War sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2330

อ่านนิยายจีนเรื่อง War Sovereign Soaring The Heavens ตอนที่ 2330 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ตอนที่ 2,330 : ยันต์หลบหนีอัคคีผลาญโลหิต!
 
“ขอโทษที…พอดีข้าพลั้งมือไปหน่อย เผลอฆ่าอาจารย์ของท่านตายไปซะแล้ว…”
 
น้ำเสียงที่ต้วนหลิงเทียนใช้กล่าวคำกับประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์หยางเจิ้นซิง ทำให้คนของ 3 วัง 6ตำหนักโดยรอบถึงกับใบ้รับประทาน!
 
พลั้งมือ? เผลอฆ่าอาจารย์ท่านตาย?
 
ทุกคนที่ได้ฟังย่อมรับรู้เจตนาเย้ยเยาะของต้วนหลิงเทียนชัดเจน!
 
หากแต่พวกมันได้ยินแล้วจะอย่างไร?
 
“ท่านประมุข….”
 
แทบจะพร้อมกันกับที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ เหล่าคนของ 3 วัง 6 ตำหนักทั้งหมด ก็หันไปมองประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์ หยางเจิ้นซิง ทันที
 
ตอนนี้อาจารย์ของประมุขเผ่า เลี่ยหนันเจียง เซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ก็ได้ตกตายไปแล้ว ยังตกตายลงด้วยน้ำมือต้วนหลิงเทียนต่อหน้าต่อตา!
 
หมายความว่าหากต้วนหลิงเทียนคิดฆ่าประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์ของมัน ก็เป็นเรื่องราวอันง่ายดายแล้ว!
 
เพราะสุดท้ายแม้ประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์ของพวกมันจะแข็งแกร่ง อีกทั้งตำแหน่งในใจของพวกมันยังสูงนัก…
 
แต่พวกมันก็รู้ดีแก่ใจ
 
ว่าตอนนี้ให้ประมุขเผ่าของมันจะร้ายกาจเพียงใด แต่ก็ไม่มีทางร้ายกาจเกินกว่าอาวุโสเลี่ยวผู้เป็นอาจารย์ไปได้…
 
“ย่ำแย่แล้ว…กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์อย่างอาวุโสเลี่ยวยังตกตายด้วยน้ำมือต้วนหลิงเทียน…เช่นนั้นในเผ่าปีศาจมนุษย์เรายังจะมีผู้ใดรับมือต้วนหลิงเทียนได้อีก…จบสิ้นกันแล้ว!!”
 
“เพียงชั่วพริบตา กลับสังหารเซียนอมตะเสเพล 3ทัณฑ์…กับท่านประมุขที่ยังอ่อนด้อยกว่าเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ มันคิดฆ่าย่อมง่ายดายนัก…”
 
“ท่านประมุขของพวกเราตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวงแล้ว!”
 
ตอนนี้เหล่าคนของ 3 วัง 6 ตำหนักได้แต่ชักสีหน้าอัปลักษณ์ปั้นยาก กระทั่งความสิ้นหวังยังเริ่มเอ่อล้นกัดกินในใจ ด้วยเพราะพวกมันทุกตนตระหนักดี ว่าวันนี้เภทภัยได้มาเยือนเผ่าปีศาจมนุษย์ของพวกมันแล้ว!
 
เพราะสุดท้าย ที่เผ่าปีศาจมนุษย์ของพวกมันกำลังเผชิญหน้าอยู่ ก็คือตัวตนอันทรงพลังถึงขั้นสยบเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ได้ง่ายดาย! พลังอำนาจยังน่ากลัวราวทวยเทพ!!
 
ส่วนอีกด้าน
 
ได้ยินวาจาเสียดสีขอต้วนหลิงเทียน ประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์หยางเจิ้นซิงย่อมมีโมโหถึงขีดสุด! มันคับแค้นจนอกแทบฉีกอยู่พักหนึ่ง มันก็ตะคอกกล่าวออกมาอย่างเหลือทน “ต้วนหลิงเทียน!!”
 
หลังตะคอกเรียกหาอย่างดุร้ายแล้ว หยางเจิ้นซิงก็สูดลมหายใจเข้าเฮือกๆ สีหน้าของมันมองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยความคับแค้นชิงชังทั้งเอาเรื่อง ค่อยตะคอกออกเสียงเย็นต่อว่า “เจ้าคิดว่าเพียงฆ่าท่านอาจารย์ของข้าได้แล้ว…ในเผ่าปีศาจมนุษย์จักไร้ผู้ใดรับมือเจ้าได้?”
 
“ถึงแม้พลังฝีมือเจ้าตอนนี้อาจเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ หรืออาจเทียบได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ แต่หากท่านบรรพบุรุษของเผ่าปีศาจมนุษย์เราคิดฆ่าเจ้าก็ง่ายดายยิ่งกว่าบี้มด!”
 
ขณะที่กล่าวถึงบรรพบุรุษเผ่าปีศาจมนุษย์ ลึกลงไปในแววตาของหยางเจิ้นซิงก็เผยประกายหวาดกลัวอันเอ่อล้นออกมาจากก้นบึ้งของใจ
 
ราวกับบรรพบุรุษเผ่าปีศาจมนุษย์ที่มันกล่าวนั้น มีพลังอำนาจมหาศาลจนน่ากลัว!
 
อย่างน้อยๆหลังจากฟังคำของมัน
 
บรรพบุรุษเผ่าปีศาจมนุษย์ที่ว่า ต่ำๆก็ต้องมีพลังเหนือเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ แม้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์!
 
“บรรพบุรุษ?”
 
ได้ยินคำดังกล่าวของหยางเจิ้นซิง เหล่าศิษย์และอาวุโสของ 3 วัง 6 ตำหนักได้แต่ชักสีหน้างุนงงสงสัย
 
หากทว่าชนชั้นผู้นำของ 2 วัง 6 ตำหนัก รวมถึงอวี่เหวินฮ่าวเฉิน กับรองจ้าววังวิญญาณอสุราชิงหยวนป้า ลูกตาของพวกมันอดไม่ได้ที่จะหดเล็กลง ใบหน้าเผยความตกใจทั้งหวั่นเกรงไม่น้อย
 
“ท่านผู้เฒ่าบรรพบุรุษ…ยังมีชีวิตอยู่หรือ?!”
 
ด้วยความที่พวกมันรู้จักชนชั้นเซียนอมตะเสเพล ทำให้พวกมันรู้จักตัวตนอันทรงพลังที่เร้นกายของเผ่าปีศาจมนุษย์มาบ้าง
 
ในบรรดาตัวตนเหล่านั้น ย่อมมีบรรพบุรุษที่ประมุขหยางกล่าวออก
 
อีกทั้งพวกมันยังจดจำได้ดี
 
บรรพบุรุษของเผ่าปีศาจมนุษย์นั้น ได้ปรากฏตัวออกมาครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 พันกว่าปีก่อน…
 
ทว่าในยามนั้นบรรพบุรุษของพวกมันก็บรรลุถึงเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์แล้ว!
 
หากยังมีชีวิตอยู่ล่ะก็อย่างน้อยๆต้องบรรลุถึงเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ กระทั่ง 8 ทัณฑ์ก็เป็นได้!
 
คราวนี้พอได้ยินคำของหยางเจิ้นซิง ที่เอ่ยถึงบรรพบุรุษขึ้นมา ทำให้พวกมันพอจะอนุมานได้คร่าวๆว่า อย่างน้อยๆบรรพบุรุษของพวกมันอาจจะยังมีชีวิตอยู่!
 
“โฮ่? ฟังจากคำของท่านประมุขหยางแล้ว…หมายความว่าบรรพบุรุษอะไรนั่นของท่าน สมควรมีพลังอยู่ในขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 7ทัณฑ์ขึ้นไปงั้นสิ?”
 
ต้วนหลิงเทียนหยีตามองหยางเจิ้นซิงเล็กน้อย ค่อยกล่าวถามออกไปด้วยรอยยิ้มบางๆ
 
อย่างไรก็ตามรอยยิ้มดังกล่าวของต้วนหลิงเทียนก็แค่แสร้งแสดงออกผิวเผินเท่านั้น
 
หากแต่ลึกลงไปในใจยังอดไม่ได้ที่จะหวั่นๆ…
 
เพราะเขาสามารถมองออกได้ทันที…
 
ว่าเรื่องบรรพบุรุษที่หยางเจิ้นซิงยกมาอ้างนั้นไม่น่าจะใช่การลักไก่ขู่ขวัญเขาแน่นอน…มันสมควรเป็นเรื่องจริง! เพราะคำพูดนั้นมันสามารถหลอกเขาได้ แต่ความหวาดกลัวที่ผุดขึ้นจากส่วนลึกในแววตานั่นมันไม่อาจหลอกเขาได้!!
 
“อันใด เจ้ากลัวแล้ว!?”
 
ได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน หยางเจิ้นซิงอดไม่ได้ที่จะกล่าวเย้ยกลับไป ขวัญกำลังใจเริ่มกลับมาเล็กน้อย…
 
“กลัว?”
 
ต้วนหลิงเทียนคลี่ยิ้มชืดชา “ก็อาจจะ…”
 
“แต่ว่า…ต่อให้บรรพบุรุษของเผ่าปีศาจมนุษย์ท่านจะบรรลุถึงเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ กระทั่งเหนือกว่านั้นจริง…แต่หากให้ข้าเดามันสมควรไม่ได้อยู่ในเมืองเหรินโม่เชิ่งนี่ใช่หรือไม่? กระทั่งไม่น่าจะมาถึงที่นี่ได้ในระยะเวลาสั้นๆ?”
 
ต้วนหลิงเทียนยิงคำถามออกไป 2 คำถามติด ขณะกล่าวถามสองตายังทอประกายเรืองวูบ จึงเห็นได้ชัดว่าสีหน้าท่าทีของหยางเจิ้นซิงมันมืดมนลงทันที!
 
เป็นเขาเดาถูกจริงๆ!
 
บรรพบุรุษเผ่าปีศาจมนุษย์อะไรนั่นของมันไม่ได้อยู่ในเมืองเหรินโม่เชิ่งแห่งนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมาถึงในระยะเวลาสั้นๆแน่นอน!
 
“ไม่ทราบในเผ่าปีศาจมีคำนี้หรือไม่…น้ำไกลไม่อาจดับไฟใกล้…”
 
ขณะกล่าวคำออกมาอีกครั้ง สำนึกเทวะของต้วนหลิงเทียนก็แผ่พุ่งออกไปกักร่างหยางเจิ้นซิงเอาไว้ทันที ยังเริ่มปิดผนึกความว่างรอบกายของมัน
 
“และตอนนี้ข้าเกรงว่าก่อนที่ประมุขหยางจะทันได้ส่งสัญญาณช่วยเหลืออะไร…ข้าคงฆ่าท่านทิ้งและหนีไปไกลแล้วล่ะ!”
 
“เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์แน่นอนว่าคงจะร้ายกาจจนน่ากลัว…แต่ไม่ทราบว่าจะมีปัญญาหาตัวข้าบนดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าอันกว้างใหญ่ได้หรือไม่?”
 
“และด้วยพลังของข้าตอนนี้ท่านเองก็น่าจะรู้ดี ว่าหากข้าคิดฉีกเปิดรอยแยกมิติเพื่อย้อนกลับไปยังภูมิภาคเบื้องบนก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร…”
 
หลังต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ สีหน้าหยางเจิ้นซิงก็อัปลักษณ์ปั้นยาก ทั้งยังมืดดำลงปานจะคั้นออกมาได้เป็นน้ำหมึก แววตาเริ่มทอประกายเลื่อนลอย
 
ราวกับตอนนี้มันกำลังคิดอะไรอยู่
 
ทว่าตอนนี้ ไม่ว่ามันจะดิ้นรนทำอะไร แต่อยู่ต่อหน้าต้วนหลิงเทียนเช่นนี้ย่อมไม่มีโอกาสใดๆเลย
 
“ต้วนหลิงเทียน เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าท่านบรรพบุรุษมิได้อยู่ในเมืองเหรินโม่เชิ่ง?”
 
หยางเจิ้นซิงที่คล้ายตัดสินใจอะไรได้ แสยะยิ้มกล่าวออก “บางทีท่านบรรพบุรุษอาจจะซ่อนตัวอยู่ และกำลังมองดูเจ้าอย่างสนุกสนานปานมองมดปลวก…คิดฆ่าเจ้าจักทำเมื่อใดก็ได้!!”
 
“จริงรึ?”
 
ร้อยยิ้มต้วนหลิงเทียนพลันสดใสขึ้นมาทันที “ถ้างั้นข้าลองฆ่าท่านดูดีกว่า เพราะข้าล่ะอยากจะรู้จริงๆว่าบรรพบุรุษเผ่าปีศาจมนุษย์จะนิ่งดูดายมองท่านตายรึเปล่า!”
 
กล่าวถึงจุดนี้กลิ่นอายทั่วร่างต้วนหลิงเทียนก็แปรเปลี่ยนไปทันใด มันฟุ้งตลบไปด้วยจิตสังหารอันอำมหิต!
 
ครืน! ครืน! ครืน!
 
……
 
สายลมหนึ่งเริ่มพัดม้วนไปในอากาศอย่างรุนแรง ชุดเสื้อต้วนหลิงเทียนเริ่มกระพือสะบัด
 
ตอนนี้เมื่อมองไปยังหยางเจิ้นซิง แววตาของต้วนหลิงเทียนนั้นเยียบเย็นถึงที่สุด กระทั่งยังท่วมท้นไปด้วยจิตสังหารอำมหิต !
 
สภาวะราวเทพสังหารที่พร้อมดับชีวิตหยางเจิ้นซิงได้ทุกเวลา!
 
“ต้วนหลิงเทียน!!”
 
ทว่าทันใดนั้น หยางเจิ้นซิงพลันตะโกนออกมาดังลั่น
 
“หลังจากนี้เป็นต้นไป หากเจ้ากล้าแตะต้องเผ่าปีศาจมนุษย์ของข้า ข้าจะไม่มีวันเลิกรากับเจ้า! ข้าจักไปพาท่านบรรพบุรุษมาคิดบัญชีกับเจ้า!!”
 
“เพียงเจ้าล้างคอรอความตายไว้เถอะ! อีกทั้งข้าจักตามหาทั้งละเลงเลือดให้ท่วมตำหนักเมฆาครามอุบาทว์ของเจ้า!!”
 
เสียงตะคอกเยียบเย็นของหยางเจิ้นซิงดังขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
 
‘แย่แล้ว!’
 
แทบจะทันทีที่หยางเจิ้นซิงกล่าวจบคำ สำนึกเทวะต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติประการหนึ่ง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
 
“ไปตายซะ!!”
 
ไร้ซึ่งความลังเลใดๆ พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดแล่นพล่านผ่านชีพจรเซียน 99 สายปานน้ำหลาก ปะทุออกทุกช่องพลัง ก่อเกิดเป็นรังสีกระบี่นับพัน!!
 
พริบตาร่างต้วนหลิงเทียนก็คล้ายสลายกลับกลายเป็นหนึ่งในรังสีกระบี่นับพันเช่นกัน!
 
และครู่ต่อมารังสีกระบี่นับพันนั่น ก็ควบรวมสู่หนึ่ง! จากไม่มีกลับกลายเป็นมีสภาพ ปรากฏเป็นกระบี่พลังมีสภาพขาวพิสุทธิ์ 3 ฉื่อเล่มหนึ่ง กลิ่นอายพลังอันน่ากลัวกำจายออกมารอบตัวกระบี่ราวกับมันจะมีอำนาจล้างโลกได้!
 
ฟั่ฟฟฟ!!
 
และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่กระบี่ขาว 3 ฉื่อปรากฏ..
 
มันก็พุ่งทะยานออกไปฉับไวปานลำแสง! ตัวกระบี่เปล่งกลิ่นอายพลังอันน่าพรั่นพรึง ชั่วพริบตาก็เจียนบรรลุถึงหยางเจิ้นซิง!
 
กระบี่ที่วูบทะลวงฟ้ามาฉับไวช่างเปล่งพลังอำนาจอันน่ากลัวนัก ความว่างเปล่าที่มันทะลวงผ่านตามรายทาง บัดนี้กลับกลายเป็นรอยแยกมิติอันมืดดำมองไม่เห็นสิ่งใด!
 
ดั่งมองลงไปในหุบเหวอันไร้ก้นบึ้ง!!
 
เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ!
 
……
 
รอยแยกมิติฉีกเปิดลุกลามออกไปทุกขณะ ทว่าในห้วงเวลาแค่เสี้ยวพริบตาก่อนที่กระบี่พลังอันมีอานุภาพฉีกฟ้ามาเป็นทางจะบรรลุถึงร่างหยางเจิ้นซิงนั้น…
 
ร่างหยางเจิ้นซิงกลับลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิงที่แดงฉานปานโลหิต!
 
และนี่ก็คือสิ่งที่หยางเจิ้นซิงเร่งใช้ออกหลังมันกล่าวทิ้งท้าย
 
เปรียะ!!
 
ความว่างเปล่าปริแยกดั่งเศษกระดาษ มันขาดวิ่นเป็นทาง ร่างหยางเจิ้นซิงเองก็คล้ายรูปกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกฉีก!
 
หากแต่หลังจากที่ร่างหยางเจิ้นซิงถูกฉีกขาด นั้นร่างสองส่วนของมันกลับไม่ได้ถูกกลืนหายไปในรอยแยกมิติดังกล่าว ทว่ากลับกลายเป็นหมอกควันล่องลอย หายสาบสูญไปในความว่างเปล่าอย่างลี้ลับ!
 
วูบ!
 
เห็นฉากดังกล่าวสีหน้าต้วนหลิงเทียนมืดลงทันใด
 
‘อะไร? มันหนีไปได้งั้นเหรอ…มันใช้วิธีอะไรกันแน่?’
 
ต้วนหลิงเทียนลองถามตัวเองดู…
 
เขาก็ตอบได้ทันทีว่าทันทีที่พบความผิดปกติเพียงเล็กน้อยบนร่างหยางเจิ้นซิง เขาก็ได้ลงมือทันทีอย่างไร้ซึ่งความลังเลใดๆ…
 
แต่ไม่คิดเลยว่ายังคงสายไป
 
หยางเจิ้นซิงหนีไปได้!
 
‘เมื่อครู่ดูเหมือนมันจะขยี้หยกสีเลือดในมืออะไรสักอย่าง…จากนั้นเปลวไฟสีเลือดนั่นก็เผาร่างมัน! แถมทั้งๆที่ข้าใช้ กายกระบี่รวมหนึ่งผ่าร่างมัน กระทั่งมันกำลังจะถูกรอยแยกมิติกลืนหายแล้วแท้ๆ แต่มันกลับหายตัวไปซะก่อน…’
 
หยางเจิ้นซิงไม่เพียงหลบหนีไปเท่านั้น มันยังสลัดสำนึกเทวะของต้วนหลิงเทียนที่สะกดกักเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ราวกับมันอันตรธานหายไปในอากาศว่างเปล่า
 
และในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังประหลาดใจกับวิธีหลบหนีของหยางเจิ้นซิง
 
“ยันต์หลบหนีอัคคีผลาญโลหิต!”
 
ปรากฏเสียงอุทานหนึ่งดังขึ้น!
 
……

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด