Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1813-1 vs 1813-2
ตอนที่ 1813-1บ้าชะมัด! ทำไมเขาต้องปากมากไปถามด้วยวะ! หลินเฟิงปากกระตุก ไม่อยากพูดอีกต่อไป! เมื่อกี้คงเพราะเศร้า แต่ตอนนี้เพราะเจ็บใจ ต่อไปจะต้องจับพวกที่ชอบอวดผัวอวดเมียในเกมมายึดเป็นของกลางให้หมด!ทว่าป๋อจิ่วไม่คิดแบบนั้น ต้องรู้นะว่าตอนที่อยู่ในกองทัพ ไม่มีใครให้เธออวดได้สักคน ตอนนี้อุตส่าห์มีเหยื่อมาให้อวดแล้ว ย่อมต้องเล่าให้เพื่อนสาวคนสนิทอย่างหลินเฟิงฟังให้ได้หลินเฟิง “เดี๋ยว เมื่อกี้นายว่าฉันเป็นอะไรนะ? เพื่อนสาวคนสนิทเหรอ”“ทำไมอะ?” ป๋อจิ่วเลิกคิ้วหลินเฟิงทำหน้ายักษ์ “ฉันเป็นผู้ชายทั้งแท่งนะเว้ย นายเล่นให้ฉันเป็นเพื่อนสาวคนสนิทได้ไง ต้องให้เหยาเย่าเป็นสิ นายไปพูดกับเหยาเย่าโน่นไป”“มันไม่เหมือนกัน” ป๋อจิ่วพูดเป็นปกติ “พูดกับพี่สนุกกว่า พวกรับอย่างพี่ชอบฟังเรื่องแบบนี้ไม่เหรอ”มันต่อเนื่องมาจากเมื่อคืนวาน กระแทกใจอีกแล้ว!รับ!รับเหรอ?เขาเนี่ยนะ?บ้าเอ๊ย!“ฉันดูเป็นฝ่ายรับมากขนาดเชียวเหรอ เจ้าแบล็กว่ามาเดี๋ยวนี้นะ จะหาเรื่องกันใช่ไหม!”เมื่อก่อนสภาพของทีมไดมอนด์ก็เป็นแบบนี้แหละ แต่หลินเฟิงกลับพบว่า มีบางคนที่หน้าหนาขึ้นทุกวันเลย หาว่าเขาเป็นฝ่ายรับ ทนไม่ได้จริงๆ!“เอาดิ มา” ป๋อจิ่วยิ้ม แล้วดึงตัวฉินมั่วที่กำลังจัดของอยู่ให้เข้ามาใกล้ ทำท่าหล่อร้าย “ยังไงท่านเทพก็ช่วยฉันอยู่แล้ว แน่จริงพี่ก็หาคนมาช่วยพี่ดิ”หลินเฟิงสะอึก ก่อนจะทึ้งผมตัวเอง “หาเรื่องอยู่ตั้งนาน ที่แท้ก็จะอวดผัวนี่เอง ทำไมฉันถึงตกหลุมพรางนายเนี่ย ทำไม!” ตอนนี้เขาไม่หวังให้หัวหน้าควบคุมเจ้าแบล็กแล้ว แววตาของชายหนุ่ม แสดงการให้ท้ายแฟนตัวเองอย่างสิ้นเชิง แถมหัวหน้าเองก็จำเขาไม่ได้แล้ว มันช่าง…หลินเฟิงนั่งแปะลงบนเก้าอี้ ถามเพื่อนคนอื่นๆ “พวกนายทนได้ด้วยเหรอ?”“พี่หลิน ดาวประจำทีม” โคโค่ลูบคาง พูดอย่างมีนัยยะ “ฉันคิดว่าเวลาที่โดนคนอวดใส่เนี่ย มันต้องดูหน้าตาเหมือนกันนะ ไม่งั้นก็มานี่มา ฉันช่วยแต่งหน้าปรับโหงวเห้งให้ นายจะได้ไม่ต้องโดนอวดใส่อีก”หลินเฟิงไม่พูดอะไรอีก เขาหมดอาลัยกับชีวิตแล้ว ปล่อยให้อีกฝ่ายละเลงหน้าตามใจชอบ ส่วนโคโค่เอาดินสอมาวาดให้ นัยน์ตาระยิบระยับอย่างเจ้าเล่ห์ วาดพลางพูดขึ้นว่า “แฟนคลับให้ฉันเองล่ะ แจ่มมากเลย”“จริงเหรอ?”“จริงสิ”“เฮ้ย โคโค่ นายแต่งหน้าอะไรให้ฉันวะ!”“ก็เลข1[1] ไง นายชอบบอกว่าตัวเองเป็นฝ่ายรุกไม่ใช่เหรอ”หลินเฟิงอยากลบทิ้ง แต่พบว่าลบอย่างไรก็ไม่ออก ฝ่ายอวิ๋นหู่ยื่นมือมาห้ามไว้ “ดูดีออก”ก็ดูดีจริงๆ เพราะใบหน้าเจ้าเพื่อนรักบนกระจก สะท้อนให้เห็นว่าซีกหน้าด้านข้างมีตัวเลข 1 ปรากฏอยู่ที่หางตา ทำให้เจ้าตัวดูเยาว์วัยมากมายบรรยากาศในห้องพักเป็นไปด้วยความผ่อนคลาย ราวกับไม่ว่าต่อไปเขาจะต้องผจญกับอะไร ก็จะไม่มีวันกลัวเด็ดขาดเหราหรงยืนอยู่ด้านข้าง มองดูเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยรอยยิ้มบางเบา ได้ยินเสียงหลินเฉินทาวที่ข้างตัวดังขึ้น “บรรยากาศในทีมไดมอนด์ ดีจัง”เหราหรงหันไปหาคนที่กำลังพูดกับตัวเองอยู่ ก่อนจะยื่นมือไปวางบนเส้นผมที่ลอนคลื่นอันติดตัวมาแต่เกิดของอีกฝ่าย “ตอนนี้นายก็เป็นหนึ่งในทีมไดมอนด์นะ”หลินเฉินทาวได้ยินแล้วถึงกับชะงัก ก่อนจะหัวเราะขึ้นอย่างสว่างสดใส “อื้ม ฉันก็เป็นหนึ่งในพวกเขาเหมือนกัน” ………………………………………ตอนที่ 1813-2พวกนักกีฬาในทีมลีกส์อาชีพต่างเข้าใจดี นอกจากทีมเซียงหนานแล้ว ทุกทีมก่อนลงแข่งจะไม่ได้มีบรรยากาศแบบนี้ หวนคิดถึงเมื่อก่อน ตอนนั้นผู้ลงทุนต้องการดันเด็กตัวเองเลยยัดเข้ามาในทีม เกมนั้นทั้งๆ ที่พวกเขาสามารถชนะได้ง่ายดาย แต่กลับกลายเป็นต้องเล่นอย่างยากเย็นแสนเข็ญเพราะเด็กเส้นแต่ทีมไดมอนด์ต่างออกไป พวกเขารู้สึกเสมอว่า ความฝันจะไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป หากอยากพิสูจน์ตัวเองในวงอาชีพที่ตัวเองรัก อย่างน้อยต้องให้พ่อแม่รู้ว่า ตัวเองก็ไม่แพ้พวกคนทำงานประจำ อาชีพของเขาก็มีคนนับถือบางทีเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเทพอินซานที่ออกจากวงการนี้ไปแล้วยังกลับเข้ามาในทีมนี้ เพราะเขาหาแรงบันดาลใจที่เข้าวงการนี้ในตอนแรกเจอแล้วในทีมนี้ เขาอยากคลุมธงชาติบนร่างพร้อมๆ กับเพื่อน ขึ้นยืนในตำแหน่งแชมป์ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง คนที่อยู่ในสนามต่างไม่คิดเช่นนี้ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาพวกเขาถูกยกยอ ถูกชอบ ถูกสร้างข่าวลือใส่ร้าย ถูกกลับขาวให้เป็นดำ ทั้งยังกลายความทรงจำของผู้คนจำนวนไม่น้อยฝีมือเป็นอย่างไร ก็จะเห็นในการแข่งของวันนี้นี่เองคงเพราะบรรยากาศดูกลมเกลียวกันมาก ฉินมั่วจึงไม่คิดจะเอ่ย ดังนั้นจนมาถึงตอนนี้ นอกจากป๋อจิ่ว คนในทีมต่างไม่รู้ว่าชายหนุ่มจำได้หมดแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้บรรยายที่อยู่ด้านนอกเลยบ่าย 1:45 เหลืออีก 15 นาที การแข่งจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการภายในสนามแข่ง เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องการไลฟ์สดต่างเช็คอุปกรณ์ในมือตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในระหว่างการทำงาน ทางด้านพิธีกรชายสองหญิงหนึ่งต่างยืนพร้อมอยู่บนแสตนแล้ว แต่ละวินาทีผ่านไป ดังนั้นเหล่าแฟนคลับที่มาดู ต่างนั่งลงกับที่ ข้างนอกทำการเก็บกวาดให้เรียบร้อย ซึ่งเมื่อ 10 นาทีก่อนหน้านั้น ก็หยุดตรวจตั๋วแล้วบรรยากาศภายในสนามจะเป็นอย่างไร ต่างรู้กันดีบ่าย 1:55 แพลตฟอร์มการไลฟ์สดทุกแห่งกลายเป็นสีแดงกันทั่วหน้า ผู้ควบคุมสนามและทางผู้กำกับการถ่ายทอดสดเช็คสถานการณ์ต่อกัน และส่งสัญญาณมือให้ด้านหลังเวทีอย่างพร้อมเพรียง เสียงดังเข้าห้องพักผ่อนของทั้งสองทีม ด้วยภาษาที่ต่างกัน แต่ความหมายใกล้เคียงกัน อันเป็นการแจ้งทุกทีมว่า เหลืออีกไม่ถึง 5 นาทีก็จะเข้าสู่การแข่งขันแล้ว ขอให้เตรียมตัวให้พร้อมเมื่อเสียงดังขึ้น หลินเฟิงยังคงชี้เลข 1 บนหน้าตัวเอง พลางถามอวิ๋นหู่ว่าตัวเองดูรุกไหม? ทว่าหลังจากที่ได้ยินเสียงตามสาย อารมณ์ของทุกคนเปลี่ยนแปลงทันที กลายเป็นความตั้งใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ผิดหรอก ความตั้งใจกระทั่งเฟิงซ่างเองยังดูเหมือนโตขึ้น เริ่มปรากฏความคมสัน ส่วนอินอู๋เย่าก็หยุดจุดบุหรี่ ในขณะที่เหราหรงจัดผ้ารัดข้อมือข้างขวา ทางด้านป๋อจิ่วซุกมือข้างหนึ่งลงในกระเป๋ากางเกง มุมปากหยัดยิ้ม ท่าทางออกหน้าออกตาอย่างชัดเจน ดูร้ายเจ้าเล่ห์เหมือนตัวละครในเกมที่เธอเลือกเล่นบ่อยๆฉินมั่วปิดตู้ หมุนตัวมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ ราวกับควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวอยู่หมัด “พร้อมหรือยัง?”แววตาของหลินเฟิงสั่นสะเทือนหนัก เพราะ…คุ้นมาก! เพราะทุกครั้งที่พวกเขาจะเข้าสนาม หัวหน้ามักจะถามแบบนี้เสมอ!แต่…ไม่ใช่แค่นั้น ชายหนุ่มซุกมือข้างหนึ่งในในชุดทีม ส่วนอีกข้างยื่นออกมากำมือ แววตาลุ่มลึกเหมือนสะท้อนทุกสิ่งที่สั่งสมมาหลายปีครั้งแรกที่เขาลงแข่งในนามของทีมไดมอนด์ จากความเป็นมือใหม่เดินทางมาจนเวลานี้ รวมถึงปีที่เขาแพ้ ต้องยืนนิ่งเงียบพิงกำแพง สิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ยังจำได้ไหม?หลินเฟิงขอบตาแดง แต่ก็ยังยื่นมือออกไป ขนาดเขายังมองออก คนอื่นย่อมต้องมองออกเช่นกัน ทุกคนต่างยื่นกำปั้นมาชนกัน“ทีมไดมอนด์”“ต้องชนะ!”………………………………………
[1] หมายเลข 1 หมายถึงฝ่ายรุก ส่วนหมายเลข 0 คือฝ่ายรับ
[1] หมายเลข 1 หมายถึงฝ่ายรุก ส่วนหมายเลข 0 คือฝ่ายรับ
คอมเม้นต์