บทที่426
ผู้แปล : N
“จนถึงตอนนี้เราทำได้เพียงออกใบขับขี่รถยนต์แบบอัตโนมัติที่ระดับ L3 ได้เท่านั้น นอกเหนือจากนั้นเราจะต้องทำการตรวจสอบให้ดีกว่านี้ก่อน!” เจ้าหน้าที่อาวุโสของสำนักจัดการการขนส่งที่มีทัศนะแบบอนุรักษ์นิยมได้พูดขึ้นมา
เหตุที่เป็นแบบนั้นก็เนื่องมาจากเขาได้เล็งเห็นว่า ถ้าหากเมืองของพวกเขาได้เป็นคนแรกที่ออกใบอนุญาตทดสอบ L5 ให้แก่บริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟละก็ มันก็เท่ากับการดึงดูดจุดสนใจของคนทั้งประเทศในของหัวข้อด้านการความปลอดภัยทันที ดังนั้นมันจะเป็นการดีมากกว่าถ้าเขาจะชะลอเรื่องนี้ออกไป
“แต่ผมคิดว่าเราสามารถทดลองนำมันไปใช้ก่อนได้ โดยที่เราจะต้องทำการติดตามผลอย่างใกล้ชิด” พนักงานอาวุโสฝ่ายเสนาธิการคนหนึ่งได้พูดขึ้นว่า “พวกคุณก็ได้เห็นแล้วว่าเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยในการจัดการจราจร ผลที่ได้ออกมามันก็น่าทึ่งเป็นอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้เองได้กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่จราจรของเราใช้เทคโนโลยีใหม่ๆมากขึ้น ”
“ส่วนรถที่ใช้ระบบการขับขี่แบบไร้คนขับนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ตัวล่าสุดของพวกเขามีมาใช้ ดังนั้นผมจึงมีความคิดว่าโครงการนี้ไม่มีปัญหาครับ”
เขาที่เป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลระบบการจัดการจราจรอัจฉริยะ ชื่อว่า เสี่ยวหลัว หลังจากที่เขาได้เห็นความสะดวกสบายของการนำระบบการจราจรอัจฉริยะไปช่วยในการทำงาน มันก็ได้ทำให้งานในแผนกของเขาทำงานได้ง่ายมากขึ้น
“ แล้วนายจะรู้ได้ไงว่าเรื่องที่นายพูดออกมานั้นไม่มีปัญหา? มันเป็นสิ่งที่รู้ๆกันว่าระบบขับขี่แบบไร้คนขับนั้นไม่ได้ใช้เพียงเกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงระบบกำหนดตำแหน่งอย่างระบบเซ็นเซอร์ ฯลฯ แล้วแบบนี้นายยังสามารถรับประกันได้ไหมว่ามันจะไม่มีปัญหาอย่างอื่นตามมา” หนึ่งในคนที่อยู่ในห้องประชุมได้พูดถึงเรื่องนี้ออกมา
“ ในเรื่องนั้นผมเองก็ไม่สามารถรับประกันได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นผมจึงได้เสนอให้เราทดสอบมันก่อนยังไงละ!” เสี่ยวหลัวยังคงยืนยันในมุมมองของตัวเอง
“ เสี่ยวหลัว! ไม่ใช้ว่าพวกเราไม่เข้าใจเห็นเหตุผลของนายนะ! แต่นายเคยคิดบ้างไหมว่าเราจะตรวจจับมันได้ยังไง ในเมื่อสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน”
“แล้วนายจะให้เราใช้วิธีการตรวจมาตรฐานแบบไหนกันมาตรวจสอบเรื่องนี้? แต่ถ้าหากนายสามารถหาวิธีตรวจสอบที่ได้มาตรฐานมาให้ได้ พวกเราเองก็ยินดีที่จะบรรจุใบอนุญาต L4 ให้กับบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟ “
หลังจากนั้นทุกคนก็ได้โต้เถียงกันไปมา จำต้องให้ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการเป็นคนตัดสินใจ
ผู้อำนวยการวูชางเฟิงขมวดคิ้วเป็นวง นี่แสดงให้เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอะไรที่ลำบากใจเป็นอย่างมาก ถ้าเขาให้การปฏิเสธไปมันก็เป็นเหมือนการหักหน้าคนที่เป็นแรงสำคัญในการพัฒนาประเทศ แต่ถ้าเขาให้การสนับสนุนมันก็ทำให้เขาต้องรับความเสี่ยงที่อาจจะตามมา
และในขณะนี้คนทั้งประเทศ รวมถึงผู้นำในระดับต่างๆ และบริษัทในอุตสาหกรรมการขนส่ง ต่างก็กำลังรอการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถลากถ่วงเรื่องนี้ไปได้ไกลมากกว่าที่เป็นอยู่ได้
“เฮ้อ! ช่วยรายงานผลการทดสอบระบบรถไร้คนขับของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟอีกครั้ง!” เขาที่ไม่รู้จะตัดสินใจยังไงดี ก็เลยได้สั่งให้ลูกน้อยของเขารายงานผลการทดสอบอีกครั้ง
“ในอดีต การทดสอบถนนขับขี่รถยนต์ประเภท L3 นั้น พวกเขาได้ทำการทดสอบเป็นเวลาสองเดือนและไม่เคยมีอุบัติเหตุจากการจราจรหรือการฝ่าฝืนการจราจรแต่อย่างใด ในส่วนของการทดสอบระบบรถไร้คนขับแบบเต็มรูปแบบเองก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเช่นกัน “
จากรายงานนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่พบปัญหาใดๆ แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆก็คือการก้าวข้ามจากการขับรถยนต์โดยมนุษย์ไปเป็นแบบไร้คนขับนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับหลายๆคนเป็นอย่างมาก
เสี่ยวหลัวยังคงได้พูดเสริมขึ้นว่า: “ทางกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเองก็ได้ร่วมตรวจสอบเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้เช่นกัน พวกเขาต่างก็ได้ยืนยันแล้วว่าเทคโนโลยีนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด”
ผู้อำนวยการวูชางเฟิงที่ได้ฟังแบบนั้นก็เกิดอาการลังเลขึ้น ก่อนที่เขาจะพูดออกมาว่า “เอาละ! เราสามารถลองอนุมัติให้พวกเขาทำการทดสอบบนถนนในบางพื้นที่ได้ และในเวลาเดียวกันพวกเขาจะต้องมีการควบคุมแบบเรียลไทม์โดยผู้ขับขี่… “
“กฎข้อบังคับเกี่ยวกับการทดลองใช้ยานพาหนะแบบไร้คนขับ” ของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟก็ได้รับการประกาศออกมาในวันถัดไป ซึ่งกฎข้อบังคับนี้เอาไว้ใช้สำหรับบริษัทบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟได้เท่านั้น.
กฎระเบียบยังได้ระบุเอาไว้อีกว่า เมื่อมีปัญหาด้านความปลอดภัยในด้านการจราจรที่เกิดจากเทคโนโลยีรถไร้คนขับที่ไม่สมบูรณ์ขึ้น ใบอนุญาตการทดสอบจะถูกถอนออกออกทันที และทางบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่ออุบัติเหตุจราจรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ทันทีที่ระเบียบนี้ออกมา ก็ไม่ใช้เรื่องน่าแปลกใจสำหรับคนในแวดวงอุตสาหกรรมแต่อย่างใด แต่สำหรับพวกสื่อ ผู้เชี่ยวชาญ และ ประชาชน ต่างก็ได้โต้แย้งวิธีการนี้กันอย่างมากมาย
แต่อย่างไรก็ตามรถยนต์ที่ใช้ระบบรถไร้คนขับของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟก็ยังคงได้ออกมาทดสอบบนทางถนนตามปกติ และมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะได้ทดสอบการขับขี่แบบL5ไปพร้อมๆกัน
ตามบทบัญญัติของกฎระเบียบของการพิจารณาคดีรถยนต์ บริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟยังคงต้องส่งคนขับรถที่มีทักษะในด้านการขับขี่ไปนั่งในรถด้วยตลอดเวลา และในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับระบบรถไร้คนขับ พวกเขาจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลที่ตามมาแต่เพียงผู้เดียว
“มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทดสอบระบบการขับขี่แบบไร้คนขับเป็นประจำ!” ภายใน บริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟ ได้มีการจัดประชุมผู้บริหารระดับสูงขึ้น และลูชินที่เป็นประธานในการประชุมในครั้งนี้ก็ได้พูดเน้นย้ำว่า “ในปัจจุบันนี้! แผนกของหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงประชาชนส่วนใหญ่ ยังคงเกิดข้อสงสัยในระบบรถไร้คนขับของเรา ดังนั้นถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น พวกมันจะถูกนำมาโจมตีบริษัทของเราอย่างแน่นอน ”
ลูชินได้ยกเหตุการณ์เกี่ยวกับตัวเกมสามมิติมาเป็นบทเรียนในครั้งนี้
“ฉันยินดีให้เราเจอปัญหาที่ในสนามทดสอบ ดีกว่าเราไปเจอมันบนถนน ฉันหวังว่าพวกนายทุกคนจะเข้าใจถึงสิ่งที่ฉันสื่อออกมา!” คำพูดของลูชินได้ถูกบันทึกไว้เป็นข้อกำหนดหลักทันที
เพื่อให้ประชาชนเห็นถึงความมั่นใจของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟ พวกเขาได้ตัดสินใจที่จะนำรถที่ไม่มีคนขับไปทดสอบในวันทดสอบเพื่อพิสูจน์ความปลอดภัยของระบบการขับขี่นี้
ในวันแรกของการทดสอบบนถนนจริงของรถยนต์ไร้คนขับของบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟ สำนักบริหารการขนส่งในจังหวัดเจียงเฉิงและสำนักสื่อทั้งหมดต่างก็ได้มาเป็นสักขีพยาน และในงานยังได้ทำการจัดงานตัดริบบิ้นสำหรับใบอนุญาตทดสอบแบบระบบรถไร้คนขับประเภท L5 ครั้งแรกของโลก
ผู้อำนวยการวูชางเฟิง ผู้อำนวยการสำนักจัดการการขนส่งเองก็ได้มาร่วมงานนี้ด้วยตนเอง และเขายังมีส่วนร่วมในการตัดริบบิ้นเปิดงานอีกด้วย
สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเองก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ภาคสนามมา เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้ทำการถ่ายทอดสดเพื่อบันทึกช่วงเวลานี้เอาไว้
ผู้สื่อข่าวจากเจียงเฉิงทีวี ได้พูดขึ้นว่า: “ดูสินี่ค่ะ! นี้คือรถยนต์ไร้คนขับคันแรกของโลกที่ผลิตโดยบริษัทแพนแพนออโต้โมทีฟ และในวันนี้เองที่จะมีการนำรถยนต์คันนี้ไปทดสอบในสภาพท้องถนนจริง ซึ่งคงมีผู้ชมทางบ้านจำนวนมากที่เกิดความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นทางเราจึงได้ทำการเชื่อมต่อเลนส์กล้องในรถเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย โดยที่มันจะส่งสัญญาณภาพพร้อมเสียงมาแบบเรียวทาม “