Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1875 vs 1876
ตอนที่ 1875ป๋อจิ่วได้ยินคำพูดอันหยิ่งยโสของเจ้าหญิงน้อย ก็ส่ายหางสองทีเหมือนเจ้าลูกหมาที่แสนภักดี ทว่าฉินมั่วไม่อยากได้ยินเสียงไอติดๆ กัน จึงสั่งให้คนต้มน้ำลูกแพร์มาให้ พอเห็นยัยเสือน้อยกินเข้าไปถ้วยหนึ่งก็เข้าสู่โหมดพักผ่อนอย่างแท้จริงครั้งนี้ก่อนจะเข้าห้องน้ำ ฉินมั่วสั่งไว้ว่า “อย่าเข้ามานะ”ป๋อจิ่วมองดูแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยแรงต่อต้านแล้วลูบๆ หูตัวเอง คิดอย่างจริงจังว่าเจ้าหญิงน้อยของเธออายอีกแล้ว วันนี้เธอต้องสงบเสงี่ยมบ้าง แม้จะอยากเข้าไปอาบน้ำให้เจ้าหญิงน้อย แต่ตอนนี้เธอป่วยอยู่ จะแพร่เชื้อสู่เขาได้ง่าย แต่มีเรื่องหนึ่งที่เธอต้องเตือนอีกฝ่าย “มั่วมั่ว เธอร่างกายอ่อนแอ เวลาแช่น้ำต้องระวังนะว่าอย่างแช่นานเกินไป เดี๋ยวจะหายใจไม่ออกเหมือนเมื่อวาน”ยังมีหน้าพูดถึงเรื่องเมื่อวานอีก ฮึ่ม! ฉินมั่วที่ได้ยินคำพูดดังกล่าวก่อนปิดประตูกำผ้าขนหนูในมือแน่น คร้านจะถอนหายใจ จึงตัดสินใจเหวี่ยงประตูเสียเลย จากนั้นก็ลงกลอน หน้าหล่อเหลาดูไฮโซไม่ลดทอนลงสักนิดครั้งนี้เขาไม่ได้เปิดน้ำแช่ในอ่าง แต่เปิดน้ำอาบจากฝักบัว เมื่อเปลี่ยนไปสวมชุดนอนแบบธรรมดาเสร็จ ก็เปิดประตูออกไปแต่ในสายตาของป๋อจิ่ว ชุดนอนของเจ้าหญิงน้อยดูระรื่นตากว่าของเธอเยอะ ของเธอออกจะดูแบ๊วจนเว่อร์ ไม่เหมือนของเจ้าหญิงที่ดูสะอาดตา ไม่มีลวดลายสักนิดฉินมั่วเช็ดผมด้วยผ้าขนหนู เห็นอายุน้อยๆ อย่างนี้ แม้จะถูกคนมองจนชิน แต่เจ้าหล่อนเล่นมองตั้งแต่หัวจรดเท้า จากเท้ามองขึ้นมาที่หัว แล้วมาหยุดมองเสี้ยวหน้าของเขา เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน เพราะคนอื่นล้วนแต่แอบมองเขา อีกทั้งเด็กไม่เหมือนผู้ใหญ่ มักจะเอาแต่อาย ซึ่งคำว่าอายไม่เข้ากันกับยัยเสือน้อยสักนิดฉินมั่ววางผ้าขนหนูลง หันหน้ามาจะพูด แต่ยัยเสือน้อยกลับเอ่ยนำเสียก่อน “มั่วมั่ว เธอไม่ต้องอายหรอก ฉันจะรับผิดชอบเอง”รับผิดชอบ? รับผิดชอบอะไร? ฉินมั่วขมวดคิ้วอีกครั้ง เขาจะเตือนเจ้าหล่อนว่าอย่าซนอีกแล้วนั่งให้เรียบร้อย ยิ่งไม่พูดได้ยิ่งดี แล้วตอนนี้จะมารับผิดชอบอะไร?ป๋อจิ่วเห็นเขาไม่เข้าใจในความหายของเธอ ก็ลูบหูอย่างเขินๆ “เมื่อวานฉันไม่รู้ว่าเธอไม่เหมือนกับฉัน ก็เลยเห็นเธอโป๊หมดเลย ฉันโทรไปถามพ่อแล้ว พ่อบอกว่าวิธีที่ดีที่สุดคือต้องรับผิดชอบเธอ ฉันก็คิดว่าใช่ ฉันจะไม่ทำตัวเป็นผู้ชายสารเลว จะเอาเปรียบเธอฟรีๆ ไม่ได้”ฉินมั่วได้ยินคำอธิบายแล้ว สีหน้าเย็นชายิ่งกว่าเดิม เขาหยิบผ้าห่มจากตู้เสื้อผ้ามาโยนโครมใส่หัวของยัยเสือน้อย เป็นวิธีปิดปากเธอได้ดีที่สุดแต่ใครจะคิดล่ะว่าเขาประเมินผลฤทธิ์ของเธอต่ำไปป๋อจิ่วกลิ้งตัว ดึงผ้าห่มบนหัวลงมา เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ทั้งยังยอมรับในความผิดของตนอย่างจริงใจ “อีกอย่าง ฉันไม่ควรกอดเธอ แล้วก็ไม่ควรหอมแก้มเธอ ฉันทำแบบนี้เหมือนลวนลามเธอเลย แถมเธอยังอ่อนแอมากอีกด้วย การที่ฉันเสียมารยาทกับเธอถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จากนี้ไปถ้าฉันอยากจะหอมแก้มเธอ ก็จะถามเธอก่อนแล้วค่อยหอม ถึงฉันจะอยากจะหอมเธอมากแค่ไหนก็ตาม แต่ตอนนี้ฉันเป็นหวัด น่าเสียดาย…”…………………………………………………….ตอนที่ 1876 เพราะว่าเธออ่อนแอมากเพราะว่าเธออ่อนแอมากเพราะว่าเธออ่อนแอมากคำพูดนี้สะท้อนก้องสมองของฉินมั่วอยู่สามครั้ง เขามองดูหัวเสือน้อยที่โผล่ออกมา คิดจะกระชากตัวเธอแล้วโยนออกไปจริงๆ ทว่าเจ้าหล่อนกำลังคลี่นิ้วนับความผิดของตัวเองอยู่ ทั้งยังถอนใจเป็นระยะๆฉินมั่วอดกลั้นแล้วอดกลั้นเล่า กว่าจะพูดออกมาได้แค่ว่า “ป๋อเสียวจิ่ว เธอมันโง่หรือเปล่า?”เล่นเอาลูกผู้ชายอย่างน้องจิ่วยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ว่าตัวเองโง่ที่ตรงไหน ฉินมั่วจึงเบือนหน้าไปอีกทาง เขาในชุดนอนดูไฮโซมาก “เธอจะเสียดายอะไร? หรือว่าไม่เป็นหวัดแล้วก็จะซี้ซั้วมาหอมแก้มฉันได้? ฝันหวานเชียวนะ เมื่อวานฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่า อยู่ให้ห่างจากฉันหนึ่งเมตร”“เธอให้ฉันอยู่ตั้งไกล เพราะไม่ยอมให้ฉันหอมแก้มงั้นเหรอ?” ป๋อจิ่วเหมือนจะเข้าใจแล้ว ตาโตเลยทีเดียวฉินมั่วเลิกคิ้ว “แล้วไม่งั้นจะทำไปเพื่ออะไรล่ะ?”“อ้อ” ป๋อจิ่วเศร้าได้วินาทีเดียวก็เอ่ยต่อ “ยังไงเสียฉันต้องรับผิดชอบเธอ อีกอย่างมั่วมั่ว เธอเข้าใจผิดแล้ว ปกติฉันเป็นคนเรียบร้อยออก ฉันอยากให้เธอเห็นความจริงใจของฉัน เลยออกอาการมากไปหน่อย”ฉินมั่วหันหน้าไป “ไม่ต้อง”“ไม่ต้องอะไรเหรอ?” ป๋อจิ่วเกาหน้าตัวเองอย่างไม่เข้าใจฉินมั่วมองเธอด้วยแววตากระด้าง “ไม่ต้องให้เธอมารับผิดชอบหรอก อีกอย่าง ไม่มีใครเขาใช้คำว่าผู้ชายสารเลวกับผู้หญิงหรอก เธอไปเรียนภาษาจีนจากที่ไหนกัน?”“ฉันเรียนได้แย่มาก” ป๋อจิ่วพูดอย่างรู้สึกผิด ก็ตัวอักษรจีนน่ะเหมือนรูปภาพ แถมขีดยังเยอะแยะอีกด้วย บางครั้งพอจำตัวอักษรได้แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้ยังไงเลยแต่ไม่ถูกนี่นา พ่อบอกทางโทรศัพท์ว่า มีแต่ผู้ชายสารเลวเท่านั้นแหละที่ไม่รับผิดชอบ ป๋อจิ่วไม่สนว่าคำดังกล่าวจะใช้กับผู้หญิงหรือผู้ชาย เธอจะไม่มีวันเป็นผู้ชายสารเลวเด็ดขาด ทว่าเจ้าหญิงน้อยไม่ยอมให้เธอรับผิดชอบ พ่อก็เคยบอกว่าเราอาจจะโหดได้ แต่จะบังคับคนอื่นไม่ได้ ป๋อจิ่วน้อยคิดแล้วคิดอีก ก่อนจะช้อนสายตามองพร้อมส่ายหาง “งั้น มั่วมั่ว เมื่อไรที่เธออยากให้ฉันรับผิดชอบ ก็บอกฉันแล้วกัน”จะไม่มีวันนั้นเด็ดขาด ตอนนั้นฉินมั่วคิดอย่างนี้ เขาไม่อยากพูดเรื่องนี้กับเธออีกแล้ว มันจะยิ่งทำให้เขาดูโง่เง่าเด็กน้อยกวาดมอง พลันขมวดคิ้วขึ้นเมื่อเห็นเธอนั่งบนโซฟา “ฉันให้เธอไปนอนที่เตียงแล้วไม่ใช่เหรอ” โซฟาอยู่ใกล้หน้าต่างจะตาย ยัยโง่ไม่รู้เหรอว่าตรงนั้นมีลม“ฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลย รอฉันอาบก่อนแล้วค่อยไปนอนที่เตียง” ป๋อจิ่วว่าพลางกระโดดงบนพื้น ตั้งแต่เจ้าหญิงน้อยอาบน้ำเสร็จ เธอก็ได้กลิ่นจากตัวเขา หอมจัง น่าดม เธอไปอาบบ้างดีกว่าฉินมั่วเห็นเธอวุ่นวายก็เข้าใจแล้วว่า การจะให้เธออยู่อย่างสงบเสงี่ยมย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่อครึ่งนาทีผ่านไป “มั่วมั่ว”ตอนนั้นฉินมั่วนั่งบนเก้าอี้ มือถือหนังสือ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน เขาจะต้องอ่านหนังสือก่อนแล้วค่อยเข้านอน ซึ่งเป็นความเคยชิน เด็กน้อยมองดูยัยเสือน้อยที่จับแขนเสื้อตัวเอง ดวงตาดำขลับนั้นเหมือนจะว่านอนสอนง่าย แต่ความจริงแล้วความพราวระยับที่ปรากฏแสดงให้เห็นว่าเจ้าหล่อนพร้อมจะซนครั้งใหญ่อีกแล้วทั้งสองคนอายุเพียงห้าขวบ ความสูงไม่ได้แตกต่างกันมาก หากเทียบกันแล้วจะเห็นว่าฉินมั่วเตี้ยกว่าป๋อจิ่วประมาณสามเซนติเมตร แม้เจ้าชายน้อยฉินมั่วจะไม่พูด แต่พอจะมองออกว่าเขาไม่พอใจความแตกต่างที่ว่า………………………………………………….
คอมเม้นต์