Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1873-2 vs 1874
ตอนที่ 1873-2 จะนอนด้วยกันอีกแล้วนะป๋อจิ่วอึ้งไป หลุบตาลง จากนั้นหยิบเอาถ้วยขึ้นมา หลังจากที่กินยาเสร็จก็มองดูหน้าต่างด้านข้างอีก “งั้นฉันจะออกไปทางประตูใหญ่” ป๋อจิ่วว่าแล้วก็กระโดดลงมาจากโซฟา อุ้มคีย์บอร์ดไว้ในมือ พูดทิ้งท้าย “มั่วมั่ว พรุ่งนี้ฉันจะมาหาเธออีกนะ” แล้วจะเดินออกไป แต่ยิ่งเป็นเช่นนั้น ฉินมั่วยิ่งรู้สึกรำคาญเสียงไอของเธอ เขาเคยบอกแล้วไงว่าไม่ยินดีที่มีคนมากชอบ เพราะความชอบทั้งหมดทั้งมวลจะต้องให้เราตอบแทน หากเราไม่ตอบแทนเท่ากับว่าเราผิด เขาจึงค่อนข้างระแวงเรื่องแบบนี้ทว่ายัยเสือน้อยกลับโง่อย่างไม่ธรรมดา ป่วยแล้วก็ยังใช้จุดอ่อนนี้มาบีบเขา เขาให้เธอไป เธอก็ไป ราวกับเขาพูดอะไรเธอก็เชื่อฟัง ไม่ใช่เพราะเธอชอบเขาแล้วต้องการให้เขาชอบเธอกลับด้วย แถมจะให้ของขวัญเขาอีกต่างหาก ฉินมั่วเบือนหน้าไปอยากจะอ่านหนังสือของตัวเอง จะได้ไม่ต้องคิดถึงยัยงั่งอีก นี่คือสิ่งที่เขาตัดสินใจเมื่อครู่นี้เสียงของคุณพ่อบ้านหนุ่มดังเข้ามาจากประตูที่ยังไม่ได้ปิด เป็นสำเนียงชาวอเมริกันจ๋า “อ้อ คุณหนูจิ่ว จะกลับบ้านแล้วเหรอครับ? ข้างนอกหิมะยังตกอยู่เลย คุณป๋อกับมาดามก็ยังไม่กลับ เวลาอย่างนี้เตาผิงที่ห้องรับแขกคงจะเย็นแล้ว เอาอย่างนี้สิครับ คุณรอข้าน้อยก่อน เดี๋ยวข้าน้อยไปหยิบถ่านก่อนแล้วจะเดินไปกับคุณ”“ข้าน้อยเหรอ?” ป๋อจิ่วได้ยินคำสรรพนามดังกล่าวแล้วเลิกคิ้วเล็กน้อยคุณพ่อบ้านหนุ่มเขินเล็กน้อย “คนจีนชอบเรียกกันอย่างนี้ไม่ใช่เหรอครับ ผมไปเรียนมาจากนิยายอินเทอร์เน็ต เขามีแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย ได้เรียนรู้มาเยอะเชียวครับ”ป๋อจิ่วยังเด็ก ไม่ค่อยเข้าใจ “อ๋อ ที่แท้เขาก็เรียกกันอย่างนี่เอง”“ใช่ครับ!” คุณพ่อบ้านมั่นใจอย่างยิ่งยวด เล่นเอาฉินมั่วคิ้วขมวดมุ่น อ่านหนังสือไม่เข้าหัวสักเท่าไร นิ้วขาวเนียนกดต่อสายลงไปข้างล่างคุณพ่อบ้านเห็นสายที่เข้ามาก็ยังคงยิ้มอยู่ แต่สีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนไป “คุณชายเหรอครับ? ผมอยู่กับ อ้อ? ให้พาคุณหนูจิ่วกลับเข้าห้องเหรอครับ? ได้ ไม่มีปัญหาครับ” วางสายเสร็จ คุณพ่อบ้านก้มศีรษะลง ดูจะงงๆ “คุณหนูจิ่วครับ วันนี้คุณชายให้คุณนอนที่ห้องคุณชายครับ”ป๋อจิ่วก็งงด้วย มีเรื่องเยี่ยมยอดแบบนี้ด้วยเหรอ?ส่วนคุณพ่อบ้านก็คิดอะไรไปไกลแล้ว เช่นวันนี้เขาเห็นเด็กน่ารักตั้งมากมายอยู่ในงานเลี้ยง แต่ไม่เห็นคุณชายจะปฏิบัติต่อใครเป็นพิเศษ แก้วไหนที่มีคนแตะก็จะไม่แตะต่อ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องอาหาร คุณชายดูสุภาพจะตาย แต่ไม่ยอมเต้นรำกับใครคุณพ่อบ้านหนุ่มสงสัยว่าคุณชายน้อยที่มาจากประเทศจีนจะเหมือนพวกเจ้าสำนักจากพรรคต่างๆ กลับชาติมาเกิดใหม่หรือไม่ ดูทระนงตนและพิเศษมากจริงๆ ทั้งยังพรั่งพร้อมด้วยมารยาทอย่างที่วัยเด็กแบบนี้ไม่น่าจะมีเขาเคยศึกษาดูแล้วว่า คุณชายน่าจะเป็นโรคบ้าความสะอาดไม่ใช่น้อยๆ เพราะทุกครั้งที่เช็ดมือจะต้องทำอย่างละเมียดละไม วันหนึ่งต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าสามหน ห้องน้ำต้องสะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ ขนาดรองเท้ายังไม่เปื้อนฝุ่นสักนิด หากจะบอกว่าเป็นเจ้าชายของแท้ ทุกคนย่อมเชื่ออย่างสนิทใจทว่าเวลานี้คุณพ่อบ้านปวดหัวไม่น้อย คุณชายที่เป็นโรคบ้าความสะอาดเป็นที่สุดกลับให้คนอื่นนอนในห้องด้วย แม้เมื่อวานจะนอนด้วยกันแล้ว แต่วันนี้กับเมื่อวานไม่เหมือนกันนะ เมื่อวานประธานอานเป็นคนสั่ง ซึ่งคุณชายออกจะต่อต้านอย่างเย็นชา ทว่าวันนี้กลับสั่งด้วยตัวเอง! สั่งด้วยตัวเองเชียวนะคุณพ่อบ้านผมทองจนปัญญาที่จะคิดออกกว่า คุณชายที่สีหน้าเย็นชาสั่งมาด้วยตัวเอง!………………………………………………ตอนที่ 1874 ยิ่งไม่เหมือนตัวเขาเองเข้าทุกวันแต่ในเมื่อคุณชายเป็นคนสั่ง เขาย่อมต้องรับผิดชอบในการพาตัวคุณหนูจิ่วกลับไปที่ห้อง แม้ว่าจะมีคำถามในใจอยากถามมากมาย เขาจะไม่มีวันพูดออกมา!ทว่าคุณพ่อบ้านผมทองยังไม่ทันคลี่ยิ้มตามหน้าที่ออกมา คุณชายก็ส่งสายตาให้เขา แววตานั่นอธิบายได้ยาก หากต้องอธิบายล่ะก็ คงบอกว่าต่อไปให้อยู่ห่างจากยัยเสือน้อยสักหน่อย คุณพ่อบ้านได้แต่มองดูประตูปิดอย่างงงๆ และเริ่มสำรวจตัวเองว่าผิดที่ตรงไหน เพราะในนิยายบอกว่าหากทำให้ยอดฝีมือไม่พอใจจะมีจุดจบที่น่าอนาถ ไม่ได้ เดี๋ยวเขาต้องไปเรียนความรู้ด้านวัฒนธรรมจีนที่ลึกซึ้งเสียแล้ว!“มั่วมั่ว” ป๋อจิ่วกอดคีย์บอร์ดในอ้อมแขน ยิ้มอย่างสดใส “ฉันกลับมาแล้ว”รู้แล้วน่ะว่าเธอกลับมาแล้ว ฉินมั่วหลุบตาลงด้วยไม่อยากสนใจ ผ่านไปได้พักหนึ่งถึงพูดขึ้น “คำว่าข้าน้อยน่ะ เดี๋ยวนี้เขาไม่ใช้กันแล้ว มันเป็นคำเรียกตัวเองที่ถ่อมตัวที่ใช้ในสมัยก่อน”“เหรอ?” นัยน์ตาป๋อจิ่วเป็นประกายเชียว เธอเติบโตในต่างแดน ปกติแล้วนอกจากมีเรื่องวิวาทกับศึกษาคีย์บอร์ แถมยังมีโค้ดทั้งหลาย ทว่าความรู้ด้านอื่นก็ช่างงอกง่อยเหลือเกิน เมื่อก่อนเธอเคยคบกับพวกเพื่อนๆ ที่มาจากจีน แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครเข้าใจเรื่องพวกนี้ เจ้าหญิงน้อยช่างไม่เหมือนคนอื่นจริงๆ รู้เรื่องไปเสียทุกอย่างป๋อจิ่วคิดมาถึงจุดนี้ ก็เริงร่าขึ้นมาอย่างประหลาด “มั่วมั่ว เธอเก่งจัง”คำชมที่ได้มาอย่างกะทันหัน ทำให้ฉินมั่วหันไปมองเธอ “อย่ามาปากหวาน กลับไปนั่งที่ของเธอ”“ได้” กลับกลายไปเป็นเด็กว่าง่ายอีกแล้ว แต่ก็ไม่วายจะทะเล้น “มั่วมั่ว หูเธอแดงจัง”ฉินมั่วหายใจเข้าลึกๆ แล้ววางหนังสือลง “ร้อน”“อ้อ” ป๋อจิ่วยิ้ม พูดในใจว่ามั่วมั่วต้องเขินแน่ ทั้งๆ ที่อายกลับบอกว่าตัวเองร้อน แต่เธอเป็นคนเข้าใจคนอื่นดี จึงไม่พูดแทงใจดำอีกฝ่าย เพราะเวลาที่เจ้าหญิงน้อยของเธอเขินจะยิ่งน่ารักเป็นพิเศษ ป๋อจิ่วเหมือนล้อสัตว์เลี้ยงตัวน้อยจนหนำใจ จึงเย้าแหย่ออกมาเป็นระยะๆตอนแรกฉินมั่วยังสนเธออยู่บ้าง ต่อมาก็ปล่อยให้เธอซนเต็มที่ ข้างป๋อจิ่วก็ป่วนอย่างไม่ออมแรง แต่พอนึกถึงว่าตัวเองอาจรบกวนเจ้าหญิงน้อยอ่านหนังสือ จึงกลับไปขดตัวนอนที่โซฟาอย่างสงบ เริ่มจับคีย์บอร์ดตัวเองฉินมั่วเห็นสภาพเธอแล้วพลันนึกถึงเรื่องเมื่อคืน และเมื่อเจ้าหล่อนกินยาเสร็จก็ไอออกมา ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ทำให้เขาลุกขึ้น “ไปที่เตียง”เตียง? ป๋อจิ่วยังสวมชุดนอนเป็นชุดเสือ เมื่อได้ยินแล้วหูถึงกับตั้งชัน “มั่วมั่ว เธอไม่ชอบให้คนอื่นนอนบนเตียงเธอไม่ใช่เหรอ?”เธอไม่โง่นี่ ดูออกว่ามั่วมั่วตั้งด่านป้องกันตัวกับหลายคน คนอื่นเข้าใจหรือไม่เธอไม่รู้ แต่เธอเข้าใจแน่ๆ เพราะเธอก็เป็นแบบนี้ ไม่ชอบให้คนอื่นมาแตะต้องของของเธอ แต่จากเมื่อวานนี้ เจ้าหญิงน้อยไม่ใช่คนอื่นสำหรับเธอฉินมั่วได้ยินคำถามดังกล่าว มือถึงกับชะงัก “ไม่ชอบ ถึงได้ให้เธอนอนแค่ในวันนี้เท่านั้น ต่อไปห้ามมาแตะอีก” พูดจบก็ดูเหมือนจะนึกอะไรได้ เขาเริ่มจะเก็กไม่อยู่ เวลาอยู่ต่อหน้ายัยเสือน้อย เขาไม่น่าจะเป็นแบบนี้ เวลาปฏิบัติต่อแขก เขาควรต้องมีมารยาท จะพูดแบบนี้ไม่ได้ แต่เขาควบคุมตัวเองไม่ไหวจริงๆ ถึงกับหยิกแก้มเธอแล้วเอ่ยว่า “ถ้าไม่เชื่อฟังกัน ฉันจะโยนเธอออกไปข้างนอก”……………………………………………….
คอมเม้นต์