War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2463

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2463 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ตอนที่ 2,463 : เทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!
 
 
 
“วันนี้ข้าอู่เซี่ยวจักให้พี่น้องเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายรับทราบ…ว่าต่อหน้าพวกเรา ครึ่งก้าวเซียนอมตะก็มิต่างใดจากมดปลวก!”
 
ขณะแผดวาจาเยียบเย็นออกมาอีกครั้ง ในมืออู่เซี่ยวพลันปรากฏหอกเล่มหนึ่งผุดจากความว่างเข้ามากระชับถือไว้
 
วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม!
 

 
ตัวหอกสั่นไหวเพียงครู่ ก็เริ่มเปล่งประกายสว่างเจิดจ้า กลิ่นอายพลังแหลมคมปานทะลวงเจาะได้ทุกสิ่งเริ่มแผ่ซ่านออกมาอย่างรุนแรง พาลให้ผู้คนโดยรอบบังเกิดความครั่นคร้ามไม่น้อย
 
“ยอดสมบัติสวรรค์!”
 
ไม่ทันไรเหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายก็บอกได้ทันทีว่าหอกในมือของอู่เซี่ยวเป็นยอดสมบัติสวรรค์!
 
“ยอดสมบัติสวรรค์…อู่เซี่ยวผู้นี้ กลับได้รับยอดสมบัติสวรรค์มาครองแล้ว!?”
 
“ให้ตายเถอะ อู่เซี่ยวผู้นี้ไม่เพียงแต่จะเป็นเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันดับ 1 ของระนาบโหมหลัว แต่มันกระทั่งยังมียอดสมบัติสวรรค์ในครอบครอง!!”
 
“ด้วยพลังฝีมือส่วนตัวของมันพร้อมด้วยหอกเซียนอมตะในมือ…ข้าเกรงว่ากระทั่งเซียนอมมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ที่ไร้ศาสตราก็มิแน่ว่าจะเป็นคู่มือมันใช่หรือไม่?’
 

 
หลังจากที่เหล่าเซียนอมตะเสเพลโดยรอบตระหนักได้ว่าหอกในมืออู่เซี่ยวคือยอดสมบัติสวรรค์ ก็มีหลายคนที่อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา น้ำเสียงยังเผยความยำเกรงทั้งหวาดกลัวไม่น้อย
 
สุดท้ายแล้วนั่นก็คือเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันดับ 1 ในระนาบโหมหลัวที่มียอดสมบัติสววรรค์!!
 
“เซียนอมตะเสเพลคนอื่นข้าไม่รู้…แต่สำหรับข้าเจ้ามันอ่อนแอยิ่งกว่ามด!”
 
หลังอู่เซี่ยวประกาศกร้าวออกมาด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น เสียงต้วนหลิงเทียนก็ดังขึ้นตามติด อีกทั้งในน้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความดูหมิ่นปรามาสถึงขีดสุด!
 
ขณะเดียวกันในมือเขาก็ถือไว้ด้วยกระบี่เซียนอมตะเรียบร้อย
 
และตอนนี้กระบี่เซียนอมตะที่ว่าก็เหินลอยออกจากมือขึ้นไปเหนือศีรษะ ยังเริ่มเปล่งรังสีกระบี่ออกมารังสีแล้วรังสีเล่า  พริบตาห่ารังสีกระบี่นับหมื่นพันดังกล่าว ก็เริ่มม้วนวนรอบกระบี่ผลึกแก้วเหนือศีรษะด้วยความเร็วสูง!
 
“นั่นมันค่ายกลกระบี่ผีสางนั่น!”
 
ขณะเดียวกันเหล่าเซียนอมตะเสเพล ที่ได้อยู่ในเหตุการณ์การใช้ออกด้วยหมื่นศาสตราสยบเป็นครั้งแรกของต้วนหลิงเทียน ก็จดจำได้ทันทีว่าก่อนหน้าจะเกิดเหตุการณ์ประหลาดต้วนหลิงเทียนก็ใช้ออกด้วยวิธีดังกล่าว!
 
“ครั้งสุดท้าย…หลังต้วนหลิงเทียนสำแดงค่ายกลกระบี่ผีสางนี่ออกมาไม่ทันไร ยอดสมบัติสวรรค์ในมือเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ กระทั่งหอกที่ข้าสะพายไว้ด้านหลังยังถูกชิงไป!”
 
เซียนอมตะเสเพลคนหนึ่งกล่าวออก
 
“ค่ายกลกระบี่?”
 
“ค่ายกลกระบี่ที่ว่าเป็นวรยุทธ์เซียนอมตะที่มันได้รับสืบทอดมาจากฟงชิงหยางงั้นเหรอ?”
 
“สมควรเป็นเช่นนั้นไม่ผิดแน่ เพราะฟงชิงหยางที่เคยใช้วิธีการลงมือแบบเดียวกันก็มาจากระนาบเซียนเหมือนมัน…และฟงชิงหยางก็เป็นคนที่ได้รับมรดกของต้าหลัวจินเซียนเมื่อครั้งที่แล้วไป”
 

 
สายตาเหล่าเซียนอมตะเสเพลทุกคู่ล้วนจับจ้องไปยังวังวนกระบี่เหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนที่กำลังตีวงแคบเข้าสู่ศูนย์กลางเรื่อยๆ
 
เหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนยามนี้ปรากฏลำแสงสว่างหลากสายสาดส่องออกไปทั่วสารทิศ มองไปยังคล้ายทะเลกระบี่ที่กำลังม้วนวนด้วยความเร็วสูง!
 
รังสีกระบี่นับพันหมื่นเหล่านี้ แต่ละสายประหนึ่งมีความเชื่อมโยงอันลี้ลับต่อรังสีกระบี่สายอื่นๆ
 
“ประเสริฐ ประเสริฐนัก!!”
 
“เช่นนั้นข้าอู่เซี่ยวที่อ่อนแอยิ่งกว่ามดในสายตาเจ้า จักเข่นฆ่าเจ้าที่นี่วันนี้!!”
 
“หากวันนี้เจ้าไม่ตาย ข้าอู่เซี่ยวไม่ถือว่าเป็นเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันดับ 1 แห่งระนาบโหมหลัวอีกต่อไป!!”
 
ได้ยินวาจาอหังการของต้วนหลิงเทียน อู่เซี่ยวก็หัวเราะออกมาด้วยโทสะ หอกในมือสะท้านสั่นไหวอย่างแรงก่อนที่คนจะพุ่งทะยานออกไปปานสายรุ้ง!
 
ประหนึ่งกระสวยอวกาศจุดระเบิด ร่างคนทะยานตัดฟ้าเข่นฆ่าสังหารไปทางต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วสูง!
 
ซู่มมม!!
 
หอกยาวในมือของมันประหนึ่งได้รับชีวิต จนคล้ายกลับกลายเป็นมังกรวารีตัวหนึ่ง พุ่งทะยานแยกเขี้ยวยิงฟันควั่นกรงเล็บเข่นฆ่าไปทางต้วนหลิงเทียนอย่างดุร้าย!!
 
“หมื่นศาสตราสยบ!”
 
รอบนี้ต้วนหลิงเทียนไม่ตอบคำอู่เซี่ยว เพียงใช้การลงมือแทนคำตอบ หมายสยบอู่เซี่ยวลงตรงหน้าให้มันได้สำเหนียกตัว
 
ว่าต่อหน้าเขาต้วนหลิงเทียน จะให้เป็นเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันดับ 1 ของระนาบโหมหลัว ก็ไม่นับเป็นตัวอะไร!
 
และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ต้วนหลิงเทียนคิด
 
วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม!
 
….
 
วังวนรังสีกระบี่เหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนที่แต่เดิมหมุนคว้างด้วยความเร็วสูงล้ำอย่างเงียบงัน
 
บัดนี้ได้เปล่งแสงสว่างเรืองรองออกมาปานตะวันดวงที่สอง!
 
ขณะเดียวกัน จากจุดศูนย์กลางค่ายกลกระบี่ดังวังวนที่ว่า ตัวกระบี่ผลึกแก้วใสราวหยาดน้ำ ก็อุบัติพลังลี้ลับขุมหนึ่งกวาดกำจายออกไปดั่งระลอกคลื่นซัดสาดผ่านฟ้าออกไปรอบทิศทาง!!
 
พริบตาพลังลี้ลับดังกล่าวก็แผ่ซ่านปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล
 
กระทั่งอู่เซี่ยวที่พุ่งทะยานเข่นฆ่าสังหารเข้ามาก็ไม่วายถูกปกคลุมไปด้วย!
 
“นิ…นี่มันพลังอันใด!?”
 
“ดะ…ดาบข้า…ไฉนกลายเป็นไม่เชื่อฟังข้า! มัน…มันจะทำอะไร!?”
 
“กรงเล็บข้าด้วย…ไฉนบัดนี้คล้ายมันเกิดมีชีวิตขึ้นมาแล้วจะหนีออกไปจากมือข้า!?”
 
“โอ๊ย! ดาบข้ามันทรยศ! มันเปล่งพลังทำลายมือข้าแล้ว!!”
 
….
 
พร้อมกันกับที่คลื่นพลังลี้ลับแผ่ซ่านออกมาจากจุดศูนย์กลางวังวนรังสีกระบี่ที่ทอแสงจ้าเหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ เหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายที่พกพาอาวุธไว้กับตัวโดยไม่ได้เก็บไว้ในแหวนมิติ พลันพบว่า…
 
บัดนี้อาวุธของพวกมัน ได้เพิกเฉยต่อคำสั่งและการควบคุมของพวกมันอย่างสิ้นเชิง!
 
และไม่ทันที่พวกมันจะได้ตอบสนองสิ่งใด อาวุธของพวกมันก็ระเบิดพลังทำร้ายเจ้าของก่อนจะพุ่งทะยานตีจากพวกมันไปเรียบร้อย!!
 
แต่ต้นจนจบพวกมันไม่อาจหยุดรั้งหน่วงเหนี่ยวอาวุธู่กายของตนได้แม้แต่น้อย ราวกับมีพลังอำนาจที่อยู่เหนือล้ำยิ่งกว่ากำลังบีบคั้นปล้นชิงอาวุธของพวกมันไป!!
 
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
 
….
 
จากนั้นอาวุธทั้งหลายพลันพุ่งไปม้วนวนรอบๆค่ายรังสีกระบี่ที่หมุนวนเหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนอย่างลิงโลด ราวกับพวกมันได้กลับกลายเป็นหนึ่งในค่ายกลกระบี่ของต้วนหลิงเทียนเรียบร้อย!!
 
“พวกเจ้าดูอู่เซี่ยวเร็ว!!”
 
“สวรรค์! กระทั่งหอกอันเป็นยอดสมบัติสวรรค์ในมืออู่เซี่ยวยังเหมือนว่าจะไม่เชื่อฟังมันแล้ว!!”
 
….
 
เหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายที่กำลังตกอยู่ในความแตกตื่นไม่หาย พลันพบว่า…
 
ร่างอู่เซี่ยวที่โจนทะยานจี้หอกเข่นฆ่าสังหารไปทางต้วนหลิงเทียน ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ทว่าตอนนี้หอกในมือของมันกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง ราวกำลังจะดิ้นรนให้หลุดพ้นการควบคุมของมัน!!
 
“เป็นไปไม่ได้!!”
 
อู่เซี่ยวอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนก! เพราะตอนนี้หอกยาวในมือคล้ายม้าป่าพยศคุ้มคลั่ง!!
 
มันดิ้นรนเปล่งรังสีหอกแหลมคมเจาะทะลวงมือไม่หยุด! กระทั่งทำลายมือข้างที่กอบกุมไว้จนแหลกสลาย หยาดโลหิตพรั่งพรูออกมา ก่อนจะเหินหลุดออกไปจากมือด้วยความเร็วสูง!!
 
ซู่มมม!!
 
พริบตาหอกอันเป็นยอดสมบัติสวรรค์ของอู่เซี่ยว ก็ไม่ต่างใดจากอาวุธของเหล่าเซียนอมตะเสเพลคนอื่นๆ มันพุ่งไปม้วนวนในค่ายกลกระบี่เหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนอย่างรวดเร็ว อาการยังราวกับเด็กน้อยที่ไม่ได้กลับบ้านมาเนิ่นนาน!!
 
“13 กระบี่บงกชฟ้า!”
 
“ไป!!”
 
และในเวลาเดียวกันนั้นเอง ค่ายกลกระบี่ท่ามกลางควาวมว่างเปล่าเหนือศีรษะต้วนหลิงเทียน ก็เปล่งแสงสว่างเจิดจ้าออกมาปานตะวันอีกครั้ง! กระทั่งครานี้แสงสว่างยังสาดส่องออกมาเจิดจ้ายิ่งกว่าครั้งก่อน!!
 
เหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายอดไม่ได้จำต้องหดหยีหรี่ตาลงจ้าละหวั่น!
 
นั่นเพราะประกายแสงพลังครานี้มันสว่างไสวพร่างงพราวเหลือเกิน!!
 
และในเวลาเดียวกันกับที่ค่ายกลกระบี่ทอแสงสว่างเจิดจ้าออกมา..
 
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
 
….
 
เสียงแหวกอากาศด้วยความเร็วสูงล้ำพลันลั่นสนั่นขึ้น เป็นรังสีกระบี่นับพันจากค่ายกลวังวนรังสีกระบี่เหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนพุ่งทะยานออกมาปานภูเขาไฟระเบิด! ถล่มทำลายไปทาง อู่เซี่ยว!!
 
ในบรรดาห่ารังสีกระบี่เหล่านี้ หากมองให้ดีจะพบว่า…
 
หนึ่งในนั้นเป็นหอกเซียนอมตะของอู่เซี่ยวที่กำลังพุ่งเข่นฆ่าสังหารไปทางอู่เซี่ยวอย่างดุร้าย!!
 
นอกจากนั้นยังมีเหล่าศาสตราของเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายที่ถูกบังคับฉกชิงมา!!
 
ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!
 
….
 
ก่อนที่ผู้คนจะทันได้ตอบสนองเรื่องราว พลันปรากฏเสียงหอนกระบี่ที่เกิดจากการแหวกอากาศด้วยความเร็วสูงดังลั่นสนั่นขึ้นอีกชุด!!
 
อย่างไรก็ตาม ประกายกระบี่ครานี้บังเกิดมาจากจุดศูนย์กลางของวังวนรังสีกระบี่ ที่ปลดปล่อยรังสีกระบี่รวมถึงศาสตราที่ฉกชิงมาออกไป!
 
หากผู้ใดพลังฝึกปรือสูงล้ำสามารถสังเกตเห็นได้ ว่ารังสีกระบี่ดังกล่าว ได้ถูกปลดปล่อยออกมาด้วยความเร็วสูงล้ำจากกระบี่ผลึกแก้วใจกลางวังวน กระทั่งในชั่วพริบตายังพุ่งออกมามากกว่า 5 สาย!
 
และรังสีกระบี่ทั้ง 5 สายก็พุ่งไปผสานกลมกกลืนกับห่าพลังรังสีกระบี่และห่าศาสตราก่อนหน้าอย่างแยบคาย! พริบตาก็อุบัติเป็นพลังอำนาจอันน่าพรั่นพรึงชวนขนลุก!!
 
เป็นเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าที่ต้วนหลิงเทียนเชี่ยวชาญแล้วนั่นเอง!
 
ในการลงมือคราวนี้ไม่เพียงแต่ต้วนหลิงเทียนจะใช้เคล็ดพลังที่ได้รับจากขอบเขตที่ 5 อันเป็นขอบเขตสุดท้ายของ ยอดใจกระบี่อย่างใจกระบี่รวมหนึ่ง เขายังใช้เวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าจู่โจมออกไปอีกด้วย!
 
เรียกว่าการลงมือของต้วนหลิงเทียนคราววนี้ เป็นการลงมือเต็มกำลังไม่ออมรั้งอันใดอีกต่อไป!
 
และนี่เป็นการลงมือเต็มกำลังครั้งแรกของต้วนหลิงเทียน หลังบรรลุถึงขอบเขตที่ 5 ของยอดใจกระบี่!
 
ครั้งสุดท้ายที่เข่นฆ่าสังหารเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ที่มียอดสมบัติสวรรค์ เขายังไม่ได้ลงมือเต็มกำลัง!
 
เพราะเขาไม่ได้ใช้เวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้า!
 
“แย่แล้ว!”
 
แม้ห่าพลังรังสีกระบี่รวมถึงห่าศาสตราที่ต้วนหลิงเทียนใช้วิธีผีสางฉกชิงไปจะน่าเกรงขาม แต่อู่เซี่ยวก็ไม่ได้หวาดกลัวอะไร เพราะในสายตาของอู่เซี่ยวพลังจู่โจมของกระบวนท่านี้ยังไม่ได้รุนแรงถึงขั้นไร้ต้านทาน!
 
เพราะมันเห็นได้ชัดเจน…
 
ห่ารังสีกระบี่รวมถึงศาสตราทั้งหลายนั่น ก็เทียบได้กับการลงมือของเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ทั่วๆไปเท่านั้น!!
 
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการลงมือของเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ที่ไร้ยอดสมบัติสวรรค์!
 
“พลังกระบวนท่าสังหารของมัน…ไฉนอยู่ดีๆถึงได้ยกระดับขึ้นมาอย่างน่ากลัวได้ในเวลาเสี้ยวพริบตา!?”
 
จังหวะนี้อู่เซี่ยวอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว
 
“มัน…มันใช้ออกด้วยเวทย์พลังสวรรค์สายจู่โจมผสานออกมาด้วย! ทำให้พลังจู่โจมของมันยกระดับขึ้นไปอีกขอบเขต!!”
 
ในฐานะอันดับ 1 ของเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์แห่งระนาบโหมหลัว สายตาทั้งความเข้าใจของอู่เซี่ยวย่อมไม่ใช่ชั่ว มันย่อมตระหนักได้ชัดเจนว่าห่ารังสีกระบี่และมวลศาสตราระลอกแรกไม่นับเป็นปัญหาอะไร หากแต่รังสีกระบี่ที่ปลดปล่อยออกมามากกว่า 5 สายระลอกหลังนั่น ถึงจะเป็นปัญหา!!
 
และเพราะรังสีกระบี่สังหารระลอกหลังที่ปลดปล่อยออกมา ได้ผสานรวมเข้ากับห่ารังสีกระบี่ระลอกแรกอย่างแยบคาย จึงทำให้พลังอำนาจของการจู่โจมกระบวนนี้ ยกระดับไปสู่อีกขอบเขตหนึ่งทันที!!
 
‘บัดซบ! พลังกระบวนท่าของมันตอนนี้รุนแรงเทียบได้กับการลงมือของเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ทั่วไปเข้าไปแล้ว…ยังเทียบได้กับการลงมือเต็มกำลังของยอดฝีมือเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ยามใช้ยอดสมบัติสวรรค์!!’
 
‘หากหอกเซียนอมตะของข้าไม่ถูกช่วงชิงไป ข้าไหนเลยจะกลัวกระบวนท่านี้ของมัน!!’
 
‘ทว่าตอนนี้…’
 
‘หนี!!’
 
ในห้วงเวลาพริบตาดุจฟ้าแลบ ความคิดของอู่เซี่ยวไหลเชี่ยวดั่งน้ำหลาก และในที่สุดมันก็ได้แต่ตัดสินใจอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจสักเท่าไหร่…
 
หลบหนี!
 
อย่างไรก็ตามมันยังสำนึกรู้อีกด้วย…
 
ว่าตอนนี้มันไม่มีทางเลือกอื่นใด!
 
อย่างไรก็ตามแม้จะเลือกหลบหนี หากแต่อู่เซี่ยวก็ไม่ได้คิดจะหันหลังแล้วหนีไปทำนองนั้น!
 
เพราะมันรู้ดีว่าการหลบหนีแบบนั้นไม่ทำให้มันหนีพ้นความตายแน่นอน ไม่ใช่ใดอื่น แต่ความเร็วของกระบวนท่าสังหารของต้วนหลิงเทียน…สูงล้ำกว่าความเร็วสูงสุดของมัน!
 
ปงงง!!
 
เสียงระเบิดสนั่นดังขึ้น พร้อมกันนั้นเองมวลพลังทั่วร่างของอู่เซี่ยวก็ปะทุออกมาพุ่งพล่านปานมันจะรีดเค้นทุกขุมพลังในกาย มองไปดั่งเพลิงไฟลุกโชนเผาฟ้าก็ไม่ปาน คนคล้ายกลับกลายเป็นเทพอัคคี!
 
“มาได้ดี!!”
 
ขณะเดียวกันเมื่อรีดเค้นพลังออกมาทกหยาดหยด จนทั่วร่างเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง อู่เซี่ยวก็ไม่รีบร้อนใช้พลังออกไปอย่างสูญเปล่า เพียงคำรามออกมาดังลั่นอย่างน่ากลัว!!
 
และสิ้นเสียงคำรามสนั่น ร่างอู่เซี่ยวก็พุ่งทะยานออกไปปานกระสุน จี้ตรงเข้าหาห่าพลังสังหารของต้วนหลิงเทียน!!
 
 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด