Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ ตอนที่ 280

อ่านนิยายจีนเรื่อง Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ ตอนที่ 280 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

” เหตุใด ?  ข้าจักรู้ทุกสิ่งบนโลกได้เช่นไร ?  พวกเขามีชื่อเสียง ? “
ผู้ถามประหลาดใจ
ทั้งสองผู้ที่ดูชั่วร้าย และแปลกแยก เป็นคนที่น่าอัศจรรย์ ?  ดูไม่เป็นเช่นนั้น … จากสิ่งที่ได้เห็น …
 
” เจ้ามิเคยได้ยินถึง วัชพืชแห่งนครหลวง ? “
อีกผู้หนึ่งตอบด้วยน้ำเสียงปราศรัย
 
” หรือทั้งสองคือ เจ้าหมูอ้วนถัง และ ทรราชจวินผู้ชั่วร้าย ?  เห็บในส้วม และ แมลงวันบนโต๊ะ ? “
 
” ใช่แล้ว !  ทั้งสองคือตำนาน เจ้าหมูอ้วนถังหยวน และ  พวกเขาคือ เห็บในส้วม และ แมลงวันบนโต๊ะ จริงๆ  พวกเขาคืออภิมหาหายนะแห่งชนรุ่นนี้ ! “
 
” ไม่แปลกใจที่ข้ารู้สึกอยากเฆี่ยนพวกเขาเมื่อได้เห็นครั้งแรก  นั่นคือเหตุผล !  วัชพืชแห่งนครหลวงแน่นอนเป็นดั่งชื่อของพวกเขา “
 
” ใช่แล้ว  และการมาของพวกเขาคือเหตุการณ์อันตราย  หากคิดว่า เจ้าวัชพืชทั้งสองมีคุณสมบัติเพียงพอเข้าร่วม ยอดนักปราชญทองคำ  อนิจจา … ศีลธรรมกำลังเสื่อมถอย ! “
 
” ความเสื่อมถอยนี้เป็นชนรุ่นเดียวกับข้า …  ข้าประสงค์จักคว้าหัวตัวเอง น่าอายยิ่งนัก !”
 
ราวกับผู้ที่เอ่ยวาจา ถอนใจยาว  ความเห็นถูกถกทั่วทุกที่  พวกเขาเหลือบตาขณะมองไปยังผู้ชั่วร้ายทั้งสอง  อีกทั้ง ยังชี้ไปที่พวกเขา และกระซิบ  ดวงตาพวกเขาปลดปล่อยความเกลียดชัง ขณะที่สีหน้าแสดงการดูหมิ่น
 
ราวกับ จวินโม่เซี่ย และ ถังหยวนมิได้ยินสิ่งใด  พวกเขายังคงทำตัวปกติ
 
” เจ้าอ้วน จำสิ่งที่ข้าบอกเจ้าในวันก่อนได้หรือไม่ ? “
จวินโม่เซี่ยเอ่ยเสียงต่ำ
 
” ข้ามิอาจลืมลง “
ถังหยวนลืมตาเฉื่อยชา
” เจ้ายังสงสัยข้า ? “
 
” ข้ากลัวว่าดวงตาอ้วนๆและเต็มไปด้วยน้ำมันของเจ้า จักเห็นมันได้อย่างไม่ถูกต้อง ! “
จวินโม่เซี่ยสถบ
 
” สุภาพบุรุษมิได้สนใจเรื่องไร้สาระ !  เอ่อ ปู่ข้าเอ่ยเช่นนั้นเสมอ “
ถังหยวนดูเหมือนภาคภูมิใจยิ่ง
 
” เจ้ากล้าเรียกตัวเองว่า สุภาพบุรุษ … ?! “
จวินโม่เซี่ยเกือบสำรอก
เวลานี้มีผู้ใดอีกที่จักเรียกตัวเองว่า สุภาพบุรุษ ?!
 
จวินโม่เซี่ยพอใจยิ่งขณะได้เห็นสีหน้า ถังหยวน
เขาดูคล้ายดั่งตัวร้ายจริงๆในวันนี้ !  ยากยิ่งสำหรับตัวร้ายในตัวข้าที่จักห้ามมิให้สังหารเขา !
 
พวกเราเพียงรอคอยที่นี่ ?  พวกเราจำต้องรออีกนานเท่าไหร่ ?  ฮึ่ม !  เมื่อใดกัน ที่เราจักได้โอกาสแสดงฝีมือ ?
 
” เฮ้ยเจ้า มองอันใด ?  มิเคยพบเจอคุณชายผู้หล่อเหลาหรือเช่นไร ? “
จวินโม่เซี่ย เหลือบมองและถามเด็กหนุ่มที่กำลังแอบมองเขา  ผมของเด็กหนุ่มทาน้ำมัน และมีการตบแต่งหน้า  เป็นที่รู้กันว่าเขาคือสมาชิกสกุล เมิง  จวินโม่เซี่ย และ ถังหยวน เคยเกี่ยวข้องกับ เขา และ เมิงไฮ่โจม ในคราก่อน พวกเขากล่าวหาว่า จวินโม่เซี่ย และ ถังหยวนโกง หลังจากสูญเสียเงินมากมาย  ดังนั้น เขาจึงแกล้งมิรู้จักพวกเขา
 
” ข้ามิได้มองหาสิ่งใด “
เมิงเฟ้ย เหลือบตา และเงยหน้าขึ้นขณะตะโกน และมองผ่านหัวจวินโม่เซี่ยไป  ทุกสกุลที่ทรงอิทธิพลได้รับเชิญ  สกุลเมิงมิใช่สกุลเล็กๆ ดังนั้น พวกเขาจึงได้รับเชิญเช่นกัน
 
” แม่เจ้า ! “
จวินโม่เซี่ยตะโกนยาว  เขาดึงปลอกแขนขึ้น ขณะก้าวขึ้นหน้า
” เจ้าคือผู้ใด ?!  เจ้ารู้หรือไม่เอ่ยวาจากับผู้ใดอยู่ ?  แม่เจ้า !  แม่เจ้าจักมิได้เห็นเจ้าเมื่อข้าเสร็จกิจกับเจ้า  ข้าจักควักลูกตาเจ้าออก และยัดมันเข้าก้นเจ้า เชื่อข้าสิ ! “
 
เส้นเลือดสีฟ้าโป่งขึ้นที่ลำคอของจวินโม่เซี่ย ดวงตาของเขาหรี่ลงขณะน้ำลายกระเต็นจากปาก
 
เฟ้ยเมิงยังยืนกับที่ พร้อมด้วยผมที่ทาน้ำมัน และ แป้งบนใบหน้า
” เหตุใดเขาจึงสนใจข้า ในขณะที่ทุกผู้มองเขา ?  เหตุใดข้าต้องไปรับเคราะห์เมื่อทุกผู้เอ่ยถึงพวกเขา ?
การสถบของจวินโม่เซี่ยทำให้ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความขุ่นเคือง  ปากของเขาขยับไร้เสียงด้วยความขุ่นเคือง
 
” ปล่อยไปเถิดคุณชายน้อยสาม  มิจำเป็นต้องลดตัวลงไปคลุกคลีกับสามัญชั้นต่ำ ! “
ถังหยวนรีบเร่งปลอบโยนสหาย
 
วายร้ายทั้งสอง เฝ้าดูอยู่นาน การพูดคุยของพวกเขาต่อเนื่องไป  ถังหยวน ดึงรั้งจวินโม่เซี่ย และ เอ่ย
” ไปเถิด ไม่ช้าพวกเราต้องไปยัง พระที่นั่ง  และพวกเราจักทำให้ทุกผู้ประหลาดใจจากฝีมืออันโดดเด่น  พวกเราจักแสดงให้พวกเขาเห็นถึงฝีมือซึ่งไร้เทียมทาน และผู้ใดจักรู้ … องค์จักรพรรดิอาจประทับใจ  พระองค์อาจประทานตำแหน่งราชการระดับสูงให้พวกเรา … จากนั้น พวกเราจักตอบสนองความต้องการจากตำแหน่งราชการ ! “
 
” ดั่งเจ้าว่า “
จวินโม่เซี่ย รวบผม และปล่อยลงไปด้านหลังขณะหน้าอกของเขายกขึ้น
” ข้ามิควรลดตัวต่ำดั่งเช่นสามัญหล่านี้ ! “
 
ทั้งสองเอ่ยดังก้อง ขณะที่ผู้อื่นสำลักและอยากอาเจียนออกมาในทันที
หาประโยชน์จากตำแหน่งราชการระดับสูง ?  กับพฤติกรรมของพวกเจ้าเช่นนั้น ?  และฝีมืออันไร้เทียมทาน ?  บ้าสิ้นดี …
 
ลามิรู้จักหาที่อยู่ ..
 
