคราม  และ หลังจากมีสงครามมากมาย … สิ่งที่จักตามมาคือ ความสงบ  วู้ว …. ”
 
ตงฟางเหวินชิง เริ่มเกรี้ยวกราดหลังจากได้ยินสิ่งนี้  เช่นนั้น จวินวูอี้จำต้องเร่งรีบทำให้สถานการณ์สงบลง  อย่างไรก็ตาม เขาก็มีรอยย่นลึกที่หน้าผาก
” มากคนก็มากความ  มันจักไม่มีความยุ่งยาก หากมีเพียงสามอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ มณฑลฉือฮั่น นครพายุหิมะสีเงิน และทหาร ของราชัญแห่งทุ่งหญ้า  ท้ายที่สุด พวกเขาเหล่านี้ รู้ถึงสถานการณ์ทั่วไป  พวกเขาเข้าใจกฏทางการทหาร  เช่นนั้น จึงมีพื้นที่สำหรับการไกล่เกลี่ย หากมีความขัดแย้งเกิดขึ้น  แต่ ยังมีกองกำลังอื่นๆมากรวมตัวกัน  เช่นนั้น จึงมีความเป็นศัตรู ความขอบคุณ​และขุ่นเคืองที่ฝังรากลึกมาอย่างยาวนานในความวุ่นวายนี้  และเป็นการยากที่จักบอกว่ามีคนอยู่ที่นั้นเท่าใหร่ .. และมีคนที่ฉลาดอยู่มากเท่าใด … ผู้ใดจักบอกได้ว่าวาจาที่ไม่เข้าหูไม่กี่คำจักไม่ทำให้เกิดความบาดหมางของสองสกุล ?   และ ผู้ใดที่ไม่มีเพื่อหนุนหลังอยู่สามหรือหกคน ฦ  ยิ่งกว่านั้น ยอดฝีมือเชวียน ผู้ที่เป็นสามัญจักรักษาระเบียบดั่งเช่นคนของกองทหาร ”
 
” ปัญหานี้น่าปวดหัวยิ่งนัก ”
ตงฟางเหวินชิงและอีกสองพยักหน้าพร้อมเพรียง
 
” พวกเราต้องมีคำสั่งเอกภาพเนื่องจากมีคนมากมายเข้าร่วม  ต้องมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดในสถานการณืเช่นนี้  หาไม่แล้ว เราจักไม่เพียงเสียเปรียบให้กับ อสูรเชวียน หากทุกคนเลือกที่จักต่อสู้ในขณะที่พวกเขาพอใจ และ พุ่งออกไปดั่งฝูงผึ้ง ? “
จวินโม่เซี่ยเสริม  สี่ผู้อาวุโสชื่นชมกับช่วงแรกของคำพูดจวินโม่เซี่ย  อย่างไรก็ตาม พวกเขากรอกตาเมื่อประโยคที่สองเอ่ยถึงการอ่อนข้อให้กับ อสูรเชวียน
 
” นี่คือการยอมรับอย่างชัดเจน  อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการสูงสุดจักต้องมิใช่ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งเพียงชื่อเท่านั้น  ยิ่งไปกว่านั้น เขาจักต้องทำงานที่ไม่น่าชื่นชมมากนัก  ความขัดแย้งยางอย่างอาจจะเกิดขึ้นระหว่างผู้ที่ไม่มีหลักที่สำคัญ  ท้ายที่สุดแล้ว กองกำลังจากสามอาณาจักร และ ขุนพลแห่งทุ่งหญ้า  พวกเขาจำนวนหนึ่งจักไม่ก้มหัวเพราะพวกเขามีตัวแทนของอาณาจักรตัวเอง !
 
” อย่างไรก็ตามปัญหานี้ค่อนข้างแก้ไขได้ง่าย  ทหารจักเชื่อฟังผู้บัญชาการสูงสุด เพราะพวกเขาคุ้นเคยและเข้าใจในหน้าที่ทางทหาร นี่มิใช่ปัญหาใหญ่  ปัญหาที่แท้จริงคือยอดฝีมือทรงพลังจำนวนมากจากทั่วโลก พวกเขานั้นไร้วินัย  ยิ่งกว่านั้น พวกเขาไม่คุ้นเคยกับกฏทหาร  ไม่เพียงพวกเขาจักไม่ยอมฟังกันและกัน  … รวมถึงคำสั่งทางทหารด้วย  ยอดฝีมือทรงพลังทุกคนจักเคารพตัวเอง  เช่นนั้น พวกเขาจักไม่ก้มหัวให้กับขุนพลธรรมดา  กองกำลังพันธมิตรเหล่านี้ คือปัญหาใหญ่ ! ”
 
จวินวูอี้ขมวดคิ้วลึก
” ข้าบัญชาการรบมาครึ่งชีวิต  และ ข้าไม่เคยเห็นการรวมตัวกันของนักรบที่น่าทึ่งเช่นนี้มาก่อน  ความจริง แม้แต่คำสั่งที่แข็งแกร่งทั้งหมดของข้าก่อนหน้านี้รวมกันก็ยังมิอาจเทียบสิ่งนี้ได้  แต่ที่ผ่านมาข้าไม่เคยเห็นว่าความหวังในการมีชัยจักน้อยนิดเช่นนี้  ความจริง นี้คือครั้งแรกที่ข้ามองไม่เห็นถึงความหวังของชัยชนะ
 
และ ฝ่ายตรงข้าวของพวกเราคือ อสูรเชวียน!  พวกเขามีลำดับขั้นที่เข้มงวดอย่างไม่น่าเชื่อ  ยิ่งไปกว่านั้น ในสงครามนี้ ราชัญอสูรนำทัพด้วยตัวเอง  เช่นนั้น อสูรเชวียน จักทำตามที่พวกเขาต้องการ  พวกเขาจักโจมตีด้วยการผิวปากเพียงครั้งเดียว และล่าถอยต่อจากนั้น
 
” ทุกสิ่งชี้ไปยัง มหันตภัย ”
จวินวูอี้ และ ตงฟางเหวินชิงมองหน้ากัน  พวกเขามองตากัน และอ่านคำเหล่านี้ได้
 
” พวกเรามาไกล  อย่าบอกข้าว่าท่านจักถอยกลับในตอนนี้ ?  พวกเราจักได้เห็นทุกสิ่งดำเนินไป  ช่วยผู้คนเป็นสิ่งดี  แต่ จักสำคัญอันใดถ้าท่านช่วยผู้อื่นโดยการเข้าไปแทนที่ของเขาแทน ?  ข้าสบายใจ เพราะเชื่อว่าเรามีคนมากพอที่จักปกป้องความปลอดภัยของเรา  ส่วนชะตากรรมของคนอื่น … เราต้องใช้จ่ายมากมายเพื่อช่วยเหลือพวกเขาหรือ ? “
จวินโม่เซี่ยยิ้มอย่างไร้หัวใจ
 
จวินโม่เซี่ยมั่นใจที่สุดในหมู่พวกเขา เมื่อมันมาถึงเรื่องการ ลุกฮือของเหล่าอสูรเชวียน  จวินโม่เซี่ยมั่นใจอย่างง่ายดายว่าทหารของเขาจักไม่ได้รับบาดเจ็บ หากทหารถูกแยกเป็นสองส่วน  ยิ่งกว่านั้น เขาสามารถรับประกันความพ่ายแพ้ของผู้อื่นได้ …
 
ไม่น่าทำจริงๆ !
ไปแสร้งทำว่าเรื่องนี้จบลงแล้ว ….
เหตุใดคนเหล่านี้ถึงได้ทำหน้าตาน่าอนาถใจถึงเพียงนี้ ?

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด