Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1806-3 vs 1807 vs 1808-1
ตอนที่ 1806-3ก่อนหน้านี้ผู้ช่วยพิเศษของฉินมั่วที่บริษัทก็หอบข้าวของมาเจอเหตุการณ์ตรงหน้าพอดี ตอนที่รับสายโทรศัพท์ เขาเองไม่อยากเชื่อว่าท่านประธานจะโทรหาด้วยตัวเอง เพราะเขาได้ข่าวมาว่าช่วงนี้ท่านประธานฉินเงียบหายไป น่าจะเกิดเรื่องขึ้น พอรับสายเสร็จเขารีบโทรหาคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายทันที หลังจากนั้นก็หอบเอาถุงลูกอมไปให้ท่านประธานฉินตามที่อยู่ที่ได้รับนี่หรือคือสาเหตุที่ท่านประธานโทรหาเขา เขาพอจะรู้เหมือนกันว่าคุณชายจิ่วชอบ เอ้อ ตอนนี้ไม่ใช่คุณชายจิ่วแล้วสิ ต้องเป็นคุณหนูจิ่วชอบกินขนมหวาน ไม่ต้องคิดมากก็รู้ว่าท่านประธานให้เอาขนมหวานนี่มาให้คุณหนูแต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า เขาก็อดชะงักไม่ได้ เพราะท่านประธานไม่เคยปฏิบัติต่อใครแบบนี้มาก่อน ท่าทางที่กลิ่นไอเย็นชนกระจายทั่วตัว แววตาที่มองคนในอ้อมแขนกลับเต็มไปด้วยความรักและเอ็นดู“ท่านประธานครับ ผมมาแล้วครับ” ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยพิเศษ ย่อมต้องตาไวมือเร็ว ไม่คิดว่าเขายังไม่ได้ไปรับแก้วกระดาษนั่น ชาหนุ่มตรงหน้าก็ดื่มน้ำที่เหลือ ก่อนจะก้มหน้าป้อนคนในอ้อมแขนราวกับเขาไม่ได้อยู่ในห้องด้วยพูดตรงๆ นะ เขาเหมือนพนักงานส่งขนมหวานนักเหรอ?เมื่อรู้สึกถึงความเป็นก้างขวางคอของตนเอง ผู้ช่วยพิเศษที่แสนจะชาญฉลาดวางถุงลูกอมลงปุ๊บก็ไม่พูดมาก รีบไปยืนรอที่หน้าประตู รอให้ท่านประธานเรียกให้ไปซื้อของแล้วเขาค่อยเข้าไปดีกว่า ในฐานะที่เป็นหนุ่มวัยรุ่นตอนปลายที่โสดอยู่ เขาไม่อยากกินอาหารหมาที่ท่านประธานสาดใส่ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มมืด เมื่อมีของเหลวไหลเวียนในร่างกาย สองชั่วโมงหลังจากนั้น ป๋อจิ่วก็รู้สึกร้อนจนอยากจะดึงผ้าห่มออก แต่กลับถูกมือหนึ่งที่เย็นนิดๆ รั้งไว้ “ยังเหลืออีกครึ่งขวด ใกล้จะหมดแล้ว”เสียงนั่นทำให้ป๋อจิ่วรู้ตัวว่าเธอไม่ได้ฝันไป ความรู้สึกเมื่อตอนอยู่ในรถล้วนแต่เป็นจริง รวมถึงเสียงขอโทษที่อยู่ริมหูเธอ เขากลับมาแล้วจริงๆป๋อจิ่วลืมตาขึ้น มองเห็นชายหนุ่มที่หันหน้ามาพอดี เขาสวมสเวตเตอร์สีเข้ม ลูกกระเดือกบนลำคอขยับเล็กน้อย รวมถึงคางที่แผ่รัศมีที่คุ้นเคย เธอยื่นมือจับแขนเสื้อเขาอัตโนมัติ อันเป็นกิริยาที่เธอมักทำเมื่อตอนเป็นเด็กฉินมั่วผงะ หลุบตามองเธอ ขนตายางเฟื้อยปรกลงมา แววตาลุ่มลึกเหลือเกิน ถึงเธอฟื้นแล้ว เขาก็ยังไม่หยุดมือ โดยประคองหน้าเธอ ก้มหน้าลงป้อนน้ำให้ป๋อจิ่วคอแห้งจริงๆ ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็โดนจูบเสียแล้ว น้ำอุ่นหอมหวานค่อยๆ ผ่านจากริมฝีปากเข้าไปทีละนิดๆ รวมถึงกลิ่นหอมอันหยิ่งยโสด้วย ความนุ่มเย็นนิดๆ ราวกับสัมผัสไอศกรีมที่เมื่อละลายในปากแล้วให้ความหวาน นี่เป็นความรู้สึกที่เธอได้จากท่านเทพทุกครั้งที่จูบกัน ทำให้ติดใจได้ง่าย แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้จูบเธอ แต่ป้อนน้ำให้เธอที่สัมผัสนิดเดียวก็จากไปป๋อจิ่วออกจะผิดหวัง กำลังจะสำแดงความสามารถด้านการอ่อยก็เห็นเขาแบมือ มีลูกอมมากมายอยู่ด้านใน “เลือกเอาอันหนึ่ง”“รสส้มละกัน” ป๋อจิ่วจิ้มเอาอันหนึ่งในนั้นเธอมองดูมันถูกนิ้วเรียวของขายหนุ่มแกะออกแล้วป้อนให้เธอได้ลิ้มรส จากนั้นเธอก็ช้อนสายตามอง แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก“หิวแล้วเหรอ?” เขาหันมาพูดตรงใจเธอ เดิมก็หน้าตาดีอยู่แล้ว ตอนนี้มาเอาใจเธอด้วยวิธีนี้อีก รับมือไม่ไหวจริงๆ…………………………………………..ตอนที่ 1807 ป๋อจิ่วส่งเสียงยอมรับ ไม่แคร์ที่จะเปิดเผยความคิดของตัวเอง “อยากกินเนื้อ”“กินเนื้อ?” ฉินมั่วยิ้ม แววตาใสกระจ่าง เหมือนเหล้าที่มักมานาน “รอให้เธอดีขึ้นก่อนค่อยว่ากัน”ป๋อจิ่วอยากจะขยับตัว แต่ฉินมั่วกดร่างเธอไว้ แล้วหันไปโทรศัพท์ไม่นานผู้ช่วยพิเศษก็เดินเข้ามา มือถือกล่องอาหารที่สวยประณีต แต่น่าผิดหวังด้วยมันล้วนแต่เป็นโจ๊ก ป๋อจิ่วเป็นสิ่งมีชีวิตที่กินเนื้อมาตั้งแต่เด็ก การกินโจ๊กย่อมไร้รสชาติสิ้นดี แต่เธอหิวจริงๆ ไม่ต้องสนใจเรื่องรสชาติอะไรแล้วเดิมป๋อจิ่วคิดจะกินเอง ทว่าผู้ช่วยพิเศษเห็นกับตาว่าท่านประธานเปิดกล่องอาหารเร็วกว่าเธอก้าวหนึ่งท่านถือช้อนไว้ในมือ ยักคิ้วให้คุณหนูจิ่ว “อ้าปาก”ป๋อจิ่วค้นพบว่าการที่คนหน้าตาหล่อเหลามาป้อนอาหารให้ ย่อมทำให้เจริญอาหารขึ้นหลายเท่า ถึงโจ๊กยังร้อนอยู่ เมื่อเข้าสู่ปาก ด้วยรสชาติจืดปนเค็มที่ผสานกัน รสชาติจึงออกมาดีป๋อจิ่วเอียงศีรษะกินโจ๊ก พอกินเสร็จน้ำเกลือก็หมดขวดพอดี แต่ยังไม่ทันจะลุกขึ้นมา ชายหนุ่มก็ก้มตัวอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน “ข้างนอกมันหนาว” เขาพูดสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบป๋อจิ่วได้กลิ่นหอมสะอาดจากร่างเขา ไม่มีอารมณ์สนใจอย่างอื่นอีก หัวใจเธอเต้นแรงจนชัดเกินไป เธอออกแรงที่นิ้วมือ มุมปากแย้มออก ทว่าฉินมั่วหลุบตามองคนในอ้อมแขน “ซุกหน้าลงไปเดี๋ยวนี้”“หืม?” ป๋อจิ่วไม่เข้าใจเสียงยังเรียบเหมือนเดิม “หน้าตาดีเกินไป มันสะดุดตา” ฉินมั่วพูดเช่นนี้ออกมา เป็นเวลาที่พอดีกันกับที่ผู้ช่วยพิเศษหลี่เอียงตัวเปิดประตู ฝ่ายหลังกระแอมเล็กน้อย ระงับยิ้มทัน ท่านประธานมีความรักทั้งที แหม อธิบายลำบากท้องฟ้าด้านนอกมืดมิดแล้ว เจียงเฉิงที่เข้าสู่หน้าหนาวมานานแล้ว อุณหภูมิตกลงมาอยู่ที่ 0 องศา เมื่อลมพัดมา จึงหนาวเป็นพิเศษทว่าป๋อจิ่วกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น เธอรู้เช่นกันว่าเขาช่วยกันลมทั้งหมดให้เธอ เพราะเมื่อตอนจะขับรถ เธอได้ยินเขาพูดว่า “ทำไมตัวยังร้อนอยู่”เมื่อไข้ขึ้นย่อมลดลงไม่เร็วปานนั้น ต่อให้ได้น้ำเกลือ ก็ยังต้องใช้เวลาถึงคืนหนึ่งกว่าจะฟื้นสภาพ ฉินมั่วเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา รู้ดีถึงความรู้ทางการแพทย์ขั้นพื้นฐาน แต่ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อได้สัมผัสเธอที่ร้อนกรุ่น เขาจึงอยากให้อุณหภูมิลดลงเร็วๆป๋อจิ่วกลับคิดว่าเป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน เมื่อก่อนใช่ว่าเธอจะไม่เคยป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ เมื่อคิดดูแล้ว แค่เธอได้รับการดูแลจากเขาเมื่อตอนที่เป็นเด็ก จากนั้นเธอก็กลายเป็นนายน้อยของโลกแฮกเกอร์ ต้องเผชิญหลายต่อหลายเรื่องด้วยตัวเอง แค่ไข้ขึ้นนอนสักนิดก็หายแล้ว ไม่เคยโดนโอ๋เหมือนวันนี้หรอกป๋อจิ่วเอียงคอ จึงได้เห็นลำคอยาวขาวนวลของชายหนุ่ม อันให้ความรู้สึกสูงส่งต้องห้าม“หนาวเหรอ?” คงเพราะสังเกตเห็นสายตาของเธอ เขาหลุบตาจุ๊บที่ดวงตาเธอ “เดี๋ยวก็ถึงแล้ว”ป๋อจิ่วรู้สึกหวาน เธอยังคงปวดหัวเพราะไข้ขึ้น ทั้งยังไม่รู้ว่าความทรงจำของฉินมั่วกลับมาแล้ว รวมถึงความทรงจำในวัยเด็กด้วย เธอแค่รู้สึกแค่สนิทสนมขึ้นอย่างน่าประหลาด ทว่ากลับบอกไม่ถูกว่าสนิทขึ้นที่ตรงไหน คงเพราะถูกดูแลเป็นอย่างดีแถมท่านเทพไม่ได้รื้อเรื่องน่าอับอายเมื่อตอนที่เขาเสียความทรงจำไป ซึ่งหากมองจากจุดนี้การเป็นไข้ย่อมดีกว่าสุดๆ มันช่างสมบูรณ์แบบแต่ความเป็นจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเธอช่างซื่อบื้อและบริสุทธิ์มาก เพราะประโยคต่อมาของท่านเทพคือ “เดี๋ยวพอถึงแล้ว ฉันยังอยากฟังเรื่องที่ว่าฉันหลงรักเธอตั้งแต่แรกเห็นยังไง แล้วจีบเธออีท่าไหน”ป๋อจิ่ว “…”…………………………………………..ตอนที่ 1808-1ประโยคเดียวของท่านเทพ ทำให้ป๋อจิ่วรู้สึกว่าเธอหลงกลเขาแล้ว ขอจำพวกประวัติอันดำมืดเนี่ย ไม่ควรมีจริงๆ โดยเฉพาะเวลาอยู่ตรงหน้าท่านเทพ สำคัญที่สุดก็ตรงที่ท่านเทพยังจำได้ว่าเป็นแฟนเธอเมื่อกำลังจะลงจากรถ ฉินมั่วยื่นมือจับหน้าเธอ ท่ายักคิ้วของเขาทำให้รู้สึกเหมือนอ่อนโยน “คิดว่าแกล้งหลับแล้วจะหนีพ้นเหรอ?”ป๋อจิ่วลืมตา ไม่อ้าปากก็ถูกเขาเอาเสื้อคลุมมาพันรอบร่าง หากจะจัดให้ท่านเทพอยู่ในโหมดผู้ชายอ่อนโยน จะต้องลบส่วนที่รื้อประวัติน่าอับอายของเธอทิ้งก่อน มันจะเพอร์เฟกต์ทั้งสองไม่ได้กลับบ้านตระกูลฉิน แต่เป็นที่อะพาร์ตเมนต์ของป๋อจิ่ว สีหน้าของคุณตาพ่อบ้านก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไร เมื่อเห็นนายน้อยถูกอุ้มเข้ามา แต่คนสุภาพอย่างคุณตาย่อมต้องรินชาสไตล์อังกฤษให้กับผู้ช่วยพิเศษ ส่งผลให้ผู้ช่วยพิเศษมองดูคนชราที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตะลึง บ้านตระกูลฟู่ไปจ้างพ่อบ้านอย่างนี้มาตั้งแต่เมื่อไร?เขามั่นใจว่าตัวเองมีบุคลิกที่ไม่เลว สวมชุดสูทอยู่ทุกวัน เรียกได้ว่าสามารถจัดการธุระเล็กใหญ่ให้แก่ประธานฉินได้สบาย หากผู้ช่วยอย่างเขาถูกจัดว่าเป็นที่สอง ย่อมไม่มีใครได้ที่หนึ่งแน่นอนทว่าคุณตาคนนี้ไม่เพียงแต่สวมสูทเนี้ยบไปหมด ยังดูดีมีระดับชนิดไม่มีฝุ่นไรเกาะตัว ท่าถือร็อกเก็ตนาฬิกาก็ไม่มีที่ติ นับตั้งแต่เครื่องชาจนไปถึงขนมหวาน ล้วนแค่ประณีตจนน่าตะลึงแต่ของที่หน้าตาสวยๆ ย่อมไม่อร่อย ผู้ช่วยคิดเช่นนี้จึงตักเค้กชิ้นหนึ่งเข้าปากไปงั้นๆ วัยรุ่นตอนปลายอย่างเขากินอาหารหมามาวันหนึ่งเต็มๆ แล้ว ขอกินอะไรรองท้องก็คงไม่… เฮ้ย ทำไมอร่อยอย่างนี้!นัยน์ตาของผู้ช่วยถึงกับเบิกกว้าง แล้วหันมามองคุณตาพ่อบ้านที่สง่างามตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้วยความรู้สึกที่แพ้ราบคาบ มิน่าล่ะ ท่านประธานถึงไม่พาคุณหนูจิ่วกลับบ้านตระกูลฉินผู้ช่วยไม่รู้ว่านอกจากเหตุผลดังกล่าวแล้ว ยังเป็นเพราะฉินมั่วรู้ดีถึงฝีมือการรักษาของคุณตาว่าจะเป็นประโยชน์ต่อป๋อจิ่วมากกว่า ทว่าน้องจิ่วที่เอนตัวนอนบนเตียงรับน้ำที่ชายหนุ่มป้อนให้ กำลังคิดว่าจะหาทางดึงความสนใจของท่านเทพไปสู่เรื่องอื่น อย่าเพิ่งพูดถึงว่า ‘เขาไล่จีบเธออย่างไร’ เลยจะดีกว่า คงเพราะแบกประวัติน่าอายเอาไว้ หรืออาจเป็นเพราะไข้ต่ำๆ ที่มี ทำให้ป๋อจิ่วหน้าแดงหน่อยๆเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นเด็กดี จึงนั่งตรงๆ เพื่อสร้างผลงานกลบความผิด ดังนั้นฉินมั่วป้อนอะไรให้ เธอก็ดื่มหมด แม้ว่าปกติแล้วเธอไม่ค่อยดื่มน้ำเปล่า ตอนนี้เธอดื่มไปครึ่งค่อนแก้วรวดเดียว ก่อนจะมองเทพฉินอย่างแสดงผลงาน ทว่าชายหนุ่มกลับไม่มีปฏิกิริยาแต่อย่างใดป๋อจิ่วจึงดื่มอีกครึ่งค่อนแก้ว แล้วเงยหน้ามอง แต่ได้ผลเช่นเดียวกัน ท่าทางจะหนีไม่รอดแฮะ เธอคิดแล้วคิดอีกว่า จะจุ๊บเอาใจเขาดีไหม จะได้กลบเรื่องได้ไม่คิดว่า ยังไม่ทันเอ่ยก็เห็นเขายื่นมือไปหยิบรูปถ่ายข้างเตียงมาก้มดู ไม่เห็นอารมณ์เขาจากเสี้ยวหน้าเลย เพราะรูปนั่น ตอนนั้นร่างของท่านเทพถึงกับแพร่ความเย็นยะเยือกออกมาประจักษ์ตาก่อนหน้านี้รูปนั่นเคยตั้งอยู่ในปราสาท ป๋อจิ่วรีบดึงรูปนั่นมาทันที ทำเหมือนกับพึมพำแต่ก็เหมือนอธิบาย “ทำไมถึงมีรูปมาวางไว้ตรงนี้เนี่ย? คุณตาต้องเอามาวางไว้ชัวร์เลย” พูดจบก็เอี้ยวตัวไปดึงลิ้นชักออก ก่อนจะวางรูปลงไปด้านใน ตอนนี้ท่านเทพเพิ่งจะหลุดจากภาวะฝังคำสั่งทางจิต น่าจะอ่อนแออยู่ เรื่องรูปนี่ ไว้สภาวะเขานิ่งแล้วเธอค่อยบอกเขาแล้วกัน คนเป็นประธานสุดโหดอย่างเธอ ก็ต้องเข้าอกเข้าใจคนรักอย่างนี้นี่แหละ! ………………………………………..
คอมเม้นต์