Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1944 vs 1945
ตอนที่ 1944เฟิงอวิ๋น 2แค่พริบตาเดียว หลินเฟิงก็เข้าใจทันทีว่าอะไรเป็นอะไรต่อให้แบ๊วซื่อบื้ออย่างไร ย่อมต้องรู้ว่าใครเป็นคนวางแผนนี้ซ่งเจียเหอเป็นคนรู้จักพูด ไม่งั้นธุรกิจของตระกูลซ่งจะก้าวไกลได้เหรอเมื่อเห็นผู้ที่เข้ามาใหม่ เขาก็วางถ้วยชาลง “คุณชายหลินที่ยุ่งหนักหนา จะยืนตรงหน้าประตูทำไม รีบเข้ามาสิ!”หลินเฟิงเดินเข้าไป จะอย่างไรก็มาจากเขตทหารด้วยกัน แม้วันนี้จะไม่รุ่งเรืองเหมือนในอดีต แต่ก็ไม่ถึงกับล่มจมหลังจากที่ตระกูลหลินเริ่มตกอับ ใช่ว่าหลินเฟิงจะไม่ได้เจอคนพวกนี้ ทั้งยังรู้ซึ้งถึงความลำบากตอนขอร้องให้คนช่วยไม่ได้กระแนะกระแหนกันซึ่งๆ หน้าเหมือนที่เขียนกันในนิยายทั่วไปทว่าพวกเพื่อนที่เคยกินเหล้าด้วยกันมาก่อน จู่ๆ กลับขาดการติดต่อไป เวลามีงานเลี้ยงก็พากันหลีกเลี่ยงเขาพูดจากบางมุมมอง พวกนั้นคงมองว่าเขาเป็นสัญลักษณ์ของความซวยซ่งเจียเหอเป็นคนที่ไม่แคร์เรื่องนี้มากที่สุดในวงการ เวลามีเทศกาลอะไร ซองแดงต้องมาถึงทันที แต่ไม่ได้ทำตัวเหมือนในวันนี้หลินเฟิงรู้สึกว่ามันไร้ความหมาย คนที่ไม่เคยเจอสภาพแบบนี้ย่อมไม่เข้าใจเวลาที่เรารุ่งเรืองก็มักตามพะเน้าพะเนอแต่พอเราไม่เหลืออะไร กลับรู้สึกว่าซวยจริงๆ ที่รู้จักเราทว่าเมื่อมีอวิ๋นหู่อยู่ด้วย คุณค่าของหลินเฟิงย่อมต่างออกไปเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกที ก็สามารถเก็บอารมณ์ทุกอย่างได้อย่างมิดชิด จากนั้นจึงเดินไปนั่งข้างอวิ๋นหู่มีเก้าอี้ที่เดียวว่างอยู่ เขาถอดเสื้อกันลมออกมาแขวนไว้หลังเก้าอี้ ก่อนจะหยิบบุหรี่จากโต๊ะออกมาสูบเมื่อภารกิจนัดคนมาเจอกันสำเร็จ หากซ่งเจียเหอจะสอดมือต่อไป ย่อมเกรงว่าชายหนุ่มคนนั้นจะไม่ชอบใจแน่ เขาจึงเติมชาให้เต็ม สร้างบรรยากาศพูดคุยให้สนุกยิ่งขึ้น เพื่อให้ทั้งสองได้คุยกันเป็นการส่วนตัวอวิ๋นหู่ถามอย่างไม่อ้อมค้อม “โกรธเหรอ?”หลินเฟิงที่กำลังดื่มชาชะงักไปนิด แล้วหันไปมองอีกฝ่ายอวิ๋นหู่ก็มองเขาเช่นกัน แววตาเคร่งขรึมมาก “ก็ฉันนัดนายแล้วนายไม่มา เลยต้องเปลี่ยนวิธี”“เวียนหัวจริงๆ” หลินเฟิงจิบชา “นายอยากเจอฉัน แค่โทรมาก็หมดเรื่องแล้วไหม?”อวิ๋นหู่ยังสุขุมเหมือนเดิม “ก็มันไม่ได้บรรยากาศคุย”หลินเฟิงนึกถึงคำสอนของบ้านตระกูลอวิ๋นที่มีมากมายหลายข้อขึ้นมาได้ “ตอนนี้ได้บรรยากาศแล้วสิ” หลินเฟิงหัวเราะ “ยังไงทุกคนก็ต้องไว้หน้านาย”อวิ๋นหู่ฟังออกว่าอีกฝ่ายไม่พอใจ แต่จะทำอย่างไรได้ อยากเจอเหลือเกินไม่รู้ว่าเจ้านั่นจงใจหรือไม่ หากจะบอกว่าหลบก็ไม่ใช่ แต่ถ้าบอกว่าไม่ได้มีเรื่องอะไรก็เป็นไปไม่ได้ถ้าเป็นคนอื่น อวิ๋นหู่ใช้เล่ห์กลไปนานแล้ว การที่ทำให้ซ่งเจียเหอยอมรับใช้ได้ ต้องไม่ใช่เพียงเพราะสายสัมพันธ์ของตระกูลอวิ๋นแน่จะเห็นสไตล์การจัดการเรื่องราวของอวิ๋นหู่ได้เลยทว่าฝ่ายตรงข้ามกลับเป็นหลินเฟินอวิ๋นหู่กำถ้วยในมือ ก่อนจะคลายลงทีละนิ้ว นิ้วของเขาเรียวสวย เอ่ยขึ้นด้วยเสียงราบเรียบ “ยังดีที่ฉันมีหน้าตาพอให้ใช้ประโยชน์ได้”หลินเฟิงไม่พูดอะไร เพราะรู้ดีว่าเรื่องแบบนี้ไม่อาจโทษใครแค่ฝ่ายเดียวได้ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มมีช่องว่างระหว่างกัน นี่เป็นความจริงที่แก้ไขไม่ได้ แต่อวิ๋นหู่กลับไม่คิดเช่นนั้น “แข่งชิงแชมป์เอเชียจบแล้ว นายไม่คิดจะกลับทีมแล้วใช่ไหม”“กลับสิ” ในที่สุดก็มีเรื่องให้หลินเฟิงอบอุ่นใจขึ้นบ้าง “ฉันจะบอกก่อนลาออกจากทีม อย่างน้อยจิ้งจอกเฟิงจะได้หาคนมาแทนฉัน ตอนนี้ทางทีมกำลังรับคนใหม่ไม่ใช่เหรอ จะว่าไป นายยังจำได้ไหมว่าตอนนั้นจิ้งจอกเฟิงหลอกพวกเราให้เข้าทีมยังไง?”……………………………….ตอนที่ 1945เฟิงอวิ๋น 3“จำไม่ได้แล้ว” อวิ๋นหู่ตอบเสียงเรียบนิ่งหลินเฟิงเลิกคิ้ว “นายจำไม่ได้เหรอ? เขาบอกว่าอีสปอร์ตดี จะได้เล่นเกมทุกวัน แค่พูดอธิบายก็มีพวกสาวๆ มาชอบแล้ว แถมยังบอกด้วยว่ามีผู้หญิงเต็มทีม รับรองว่าหาแฟนได้แน่นอน แล้วยังมีคนเก่งๆ อย่างหัวหน้าอยู่ด้วยอีก จากนั้นผลก็คือไม่มีผู้หญิงสักคน มีแต่ชายโสดจนแทบผุพังทั้งทีม บ้ายิ่งกว่าอยู่หอพักมหาวิทยาลัยอีก ฉันเกือบจะคบคอมพิวเตอร์เป็นแฟนแล้ว แต่ละวันก็ได้นอนน้อยจะตาย ใช้ชีวิตเหมือนเป็นนักบวชเลย”“ดีออกไม่ใช่เหรอ ยังไงก็ได้แชมป์ประเทศมาแล้ว” อวิ๋นหู่พูดอย่างนี้ก็จริง แต่คิดในใจว่าฉันเข้าทีมนี้ไม่ใช่เพราะเหตุผฃอื่นใด แต่เพราะเมื่อเฟิงอี้โน้มน้าวนายเสร็จ เขาก็เข้าใจว่านั่นเป็นการชวนฉันทางอ้อมด้วยหลินเฟิงวางถ้วยชาลง เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ “ดีจริงๆ แหละ ได้เป็นแชมป์ประเทศ แชมป์เอเชีย มันเป็นสิ่งที่พวกเราอยากได้มากมาหลายปีแล้ว ในที่สุดก็ได้มาสักที แต่วงการอีสปอร์ตเป็นอาชีพที่รุ่งในช่วงวัยรุ่นเท่านั้น ฉันคงไม่มีวันฟอร์มดีตลอดไป นายน่าจะรู้สึกแล้วว่าฝีมือฉันเริ่มถอยหลังแล้ว ไม่เกี่ยวกับสาเหตุอื่นหรอก แต่คนเราเมื่อมาถึงอายุหนึ่ง สมรรถภาพร่างกายย่อมเปลี่ยนแปลง”อวิ๋นหู่เงียบไป เพราะรู้ดีว่าหลินเฟิงพูดจริงเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเขาป้องกันไม่ได้ แม้จะพยายามแค่ไหนก็ตามหลินเฟิงมองเพดาน “วัยเด็กนี่ดีจังเลย ได้เล่นเกมออนไลน์ก็ดีมาก แต่ทำไงได้ ฉันต้องโตขึ้นในสักวัน นายก็เหมือนกัน ตั้งแต่ทีมไดมอนด์ตั้งขึ้นมาจนถึงตอนนี้ พวกเราก็ได้เจออะไรมาเยอะแยะ เวลาย่ำแย่ คนบางคนก็ดูถูกเรา ใครๆก็จะแยกเราออกจากทีม เพราะวงการของพวกเราไม่ได้รับการยอมรับ อุตส่าห์สู้มาจนถึงการแข่งระดับเอเชีย พวกนั้นยังพยายามไล่หัวหน้ากับเจ้าแบล็กออกไปเลย จะได้สมใจพวกเขา สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกนี้ไม่ใช่ความมืดมิดหรอก พวกเราทนผ่านมาได้แล้ว แต่สิ่งที่น่ากลัวคือมันจะอาจมืดหม่นอีกครั้ง ฉันสู้ต่อไม่ไหว และไม่อยากกังวลชื่อเสียงกับผลประโยชน์อีกต่อไป ฉันอยากออกจากวงการ”มืออวิ๋นหู่ไปชะงักเล็กน้อย“แน่ล่ะ รอจนถึงปีหน้าก่อน” หลินเฟิงยกแขนขึ้นมา “ฉันยังคิดถึงทุกคนอยู่”อวิ๋นหู่หันไปมองใบหน้าอีกฝ่าย แต่กลับไม่เห็นอะไร คงเหมือนอย่างที่เจ้านั่นพูด คนคนนี้โตขึ้นแล้ว แม้จะดูอ่อนล้าไปบ้าง แต่กลับไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้าเหมือนที่เคยเป็นแค่ยิ้มให้เมื่อมองเขาอวิ๋นหู่บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร เขาทรมานใจจริงๆ แต่พอหวนคิดดูอีกที รู้สึกว่าอีกฝ่ายกลายเป็นลูกผู้ชายเต็มตัวแล้วดูเท่จริงๆหลินเฟิงจิบชาอีก “ไม่รู้ว่าปีนี้จิ้งจอกเฟิงจะใช้วิธีไหนมาหลอกคน”“ไม่ต้องหลอก” อวิ๋นหู่ยิ้มอย่างที่น้อยครั้งจะยิ้มหลินเฟิงพอจะเดาอะไรได้ “ก็จริง ไม่ต้องหลอกแล้ว เพราะถ้าเวลานั้นหาแฟนไม่ได้จริงๆ ก็คบกันเอง หัวหน้ากับเจ้าแบล็กเป็นตัวอย่างให้เห็นอยู่ นายรู้ไหมว่าจ้าวซานพั่งแทบจะทะลุโทรศัพท์ออกมาอาละวาดเลย”อวิ๋นหู่มองเพื่อน “นายก็รู้จักคำว่าคบกันเองด้วย?”หลินเฟิงหัวเราะ “ฉันจะไม่รู้ได้ยังไง”อวิ๋นหู่ระวังตัวด้วยมีคนอื่นอยู่ด้วย ไม่อยากพูดเรื่องลึกต่อเขาน่ะไม่เป็นอะไร แต่รู้ดีว่าหลินเฟิงคิดมากเขาไม่อยากให้เกิดความรู้สึกแบบนั้นขึ้น โดยเฉพาะในสถานที่แบบนี้อวิ๋นหู่ยกมือนวดหัวคิ้ว พออีกฝ่ายโตขึ้นแล้วก็ไม่ดีตรงนี้ คิดอะไรลึกซึ้งจนเขามองไม่ออกแล้ว………………………………………………..
คอมเม้นต์