” จวินโม่เซี่ย !  เจ้าหมายความเช่นไร ?!  เจ้าคิดว่าข้ามิอาจกลั่นแกล้งเจ้าได้ ?! “
เม่ยเฟิงที่ปะหน้าทาแป้งและอ่อนช้อย สิ้นวาจาชั่วครู่  แต่ ทันใดนั้นเขาควบคุมลมหายใจรวดเร็วและปลดโทสะลงขณะสาปแช่งจวินโม่เซี่ย
 
” ทุกคนดู !  หนุ่มผู้นี้สร้างเรื่องขึ้นมา !  เจ้าไม่สามารถโทษข้าได้ ! “
จวินโม่เซี่ย เสแสร้งเป็นผู้บริสุทธิ์ และผายมือ
”  ข้าคิดว่าทุกสกุลที่ทรงอิทธิพลนั้นเป็นสหายกัน  เช่นนั้น ข้าจึงมาที่นี่ มิใช่ว่าทุกสกุลที่มีอิทธิพลจักรู้จักกันหรือ ?  แต่เดรัชฉานผู้นี้มิยอมปล่อยสิ่งที่ข้าอาจเคยเอ่ยกับเข้าไว้ !  ที่นี่คืออะไร ?  ที่นี่คือ ราชวัง !  หนุ่มผู้นี้นยังร้องลั่นเช่นนี้  เขาประสงค์จะก่อกบฏหรือ ?  หรือสกุลเมิงประสงค์แย่งชิงบัลลัง ? “​
 
ทุกผู้สับสน
ไร้ยางอายยิ่ง !  เขาช่างไร้ซึ่งเศษเสี้ยวความอับอาย !  การกล่าวหาของเขาไร้เหตุผลยิ่ง  มากเกินไปแล้ว …
 
” เจ้า …. เจ้าเอ่ยวาจา …​ไร้สาระ ! “
เมิงเฟ้ยเริ่มตาลายด้วยโทสะ  ร่างของเขาเริ่มสั่นราวกับใบไม้แท้ท่ามกลางสายลม
 
อันธพาลจวินมิได้มองข้ามสิ่งนี้  เขาเร่งรีบพุ่งไปยังเด็กหนุ่มผู้นั้น และตบเข้าไปที่ใบหน้าเสียงดังสองหน  จากนั้น จับขาของเขา และเตะเข้าใส่ท้อง  การเคลื่อนไหวของ จวินโม่เซี่ย ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
 
เมิงเฟ้ยตกใจ  เขามิได้คาดว่าฝ่ายตรงข้ามจะกระทำเช่นนี้ในราชวัง  เด็กหนุ่มนิ่งตะลึง  ความจริง เขาเห็นดาวขณะเอวของเขาบิดไป  ร่างเขางอดั่งกุ้งขณะกุมท้อง  คุณชายน้อยจวินมิได้ล่าถอย  เขายังคงโจมตีต่อแม้นศัตรูจักลมลงเจ็บปวด  เขามิอาจปล่อให้โอกาสนี้หลุดลอยไป
 
ใบหน้าปะแป้งของ คุณชายน้อยสกุลลี่ บวมขึ้นราวกับหมูอย่างรวดเร็ว แท้จริงแล้ว มันด฿คล้ายคลึงกับถังหยวนยิ่ง
 
คนอื่นๆยืนขึ้น
จวินโม่เซี่ยผู้นี้กระทำเกินไปแล้ว !
 
” ปล่อยมันไป คุณชายน้อยจวิน !  ทุกผู้สามารถผิดพลาดได้ อภัยให้เขา ! “
หนุ่มผู้มีใบหน้าขุ่นเคืองเข้าขวาง จวินโม่เซี่ย ขณะเขายกขาเพื่อกระทืบ เมิงเฟ้ยอีกหน
 
ทุกผู้มองฉากนี้ด้วยความตื่นเต้น  คุณชายน้อยจากสกุลอันทรงเกียรติมองดูอันธพาลผู้ยิ่งใหญ่แห่งนคร จวินโม่เซี่ยขุ่นเคือง
 
” และ เจ้าคือผู้ใด ?  และเจ้ามาช่วยเขาหรือ ?  เจ้าอยู่ในฐานะอันใด ?  เจ้ารู้หรือไม่ว่า คุณชายน้อยผู้นี้มีความผิดอันใด ?  เจ้าเห็นสิ่งที่เขาทำก่อนที่เจ้าตัดสินใจสนับสนุนเขาหรือ ?
 
