Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1923 vs 1924
ตอนที่ 1923จากบนเวทีจนถึงด้านล่าง เห็นบ้างไหมเสียงดนตรีดังขึ้น! เป็นเสียงมาจากกีตาร์ เด็กวัยรุ่นกระโดดขึ้นเวที มุมปากแย้มยิ้ม ใบหน้าปกปิดด้วยหน้ากากขนดำ ใฝเสน่ห์ใต้ตากลับโดดเด่นเมื่อป๋อจิ่ววางนิ้วบนสายกีตาร์ สถานที่แห่งนั้นก็ครื้นเครงทันที!แต่นอกจากนี้แล้ว ตำรวจอเมริกันก็มาอยู่ที่หน้าประตูเช่นกัน ไม่รู้ว่ามาตรวจตราเวรยามตามปกติหรือเกิดอะไรขึ้น ป๋อจิ่วที่ยืนบนเวทีเห็นแล้วกลับไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด แจ็กเก็ตตัวดำบวกกับท่าถือไมโครโฟนของเธอดูเท่เหลือหลาย เสียงเพลงดังกระหึ่มตามมาเธอร้องเพลงจีน“เสียงปลุกเตือนให้รู้ว่าได้เวลากลับบ้าน คล้ายบางเบาในชีวิตของเขา ผิวสีดำมอบความหมายให้เขา สิ่งนี้คือการอุทิศตัว วันเวลาแห่งการต่อสู้กันด้านสีผิว ทำให้สิ่งที่มีกลับต้องมลายหาย ดวงตาอ่อนล้าฉายแววรอคอย…”มันคือเพลงกวงฮุยซุ่ยเยวี่ยในเวอร์ชันร็อก ดนตรีไร้เขตแดน สามารถสร้างบรรยากาศครึกครื้นได้ผู้คนด้านล่างต่างโยกตัวโบกมือ ทว่ากลับขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะพวกเขาไม่มีหลักฐานในมือ ตอนนี้แค่มั่นใจได้ว่าสมิธมาถึงตั้งแต่ 15 นาทีที่แล้ว ทั้งยังล่อเหยื่อมาได้คนหนึ่ง กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกในฝูงชนตามที่สถานีตำรวจระบุไว้ Z จะต้องมาปรากฎตัวที่นี่ แต่ท่ามกลางคนเยอะขนาดนี้ Z จะอยู่ที่ตรงไหน?ตำรวจที่มาปฏิบัติงานต่างมีใบหน้าขึงขัง เพราะพวกเขาอยากจับตัว Z ให้ได้ กว่าจะได้โอกาสมาไม่ง่ายเลย จะปล่อยทิ้งได้อย่างไร?แต่ทว่า พวกเขาที่มุ่งมั่นเหลือเกินกลับไม่ได้สังเกตเด็กวัยรุ่นที่ถือไมโครโฟนในบริเวณที่มืดสลัว แววตานั้นเปล่งประกายราวกับแมวหยอกหนู เป็นการประกาศว่าเกมเริ่มแล้ว!อีริกเข้ามาด้านใน มีฉินมั่วติดตามมาด้านหลัง เด็กหนุ่มสวมชุดนักเรียนของประเทศจีน ทำให้คนในไนต์คลับเห็นแล้วประหลาดใจ แต่เมื่อนึกถึงว่าธีมงานของวันนี้เป็นงานแฟนซีก็พอจะรับได้หนุ่มชาวตะวันออกคนนี้ แม้จะสวมชุดกีฬา แต่ออร่าของเขากลับทำให้บรรยากาศรอบด้านเย็นเฉียบ ส่วนทำไมคนต่างชาติถึงรู้สึกว่าชุดที่ฉินมั่วสวมคือชุดกีฬา ก็ลองหลับตานึกภาพชุดนักเรียนของประเทศจีนดู…อีริกคิดเช่นเดียวกันว่าการแต่งตัวของฉินมั่วไม่เหมาะกับสถานที่ครึกครื้นแบบนี้ เขาต้องปวดหัวอีกแล้ว จะบอกท่านเทพดีไหมว่าสถานบันเทิงใน The Fifth Avenue ต่างกับประเทศจีนมาก“เสียงดังเกินไปใช่ไหม?” อีริกตะโกนถามฉินมั่วซุกมือข้างหนึ่งลงกระเป๋ากางเกง เสี้ยวหน้าเรียบเฮย ทั้งยังสง่างามจนทำให้คนเหลียวมอง แต่เขากลับเดินเข้ามาเหมือนเดินเข้าห้องเรียน “สมิธอยู่ที่ไหน?”เด็กหนุ่มสำทับเรื่องนี้กับอีริกตั้งแต่แรกแล้วว่าให้จับตามองสมิธ เพราะฝ่ายนั้นจะต้องสวมเสื้อผ้าต่างจากเดิมในงานปาร์ตี้แฟนซีแบบนี้ ถึงเวลานั้นจะหาตัวได้ยาก แล้ว Z ก็อาจจะเอาตัวไปโดยอาศัยความชุลมุนส่วนสมิธจะเป็นอย่างไรเขาไม่สน เขาอยากรู้แค่ว่า Z เป็นใครเท่านั้นใช่ นี่แหละคือสาเหตุที่ฉินมั่วตัดสินใจมายัง The Fifth Avenue ทันทีที่ได้อ่านข้อมูลเหล่านั้น ทางกองทัพเองก็ยังสั่งให้เขากลับไปในเร็ววันก่อนที่จะไปที่นั่น หากไม่ได้มายัง The Fifth Avenue เขาคงตัดใจไม่ลง ด้วยอีกฝ่ายเป็นแฮกเกอร์ แถมยังเป็น์แฮกเกอร์ที่ฉลาดมากด้วย……………………………………. ตอนที่ 1924อีริกมองดูหน้าท่านเทพ รู้สึกว่าเขาคิดมากเกินไป ไม่ว่าเสียงดนตรีที่นี่จะดังมากแค่ไหน แต่ท่านเทพก็คือท่านเทพ ไม่เคยเปลี่ยนสีหน้าเลยตั้งแต่เข้ามาจนถึงตอนนี้อีริกในตอนนั้นยังไม่รู้ โลกเรามีนักโปรไฟลเลอร์ระดับอัจฉริยะจริงๆ เวลาที่พวกเขาประเมินอย่างเงียบๆ ก็เหมือนเข้าสู่โลกอีกใบหนึ่งหากวิเคราะห์จากมุมมองทางจิตวิทยา มีสถานการณ์สองอย่างที่ส่งผลดีเยี่ยมต่อการวิเคราะห์นั่นคือหากไม่เงียบไร้เสียง ก็ต้องดังให้สนั่นในสถานการณ์ทั้งสองอย่าง จะทำให้สมองแล่นเป็นอย่างดี แน่นอนว่ายังต้องรวมถึงคุณสมบัติดังต่อไปนี้อันดับแรกเราจะต้องเป็นคนเก่ง อันที่จริงตอนที่เข้ามา ฉินมั่วก็ครุ่นคิดอย่างเงียบๆ แล้ว ว่ากันว่าคนที่ไขคดีได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จะคิดสมมติว่าเราเป็นผู้ร้าย เช่นนั้นหากเขาเป็น Z เขาจะทำอย่างไร?บรรยากาศที่นี่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย คนยิ่งเยอะก็ยิ่งสามารถก่อความวุ่นวายได้ สามารถฉวยโอกาสลงมือในเวลาที่ผู้คนคิดไม่ถึงทั้งนี้ใช่ว่าที่นี่จะไม่ติดตั้งกล้องวงจรปิด แถมยังมีสายที่ลงพื้นที่เรียบร้อยแล้ว Z จะหนีอย่างไร?แน่ล่ะ Z เป็นแฮกเกอร์ จะต้องดักข้อมูลการลงมือปฏิบัติการของทางการได้ และหากทางการให้ข้อมูลปลอมล่ะ?ไม่ผิดหรอก ฉินมั่วมาโดยไม่ได้เตรียมตัว เขาเตรียมการขัดขวางอีกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้การวางแผนเป็นเรื่องหนึ่ง แต่เป้าหมายในท้ายที่สุดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือหากตรวจตราเข้มงวดล่ะก็ Z จะปรากฏตัวในสถานที่ที่แตกต่างจากที่นี่ ถ้าขวางการลงมือของ Z ไม่ได้ ก็แค่ถ่วงเวลาเอาไว้“ขอตำแหน่งสมิธให้ผม” เมื่อคิดได้เช่นนี้ ใบหน้าสง่าของฉินมั่วเบือนหนีเล็กน้อย ออร่าความสูงส่งต้องห้ามพราวระยับทั่วตัวอีริกชี้ไปยังตัวคนผิวขาวหน้าแดงที่กำลังเริงร่ากับชัยชนะที่ได้มาหลายครั้ง ผู้ซึ่งอยู่ท่ามกลางผู้คนในเวลานี้ “ไอ้คนชั่วแบบนี้สมควรโดนอัดจริงๆ!”ฉินมั่วตอบรับเสียงเรียบ ก่อนจะหลับตา ขจัดเสียงทั้งหมดที่ดังรอบข้างออกจากหัว เริ่มเข้าสู่การประเมิน ทว่าเมื่อเขากำลังทำเช่นนี้ กลับพบว่าแม้เสียงดนตรีและเสียงเอะอะวุ่นวาย รวมถึงเสียงผิวปากจะหายไป ทว่าเหลือเพียงเสียงเดียวที่ไม่ถูกลบออกเสียงเพลงนั่น! ฉินมั่วลืมตา ก้นบึ้งนัยน์ตาเขาสว่างวาบ แล้วหันไปมองเวทีที่สูงที่สุด ก่อนจะย่นหัวคิ้ว “เพลงจีน?“เพราะมากใช่ไหม นักร้องคนนี้ไม่เลว เขาเป็นคนแรกที่กล้าร้องเพลงจีนในนี้” อีริกว่าพลางฮัมตามไปด้วยฉินมั่วเอ่ยเสียงต่ำ “เพลงกวงฮุยซุ่ยเยวี่ย รบกวนสมาธิผมมาก”“รบกวนสมาธิคุณเหรอ?” อีริกไม่เข้าใจโลกของคนเก่งแววตาฉินมั่วแข็งกระด้าง “ภาษาจีนเป็นภาษาแม่ของผม แล้วเพลงนี้ผมก็ฟังบ่อย” ยิ่งเป็นสิ่งที่คุ้นเคยก็ยิ่งลบออกยาก ทว่าอีริกยังไม่เข้าใจ ฉินมั่วจึงเปลี่ยนวิธี “เราไปที่หลังเวทีได้ไหม?”“ได้สิ” อีริกโชว์ตราสัญลักษณ์ “ผมขอตราตรวจค้นมาเป็นกรณีพิเศษ”ฉินมั่วมองดูคนบนเวทีแวบหนึ่ง ด้วยเหตุที่มีหน้ากากบังหน้า จึงทำให้เห็นรูปลักษณ์ไม่ชัด สิ่งเดียวที่จำได้คือดวงตาที่ดำขลับเหมือนยามกลางคืน รวมถึงใฝ่เสน่ห์ใต้ตาว่ากันว่าสิ่งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ย่อมทำให้คนจำได้ง่ายสำหรับฉินมั่ว เพลงดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมาก จำเป็นต้องสลัดทุกอย่างทิ้งถึงจะวิเคราะห์ได้จริงจัง ทว่าเมื่อมีสิ่งรบกวน เห็นทีคงต้องอาศัยกล้องวงจรปิดมาหาตำแหน่ง Z ว่าอยู่ที่ไหนกันแน่………………………………………..
คอมเม้นต์