Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน ตอนที่ 53 คำสั่งให้มุ่งหน้าไป

อ่านนิยายจีนเรื่อง Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน ตอนที่ 53 คำสั่งให้มุ่งหน้าไป 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

เหตุผลที่ล้ำค่ามากถึงเพียงนี้ หนึ่งก็คือเทพจักรวาลทางด้าน ‘เขตลวงโลกเทียม’ นั้นมีน้อยนิดเป็นที่สุด ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้นก็คือเคล็ดลับวิถีวิญญาณนั้นน่ากลัวเกินไป!
อย่างเช่น ‘เขตลวงโลกเทียม’
เขตลวงระดับขั้นอลวนชั้นที่สิบหมายความถึงสิ่งใด
ต้องรู้ไว้ว่ายอดฝีมือขั้นอลวนชั้นที่สิบกลุ่มใหญ่รวมทั้งตงป๋อเสวี่ยอิงและแม่เฒ่าอิงซานต่างก็ต้องอาศัยพลังภายนอกด้วยกันทั้งสิ้น เช่นการอาศัยร่างเมฆทักษิณาทิพย์ การอาศัยหอกเทพเมฆาแดง เป็นต้น… หากอาศัยเพียงแค่ระดับขั้นอลวนของตนเอง อย่างมากก็เพียงแค่ระดับชั้นที่เก้าเท่านั้น จำเป็นจะต้องอาศัยวัตถุภายนอกจึงจะสำแแดงชั้นที่สิบออกมาได้ ระดับความแข็งแกร่งของวิญญาณของพวกเขาก็พอๆ กันกับยอดฝีมือระดับชั้นที่เก้าขั้นสุดยอดในอากาศอันสับสนอลหม่าน
มีเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น…
ผู้ที่ประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทางด้านวิถีวิญญาณจำนวนหนึ่งอย่างเช่นตงป๋อเสวี่ยอิง วิญญาณจีงจะสามารถไปไกลกว่าระดับขั้นเดียวกันได้ มิฉะนั้นแล้วระดับความแกร่งของวิญญาณก็จะค่อนข้างมีขีดจำกัด แม้กระทั่งกลืนกิน ‘แก่นแท้อลวน’ หรือ ‘แก่นวิญญาณโลหิต’ ก็มิอาจมีส่วนช่วยเหลือดวงวิญญาณได้มากเท่ากับการที่ตงป๋อเสวี่ยอิงทำให้วิถีวิญญาณไปถึงขั้นอลวนระดับสุดยอดเช่นนี้ได้เลย
แก่นแท้อลวนเป็นการดำรงอยู่อันกล้าแกร่งเป็นที่สุด สามารถรวมเอาพลังจากแก่นแท้ในโลกกำเนิดเข้าด้วยกันได้ เช่นเดียวกันกับ ‘ศิลาปฐมโลกา’
แก่นวิญญาณโลหิตนั้น เช่นการบูชาโลหิตของทะเลสาบมารทมิฬก็เพื่อสิ่งนี้ เป็นการสังหารสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน รวบรวมเอาพลังอันเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดของวิญญาณของสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน ผ่านการวิวัฒน์จนในที่สุดก็รวมตัวกันออกมาเป็น ‘แก่นวิญญาณโลหิต’ เมื่อนำมาใช้แล้วก็มีประโยชน์ต่อวิญญาณเป็นอย่างมหาศาล แต่มูลค่าก็สูงลิบลิ่ว
แต่ว่า…
โลกเขตลวงระดับชั้นที่เก้า ก็เพียงพอที่จะทำให้เหล่ายอดฝีมือขั้นอลวนระดับสุดยอดได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากแล้ว ผู้มีพลังยุทธ์ส่วนใหญ่ต่างก็สามารถสำแดงออกมาได้เพียงแค่สี่ห้าส่วนเท่านั้น ผู้ที่จิตใจอ่อนแอหน่อย เกรงว่าคงจะจ่อมจมอยู่ภายในเขตลวง
ส่วนเขตลวงชั้นที่สิบนั้นก็น่ากลัวเสียแล้ว! ต่อให้เป็นำวกยอดฝีมือที่จิตใจแข็งแกร่งเป็นที่สุ
อย่างเช่นแม่เฒ่าอิงซาน เมื่อเผชิญกับเขตลวงที่เดิมทีมีเพียงเทพจักรวาลที่จะสำแดงออกมาได้นี้ โดยทั่วไปต่างก็ต้านทานไม่อยู่ เพราะพวกเขาสมบัติล้ำค่าจึงสามารถมาถึงชั้นที่สิบได้ มิได้หมายความว่าวิญญาณของพวกเขาก็จะสามารถต้านทานเขตลวงเช่นนี้ได้ด้วย พูดได้ว่ายอดฝีมือขั้นอลวนชั้นที่สิบส่วนใหญ่ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขตลวงชั้นที่สิบก็ยังต้องจนตรอก ถ้าไม่จ่อมจม ก็ต้องดิ้นรนเพื่อจะรักษาสติเอาไว้ให้ได้ แต่กลับมิได้มีพลังจะมาต้านทานได้แต่อย่างใดเลย
นี่คือเคล็ดวิชาที่ล้ำเลิศเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อสำแดงเขตลวงออกมา
ถ้าวิญญาณมิได้แกร่งกล้าจนสามารถต้านทานเอาไว้ได้
เช่นนั้นหากมิอาจต้านทานได้ ก็ต้องหมดสิ้น จบชีวิต ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อื่น
‘ยอดฝีมือขั้นอลวนชั้นที่สิบ’ ที่ดินแดนจิตโลกานั้นก็สามารถเดินอวดเบ่งได้ แม้กระทั่งเผชิญหน้ากับเทพจักรวาลก็ยังสู้มิได้ โดยทั่วไปแล้วพวกเขาก็สามารถหนีเอาชีวิตรอดได้อย่างง่ายดาย แต่เผชิญกับเคล็ดวิชาอันน่าหวาดหวั่นของวิถีวิญญาณ บทจะสะดุดก็สะดุดเสียอย่างนั้น
ดังนั้นเคล็ดลับ ‘เขตลวงโลกเทียม’ นี้ก็คือเคล็ดสืบทอดลับที่เป็นแก่นสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
โชคดี
หนึ่ง สามารถบำเพ็ญเขตลวงโลกเทียมมาถึงระดับสุดยอดได้ ขั้นอลวนผู้มีหวังที่จะสำเร็จเขตลวงชั้นที่สิบได้นั้นมีน้อยนัก ตอนนี้ทั่วทั้งดินแดนจิตโลกาก็มีอยู่น้อยจนสามารถนับนิ้วได้
สอง เคล็ดสืบทอดลับระดับขั้นอลวนชั้นที่สิบก็มีเพียงแค่สามขุมอำนาจใหญ่เท่านั้นที่มี ซึ่งได้แก่ ‘รัฐโบราณคิมหันตวายุ’ ‘รัฐโบราณบรรพชน’ และ ‘รัฐโบราณเสียดฟ้า’
ต้องรู้ไว้ว่าหกรัฐโบราณ อย่างเช่นรัฐโบราณสหโลกานั้นมีพลังยุทธ์แข็งแกร่งเป็นที่สุด แต่ก็ยังไม่มีเคล็ดสืบทอดลับ ‘เขตลวงโลกเทียม’ เคล็ดวิชาระดับชั้นที่สิบเลย! ความยากในการครอบครองได้นั้นเพียงแค่คิดก็รู้ได้แล้ว
สาม สมบัติลับล้ำค่าของเขตลวงโลกเทียม!
นี่คือวิธีการเพียงหนึ่งเดียวที่นอกจากสามรัฐโบราณแล้วอยากให้ขั้นอลวนสามารถทำให้ ‘เขตลวง’ สำแดงเคล็ดวิชาระดับชั้นที่สิบออกมาได้ นี่ก็ทำให้สมบัติลับล้ำค่าของเขตลวงโลกเทียมมีราคาแพงลิบลิ่วเป็นที่สุด!ชิ้นหนึ่ง… พลังคุกคามที่แกร่งกล้าที่สุดก็เป็นเพียงแค่เคล็ดวิชาระดับชั้นที่สิบเท่านั้น สมบัติลับล้ำค่าของเขตลวงโลกเทียมที่ไม่มีประโยชน์อะไรกับเทพจักรวาลเลยนั้น มูลค่าก็ยังต้องถึงหมื่นล้านแก้วผลึกจักรวาล สามารถเทียบเคียงได้กับอาวุธลับล้ำค่าของยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่อย่างนายท่านฉื้ออวิ๋นพรรค์นี้เลยทีเดียว
ถ้าหากเป็นสมบัติลับล้ำค่าของเขตลวงโลกเทียมที่มีประโยชน์ต่อเทพจักรวาลเป็นอย่างมาก เช่นนั้นราคาก็ยิ่งต้องสูงจนเหลือเชื่อ!
สมบัติลับล้ำค่าราคาสูงลิ่ว นอกจากนี้การหยั่งรู้สมบัติลับล้ำค่าศึกษาศาสตร์ลับก็ยังยากเย็นเป็นอย่างยิ่ง ต้องเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ล้นฟ้าอย่างเช่นตงป๋อเสวี่ยอิงนี้เท่านั้นจึงจะมีความหวัง มนุษย์น้ำแข็ง ราคาก็ยังสูงลิบลิ่วเช่นนี้
“ระดับขั้นของข้าเพียงพอแล้ว ขาดก็แต่สมบัติลับล้ำค่าเท่านั้นเอง” ตงป๋อเสวี่ยอิงพึมพำ
เคล็ดสืบทอดลับอันสุดยอดที่สุดของเขตลวงโลกเทียมอย่างนั้นหรือ
ย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
นครหลวงโบราณเฉกเช่นรัฐโบราณสหโลกานี้ยังมิอาจครอบครอง อีกสามนครหลวงโบราณก็มิอาจเผยแพร่ออกสู่ภายนอก นอกเสียจากว่าเขา ตงป๋อเสวี่ยอิง จะไปสวามิภักดิ์ต่อสามขุมอำนาจใหญ่นี้ ก็ไม่มีทางศึกษาสำเร็จได้เลย
……
เป็นถึงหนึ่งในหกศิษย์ถ่ายทอดเองที่มีเฉพาะในสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์เท่านั้น สถานะของตงป๋อเสวี่ยอิงก็ย่อมสูงส่ง เขารวบรวมเพียงเล็กน้อยผ่านทางเครือข่ายข้อมูลของสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ที่กระจายอยู่ทั่วทั้งดินแดนจิตโลกา ก็รวบรวมข้อมูลข่าวสารของสมบัติลับล้ำค่าของเขตลวงโลกเทียมที่ซื้อขายกันอย่างเปิดเผยอยู่ข้างนอกได้ในทันที
สมบัติลับล้ำค่าของเขตลวงโลกเทียมที่มีประโยชน์แม้กระทั่งกับเทพจักรวาลมีอยู่เพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น มีชื่อว่า ‘คทามารจิต’ เป็นสิ่งที่ ‘เจ้าลัทธิมารจิต’ เทพจักรวาลด้านเขตลวงโลกเทียมที่ตายตกไปทิ้งเอาไว้หลังสิ้นชีพ มิอาจทราบมูลค่าได้! จะต้องเจรจาต่อรองเอากับผู้ขาย
ถัดมา
ก็เป็นสมบัติลับล้ำค่าของเขตลวงโลกเทียมระดับขั้นอลวนชั้นที่สิบแล้ว มีด้วยกันทั้งสิ้นแปดชิ้น ราคาตั้งแต่หนึ่งหมื่นสองพันล้านแก้วผลึกจักรวาลสองหมื่นล้านแก้วผลึกจักรวาล
“สมบัติลับล้ำค่าประเภทเขตลวงโลกเทียม ช่างมีจำนวนน้อยนิดเสียจริง” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบรำพึง นี่ก็คือทั้งหมดที่มีขายกันอยู่ในหกรัฐโบราณและนครรัฐหนึ่งร้อยกว่าแห่งแล้ว แต่เป็นเพราะว่าผู้ที่ต้องการสมบัติลับล้ำค่าของเคล็ดวิชาเขตลวงโลกเทียมระดับชั้นที่สิบนั้นก็มีอยู่น้อยนิดเหลือเกิน ตงป๋อเสวี่ยอิงก็ไม่กังวลใจเลยว่าจะไม่มีสมบัติลับล้ำค่าของเขตลวงโลกเทียมให้ซื้อหา
ปัญหาเดียวก็คือ ซื้อไหวหรือไม่
ขอยืมแก้วผลึกจักรวาลจากท่านอาจารย์หรือ ประมุขรัฐเมฆทักษิณามั่งมีเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังใจกว้างกับลูกศิษย์ยิ่งนัก แต่หมื่นล้านแก้วผลึกจักรวาลน่ะหรือ ตงป๋อเสวี่ยอิงเองก็ยังมิกล้าเอ่ยปากขอเลยด้วยซ้ำ!
******
ระหว่างระยะเวลาที่บำเพ็ญ ถึงแม้ว่าเขตลวงโลกเทียมและวิถีอากาศจะล่วงรู้ถึง ‘ระดับขั้นเทพจักรวาล’ อยู่บ้างรางๆ แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่าการก้าวออกจากจุดนี้ก็ยังยากเย็นเป็นอย่างยิ่ง
“เสวี่ยอิง มาพบข้าเร็วเข้า” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาเรียกตัว
ทันใดนั้น
ตงป๋อเสวี่ยอิงก็นำมังกรมารไปจากเมืองหิมะเหินแล้วมุ่งหน้าไปยังนครหลวง
ณ สถานที่บำเพ็ญของประมุขรัฐเมฆทักษิณา ภายในพระราชวัง เขายังคงนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นหญ้าสีดำเช่นเดิม สระลึกด้านหลังมีหมอกขาวทึบทึม ขณะนี้ด้านข้างมีชายวัยกลางคนร่างผอมสูงคนหนึ่งยืนอยู่
“ท่านอาจารย์”
ตงป๋อเสวี่ยอิงมาถึงแล้วก็เอ่ยทักทายอย่างเคารพ
“บำเพ็ญเคล็ดสืบทอดลับทั้งสองศาสตร์สำเร็จแล้วหรือ” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาเอ่ยปากพูด
“บำเพ็ญสำเร็จแล้วขอรับ” ตงป๋อเสวี่ยอิงพูด
“เคล็ดร่างแยกเล่า”
“บำเพ็ญสำเร็จแล้วเช่นกันขอรับ”
“ดี”
ประมุขรัฐเมฆทักษิณาพยักหน้าเบาๆ “ข้ามีภารกิจหนึ่งจะมอบให้เจ้า หากสำเร็จแล้วก็จะคิดให้เจ้าสองหมื่นแต้มความดีความชอบ”
ตงป๋อเสวี่ยอิงตั้งใจฟังต่อไป
สองหมื่นแต้มความดีความชอบอย่างนั้นหรือ
สูงเกินไปแล้ว ภายในสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ ตำราศาสตร์ลับทางด้านห้วงอากาศ ศิษย์ถ่ายทอดเองก็ไม่จำเป็นต้องใช้แต้มความดีความชอบในการแลกเปลี่ยน เพียงแค่บำเพ็ญตำราศาสตร์ลับศาสตร์หนึ่งไปถึงขั้นอลวนระดับสุดยอด จึงจะสามารถเลือกศาสตร์ต่อไปได้ หากมิได้สำเร็จอย่างสมบูรณ์ก็มิอาจละโมบได้
หากมิใช่ตำราศาสตร์ลับทางด้านห้วงอากาศก็ต้องไปแลกเปลี่ยนแล้ว ต้องการเพียงแค่แต้มความดีความชอบหนึ่งในสิบส่วนสำหรับแลกเปลี่ยน อย่างเช่นเคล็ดวิชาสามชาติภพ สำหรับศิษย์ภายใต้สำนักต้องใช้ห้าแสนแต้มความดีความชอบ ส่วนศิษย์ถ่ายทอดเองใช้เพียงห้าหมื่นแต้มความดีความชอบเท่านั้น อันที่จริงแล้วเช่นการบำเพ็ญวิถีอากาศเป็นหลัก ที่ไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนตำราศาสตร์ลับอื่นๆ เลย ‘แต้มความดีความชอบ’ ก็ยังมีประโยชน์อีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือแลกเปลี่ยนเป็นสมบัติล้ำค่าวัตถุวิเศษที่ใช้สร้างวิญญาณขึ้นมาใหม่นานาชนิด เมื่อแลกเปลี่ยนกับท่านอาจารย์ ศิษย์ถ่ายทอดเองก็ได้ราคาเพียงหนึ่งในสิบเท่านั้นเช่นเดียวกัน
สองหมื่นแต้มความดีความชอบก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นวัตถุวิเศษที่ใช้สร้างวิญญาณขึ้นมาใหม่มูลค่าสองพันล้านแก้วผลึกจักรวาลแล้ว
พอๆ กันกับที่สามารถทำให้ร่างแยกอาภรณ์ทองที่ตนบำเพ็ญสำเร็จขึ้นมาใหม่บำเพ็ญร่างเมฆทักษิณาทิพย์ไปถึงระดับชั้นที่สิบอันสมบูรณ์แบบได้พอดี
“ที่รัฐประกายเพลิง ตอนนี้ ‘ลัทธิกระบี่สวรรค์’ แพร่กระจายอย่างกำเริบเสิบสาน กดดันสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ของข้า” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาพูด “สี่รัฐมารทมิฬล้วนเป็นพื้นที่หลักในการแพร่หลายของสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ของข้ามาโดยตลอด ความแพร่หลายของลัทธิกระบี่สวรรค์ที่นี่นั้นอ่อนแอมาตลอด แต่ตอนนี้กลับมากันอย่างอุกอาจ รัฐประกายเพลิงเป็นรัฐที่ชุลมุนที่สุดของสี่รัฐมารทมิฬ เกรงว่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ลัทธิกระบี่สวรรค์เลือกเปิดฉากที่รัฐประกายเพลิงก่อน ที่นั่นขาดยอดฝีมือไปนั่งประจำการ ในอดีตช่วยเหลือ ‘โหวชวีหมิง’ หวังว่าจะกดดันลัทธิกระบี่สวรรค์ลงไปได้โดยเร็วที่สุด ที่สี่รัฐมารทมิฬ มิอาจปล่อยให้พวกเขาทำตามอำเภอใจได้”
สิบสำนักใหญ่
อีกแปดแห่งล้วนมาจากหกรัฐโบราณ แพร่หลายในรัฐโบราณก็ร้ายกาจเป็นอย่างยิ่งแล้ว สำหรับรัฐเล็กๆ จำนวนหนึ่ง กลับมิได้ให้ความสำคัญสักเท่าใดนัก
เช่นกัน ‘ลัทธิกระบี่สวรรค์’และ ‘สำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์’ เพื่อการเผยแพร่ก็ขับเคี่ยวกันอย่างหนักหน่วงยิ่ง
ถึงแม้ว่าในภาพรวม สำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์จะค่อนข้างเสียเปรียบ! เพราะเบื้องหลังของลัทธิกระบี่สวรรค์นั้นมี ‘รัฐโบราณสหโลกา’ และ ‘รัฐโบราณคิมหันตวายุ’ คอยหนุนอยู่
ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้
ที่สี่รัฐมารทมิฬ… กลับเป็นพื้นที่หลักในการเผยแพร่ของสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ ลัทธิกระบี่สวรรค์กล้ามาเผยแพร่ ประมุขรัฐเมฆทักษิณาก็ย่อมมิอาจทานทนได้เป็นธรรมดา
“ให้มุ่งหน้าไปยังรัฐประกายเพลิงหรือ” ตงป๋อเสวี่ยอิงกระจ่างแจ้ง
…………………………………….

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด