Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1805-1 vs 1805-2 vs 1805-3
ตอนที่ 1805-1 เมื่อได้ยินเสียงฉีกขาด ฝานเจียแอบยินดีว่าในที่สุดก็ทำลายของสิ่งนั้นได้สักที แต่เมื่อได้เห็นของที่ร่วงลงบนพื้น ก็ถึงกับหน้าทอดสี! เพราะนั่นเป็นรูปถ่าย รูปนั้นน่าจะถ่ายโดยกล้องโพราลอยด์ สีสันสดใสมาก แสงแดดในภาพเจิดจ้ากำลังดี เด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งสวมชุดเสือน้อยกำลังกระโจนเข้าไปหาเด็กผู้ชายอีกคน เจ้าหล่อนยิ้มน่าเอ็นดู แถมยังเปื้อนลูกอมอีกด้วย ฝ่ายเด็กชายคนนั้นหยิ่งมาก บรรยายไม่ถูกว่าสีหน้าเป็นอย่างไร แต่ก็ยื่นมือไปประคองเอวเด็กหญิงราวกับกลัวว่าจะทำให้ตัวเองเปื้อน ทั้งยังกลัวว่าเธอจะล้ม มุมปากเม้มนิดๆ ทว่าก็ไม่ได้รังเกียจ แค่ระอาใจหน่อยๆ ก้นบึ้งนัยน์ตาอ่อนโยน ชวนให้นึกถึงกลอนจีนโบราณที่ว่า ‘เส้นผมน้องน้อยเพิ่งจะคลุมหน้าผาก กำลังเด็ดดอกไม้เพื่อการละเล่น พี่ท่านขี่ม้าไม้ผ่านมาเยือน เราสองถือเหมยเขียววิ่งวนล้อมตั่งกัน’[1]อันที่จริงหลักใหญ่ใจความของภาพที่ว่า ไม่ได้แสดงความหมายตามบทกลอนดังกล่าว ประโยคที่เขียนบนภาพนั่นต่างหากที่เขียนด้วยตัวอักษรขายถี่[2]ว่า ‘ถ้าเทพเจ้ามีจริง ฉันหวังว่ายัยโง่ที่ใส่ชุดเสือน้อยคนนี้มีความสุขตลอดไป’ที่แท้ฮู้ป้องกันตัวที่ได้มาในวันนั้นไม่ใช่เพื่อขอพรให้ตัวเอง หลายปีที่ผ่านมาเขาถนอมมันไว้อย่างดี ไม่ยอมให้ห่างตัว เพียงเพราะต้องการอธิษฐานให้อีกคนชั่วอึดใจนั่น ฝานเจียโกรธแค้นแสนสาหัส! เธอคิดจะทำลายรูปนั่นให้สิ้นซาก! ทว่านิ้วยาวขาวสะอาดกดรูปนั้นไว้เร็วกว่าเธอก้าวหนึ่ง เท้าของเธอเหยียบนิ้วโป้งของเขาเข้าอย่างจังฝานเจียขยี้ด้วยแรงหนัก ซึ่งเมื่อโดนเหยียบเช่นนั้น ต้องเจ็บแน่นอน ทว่าฉินมั่วกลับไม่แม้แต่จะกระพริบตา เสี้ยวหน้าคมสันจมอยู่ในวงแสงที่ส่องเข้ามา แววตาของเขาเหลือเพียงเด็กหญิงตัวน้อยในรูป นิ้วของเขาลากผ่านฮู้ดเสือน้อยบนศีรษะเจ้าหล่อน หัวใจเหมือนถูกละลายในทันใด ราวกับได้ยินเสียงปลดล็อคดังขึ้นเขากลัวการสูญเสียยัยหนูนี่มากที่สุด รูปนั่นเสมือนอยู่ในหน้าจอกล้องที่แต่ละฉากผ่านไปเรื่อยๆ ในสมองของเขา เจ้าหล่อนโผเข้ามากอดเขา ‘มั่วมั่ว เธอกิโลละเท่าไร ฉันจะซื้อ’เธอไม่ยอมกลับไปนอนที่บ้าน กอดคีย์บอร์ดตัวเอง ‘อันนี้เป็นของเล่นที่ฉันชอบมากที่สุด ฉันให้เธอนะ แล้วเธอต้องให้ฉันนอนด้วยคืนนึง คืนเดียวเอง’เธอนอนบนเตียงเขาแต่โดยดี ยากที่จะนึกภาพออกว่า เธอชอบทำให้คนอื่นปวดหัว ทั้งยังว่านอนสอนง่าย แล้วจะเข้าประชิดในตอนท้าย ‘ฉันจะกอดเธอไว้ เธอจะได้ไม่อยากกลับจีน เอ่อ ฉันหมายความว่าเธอจะได้ไม่ต้องคิดถึงบ้าน”ตอนที่เขาป่วย กระทั่งคุณตายังไม่รู้ มีเพียงเธอที่กอดเขาไว้ด้วยนัยน์ตาแดงเรื่อ แต่ไม่ร้องออกมา กลับไปหาคุณหมอประจำครอบครัวหลังจากที่เป็นหวัด เขากลัวว่าจะแพร่เชื้อทำให้เธอติด จึงตั้งกระถางดอกไม้เยอะแยะไว้ที่หน้าต่างเพื่อกันไม่ให้เธอเข้ามา แต่ไม่ว่าจะเป็นมหาเทพหรือสุดยอดเซียนที่ไหนก็ห้ามยัยเสือน้อยไม่ได้ เจ้าหล่อนหน้าปีนเข้ามา หน้าตามอมแมม แถมยังสอนเขาเป็นจริงเป็นจัง ‘อย่าทำแบบนี้กับเพื่อนตัวเองสิ’ ……………………………………….ตอนที่ 1805-2เธออุตส่าห์หาเหตุผลร้อยประการเพื่อจะนอนกับเขา เวลากินข้าว เธอก็คีบอาหารที่เขาชอบให้ ไม่ว่าเขาชอบอะไร เธอก็จะเอามาให้ในวันต่อมา ขนาดคุณตายังไม่รู้ว่าเขาชอบอะไร แต่เธอรู้ท่าทางเธอตอนยิ้ม ตาแดง แถมหลังจากโตขึ้นก็กดเขาติดกำแพงแล้วยิ้มมุมปาก เธอไม่เคยเป็นคนอื่น แต่เป็นยัยโง่ที่ชอบคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงเมื่อครั้งยังเด็กฝานเจียเห็นความผิดปกติของชายหนุ่ม กำลังจะพูดขึ้นเพื่อจะกระตุ้นคำสั่งที่ฝังทางจิต ทว่ากลับคิดไม่ถึงว่า เธอจะไม่ได้อ้าปากไพ่ใบหนึ่งก็ลอยมากรีดหน้าเธออย่างจัง ฝานเจียหน้าซีด มองดูชายหนุ่มหยิบรูปถ่ายแล้วค่อยๆ ลุกขึ้น สายตาเธอตื่นตะลึง ไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่มีใครปลดล็อคคำสั่งที่ฝังทางจิตได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! แต่รังสีเย็นยะเยือกที่กระจายออกจากร่างชายหนุ่ม กลับทำให้ฝานเจียรู้ซึ้งถึงกับว่าความหวาดผวาไพ่ที่เขาใช้ปลายนิ้วขว้างใส่ มันปักเข้าที่ข้อมือเธอ ฝานเจียไม่เคยรู้สึกอยู่ใกล้ความตายมากเท่าในเวลานี้ เธอมองออกว่า เขาคิดฆ่าจริงๆ เมื่อชายหนุ่มเดินออกจากเงาแสง ฝานเจียก็รู้ว่ามันจบลงแล้ว เพราะแววตานั่นไม่ใช่แววตาที่ถูกคำสั่งที่ฝังทางจิตควบคุมไว้ แต่เป็นเขาในอดีต ผู้ชายที่ยโส สูงส่งต้องห้าม อยู่เหนือคนทั้งปวงฝานเจียก้าวถอยหลัง สำหรับเธอแล้ว เขาในเวลานี้ไม่ใช่เทพแต่เป็นจอมมาร แววตาที่เขามองเธอ ไม่เหลือความอุ่นสักนิด มันเย็นชาเหมือนเมื่อครั้งที่เขาจับติดเธอได้ แล้วเอ่ยอย่างไม่ร้อนใจ ‘อย่างเธอน่ะเหรอ คิดจะเลียนแบบเขา?’ครั้งนั้นฝานเจียเกือบไม่รอด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอเกลียด Z และพยายามหาทางฆ่าฝ่ายตรงข้าม แต่ก็มักจะเป็นเช่นนี้ ไม่มีวันมลายหายไปสักที ฝานเจียกัดฟัน สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ “ฉันทำอะไรมากมายขนาดนี้ก็เพราะชอบพี่ ทำไมพี่ถึงไม่สงสารฉันบ้าง”ฉินมั่วเอ่ยเสียงกระด้าง “ฆ่าคน แถมขโมยของคนอื่นด้วย ยังมาบอกว่าตัวเองน่าสงสาร เฮอะ ทำไมฉันต้องเอาความสงสารของตัวเองไปให้คนที่ไม่ต่างอะไรจากปรสิตด้วย?”ฝานเจียงยกมืออุดหูตัวเอง “ฉันแค่รักพี่ ฉันแค่รักพี่ ทำไมพี่ต้องว่าฉันอย่างนี้ด้วย!”“เธอจะบอกว่าตัวเองน่าสงสารใช่ไหม?” ฉินมั่วหมุนไพ่ในมืออย่างไม่เร่งร้อนฝานเจียกำมือแน่น “หรือไม่จริง?”“เธอลองไปถามคนที่เธอทำให้เขาตายในนรกดูสิ เพราะเธอถึงทำให้พวกเขาเรียกร้องความเป็นธรรมไม่ได้ พวกเขาคนไหนบ้างที่ไม่น่าสงสาร” ฉินมั่วขยับเสียงของไพ่ที่ถูกขว้างก็ดังขึ้น ข้อมืออีกข้างของฝานเจียก็ถูกปาดอีก เธอรู้ทันทีว่า มือทั้งสองข้างจะใช้การไม่ได้อีกตลอดชีวิต “ทำไมพี่ถึงโหดกับฉันได้ขนาดนี้?” เธอหน้าตาบิดเบี้ยว “ทำไมไม่ฆ่าให้ตายไปเสียเลย”ฉินมั่วเลิกตาขึ้น “มือของฉันฆ่าได้แต่คน ส่วนเธอ ไม่คู่ควร”ฝานเจียได้ยินประโยคท้าย ก็ราวกับบ้าคลั่งไปแล้วแต่ในเวลาเดียวกัน ไม่รู้ว่าฉินมั่วทำสัญญาณอะไรให้กับคนที่อยู่ด้านนอก ตำรวจนอกเครื่องแบบฝูงหนึ่งจึงกรูกันเข้ามาจับตัวเธอไว้! ฝานเจียพยายามดิ้นรนสุดชีวิต “แน่จริงก็ฆ่าฉัน ฆ่าฉันสิ!”“ชีวิตในคุกเหมาะกับเธอยิ่งกว่าให้ฉันฆ่า” ฉินมั่วหันมามอง เอ่ยเสียงเย็น “วางใจเถอะ เธอไม่ตายหรอก แล้วจะออกมาไม่ได้อีกด้วย พวกเธอชอบเล่นเกมจมน้ำตายไม่ใช่เหรอ งั้นลองไปใช้ชีวิตในคุกดูสิ” ……………………………………….ตอนที่ 1805-3ฝานเจียได้ยินแล้วหน้าเปลี่ยนสี เธอเข้าใจความหมายของฉินมั่ว เขาต้องการให้เธอลิ้มรสกับชีวิตใกล้ตาย เขาทำลายมือของเธอก็เพราะอยากให้เธอขัดขืนอะไรไม่ได้เวลาที่อยู่ในคุกคุกคืออะไร การอยู่ในนั้นน่ะ เรียกว่าทรมานชนิดที่กินคนแบบไม่เหลือกระดูก!คงเพราะฝานเจียร้องไห้อย่างหนัก ตำรวจนอกเครื่องแบบนายหนึ่งจึงส่ายหน้า “น่าสงสารเหมือนกันนะ”ฉินมั่วหันไปกวาดตามอง “รู้สึกว่าเขาน่าสงสารเหรอ?”“ผมแค่…”เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นจากด้านหลัง “รู้สึกว่าคนร้ายน่าสงสาร แถมคนก็ตายไปแล้ว ทำไมต้องให้เขาชดใช้ชีวิตด้วย คิดว่าการทำร้ายคนอื่นไม่เห็นเป็นปะไร อ้อ รู้ไหมว่าคนกับปรสิตต่างกันที่ตรงไหน ตรงที่คนมีหัวใจ รู้ว่าวิญญาณที่ล่วงลับอาจไม่สงบสุข แล้วเข้าใจดีว่าอะไรคือเลือดล้างด้วยเลือด ถ้าคนที่นายรู้สึกว่าน่าสงสาร งั้นฉันขออวยพรให้คนที่สนิทกับนายที่สุดถูกถ่วงทะเลตาย แล้วไม่มีใครช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้นาย”ตำรวจนายนั้นถึงกับตาลุกวาว หันไปอยากจะเถียง แต่พบว่าผู้มาเยือนสวมชุดทหารก็คือคุณชายถังนั่นเอง เขายังคงยิ้มแจ่มใสเหมือนเมื่อก่อน “ฉันไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้คนจากทางการจะพูดแทนคนตายว่าฆาตกรน่าสงสาร ฝานเจียทำร้ายคนมาไม่น้อย หนึ่งในนั้นยังเป็นเพื่อนพวกเรา ถ้านายกังวลใจต่อชีวิตในคุกของเขา ก็ได้ วันนี้เก็บข้าวของไปอยู่ในคุกสิ จะได้ดูแลเขา ดีออกจะตาย”ตำรวจนายนั้นถึงกับชะงัก รอจนเสี้ยวหน้านั่นไม่ยิ้มแย้มแล้ว เหยื่อเย็นก็ไหลกลางหลังคุณชายฉินยืนอยู่ตรงข้ามกับคุณชายถัง ทั้งสองยืนประจันหน้ากันอย่างสง่า เพียงแต่คนหนึ่งสวมชุดทหาร อีกคนสวมเสื้อกันลม อันให้ความรู้สึกคนละสไตล์ เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขา ความเจ้าเล่ห์ของฝานเจียจึงไร้ประโยชน์“ฉันยังมีธุระ” ฉินมั่วช้อนสายตา พูดกับคุณชายถัง “ไม่กลับไปกับนายนะ”ก็รู้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ คุณชายถังยื่นมือนวดหัวคิ้ว “กี่วัน?”“หลังการแข่งระดับเอเชีย” น้ำเสียงของฉินมั่วไม่เปลี่ยนแปลงคุณชายถังเลิกคิ้ว “นายรู้ว่าฉันรับผิดชอบคดีนี้” ถ้าเป็นคนอื่น เขาอาจไม่เป็นอย่างนี้ก็ได้“เรื่องจับฉัน นอกจากนายแล้ว ยังจะมีใครกล้ารับ” ฉินมั่วพูดธรรมดาเหมือนกำลังคุยเรื่องดินฟ้าอากาศคุณชายถังหัวเราะ “คุณชายฉินก็ชมเกินไป ฉันเหมือนคนที่ชอบซ้ำเติมใครหรือไง?”ฉินมั่วเรียบเฉย แต่อันที่จริงสายตามองด้านล่างตลอดเวลา “ดูเหมือนคุณชายถังจะเข้าใจตัวเองผิดอยู่นะ” แต่แววตาอย่างว่าไม่อาจหลบสายตาคุณชายถัง แถมฉินมั่วก็ไม่คิดจะปิดบัง“ช่างเหอะ ถือว่าฉันให้สินส่วนตัวเจ้าสาวกับ Z แล้วกัน” คุณชายถังหันไปทางซ้ายเพื่อปล่อยทางให้ พวกนอกเครื่องแบบก็เก็บปืนทั้งหมดเช่นกันฝานเจียไม่คิดจะถูกขังคุกด้วยสภาพแบบนี้ เธอยอมตายเสียดีกว่า แต่กรรมตามทัน ก็เหมือนที่คุณชายถังว่าไว้ จะต้องมีใครสักคนที่คืนความเป็นธรรมให้กับวิญญาณที่ตายไปอย่างไร้ความยุติธรรม และคนที่ถูกขโมยของไปแต่ไม่ได้รับความเป็นธรรมแถมยังถูกรังแกแน่ละ คนเห็นแก่ตัวมักหาข้ออ้างให้ตัวเองเสมอ พวกกลับขาวเป็นดำ เก่งฉกาจด้านการโกหก ตอนเด็กๆ ก็แย่งของคนอื่นมายึดเป็นของตัวเอง เพราะอยากเป็นที่สนใจ พอโตมาก็ฆ่าคน แถมยังใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจเฉิบเพราะคิดว่ายังไงเสีย เวลาผ่านไปนานเข้า ย่อมได้รับการให้อภัยเพราะคิดว่ายังมีคนที่ช่วยปัดความผิดให้ตนอยู่มากมาย ……………………………………….[1] บทกวีดังกล่าวประพันธ์โดยกวีหลี่ไป๋ ผู้เลื่องชื่อในราชวงศ์ถัง[2] ขายถี่ คือตัวอักษรภาษาจีนแบบบรรจง
คอมเม้นต์