เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 29 : ชิวหยีเจนหาเรื่องอีก
เจี่ยนอีหลิงยื่นมือออกและผลักอกของเจี่ยนหยุ่นเฉิงเบาๆ
การเคลื่อนไหวนั้นไม่มากนักแต่ความหมายของการต่อต้านนั้นชัดเจน
เจี่ยนหยุ่นเฉิงขมวดคิ้ว แต่ก็ยังคงยอมปล่อยเจี่ยนอีหลิง
ทันทีที่เจี่ยนอีหลิงเท้าแตะพื้น เธอก็กล่าวกับเจี่ยนหยุ่นเฉิงว่า “น้องจะไปนอนก่อน”
จากนั้นเธอก็เก็บของบนโต๊ะ เก็บพวกมันทั้งหมดเข้าไปในกระเป๋าโรงเรียน จากนั้นก็หันตัวกลับเข้าไปในห้อง
เจี่ยนอีหลิงหลบหนีไปเหมือนกับสัตว์ตัวเล็กๆที่หลบหนีนักล่า
โดยมีเจี่ยนหยุ่นเฉิงเป็นนักล่าที่คอยไล่ล่าเหยื่อ
เจี่ยนหยุ่นเฉิงอดไม่ได้ที่จะคิดว่าตนเองนั้นเข้มงวดกับเธอไปหรือไม่ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็เป็นเด็กหญิงที่เพิ่งอายุได้สิบห้าปี…
แต่ในอีกความคิดหนึ่ง เจี่ยนหยุ่นเฉิงรู้สึกเหมือนกับว่าเขาไม่ควรมีความคิดแบบนั้น
เป็นความจริงที่อีหลิงนั้นทำสิ่งผิด และเขาก็รักเธอ แต่ว่าใครจะรักหยุ่นน่าวผู้ที่มือพังพินาศและอนาคตของเขาก็พังยับเยินเช่นกัน
เปรียบเทียบกับบาปที่หยุ่นน่าวต้องทนทุกข์ทรมาน ความเจ็บปวดที่เจี่ยนอีหลิงได้รับในช่วงเวลาสองวันที่ผ่านมานี้ไม่มีค่าให้พูดถึง
เมื่อคิดถึงเรื่องของหยุ่นน่าว คิ้วของเจี่ยหยุ่นเฉิงก็ขมวดยิ่งขึ้นกว่าเดิม
หลังจากที่ส่งบันทึกทางการแพทย์ไปแล้ว แม้จะผ่านไปนานแต่พวกเขาก็ยังไม่ได้คำตอบที่ดี
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็วางเรื่องของเจี่ยนอีหลิงไว้ หันตัวกลับเข้าห้องของตนเอง เขาพยายามที่จะหาเพื่อนที่อยู่ในวงการแพทย์เพื่อดูว่าพวกเขาจะสามารถช่วยติดต่อผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั้นได้หรือไม่
###
เมื่อเจี่ยนหยุ่นเฉิงส่งเจี่ยนอีหลิงไปโรงเรียนในเช้าวันถัดไป ใบหน้าของเขาก็เย็นชาเหมือนดังเช่นปกติ
ทั้งคู่ไม่ได้พูดแม้สักคำตลอดเส้นทาง เจี่ยงหยุ่นเฉิงตั้งสมาธิขับรถ และเจี่ยนอีหลิงก็ตั้งใจเล่นอยู่กับโทรศัพท์มือถือของเธอ
ไม่นานนักหลังจากที่เจี่ยนอีหลิงไปถึงห้องเรียน ชิวหยีเจนก็มาหาเธออีกครั้ง และยังคงพาสมุนตามหลังมาอีกสองคนเช่นเดิม
เมื่อวานนี้ชิวหยีเจนเกือบเผาคิ้ว*ของเธอเพราะเจี่ยนอีหลิง
(ผู้แปล * ตาลุกเป็นไฟ)
สุดท้ายเธอก็ใช้ชื่อของพ่อเธอลบวิดีโอที่เกี่ยวข้องจากอาจารย์ที่ดูแลกล้องวงจรปิดได้ทันเวลา
เมื่อเห็นเจี่ยนอีหลิงอีกครั้งในวันนี้ ชิวหยีเจนภูมิใจมาก
“เจี่ยนอีหลิง แกช่างฉลาดนัก แกยังต้องการใช้กล้องวงจรปิดเพื่อที่จะทำให้ฉันถูกลงโทษอยู่เหรอ แกเห็นไหมว่าฉันถูกลงโทษหรือยังตอนนี้ แกคิดว่าแกจะสามารถคุกคามฉันได้รึ” ชิวหยีเจนมาเพื่อเยาะเย้ยเจี่ยนอีหลิงเป็นพิเศษในวันนี้
“เวลาในการเก็บรักษาเทปบันทึกภาพของโรงเรียนจะเป็นเวลาสามเดือน การที่วิดีโอถูกลบไปภายในเจ็ดวันถือว่าเป็นปัญหา” เจี่ยนอีหลิงเงยหน้าขึ้นมองไปที่ดวงตาของชิวหยีเจน
ดวงตาของเธอคมกริบ ราวกับว่าเธอสามารถมองทะลุผู้คน
ไม่เพียงแค่มองทะลุเข้าไปในดวงตา แม้กระทั่งสิ่งที่เจี่ยนอีหลิงกล่าวก็น่าตกใจไม่แพ้กัน
ด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจและสีหน้าสงบราบเรียบ ราวกับว่าเธอได้เห็นด้วยตาของตนเอง
แต่ความจริงก็ไม่ได้หนีไปไกลจากจุดนี้ ซึ่งทำให้ชิวหยีเจนกระวนกระวาย
แต่ก็เป็นเพียงการกระวนกระวายชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น และชิวหยีเจนก็กลับมาเยือกเย็นอีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว
“วิดีโอถูกลบไปแล้วจะเป็นยังไง มีเหตุผลร้อยแปดในการที่วิดีโอจะเสียหาย ทำไมแกถึงพูดว่าฉันบอกให้คนอื่นทำลายมัน ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้แกไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าหนังสือแกพังเพราะฉันได้แล้ว”
ชิวหยีเจนมีท่าทางจองหองและยะโสโอหัง
สมุนสองคนด้านหลังเธอก็พากันหัวเราะเช่นกัน
“เจี่ยนอีหลิง แกยังต้องการที่จะเล่นกับพี่หญิงชิวอีกรึ ไม่ชั่งน้ำหนักตัวเองว่าหนักกี่มากน้อยเสียก่อน ในเชิ่งหัวนี้ไม่มีใครสามารถเล่นกับพี่หญิงชิวของพวกเราได้”
“เจี่ยนอีหลิง แกไม่รู้ตัวบ้างเลยหรือไง ดูตัวแกตอนนี้ หลังจากที่พวกเรารู้ว่าแกผลักพี่ชายแกตกบันได้ แกก็แกล้งทำเป็นไร้เดียงสา ทำหน้าตาน่าสงสารเหมือนเป็นคนที่ไม่มีอันตรายอะไร ช่างน่าสะอิดสะเอียนจริงๆ แกกำลังแสดงใครดูอยู่ คิดหรือว่าจะมีใครเชื่อ”
คอมเม้นต์