ตอนที่ 257-1 จิตใจกตัญญูของสวีโย่ว

อ่านนิยายจีนเรื่อง ตอนที่ 14 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

วันหยุดประจำสัปดาห์ สวีโย่วไม่เกาะแกะอย่างไม่น่าเชื่อ แต่กลับตื่นแต่เช้าตรู่ ทานอาหารเช้าเสร็จเขาก็เดินออกไปข้างนอกอย่างมีชีวิตชีวา เดินไปสองก้าวก็หันหน้ากลับมา มองเสิ่นเวยที่ขดตัวไม่เป็นรูปไม่เป็นร่างอย่างยิ่งอยู่บนเก้าอี้ไผ่ลาย มุมปากก็ยกขึ้น “จำไว้นะ คืนนี้ต้องชดเชยสองเท่า”/n /n /nเสิ่นเวยโบกมืออย่างขบขำ “รู้แล้ว รู้แล้ว ไปเถอะ รีบไป” อยากจะตามไปดูคุณชายใหญ่มาดห้าวหาญเหลือเกิน! คิดๆ ดูแล้วก็อย่าราดน้ำมันบนกองไฟเลยดีกว่า/n /n /n“ท่านจวิ้นอ๋อง ท่านมาแล้ว! ท่านอ๋องพระชายาและท่านซื่อจื่อต่างก็รออยู่” คนที่มาต้อนรับสวีโย่วด้วยตัวเองคือพ่อบ้านเสี่ยวเฉวียน เขาโค้งตัวแย้มยิ้ม ท่าทางเคารพ/n /n /nสวีโย่วพยักหน้าเล็กน้อย เดินมือไพล่หลังเข้าไปในเรือนของพระชายาจิ้นอ๋อง เมื่อคืนสั่งคนมาส่งข่าว ว่าวันนี้เขาจะกลับจวนทำหน้าที่ลูกกตัญญู มาเคารพพ่อเขา และถือโอกาสกระชับความสัมพันธ์กับน้องชายทั้งหลาย/n /n /n“ท่านจวิ้นอ๋อง พวกนางไม่ต้องตามมาก็ได้กระมัง” พ่อบ้านเสี่ยวเฉวียนชี้สตรีวัยแรกแย้มสองกลุ่มที่ตามมาข้างหลัง ถามกลับอย่างดื้อรั้น/n /n /nหนังตาของสวีโย่วไม่เหลือบขึ้นแม้แต่น้อย เสมือนว่าไม่ได้ยิน เจียงไป๋ยิ้มแย้มดึงพ่อบ้านเสี่ยวเฉวียนออกมาข้างๆ “ข้าจะบอกให้นะพ่อบ้านใหญ่ จิตใจของท่านเป็นกังวลเกินไปแล้วหรือกระมัง เหล่านี้ล้วนแต่เป็น ‘จิตใจกตัญญู’ ของนายท่านพวกเรา จะไม่ตามไปได้อย่างไร” เขาเพยิดคางชี้สตรีเหล่านั้นเล็กน้อย กล่าวอย่างแฝงความนัย “พวกเราต่างก็เป็นบ่าวรับใช้ ต้องรู้จักลำดับความสำคัญปฏิบัติตามกฎระเบียบ รู้ว่าเรื่องใดถามได้ เรื่องใดถามไม่ได้ ใช่หรือไม่ พ่อบ้านใหญ่” เขาใช้ศอกกระทุ้งพ่อบ้านเสี่ยวเฉวียนเล็กน้อย ท่าทางสนิทสนม/n /n /nพ่อบ้านเสี่ยวเฉวียนที่ถูกเจียงไป๋ลากออกมาแทบจะร้องไห้แล้ว ดูแนวรบนี้ของผิงจวิ้นอ๋องไหนเลยจะเป็นการมาเคารพอย่างเรียบง่าย ในใจเขาพะว้าพะวง แต่เมื่อสบสายตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเจียงไป๋ เขาอ้าปากแล้ว ท้ายที่สุดก็ถอนหายใจ คำพูดขัดขวางก็ไม่กล้าพูดอีกต่อไป/n /n /nบ่าวสองคนนี้ข้างกายผิงจวิ้นอ๋องคือหายนะ อย่ามองว่าเจียงไป๋ยิ้มแย้มอารมณ์ดีทั้งวัน แต่พ่อบ้านเสี่ยวเฉวียนกลับรู้ว่าเขาพลิกหน้าแล้วไร้ความปราณี คราวก่อนนายท่านใหญ่ตระกูลซ่งมาที่จวน บ่าวรับใช้คนหนึ่งข้างกายเขาไม่เคารพผิงจวิ้นอ๋องเล็กน้อย ก็ถูกเจียงไป๋ถีบกระดูกซี่โครงหักไปสามท่อนโยนออกจากประตูใหญ่ ท่านอ๋องโมโหแทบตาย ท้ายที่สุดก็ไม่ได้ลงโทษเขามิใช่หรือ/n /n /n“เสด็จพ่อ ไม่พบกันนานไม่เจ็บป่วยใช่หรือไม่!” สวีโย่วกล่าวด้วยสีหน้าเมินเฉย หลังจากนั้นก็พยักหน้าให้สวีเยี่ยและคนอื่นๆ/n /n /nเดิมจิ้นอ๋องเห็นบุตรคนโตก็ยังดีใจหลายส่วน โดยเฉพาะลูกคนนี้ยังมาเคารพเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใส่ใจบุตรคนโต แต่อย่างไรเสียบุตรคนโตก็มีความสามารถ นี่ทำให้ในใจเขาเองก็รู้สึกมีเกียรติ/n /n /nใครจะรู้พอบุตรคนโตเอ่ยปากก็ทักว่าไม่พบกันนานไม่เจ็บป่วยใช่หรือไม่ อะไรคือไม่พบกันนานไม่เจ็บป่วยใช่หรือไม่ ลูกอกตัญญูคนนี้ย้ายออกไปไม่กี่วันก็ทักเขาว่าไม่พบกันนานไม่เจ็บป่วยใช่หรือไม่แล้วหรือ เขาย่อมไม่เจ็บป่วย สบายดีอย่างยิ่ง ทุกวันกินอิ่มนอนหลับ กำลังวังชายอดเยี่ยม/n /n /nสวีโย่วไม่สนว่าในใจจิ้นอ๋องจะคิดเช่นไร สะบัดชุดคลุมนั่งลงบนเก้าอี้ มองพระชายาจิ้นอ๋อง กล่าวทักทาย พระชายาเองก็ไม่เจ็บป่วยใช่หรือไม่” ดูจากสีหน้าก็ยังไม่เลว ดูท่าแล้วจิตใจของเขาจะอ่อนไปเล็กน้อย! เขาไม่ควรส่งซ่งอี๋จยากับซ่งอี๋ฮุ่ยเข้าไปในเรือนของสวีเยี่ยกับสวีเหยียน แต่ควรจะโยนไปบนเตียงของเสด็จพ่อเขาแทน/n /n /n“พูดจาอะไรกัน” จิ้นอ๋องสีหน้าเคร่งขรึม ตำหนิหนึ่งประโยคอย่างไม่พอใจ/n /n /nทว่าพระชายาจิ้นอ๋องกลับห้ามเขา “คุณชายใหญ่อุส่ามา มีอะไรก็พูดกันดีๆ ไม่ได้หรือ” จากนั้นก็ยิ้มกับสวีโย่ว “สบายดี ข้ากับเสด็จพ่อเจ้าสบายดียิ่งนัก จริงสิ เหตุใดภรรยาเจ้าถึงไม่กลับมาด้วยกันเล่า” ท่าทางเป็นห่วงอย่างมาก/n /n /nสวีโย่วชายตามองนางปราดหนึ่ง ตอบไม่ตรงคำถาม “จริงสิ ฟังว่าลูกผู้น้องสองคนฝั่งมารดาพระชายาก็อยู่ เหตุใดจึงไม่เห็นเล่า”/n /n /nเมื่อได้ยินสวีโย่วเอ่ยถึงซ่งอี๋จยากับซ่งอี๋ฮุ่ย สีหน้าคนหลายคนต่างก็ไม่ดีนัก เมื่อไม่กี่วันก่อนเรื่องวุ่นวายใจปีนขึ้นเตียงเรื่องนั้นไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร แต่สวีเยี่ยกับสวีเหยียนแตะต้องตัวซ่งอี๋ฮุ่ยกับซ่งอี๋จยาแล้วกลับเป็นเรื่องจริง แม้ว่าพวกนางสองคนจะเป็นบุตรสาวอนุภรรยา แต่ก็ยังเป็นลูกผู้น้องของสวีเยี่ยกับสวีเหยียน ก็ต้องรับผิดชอบมิใช่หรือ ต่อให้อู๋ซื่อกับหูซื่อจะไม่ยินยอม ในเรือนของพวกนางต่างก็ต้องมีอนุภรรยาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน รอแค่เพียงเลือกฤกษ์ยกน้ำชา/n /n /nมีเพียงสวีฉั่งที่กล่าวด้วยสีหน้าอิจฉา “พี่ใหญ่ยังไม่รู้ใช่หรือไม่ อีกไม่ช้าลูกผู้น้องสองคนก็จะกลายเป็นคนในเรือนของพี่รองพี่สามแล้ว” เหตุใดเรื่องดีเช่นนี้จึงไม่ถึงตาเขาบ้าง โดยเฉพาะลูกผู้น้องอี๋จยา เรือนร่างนั่นมองปราดเดียวกระดูกในร่างกายก็อ่อนไปกว่าครึ่งแล้ว พี่สามโชคดียิ่งนัก!/n /n /nสวีโย่วพยักหน้า “อืม นี่เป็นเรื่องดี! แต่ไหนแต่ไรพระชายาก็ยกย่องชมเชยบุคลิกนิสัยของลูกผู้น้องสองคน มีพวกนางสองคนปรนนิบัติข้างกายน้องรองน้องสาม พระชายาก็สามารถวางใจได้ไม่น้อย น้องสะใภ้สองคนก็ลดภาระลงได้ไม่น้อย กลับไม่ทำให้ความพยายามของข้าเสียแรงเปล่า” สวีโย่วยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่านี่คือฝีมือของเขา/n /n /n“อะไรนะ พี่ใหญ่ ฝีมือท่านหรือ” สวีฉั่งที่สะกดอารมณ์ไม่อยู่กระโดดขึ้นมาทันที ตอนที่เกิดเรื่องแม้ว่าเขาจะไม่อยู่ในจวน แต่ภายหลังก็ได้ยินบ่าวในเรือนพูดถึง ที่แท้แล้วลูกผู้น้องสองคนไปปรากฎตัวอยู่บนเตียงของพี่รองพี่สามก็เป็นฝีมือของพี่ใหญ่นี่เอง! ช่าง ช่างลำเอียงเกินไปจริงๆ พี่ใหญ่ เหตุใดท่านถึงไม่ส่งให้ข้าสักคนบ้าง สายตาที่สวีฉั่งมองพี่ใหญ่เขามีความไม่พอใจปรากฎเด่นชัด/n /n /nนอกจากสวีฉั่งคนโง่ผู้นี้แล้ว หลายคนที่เหลือก็หน้าเปลี่ยนสี/n /n /nจิ้นอ๋องตบโต๊ะก่นด่า “เจ้าลูกอกตัญญูแท้จริงแล้วเจ้าทำอะไรกันแน่ เจ้าใช่ต้องยั่วโมโหข้าให้ตายจึงจะพอใจหรือไม่”/n /n /nพระชายาจิ้นอ๋องกุมหน้าร้องไห้ “คุณชายใหญ่ทำเพื่ออะไรกัน น้องชายเจ้าไปก่อเรื่องให้เจ้าหรือ”/n /n /nริมฝีปากของสวีเหยียนเม้มแน่น ส่วนสวีเยี่ยก็มีสายตาซับซ้อนผิดปกติ “พี่ใหญ่ เหตุใดต้องทำถึงเพียงนี้!” แม้พวกเขาจะไม่สนิท แต่อย่างไรเสียก็ยังเป็นพี่น้องกัน!/n /n /nทว่าสวีโย่วกลับไขว่ห้างดื่มชาราวกับไม่ใช่คนบงการ เขาเกลี่ยฟองใบชาเบาๆ จิบช้าๆ หนึ่งอึก ขยับริมฝีปากเล็กน้อยแล้วจึงกล่าว “ทำเพื่ออะไรงั้นหรือ พระชายาไม่ใช่รู้ดีแก่ใจหรือ ท่านบอกไม่ใช่หรือว่าลูกผู้น้องสองคนต่างก็เป็นผู้ที่เหมาะสม วางแผนเป็นร้อยเป็นพันคิดจะยัดเยียดพวกนางให้ข้ามิใช่หรือ ข้าสุขภาพไม่ค่อยดีนัก ในด้านสตรีก็ต้องรอบคอบหน่อย เพื่อไม่ทำให้พระชายาผิดหวัง ข้าจึงคิดวิธีนี้ไม่ใช่หรือ น้องรองน้องสามก็เหมือนข้ามิใช่หรือ หรือจะบอกว่าพระชายาคิดแต่จะเตรียมให้ข้าล่วงหน้าจนลืมน้องรองกับน้องสามไปงั้นหรือ ให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ พระชายาจะทำอะไรต้องมีความยุติธรรม”/n /n /nจากนั้นจึงมองสวีเยี่ยอย่างเฉยเมย “น้องรองว่าอย่างไรนะ เหตุใดต้องทำถึงเพียงนี้หรือ ที่พระตำหนักจินหลวนพี่ใหญ่ก็พูดชัดเจนอย่างยิ่งแล้วมิใช่หรือ พี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเจ้าเป็นคนใจแคบ เมื่อครู่พระชายายังถามว่าเหตุใดนางถึงไม่มาด้วยกัน ป่วยแล้ว ตั้งแต่กลับจากจวนอ๋องไปก็ป่วย แน่นหน้าอก ดื่มยาอยู่หลายวันก็ยังไม่ดีขึ้น หากข้าไม่ช่วยนางระบายอารมณ์สักหน่อยหากนางอัดอั้นจนเป็นอะไรไป พี่ใหญ่พวกเจ้าคงจะกลายเป็นพ่อหม้าย พวกเราต่างก็เป็นพี่น้อง พวกเจ้าคงไม่อาจทนเห็นข้าโดดเดี่ยวเดียวดายได้กระมัง” สีหน้าของสวีโย่วจริงจังยิ่งนัก/n /n /n“พระชายาก็บอกแล้ว บุรุษในสังคมนี้คนใดบ้างที่ไม่มีสามสี่ภรรยา เห็นได้ว่าพระชายาเห็นด้วยกับเรื่องนี้ หลายปีมานี้ข้าเองก็ไม่ได้ส่งของขวัญอะไรให้พวกท่าน ลูกผู้น้องสองคนก็ถือเป็นของขวัญใหญ่ที่พี่มอบให้พวกเจ้า รับไว้ดีๆ พี่ใหญ่พวกเจ้าสุขภาพไม่ดี ซ้ำยังกลัวภรรยา แต่งอนุแต่งอี๋เหนียงต่างๆ ถือว่าอย่าเลย หลังจากนี้พระชายาก็ไม่ต้องทุกข์ใจเรื่องข้าแล้ว”/n /n /n“เจ้าลูกอกตัญญูพูดอะไรของเจ้า เจ้าไสหัวไปเดี๋ยวนี้ ไสหัวไปให้ไกล ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก” จิ้นอ๋องออกแรงขว้างแก้วลงพื้น โมโหเลือดขึ้นหน้า ชี้สวีโย่วก่นด่าใหญ่ “เจ้าบอกไม่ใช่หรือว่ามาแสดงความกตัญญูต่อข้า ข้าว่าจิตใจกตัญญูของเจ้าคงเอาไปให้หมากินแล้วกระมัง”/n /n /n“อย่าร้อนใจไปเสด็จพ่อ จิตใจกตัญญูของลูกไม่ใช่อยู่ตรงนั้นหรอกหรือ” สวีโย่วตบมือ “เข้ามาให้หมด”/n /n /nตามเสียงตบมือของสวีโย่ว นอกประตูก็มีสตรีวัยแรกแย้มสิบคนเดินเข้ามาเป็นสองแถวด้วยความชดช้อยอ่อนหวาน โน้มตัวเคารพอย่างพร้อมเพรียง คารวะท่านอ๋องพระชายาผิงจวิ้นอ๋องและคุณชายทั้งหลายเจ้าค่ะ”/n /n /n“นี่ นี่ พวกนางเป็นใครกัน เจ้าจะเล่นลูกไม้อะไรอีกแล้ว พาออกไป รีบพาออกไปเดี๋ยวนี้” ท่านจิ้นอ๋องตกใจจนปากอ้าตาค้าง ครู่ใหญ่กว่าจะหาเสียงของตัวเองกลับมาได้/n /n /nส่วนสวีเยี่ยสวีเหยียนสวีฉั่งก็จับต้นชนปลายไม่ถูก มีเพียงพระชายาจิ้นอ๋องที่คล้ายคิดอะไรอยู่ ในใจมีลางสังหรณ์ไม่ดีปรากฏขึ้นมา/n /n /n“นี่ก็คือจิตใจกตัญญูของลูกอย่างไรเล่า!” สวีโย่วเชิดคางอย่างไร้เดียงสา “ลูกคิดว่าข้างกายเด็จพ่อไม่มีคนใหม่มานานแล้ว ในเรือนน้องรองน้องสามก็ไม่มีหญิงงามอะไร จึงขอหญิงงามสิบคนจากฝ่าบาท สี่คนในนั้นมอบให้เสด็จพ่อ น้องรองน้องสามแบ่งกันคนละสามคน บวกกับลูกผู้น้องก็เป็น ‘สี่’ ทุกเรื่องสมดังใจหวัง! ขอเสด็จพ่อกับน้องรองน้องสามจงรับไว้เถิด”/n /n /nจิ้นอ๋องโมโหจนหน้าเขียวจัด ไม่รอให้เขาบันดาลโทสะ สวีฉั่งก็ชิงไม่พอใจก่อนแล้ว “พี่ใหญ่ แล้วข้าเล่า แล้วข้าเล่า ท่านลืมน้องไปแล้วใช่หรือไม่ เหตุใดท่านถึงเลือกที่รักมักที่ชังเช่นนี้ หญิงงามสิบคนให้ข้าสักคนเถิด” สวีฉั่งมองหญิงงามทั้งหมดตรงหน้า ดวงตาตะลึงงัน ให้ตายเถอะ พี่ใหญ่ไปเสาะหาของดีมาจากไหน แต่ละคนงดงามยอดเยี่ยมจริงๆ แทบไม่ต่างจากหญิงงามแถวหน้าในหอเสพสำราญเลย/n /n /n“ฉั่งเอ๋อร์เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้” พระชายาจิ้นอ๋องตะคอกใส่สวีฉั่งด้วยสีหน้าไม่ดีนัก ทั้งอัดอั้นทั้งโมโห สายตาที่ดุร้ายจ้องมองสวีโย่ว ราวกับว่าจะกินเขาแล้ว/n /n /n“ไป เจ้าไสหัวไป ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!” จิ้นอ๋องเตะโต๊ะคว่ำ เห็นได้ว่าโกรธอย่างรุนแรง สวีเยี่ยสวีเหยียนเข้าไปห้าม “เสด็จพ่อท่านโปรดระงับโทสะ พี่ใหญ่ไม่ได้ตั้งใจ”/n /n /nทว่าสวีโย่วกลับทำราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตนเอง เลิกชุดคลุมลุกขึ้นยืน กล่าวกับสวีฉั่งด้วยความอ่อนโยน “น้องสี่เจ้ายังไม่แต่งงาน ตอนนี้ยังไม่ควรแต่งอนุภรรยา นี่ไม่เหมาะสมกับกฎของวงศ์ตระกูล เอาเช่นนี้แล้วกัน หากเจ้าชอบจริงๆ รอเจ้าแต่งงานแล้วพี่ใหญ่จะส่งให้เจ้าหลายคน”/n /n /n“จริงหรือ สวยเช่นนี้หมดเลยหรือ” สวีฉั่งแสยะปากยิ้มดีใจ/n /n /nสวีโย่วยิ้มพยักหน้า “สวยกว่านี้ก็มี”/n /n /n“ได้ๆๆ เช่นนั้นน้องขอบคุณพี่ใหญ่ไว้ก่อนเลย” สวีฉ่างประสานมือคารวะสวีโย่วอย่างเอาจริงเอาจัง จิตใจเบิกบาน/n /n /nสวีโย่วยิ้ม จากนั้นจึงหันกลับ กล่าว “เสด็จพ่อท่านรักษาร่างกายเถิด ลูกจะไปเดี๋ยวนี้” สะบัดชุดคลุม เดินออกไปอย่างคล่องแคล่ว เดินไปได้สองก้าวก็หันกลับมาราวกับนึกอะไรขึ้นได้ “อ้อจริงสิ หญิงงามสิบคนนี้ล้วนแต่เป็นนางกำนัลที่ฝ่าบาทพระราชทานให้ พระชายาทั้งมีความสามารถทั้งใจกว้างเมตตา ต้องลำบากท่านแบ่งให้เสด็จพ่อและน้องรองน้องสามแล้ว”/n /n /nพระชายาจิ้นอ๋องได้ยินดังนั้นเบื้องหน้าก็ดำมืด คนข้างกายลนลานตะโกนเสียงดังพร้อมกัน “เสด็จแม่ เสด็จแม่ท่านเป็นอะไรไป” “พระชายาท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่” “รีบไปเชิญหมอมา”/n /n /nเสียงที่ว้าวุ่นดังเข้าไปในหูของสวีโย่ว เขากระตุกมุมปาก ในดวงตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม พระชายา ค่อยๆ เตรียมรับเถิด! อืม ในที่สุดก็ช่วยเวยเวยระบายความโกรธได้แล้ว/n /n /nเหตุใดพระชายาจิ้นอ๋องถึงโกรธจนเป็นลมได้เล่า สวีโย่วส่งหญิงงามมาสิบคนนางไม่ได้ใส่ใจอย่างสิ้นเชิง ตกอยู่ในมือนางแล้วก็ปล่อยให้นางจัดการได้มิใช่หรือ สตรีวัยแรกแย้มที่อ่อนช้อยเช่นนี้ ต่อให้เอาออกไปขายก็ยังสามารถขายได้เงินไม่น้อย แต่สวีโย่วดันเอานางกำนัลที่ฝ่าบาทพระราชทานมา นางกำนัลที่ฝ่าบาทพระราชทานอย่าว่าแต่ขายไม่ได้ ยังต้องดูแลให้ดี มิเช่นนั้นจะเป็นการไม่เคารพต่อฝ่าบาท จะต้องถูกลงโทษ เจ้าว่าพระชายาจิ้นอ๋องจะไม่เป็นลมได้หรือ ไม่กระอักเลือดออกมาก็ดีเท่าไรแล้ว/n

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด