Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1702-4 vs 1703-1
ตอนที่ 1702-4ในระหว่างที่คิดเช่นนี้ ป๋อจิ่วก็โน้มตัวจูบที่หางตาเขา พลันหัวเราะขึ้น “รอให้พี่หายก่อน แล้วฉันค่อยรังแกพี่”ฉินมั่วผงะ เด็กนี่มันโง่จริงๆ แฮะ เขาเริ่มเลื้อยนิ้วเข้าไปเกาะเอวที่ขยับเข้ามา ก่อนจะฝังใบหน้าเข้าไปซอกคออีกฝ่าย เอ่ยเสียงแผ่ว “ฉันปวดหัวจริงๆ คงต้องรบกวนป๋าแล้วล่ะ”“ได้” ป๋อจิ่วโอบกลับเวลานั้น ฉินมั่วรู้สึกเหมือนด้านหลังของเจ้านี่มีหางส่ายสะบัด แถมมีหูตั้งบนศีรษะด้วย ทำให้อยากขำขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ คงเพราะกลิ่นไอจากตัวเด็กคนนี้หอมหวาน ส่งผลให้หนังตาของฉินมั่วค่อยๆ หย่อนคล้อย เข้าสู่ความมืดมิดในที่สุด แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังไม่ปล่อยไพ่ในมืออยู่ดีป๋อจิ่วมองที่นั่งตอนหลัง เร่งความเร็วขึ้นอีกเท่าตัว เขาไม่เชื่อใจเธอ ย่อมถือเป็นเรื่องปกติ หลังจากสูญเสียความทรงจำไป ใครจะรีบเชื่อใจคนอื่นในทันที ยิ่งเป็นท่านเทพแล้วด้วย แต่ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าการที่เขาอยู่ข้างกายเธอหรอกป๋อจิ่วกวาดตามองสิ่งปลูกสร้างด้านนอกสถานที่แห่งนั้นลึกลับ หากไม่เป็นเพราะเสี่ยวเฮยมีระบบจีพีเอสที่แสนยอดเยี่ยม รับรองหาสถานที่แบบนี้ไม่เจอ เพราะถึงจะเป็นสถานที่ของทหาร และถูกทิ้งมานานแล้ว แต่ยังคงอันตรายอยู่ดี บริเวณที่กฎหมายเอื้อมมือไม่ถึง น่ากลัวก็ตรงที่มีพวกนักเลงนี่แหละป๋อจิ่วเป็นคนทำอะไรระมัดระวังตัว หากมีแค่เธอคนเดียวยังไม่เท่าไร แต่ตอนนี้เธอมีท่านเทพอยู่ด้วย เธอจะต้องนำรถไปจอดยังที่ที่มีที่พัก“เจ้านายครับ ผมคงมาถึงได้เพียงเท่านี้” เสียงของเสี่ยวเฮยไม่เคยหนักอึ้งเท่าเวลานี้มาก่อน เห็นได้ชัดว่ามันเริ่มจะหมดแรงแล้วป๋อจิ่วตบพวงมาลัย เปิดประตูออก แล้วเดินเจ้าไปในความมืดด้วยฝีเท้าแผ่วเบา กำไพ่ที่เอามาจากฉินมั่วไว้ในอุ้งมือเธอจะบุ่มบ่ามไม่ได้ เพราะเกรงว่าจะถูกคนหาตัวเจอ ซึ่งปัญหานี้อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากพวกนักเลงชอบสิงอยู่เขตทหารที่รกร้างยังดีที่ที่นี่ไม่มีคน คงเพราะอุณหภูมิต่ำลง ด้วยเวลาแค่ห้านาที ป๋อจิ่วก็หนาวจนแทบจะไม่มีความรู้สึกรอจนมั่นใจในความปลอดภัยของที่นี่ เธอก็คว้ากิ่งแล้วกระโดดลงไป เพราะเป็นแหล่งทหารมาก่อนนี้แหละ ทำให้หาน้ำมันได้ง่าย เนื่องจากมีรถที่ถูกทิ้งไว้ที่นี่มีมากมายป๋อจิ่วไถลตัวตรวจถังน้ำมัน ก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างออกมาเพื่อให้รองรับน้ำมัน จากนั้นก็หาทางเจาะถังไม่มีอะไรที่น่ากลัวหรอก นอกเสียจากที่นี่หนาวมากเมื่อได้น้ำมันมาแล้ว ป๋อจิ่วก็เริ่มสั่นเทา รอจนมาถึงตัวรถ เรียวปากของเธอก็ขาวซีด แต่ดีที่ภายในรถมีเครื่องทำความร้อนพอน้ำมันเต็มถัง ระบบจีพีเอสก็สั่งการให้เครื่องทำความร้อนปรับให้สูงสุด นิ้วมือของเธอถึงได้กลับมามีความรู้สึก ออกจะหนึบชาอยู่บ้าง แต่เมื่อสะบัดสักหน่อยก็ดีขึ้นเธออยากจะเช็คอุณหภูมิของชายหนุ่ม แต่เมื่อยื่นมือออกไป ก็พบว่ามือของเธอเย็นจัด จึงต้องพับความคิดดังกล่าวเอาไว้ แล้วดึงมือกลับมาวางไว้ที่พวงมาลัย แล้วขับรถมุ่งตรงไปที่ตำบลเล็กๆ ซึ่งอยู่ห่างจากนี้ไปประมาณสามสิบกิโลเมตร…………………………………………………….ตอนที่ 1703-1ระหว่างนี้ ป๋อจิ่วเชื่อมสัญญาณอินเทอร์เน็ต จากนั้นก็ใช้ระบบจีพีเอสค้นหาข่าวในประเทศโชคยังดีที่ภารกิจครั้งนี้เป็นความลับ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับท่านเทพจึงไม่กลายเป็นข่าว รวมถึงรายละเอียดของการปฏิบัติการณ์ในครั้งนี้ที่ยังคงเป็นความลับระดับ S จึงไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ป๋อจิ่วรู้ดีแก่ใจว่าเว้นแต่ทางบ้านท่านเทพสภาพเขาในเวลานี้ ครอบครับของเขาต้องได้ข่าว หลายๆ คนต่างคิดว่า คนในกลุ่มปฏิบัติการณ์จะต้องได้รู้ข่าวของฉินมั่วเป็นลำดับแรก แต่พวกเขากลับคิดไม่ถึงว่า คนแรกที่รู้ข่าวชายหนุ่มจะเป็นราชินีจอเงินคนสวยเมื่อป๋อจิ่วโทรไปแจ้ง เมืองนอกในเวลานั้นหิมะกำลังตกหนัก คนสวยรับสายในระหว่างที่เดินทางไปยังสนามบิน โดยผู้ช่วยข้างตัวกลัวว่าเธอจะหนาว จึงรีบนำเสื้อโค้ทขนแกะมาคลุมร่างเธอทุกคนรู้ว่าวันนี้คนสวยไม่เป็นปกติ จึงไม่ถ่ายหนัง และรู้เช่นกันว่าเธอจองตั๋วเครื่องบินเตรียมกลับประเทศจีน ราวกับที่บ้านเกิดเรื่องขึ้น หน้าสวยแอร่มเผือดซีดเป็นคำบรรยายราชินีจอเงินที่เหมาะที่สุดในเวลานี้ ผู้ช่วยไม่เคยเห็นสาวสวยมีชาติตระกูลจะเศร้าสรดมาก่อน ถึงขั้นที่ขอบตาแดงก่ำ“ฮัลโหล”เสียงที่ลอยเข้าหู ให้ป๋อจิ่วได้ยินก็รู้ว่าคนพูดร้องไห้ เธอนิ่งชั่วครู่ก่อนจะเอ่ย “คุณน้า จิ่วเองนะครับ ตอนนี้พี่มั่วอยู่กับผม”คนสวยได้ยินแล้ว หยุดนิ่งทันที แววตาเปล่งประกายความยินดี จนยกมืออุดปาก “ดีแล้ว ดีจริงๆ “ เธอพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เส้นผมยาวสีดำราวสวยราวใยไหมไล้เคลียแก้ม บดบังน้ำตาเธอจนหมดทว่าเวลาเจอผู้ใหญ่ทีไร ป๋อจิ่วเป็นต้องพูดอะไรอึกๆ อักๆ “คุณน้าสบายใจได้นะฮะ ผมจะดูแลพี่มั่วเอง”“น้ารู้จ้ะ น้องจิ่ว ขอบคุณมากนะลูก” ราชินีควบคุมอารมณ์ตนเอง ทั้งยังสูดจมูกเหมือนเป็นสาวน้อย “น้าสบายใจแล้วล่ะ ถ้าลูกชายน้ำแข็งของน้าได้อยู่กับน้องจิ่ว แต่น้องจิ่วต้องบอกน้ามาตรงๆ นะ พี่เขา เขา…ย่ำแย่มากใช่ไหม”“นิดหน่อย” ป๋อจิ่วครุ่นคิดก่อนจะตัดสินใจพูดความจริงออกไป “พี่แค่สูญเสียคามทรงจำ” คำพูดดังกล่าวทำให้ราชินีจอเงินได้ยินแล้วถึงกับสะเทือนใจ แต่เธอรู้ดีตั้งแต่ตอนที่ลูกตัดสินใจรับภารกิจนี้ว่าผลจะเป็นเช่นไร?เธออุตส่าห์ไม่รับสายสามีมานานหลายวันเพราะเหตุนี้ แม้จะรู้ดีว่าตระกูลฉินต้องรับภาระกิจอะไรบ้าง แต่เธอยังรู้สึกผิดต่อลูก ลูกรักฉลาดกว่าเธอมาตั้งแต่เป็นเด็ก จนเธอยังรู้สึกเลยว่า เขาไม่ต้องให้เธอไม่จำเป็นอยู่เป็นเพื่อน อาจเป็นเพราะนี่คือวิธีอบรมเลี้ยงดูของตระกูลฉิน ซึ่งลูกเธอกลับรู้คิดเหลือเกิน ต่อให้นิสัยเย็นชาอย่างไรก็ยังปกป้องเธออย่างเข้มแข็งจำได้ว่าตอนที่เขาห้าขวบ เธอไปร่วมงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง และถูกบังคับให้ดื่มเหล้ากลายๆ ตอนนั้นสามีเธอไม่ได้อยู่ในงานเลี้ยง ลูกตัวน้อยของเธอก็มากันข้างหน้า สง่าราวกับเป็นเจ้าชายน้อย “คุณครับ แม่ผมไม่ดื่มเหล้าครับ อีกอย่าง ไม่เคยมีคนสอนหรือครับว่าจะต้องปฏิบัติยังไงกับสุภาพสตรี”เขาพูดด้วยภาษาอังกฤษอย่างมีมารยาท ไม่เอะอะอาละวาด แค่แววตาก็ทำให้คนต่างชาติหน้าม่อยได้แล้ว…………………………………………….
คอมเม้นต์