ร่างกายส่วนล่างของจวินโม่เซี่ยบิดไปมา  เขาบิดเอว และร่างเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นรูปตัว S  จากนั้นเขาวางมือลงบนเอว และเชิดหน้าขึ้น  และตอนนี้ คุณชายน้อยจวิน ดูคล้ายดั่งกาน้ำชาขนาดใหญ่
 
” ข้าคือ มูล่งเจี้ยนลี่ ข้ามาจากรุ่นสามแห่งสกุลมูล่ง ! “
คุณชายน้อยในชุดคลุมที่มีเครื่องประดับเอ่ยตอบ  ใบหน้าเต็มไปด้วยความยะโส ขณะเงยขึ้นมองจวินโม่เซี่ย  จากนั้นเอ่ยถึงจวินโม่เซี่ย ด้วยน้ำเสียขยะแขยง
” คุณชายสามจวิน … โอ้ว เจ้าไม่ไว้หน้าข้าหรือ ?  ทั้งหมดนี้คือเรื่องเข้าใจผิด  เหตุใดพวกเรามิควรเปลี่ยนความขัดแย้งนี้ให้กลายเป็นพันธมิตร ? “​
 
” โอ้ว !  สกุลมูล่งนี่เอง …  ข้ากลัวแล้ว …  ข้ากลัวยิ่งนัก !  … เจ้าอ้วนมาช่วยข้าหน่อย …  ข้าหายใจมิออก ! “
 
จวินโม่เซี่ยแสร้งตกตะลึงยิ่งยวดขณะเขากระโดดขึ้น  กระทั่งเขาตะโกนลั่นเกินความเป็นจริง ขณะทุบหน้าอกตัวเอง แท้จริงแล้ว ดูราวเขาได้รับข่าวที่น่าตกใจย่ิงจนหัวใจเกือบหลุดออกมา  จากนั้น สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนรวดเร็วราวกับสวมหน้ากาก
” เจ้าประสงค์ให้ข้ากลัวกระนั้น ?  สกุลมูล่งมากดดันข้า ?!  ชิ ชิ … “​
 
จวินโม่เซี่ยยืดคอไปยัง มูล่งเจี้ยนลี่ก่อนยิ้ม และขบฟัน
” ฮ่าฮ่า มูล่งเจี้ยนลี่ เจ้าน่าเกรงขามยิ่ง !  ผู้ใดจักมิรู้จักชื่อเสียงสกุลมูล่ง ?  ฮี่ ฮี่ “
 
จวินโม่เซี่ย เอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงประหลาด เขาไม่ปล่อยให้ มูล่งเจี้ยนลี่มีโอกาศได้เอ่ยวาจา
” เจ้าคิดว่าสกุลมูล่งของเจ้าจักแข็งแกร่งกว่าสกุลของข้า ?  ฮี่ ฮี่ … มูล่งเจี้ยนลี่ เจ้าพูดแทนสกุลมูล่ง … ดูราวกับสกุลมูล่งและสกุลเมิงมีแผนการจะก่อจลาจลในนครเทียนเชียง ข้ามองเห็นมันได้อย่างชัดเจน “
จวินโม่เซี่ยพยักหน้า
 
” ข้ามิเคยอ้างว่าพูดแทนสกุลมูล่ง !  และ ข้าไม่เคยเอ่ยวาจาถึงการกบฏ !  เช่นนั้นจงหยุดสร้างข่าวลือ !  จวินโม่เซี่ย เจ้าใช้วิธีการนี้กับผู้อื่นได้ … แต่มิได้สำหรับข้า ! “
มูล่งเจี้ยนลี่ สังเกตได้ว่า พวกพ้องของเขาหลายคนแสดงสีหน้าที่มีนัยยะ  ดังนั้น จึงรีบเร่งอธิบายเสียงดัง
 
” เจ้ามิได้พูดแทนสกุลมูล่ง ?  เหตุใดเจ้าจึงร้อนตัวเช่นนี้ … ?  แม่เจ้า !  เช่นนั้น ผู้คนเหล่านี้กลั่นแกล้งข้า ?!  น่างผิดหวังยิ่งนัก ! “
 
จวินโม่เซี่ยขมวดคิ้วก่อนเชิดขึ้นอีกครัง
” เหตุใดเจ้าจึงแสร้งพูดแทนสกุล มูล่งหากมิได้เป็นความจริง ?  เจ้าขัดขวางข้า  ดูนี่ ข้าบอกว่าดูที่นี่ เจ้าลูกสุนัข !  เจ้าประสงค์ให้ข้า ตอนเจ้าและใช้มันทำใส่กรอกในราชวัง ?  เร็วเข้าปล่อยมือข้า !  เจ้าลูกสุนัข ! “
 
ความโอหังและพฤติกรรมที่น่าเศร้าของจวินโม่เซี่ยทำให้เหล่าบัณฑิตและคุณชายน้อยทั้งหลายขุ่นเคืองมากมาย การถกเถียงที่ครึกครื้นทำให้ทุกคนเริ่มวิพากษ์เขา  จวินโม่เซี่ย วางมือไว้บนสะโพก และ จากนั้นเผชิญหน้ากับทุกคนหน้าท้องพระโรง  จากนั้น เขาเริ่มโต้เถียงทุกคนด้วยลิ้นอันเหม็นเน่า น้ำลายของเขากระเด็นไปทุกหนแห่ง  ภาษาที่สกปรกมากมายถูกสาดใส่มากยิ่ง แต่เขาไม่ล่าถอยแม้แต่น้อย
 
ราวกับบอกว่า มิสำคัญว่ากองกำลังจักมากมายเพียงใด ข้าจัดรอคอยพวกเขา
 
ยังมีอีกหลายกวีที่อ้างถึงเขาได้ เขาอ้าปากเอ่ยวาจาสาปแช่งนับพัน
 
เจ้าอ้วนถัง มองยังร่างสูงและเพรียวของจวินโม่เวี่ยด้วยความชื่นชมยิ่ง เขาอุทานต่อเนื่อง
” คมคายยิ่ง !  การตอบโต้เช่นนั้น !  หลักแหลมยิ่ง !  เจ้าน่าเกรงขาม จนทำให้ผู้อื่นหมดสิ้นหนทาง !  เป็นได้เพียงส่ิงเดียว ราวกับเด็กเคี้ยวขนม ! “
 
หลายคนเริ่มแสดงความคิดเห็นและไม่ช้า ทุกคนเริ่มตื่นตัว ตรงหน้าท้องพระโรง  ไม่นานเสียงเริ่มดังขึ้นราวกับตลาดปลา  ดูเหมือนว่าอีกไม่ช้าจะเริ่มมีการต่อสู้กันด้วยหมัดมวย
 
” ช่างอวดดี ?!  ที่นี่คือราชวัง !  ผู้ใดอาจหาญส่งเสียงก่อกวน ?!  เจ้ามิประสงค์จะคงศรีษะเจ้าไว้กระนั้น ?! “
เสียงอันสง่าและดังก้องสะท้อนราวกลองพิธี
 
ทุกผู้ที่กำลังตะโกนลั่น เงยหน้าขึ้นมอง  พวกเขามิอาจกลั้นมิให้ตะโกนก้องร้องเรียกสวรรค์มิได้  ผู้อาวุโส และ เหล่าหัวหน้าสกุลมากมาย ยืนอยู่ตรงประตูด้วยสีหน้าหม่นหมอง  ทันใดนั้น ใบหน้าของทุกคนราวถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง
 
” อับอายยิ่งนัก ! “
เสียงตะโกนลั่นของ ตู่กู้ซ้งเฮง ทำให้โลกพวกเขาสับสน
 
เหล่าคุณชายเริ่มมีใบหน้าบูดบึ้งและก้มหัว  หัวใจพวกเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังจวินโม่เซี่ย
ความประทับใจที่พวกเราต่างสรรค์สร้างขึ้นในใจของเหล่าผู้อาวุโสได้มลายหายไปในทันที พวกเราต้องตกอยู่ในความดูแลของเหล่าพี่ๆ และเป็นเพราะเจ้าเด็กผู้นี้ !   ชิ … !

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด