Super God Gene ตอนที่ 2252

อ่านนิยายจีนเรื่อง Super God Gene ตอนที่ 2252 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

“ขุนพลโกสต์โบน เจ้าได้รับผลประโยชน์จากข้าไปแล้ว อย่างน้อยเจ้าก็ควรบอกให้ข้าได้รู้ความจริงก่อนที่จะตาย?” หานเซิ่นพูด
 
ขุนพลโกสต์โบนหยุดการหัวเราะและพูดขึ้นมา “ขอบคุณเจ้าที่ทำเพื่อข้ามากถึงขนาดนี้ แต่ข้ากลัวว่าจะไม่มีเวลาพูดกับเจ้า ทั้งหมดที่เจ้าจำเป็นต้องรู้ก็คือโบราณวัตถุที่เจ้าค้นพบคือกุญแจที่ใช้เปิดกล่องสมบัติของผู้นำเซเคร็ด เมื่อข้าได้สิ่งที่อยู่ภายในอนุสรณ์สถานมาแล้ว ข้าจะใช้ร่างกายของเจ้าท่องไปทั่วหล้า ร่างกายของเจ้าจะเป็นร่างของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุด เจ้าจะไม่ตายเปล่า”
 
“เจ้ามีกุญแจแล้วยังไง? เจ้ารู้หรือว่าอนุสรณ์สถานศักดิ์สิทธิ์นั่นอยู่ที่ไหน?” หานเซิ่นถาม
 
“ถ้าข้าไม่รู้ มันจะมีประโยชน์อะไรที่ข้าจะเอาแผ่นหินนั่นไป? อนุสรณ์สถานศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่บนดาวดวงนี้ ข้าแค่จำเป็นต้องได้ร่างนี้มา หลังจากนั้นข้าจะไปที่อนุสรณ์สถานศักดิ์สิทธิ์และกอบกู้โบราณวัตถุของท่านผู้นำกลับคืนมา” ขุนพลโกสต์โบนดูตื่นเต้นอย่างมาก
 
หานเซิ่นเป็นเพียงแค่ดยุกคนหนึ่ง และเมื่อก่อนนั้นขุนพลโกสต์โบนเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลจีโน แม้แต่ยอดฝีมือระดับราชันก็ไม่อยู่ในสายตาของเขา แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก ถ้าเขาได้รับโอกาสอื่นอีกล่ะก็ เขาก็ไม่มีทางจะพึงพอใจแค่ร่างของดยุกคนหนึ่ง
 
เมื่อก่อนนั้นถ้าเขาต้องเลือกร่างกายระดับเทพเจ้า เขาก็ยังต้องคิดหนัก
 
ตอนนี้เมื่อดยุกคนหนึ่งอยู่ในการควบคุมของเขา เขาก็คิดว่าร่างของอีกฝ่ายเป็นของเขาเรียบร้อยแล้ว และหานเซิ่นก็ไม่มีทางจะหนีจากการเข้าสิงไปได้
 
หลังจากที่ได้ยินอย่างนั้นหานเซิ่นก็รู้ว่าขุนพลโกสต์โบนกำลังเพ้อฝัน อีกฝ่ายไม่ได้บอกเขาว่าอนุสรณ์สถานศักดิ์สิทธิ์นั้นอยู่ที่ไหน และเมื่อหานเซิ่นกำลังจะถามเพิ่ม ร่างกายของเขาก็สั่นไหว หน้ากากโกสต์โบนบนใบหน้าของเขาสลายกลายเป็นผุยผง และจิตใจขุนพลโกสต์โบนก็ตรงเข้าไปในจิตใจของเขา
 
ในตอนนี้หานเซิ่นดูเหมือนกับเป็นคริสตัลหรือรูปปั้นที่ทำขึ้นมาจากกระดูกอันศักดิ์สิทธิ์ มันรู้สึกราวกับว่าผู้คนที่ได้เห็นเขาจะปรารถนาที่จะเชื่อฟังเขา
 
หานเซิ่นรู้ว่าร่างกายของเขาสิ้นสุดขั้นตอนการเปลี่ยนแปลง มันสายเกินไปแล้วสำหรับเขาที่จะถามอะไรจากขุนพลโกสต์โบนอีกในตอนนี้
 
“ข้ากลับมาแล้ว! สั่นกลัวภายใต้แรงสั่นสะเทือนของฝีเท้าข้า”
จิตใจของขุนพลโกสต์โบนนั้นเป็นบางสิ่งที่ชั่วร้ายอย่างแท้จริง เขาตะโกนขึ้นมาภายในจิตใจของหานเซิ่น
 
แต่เมื่อขุนพลโกสต์โบนมองไปรอบภายในจิตใจของหานเซิ่น เขาก็ตกตะลึงไป “ทำไมจิตใจของเจ้าถึงเป็นแบบนี้?”
 
ขุนพลโกสต์เห็นหอคอยหนึ่งตั้งอยู่ที่จิตของหานเซิ่น และภายในนั้นยังมีอสูรและซีโน่เจเนอิคกระจัดกระจายอยู่รอบๆ มันดูเหมือนกับโลกน้อยๆโลกหนึ่ง ขุนพลโกสต์โบนไม่เคยได้เห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
 
“จริงๆแล้วมันเรียกว่าทะเลจิต” เสียงของหานเซิ่นดังขึ้นภายในจิต
 
“ข้าไม่สนใจเกี่ยวกับทะเลจิตอะไรนี่ ในเมื่อข้ามาถึงแล้ว ที่นี่ก็เป็นดินแดนของข้า”
จิตใจที่แข็งแกร่งของขุนพลโกสต์โบนต้องการจะครอบงำที่นั่นและทำลายจิตใจของหานเซิ่น เมื่อเขาทำอย่างนั้นได้สำเร็จ เขาก็จะสามารถครอบครองร่างกายของหานเซิ่นได้อย่างสมบูรณ์
 
แต่ในทันทีที่จิตใจของเขาเข้ามาถึงในมุมๆหนึ่งภายในจิต ชุดเกราะคริสตัลสีดำก็ตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน จิตใจที่น่ากลัวของมันเข้าครอบงำทั้งทะเลจิต
 
จิตใจระดับเทพเจ้าของขุนพลโกสต์โบนถูกทำลายเมื่อสัมผัสกับจิตใจของชุดเกราะคริสตัลสีดำ เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะต่อต้าน
 
“เป็นไปไม่ได้… เป็นไปไม่ได้… อ้า…” ขุนพลโกสต์โบนไม่มีโอกาสจะหนีออกไป เขาได้แต่กรีดร้องขณะที่จิตใจถูกบดขยี้จนเหลือแต่ความว่างเปล่า
 
หลังจากนั้นชุดเกราะคริสตัลสีดำก็หลับใหลไปอีกครั้ง มันเหมือนกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ จิตใจของขุนพลโกสต์โบนถูกขจัดไปอย่างรวดเร็ว
 
“ทำไมเขาถึงได้รีบฆ่าตัวตายแบบนั้น? เขาไม่แม้แต่จะบอกเราว่าอนุสรณ์สถานศักดิ์สิทธิ์นั้นอยู่ที่ไหน!” หานเซิ่นรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มันจะไม่จบลงด้วยดีสำหรับใครบางคนที่ต้องการจะบุกเข้าไปในจิตเขา
 
หานเซิ่นอาจจะรู้สึกสงสารเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ที่สุดแล้วเขาก็มีความสุข พลังของขุนพลโกสต์โบนยังคงหลงเหลืออยู่ภายในร่างกายของเขา และตอนนี้พวกมันก็เป็นของเขาแล้ว เขาสามารถพัฒนาตัวเองได้ด้วยพวกมัน
 
พลังโกสต์โบนมหาศาลรวมกันอยู่ภายในร่างกายของหานเซิ่น ถ้าเขาดูดซับพลังโกสต์โบนทั้งหมดเข้าไป เขาก็จะกลายเป็นระดับดยุกได้
 
แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น มันก็เป็นเพียงแค่พลังที่หลงเหลือจากขุนพลโกสต์โบน มันไม่ได้มีประสิทธิภาพอย่างพลังดิบที่สมบูรณ์ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นพลังระดับเทพเจ้า ความแข็งแกร่งและบริสุทธิ์ของมันจึงเหนือกว่าดยุกคนหนึ่ง ทุกหยดของพลังจึงถือเป็นอะไรที่ประเมินค่าไม่ได้
 
ตอนนี้เมื่อร่างกายของหานเซิ่นเต็มไปด้วยพลังโกสต์โบนระดับเทพเจ้า ร่างกายของเขาก็เป็นเหมือนกับสมบัติล้ำค่าในตัวเอง เขาไม่จำเป็นต้องหาแหล่งทรัพยากรอีก เขาแค่จำเป็นต้องดูดซับพลังนั้นเข้าไปและเพิ่มระดับขึ้นด้วยพวกมัน
 
และมันไม่ใช่แค่ศาสตร์ตงเสวียนและวิชาโลหิตชีพจรเท่านั้นที่จะเพิ่มระดับขึ้น แม้แต่เรื่องราวของยีนก็อาจจะพัฒนาไปเป็นระดับดยุกเช่นกัน และมันยังมีความเป็นไปได้ที่พวกมันจะพัฒนาสูงขึ้นไปอีก
 
‘ขุนพลโกสต์โบนนี่เป็นคนดีจริงๆ น่าเสียดายที่เขาด่วนตายไปเร็วนัก มันจะเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบถ้าเขาบอกถึงที่อยู่ของอนุสรณ์สถานศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่จะจากไป’ หานเซิ่นถอนหายใจ
 
หานเซิ่นครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นมา เขาเห็นราชินีจิ้งจอกอยู่ตรงหน้าของเขา
 
“สุดที่รักของข้า ขอบคุณเจ้ามาก” หานเซิ่นพูดอย่างเย็นชาขณะที่เขามองไปที่ราชินีจิ้งจอก ตอนนี้ร่างของเขาดูเหมือนกับของโกสต์โบน ราชินีจิ้งจอกไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในจิต ดังนั้นเธอยังไม่รู้ว่าขุนพลโกสต์โบนได้ตายไป ตอนนี้หานเซิ่นจึงกล่าวอ้างว่าตัวเองคือขุนพลโกสต์โบนเพื่อหลอกเธอ
 
ราชินีจิ้งจอกมองหานเซิ่นและหัวเราะ “เจ้าดูชั่วร้ายมากๆ โกสต์โบนนี่เจ้าคิดว่าข้ากำลังช่วยเหลือเจ้าอย่างนั้นหรอ? เจ้าขังข้าเอาไว้ที่นี่เป็นล้านๆปีก็เพื่อทำให้ข้าทุกข์ทรมาน ข้ารอคอยโอกาสนี้มาชั่วชีวิต ตอนนี้เมื่อเจ้ามีร่างกายและใช้พลังของตัวเองไม่ได้สักพัก แถมเจ้าก็ยังเป็นแค่ดยุกคนหนึ่ง ดังนั้นมันถึงเวลาที่ข้าจะฆ่าเจ้า”
 
หานเซิ่นตกใจ เขาไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ เขาอ้างตัวว่าเขาเป็นขุนพลโกสต์โบนทั้งหมดก็เพื่อหลอกเธอ เขาคิดว่าแบบนั้นจะสามารถล้วงความลับบางอย่างออกมาจากเธอได้ เขาไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
 
ราชินีจิ้งจอกดูแปลกๆ โซ่สสารก่อตัวรอบๆร่างกายของเธอ ผมและหางจิ้งจอกสีขาวของเธอโบกสะบัดไปมา เธอกำลังจะระเบิดพลังออกมา
 
โซ่ที่ล่ามเธออยู่ปลดปล่อยควันสีดำออกมา มือผีทั้ง 5 พยายามที่จะจับคอ ข้อมือและข้อเท้าของราชินีจิ้งจอก
 
แต่โซ่สสารของราชินีจิ้งจอกป้องกันมือสีดำเหล่านั้นเอาไว้ มือพวกนั้นไม่สามารถหยุดเธอได้ ขณะที่ราชินีจิ้งจอกยื่นมือออกไปและโซ่สสารนั้นก็พุ่งตรงเข้าไปหาหานเซิ่น
 
“ช้าก่อน! ข้าไม่ใช่ขุนพลโกสต์โบน ข้าคือซานมู่!” หานเซิ่นรีบพูด
 
“บางทีลูกไม้นั้นอาจจะใช้ได้ผลกับคนอื่น แต่มันไม่ได้ผลกับข้า”
ราชินีจิ้งจอกไม่เชื่อหานเซิ่นและโซ่สสารนั้นก็พุ่งเข้าไปหาเขาต่อไปอย่างไม่ลดละ
 
ราชินีจิ้งจอกเชื่อว่านี้เป็นโอกาสเดียวของเธอ ร่างกายของเธอถูกล่ามและเธอก็ใช้พลังของส่วนใหญ่ไปกับการข่มโซ่ที่ล่ามเธอเอาไว้ พลังที่เธอสามารถใช้เพื่อโจมตีจึงเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของพลังทั้งหมด เธอจึงจำเป็นต้องฆ่าขุนพลโกสต์โบนในขณะที่ร่างกายของเขายังเป็นแค่ระดับดยุกเท่านั้น
 
ราชินีจิ้งจอกนั้นรอคอยโอกาสนี้มานานแสนนานแล้ว

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด