Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1932 vs 1933
1932 vs 1933
โดย
Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1932ป๋อจิ่วที่กำลังขับแลมโบกินี่ท่ามกลางสายธารรถก็ดูแปลกไปจากปกติเล็กน้อย ระบบจีพีเอสปรับระบบอัตโนมัติ สะท้อนความรู้สึกออกมา “เจ้านายครับ ที่นั่งของคุณส่งผลให้ผมรู้ว่าตอนนี้หัวใจคุณเต้นผิดปกติอยู่ครับ เมื่อกี้วิ่งเร็วมากเลยหรือครับ?”ต้องบอกว่าเสี่ยวเฮยพูดไม่ถูกเวลาเลยทีเดียว เป็นครั้งแรกที่ป๋อจิ่วโดนจับหน้าอก แถมฝ่ายตรงข้ามยังเป็นคนแปลกหน้าด้วย ทำให้เธอรู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก จึงกระชากคอเสื้อตัวเองแรงๆ เหมือนอย่างที่เคยทำ “หุบปากไปเลยนะ”เสี่ยวเฮยที่โดนว่าไม่เข้าใจ ก็มันห่วงเจ้านายนี่ ผิดที่ตรงไหน?ป๋อจิ่วหน้าร้อนฉ่า เธอเปิดกระจกหน้าต่าง ยื่นมือออกไป เส้นผมสีดำถูกลมพัดจนยุ่งเหยิง ใบหน้าที่ยากจะแยกออกว่าเป็นหญิงหรือชายค่อยๆ เห็นเด่นชัดภายใต้แสงจันทร์เพื่อเป็นการลบเบาะแสร่องรอย เธอต้องดึงหน้ากากขนนกสีดำออก ตอนนี้รอบด้านไม่มีรถตำรวจติดตามมาแล้ว ซึ่งก็อธิบายได้ว่าปลอดภัยมาก ทว่าป๋อจิ่วไม่ได้วางใจ เธอขับรถไปถึงตู้โทรศัพท์สีดำแซมน้ำเงิน จากนั้นถึงจะกดนาฬิกาข้อมือสีดำเสียงหนึ่งดังขึ้น รูปร่างของตู้โทรศัพท์เปลี่ยนไปเป็นซุ้มประตูทรงกลมเมื่อเธอขับรถผ่านเข้าไป ก็เห็นมีคนคนหนึ่งนั่งกุมแก้วกาแฟไว้ในมือ เจ้าตัวสวมสเวตเตอร์สีขาว เอียงศีรษะมองดูแสงจันทร์ด้านนอก ร่างสูงโปร่ง เสี้ยวหน้าขาวสะอาดแสนสง่านั้นหันมามองในทันทีที่ได้ยินเสียงดังขึ้น “กลับมาแล้วเหรอ?”“เกือบกลับมาไม่ได้” ป๋อจิ่วค้ำประตูรถ กระโดดออกมาลงสู่พื้นอย่างเท่ เมื่อเห็นอีกฝ่าย แววตาเธอเป็นประกาย “พวกนั้นถึงกับใช้กลหนุ่มงามกับฉัน ทุเรศเป็นบ้าเลย ว่าไหมโฮชิโนะ?”อีกฝ่ายได้ยินแล้วหัวเราะเสียงเบา นึกถึงร่างสูงสง่าที่เห็นตรงถนนสายใหญ่ “คุณชอบผู้ชายแบบนั้นเหรอ?”“อื้อ ก็พอโอเค ใสกิ๊งดี” ป๋อจิ่วหยิบนมรสช็อกโกแล็ตมา ก่อนจะส่งเข้าปากฝ่ายโฮชิโนะจิบกาแฟนิดหนึ่ง “เขาดูไม่ใสกิ๊งอย่างที่คุณพูดเลยนะ”ต่อให้สวมชุดนักเรียน คนแบบนั้นขอแค่ยืนนิ่งก็รู้สึกถึงอำนาจอีกฝ่ายแล้ว ดูลุ่มลึกชนิดที่เราเดาอะไรไม่ออก ส่วนคำว่าใสกิ๊งที่ Z บรรยายอีกฝ่าย โฮชิโนะก็แค่รับฟัง เพราะมีเพียงเธอคนเดียวที่คิดแบบนั้นทว่าป๋อจิ่วยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าใช่ เมื่อเธอดื่มนมหมดก็โยนทิ้งอย่างเท่ ก่อนจะหันมามอง “เป็นครั้งแรกที่ฉันถูกคนขัดขวางสำเร็จ”โฮชิโนะเข้าใจทันที “ผมจะไปเช็คประวัติเขา”“ต้องเช็คหน่อยว่าทางตำรวจไปหาคนแบบนี้มาจากไหน ทำไมถึงประเมินได้แม่นอย่างนี้ กระทั่งฝีมือการต่อสู้…” พูดมาถึงตรงนี้ ป๋อจิ่วอึ้งไป ก่อนโยนเม็ดช็อกโกแลตเข้าปาก “แต่ทหารจีน น่าจะเช็คประวัติยาก”โฮชิโนะได้ยินแล้ว มือเกร็งทื่อ “พวกคุณสู้กันแล้ว?”“อื้ม” ป๋อจิ่วเอนหลังอย่างเป็นปกติโฮชิโนะย่นหัวคิ้ว “บาดเจ็บที่ตรงไหนหรือเปล่า?”“ไม่ถึงกับเจ็บหรอก แต่…” ป๋อจิ่วชะงักเล็กน้อย จากนั้นหัวเราะ “ไม่มีอะไร แค่ลองประมือดูว่าฝ่ายนั้นจะเป็นใคร”เธอต้องรู้ให้ได้ว่าไอ้คนที่แต๊ะอั๋งเธอมันหน้าตาเป็นยังไง……………………………………….ตอนที่ 1933ยัยเสือน้อยของเขาโตแล้วป๋อจิ่วคิดจะเช็คประวัติฉินมั่ว ฉินมั่วเองก็ยิ่งอยากหา Z ให้เจอให้ได้แม้ว่ารสสัมผัสนั้นยังตกค้างอยู่ที่ปลายนิ้ว รบกวนอารมณ์ของฉินมั่ว แต่ความสามารถเดิมยังคงไม่เปลี่ยน จากความมั่นใจเดิม 90% ที่คิดว่าเป็นเธอคนนั้นแน่ๆ ก็เพิ่มเป็น 99% แล้วภายในห้องน้ำ ฉินมั่วมองดูฝ่ามือตัวเอง สติล่องลอยไปไกล แต่กลับไม่ส่งผลกระทบต่อการประเมินของเขาอืม ยัยเสือน้อยของเขาโตแล้วเขายิ้มอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ ใบหูของฉินมั่วก็แดงเรื่อ เจ้าตัวหัวเราะเบาๆอีริกที่ยืนรอด้านนอกถือข้อมูลล่าสุดอยู่ในมือ คิดว่าเดี๋ยวจะให้ท่านเทพดู บางทีอาจช่วยท่านเทพได้ บรรยากาศการไขคดีในสมัยนั้นไม่เหมือนในสมัยนี้ เอาละ นี่อาจไม่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม แต่โรงแรมที่อีริกหาให้เก็บเสียงได้ไม่ค่อยดีนักอีริกล่ะไม่เข้าใจ หรือว่าพวกไอคิวสูงจะไม่เหมือนกับพวกเขา ต้องแอบปลดปล่อยความเครียดด้วยการหาอะไรสนุกๆ ทำในห้องน้ำ? ท่านเทพกำลังฝันหวานอะไรอยู่ในนั้น? และในระหว่างที่อีริกกำลังคาดเดา ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก ฉินมั่วก้าวเดินออกมา เส้นผมสีดำรับกันกับผ้าขนหนูขาว หยดน้ำยังคงไหลจากปลายเส้นผมลงไปถึงร่องกล้ามเนื้อหน้าท้อง อีริกเห็นแล้วตะลึงทันทีเดี๋ยวนะ ท่านเทพยังเป็นเด็กมัธยมปลายอยู่เลยไม่ใช่เหรอ เวลาสวมชุดนักเรียนก็ดูขาวสะอาดและหยิ่งยโส เหมือนเป็นเจ้าชายที่ไร้พิษสง แต่ทำไมพอไม่มีชุดนักเรียนติดตัวแล้วกลายเป็นอีกแบบล่ะ!ต้องบอกว่าชุดนักเรียนในประเทศจีนถือเป็นของมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง ทำให้คนภาพลักษณ์ของคนแตกต่างกันเมื่อสวมใส่และถอดออก ความแตกต่างที่ว่าคงมีแต่คนที่เคยสวมมาก่อนถึงจะเข้าใจ ทว่าฉินมั่วก็ยังไม่เหมือนกับคนอื่น หากจะบอกว่าเมื่อไม่สวมแล้วเขาดูเปลี่ยนไปอย่างไร ก็คงต้องบอกว่าเขาดูมีออร่าของความเป็นผู้นำทั่วตัว เล่นเอาอีริกทำอะไรไม่ถูกเลยในเวลานี้ฉินมั่วโยนผ้าขนหนูไปอีกทางหนึ่ง หยิบเสื้อยืดตัวดำมาสวม แววตาลุ่มลึกเหลือเกิน “เจออะไรบ้างไหม?”อีริกจึงยื่นข้อมูลในมือไปให้ นิ้วเรียวขาวของฉินมั่วพลิกอ่านอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่งามสง่าเอียงนิดๆ กระทั่งหยดน้ำยังไม่ทำลายความหล่อเหลาของเขาเลยสักนิดอีริกได้รู้ซึ้งถึงคำว่าอ่านแวบเดียวได้เนื้อความมาเพียบฉินมั่วไม่เพียงแต่อ่านไว แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือหลังจากที่อ่าน เขาจะจำได้หมดอย่างแม่นยำ แววตาใสของเด็กหนุ่มเหมือนจะสะท้อนตัวอักษรเหล่านั้น หลักการประเมินทางจิตวิทยาบอกว่า เราจะสามารถวิเคราะห์ที่อยู่ของพวกผู้ร้ายได้จากสถานที่ที่เจ้าตัวชอบก่อคดี รวมถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของสถานที่เหล่านั้นหากเขาเป็นเธอ ไม่ ไม่สิ เขาสวมตัวเป็นเธอไม่ได้หากพิจารณาถึงความทะเล้นของคนบางคนแล้ว ร่องรอยบางอย่างที่เห็นเธอน่าจะจงใจสร้างขึ้นมา ดังนั้นเราจะต้องแยกแยะให้เจอว่าเบาะแสไหนที่ที่เป็นของจริง และเบาะแสไหนที่เธอจงใจสร้างขึ้นด้วยความซุกซนเมื่อคิดได้เช่นนี้ ฉินมั่วก็พลิกอ่านข้อมูลใหม่ เห็นได้ชัดว่ารอบนี้เขามีเป้าหมายชัดเจน แยกแยะอย่างละเอียด วิเคราะห์ในรูปเส้นกราฟหลายคนบอกว่าการประเมินจะต้องพึ่งหลักการทางจิตวิทยา ซึ่งไม่ผิด แต่การประเมินในระดับสูงจะต้องเพิ่มการคำนวณทางคณิตศาสตร์ไปด้วย คนที่เคยดูหนังญี่ปุ่นเรื่อง Suspect X ล้วนแต่รู้ว่าอิชิกามิคือตัวอย่างที่ดีที่สุดในการอธิบายเรื่องนี้ พวกอัจฉริยะมักจะโดดเดี่ยว เพราะคณิตศาสตร์ไม่ใช้ศาสตร์วิชาที่ง่าย น้อยคนถึงจะรู้หลักการนี้ การใช้คณิตศาสตร์มาคำนวณความเป็นไปได้จะเป็นขั้นตอนท้ายที่สุด………………………………………………….
คอมเม้นต์