Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1699-4 vs 1700-1 vs 1700-2
ตอนที่ 1699-4มิคาเอลคิดว่าทั้งสองจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดกาล จนเมื่อโลกสวรรค์ได้รับสารจากโลกมนุษย์ เกิดสงครามครั้งใหญ่ที่สุด ลูซิเฟอร์ที่ท่านรักที่สุดก็ทำการโหมเพลิงสงครามจนกลายเป็นคนละคนตั้งแต่นั่นเป็นต้นมา เวลาที่มิคาเอลจับอาวุธเข้าสู้ จึงเหลือเพียงความเย็นชา แม้จะอยู่ในสถานะสูงส่ง แต่ก็ฆ่าคนได้อย่างง่ายดาย ซึ่งฉินมั่วในเวลานี้ ก็คล้ายกับมิคาเอลนั่นแหละภายใต้แสงตะวันรอน ฉินมั่วนั่งกลางเรืออย่างไม่สนใจว่ามือตัวเองเปื้อนเลือดมากแค่ไหน แสงตะวันที่หลงเหลือบนฟากฟ้าได้ย้อมนัยน์ตาเขาให้แดงจัดคำว่าสง่า ลึกลับ สูงส่ง ยังคงเหมาะที่จะบรรยายตัวเขาเหมือนเดิม ทว่า ใครก็ตามที่ได้เห็นเขาในเวลานี้ก็จะรู้ว่า นี่ไม่ใช่ฉินมั่วที่พวกเขาเคยรู้จักชายหนุ่มหันหน้ามาราวกับดื่มด่ำความมืดที่กำลังเข้ามาเยือน ทำให้สปีดโบ้ทลำอื่นที่เข้ามาช่วยเหลือถึงกับลังเลและในเวลาเดียวกัน คลื่นก็ซัดเข้ามารถแลมโบกินี่ มูร์เซียราโก้คันดำผงาดขึ้นเหนือน้ำผู้คนล้วนเห็นจากที่ไกลๆ ว่า เด็กนั่นถอดแว่นตากันน้ำออก เส้นผมสั้นเซอร์ที่ยังมีน้ำเกาะอยู่ กำลังถูกฉินมั่วที่นั่งบนเรือยื่นมือบีบคอห้วงเวลาดังกล่าว ทุกๆ คนต่างสะดุดลมหายใจ คุณชายถังที่อยู่ด้านหน้าสุด รู้ถึงปัญหาทันที “คำสั่งที่ฝังทางจิตของฉินมั่วถูกปลุกออกมาใช้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว”ทางเบื้องบนออกคำสั่งมาแล้วว่า หากฉินมั่วตกอยู่ในสภาพที่ควบคุมไม่ได้ พวกเขาจะต้องพาตัวกลับไปแล้วให้ทางเบื้องบนตัดสินใจเองแต่จะจัดการได้อย่างไร เพราะตอนนี้พวกเขาไม่มีใครกล้าเข้าใกล้สักคน และชายหนุ่มดูน่ากลัวมาก!ฉินมั่วมองดูป๋อจิ่วที่อยู่ใกล้ แล้วค่อยๆ ยิ้มออกมา ยิ้มที่เหี้ยมเกรียมและร้ายกาจ “เป็นเหยื่อที่เสนอหน้ามาตายเหรอ?”ป๋อจิ่วเริ่มหายใจไม่ออก สายตาเธอตกอยู่ที่แววตาที่เหมือนไม่เคยรู้จักมาก่อน รู้สึกเหมือนถูกมีดกรีดหัวใจ แต่มุมปากยังคงหยัดยิ้ม พูดออกมาอย่างลำบาก “พี่มั่ว ถึงพี่จะลืมฉันตอนเด็กก็แล้วไปเถอะ ทำไมยังลืมฉันในตอนโตด้วยล่ะ”“พี่มั่ว?” ฉินมั่วเข้าไปใกล้ป๋อจิ่วอีก “ฉันจะมีน้องชายที่เตี้ยขนาดนี้ได้ไง แค่โกหกยังทำไม่ได้เลย?”อันที่จริง ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองว่า แค่เห็นอีกฝ่ายทรมาน เขาก็รีบปล่อยมือทันทีราวกับต้องมนต์ช่างเถอะ เด็กคนนี้จะทำอะไรเขาได้ เพราะหากลองตุกติกสิ เขาจะปาดคอมันด้วยไพ่นี่แหละ ทว่าฉินมั่วกลับคิดไม่ถึงว่า เขาเพิ่งจะปล่อยเจ้าเด็กนี่ แต่อีกฝ่ายกลับกอดเขาไว้แน่น เอ่ยเสียงต่ำที่แหบพร่า “พี่มั่ว ครั้งนี้ฉันจะเป็นฝ่ายพาพี่กลับบ้านเอง”………………………………………………ตอนที่ 1700-1 หวาน เราเป็นแฟนกันกลับบ้านเหรอ? ฉินมั่วกวาดตามองคนที่กอดตัวเองอยู่ ก่อนจะยื่นมือเชยคางอีกฝ่ายเด็กนี่น่าสนใจดีแฮะ ไม่เห็นหรือว่ามือเขาเปื้อนเลือด? ไม่เห็นเหรอว่าตรงนั้นมีคนนอนตายอยู่ ที่มีเลือดมากมาย แค่ดูก็รู้ว่า มันมาจากพวกคนที่ถูกเขาฆ่า กระทั่งสปีดโบ้ทลำอื่นบนทะเลสาบ ยังไม่กล้าเข้าใกล้เขาเลย เด็กนี่กลับวิ่งเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย มันคิดอะไรกันแน่?ฉินมั่วมองหน้าป๋อจิ่วอย่างพินิจ ก่อนจะเอ่ยช้าๆ “พวกที่อยู่ข้างหลังนาย ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ฉันเลยสักคน”เวลานี้ ป๋อจิ่วยืนกราน “ฉันไม่ใช่พวกเดียวกับพวกเขา เพราะฉันไม่ใช่คนดี”เสี้ยวหน้าของฉินมั่วไม่บ่งบอกอารมณ์ใดใด โดยเฉพาะในเวลานี้ มุมปากของเขายกยิ้ม ไพ่ยังไม่หลุดจากนิ้วมือ เขาไม่เชื่อคำพูดของป๋อจิ่วอย่างเห็นได้ชัด“เมื่อกี้เรียกฉันว่าพี่ เป็นน้องชายฉันเหรอ?”“เปล่า”เดิมที่คิดว่าเจ้าเด็กนี่จะยอมรับ เพราะจะได้ลดความระแวงของเขาได้ แต่ฉินมั่วไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธ คิ้วเรียวได้รูปกำลังเลิกขึ้น ก็เห็นป๋อจิ่วโน้มตัวมาหา ริมปากสีอ่อนแตะบนเรียวปากของเขาฉินมั่วผงะ รับรู้ได้ถึงลมหายใจของตัวอีกฝ่าย รวมถึงความนุ่มเย็นนิดๆ แฝงมาด้วยกลิ่นอมยิ้มที่โชยเข้าเรียวปากของเขา มันช่างอบอุ่นจนทำให้เขาไม่ผลักไสอีกฝ่ายจากนั้น เขาจึงได้ยินเสียงเด็กนี่พูด “ก็ฉันเป็นป๋าของพี่ เราเป็นคนรักกัน”ฉินมั่วได้ยินแล้วผงะอีกหน หลุบมองมุมปากที่ยกยิ้มของอีกฝ่าย ก่อนจะกดศีรษะอีกฝ่าย ก้มตัวนิดๆ ลมหายใจของเขาไล้ผ่านริมหูเธอ “หมายความว่าฉันไม่แค่ชอบผู้ชาย แต่ยังโดนผู้ชายเหมาเลี้ยงด้วย”“พี่มั่วอ่ะ” ป๋อจิ่วหัวเราะ ไม่ปฏิเสธอีกฝ่าย แต่จับมือเขามาแปะหน้าอกตัวเอง ความนุ่มหยุ่นใต้ฝ่ามือทำให้ฉินมั่วถึงกับนิ้วเกร็ง ขมวดคิ้วหน่อยๆ เป็นเด็กผู้หญิงหรือนี่ ทำไมถึงใจกล้าหน้าไม่อายขนาดนี้? แต่อีกฝ่ายทำตัวราวเป็นสาวน้อยก๋ากั่น ไม่คิดว่าตัวเองหน้าไม่อาย โฉบเข้าใกล้ปลายจมูกเขา “พี่ชอบที่สุดนี่”น่าสนใจแฮะ ฉินมั่วรู้สึกว่าอีกฝ่ายน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ จึงค่อยๆ ยักคิ้ว “อันที่จริง ฉันไม่ชอบแบบใหญ่ๆ นักหรอก ว่าแต่ความน้อยนิดที่เธอมีแล้ว ท่าจะไม่มีอะไรเด่นเลย”ป๋อจิ่ว… ทำไมพอท่านเทพกลายเป็นมารแล้ว ยังไม่ลืมความปากเป็นพิษอีกนะ?“แต่ เรื่องการพิสูจน์สินค้านี่ คงต้องทำแบบนี้ถึงจะรู้ว่าเราชอบหรือเปล่า” ฉินมั่วกระชากอีกฝ่ายให้มาอยู่ในอ้อมกอด ภายใต้เสื้อกันลมตัวดำที่กางกั้น เขาล้วงเข้าไปในเสื้อเธอ ลูบเอวบางที่น้อยคนจะไม่ชอบ เอวของเธอนุ่มลื่นขาวเนียนราวกับหยกชั้นเยี่ยมวินาทีที่ได้สัมผัส ฉินมั่วก็หลงใหลทันที แววตาเขาขรึมลง ราวกับรังเกียจอิทธิพลของอีกฝ่ายที่ส่งผลต่อเขา แล้วดึงตัวป๋อจิ่วไปยังตำแหน่งที่ปลอดภัย“ทำไมเหรอ?” เธอหน้าแดงหน่อยๆ เพราะสิ่งที่อีกฝ่ายกระทำเมื่อครู่ ทำให้หูเธอร้อนรุ่มเลยทีเดียวฉินมั่วเห็นภาพตรงหน้า ยิ้มขึ้น ก้นบึ้งนัยน์ตาเต็มได้ด้วยรังสีอันตราย “ในเมื่อเธอเป็นป๋าสายเปย์ของฉัน สปีดโบ้ทพวกนั้นก็ควรจะให้เธอเป็นคนไล่ออกไป จริงไหม?”ป๋อจิ่วสังเกตเห็นว่าเขาระแวงชุดทหาร แถมแววตาลุ่มลึกของชายหนุ่ม ยังฉายแววความโหดเป็นระยะๆ อันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างไปจากปกติ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังคงเป็นเขา“ทำไม?” ฉินทั่วทัดผมให้เธอ หัวเราะเบาๆ “ไม่อยากทำงั้นเหรอ? ไหนบอกว่าเป็นคนรักกันไง แค่เรื่องนี้ก็ทำไม่ได้” ………………………………ตอนที่ 1700-2 หวาน เราเป็นแฟนกันป๋อจิ่วจ้องเขา ด้วยแววตาใสแจ๋ว แฝงด้วยความฉลาดล้นเหลือ “ถ้าพี่ต้องการ ย่อมได้” ว่าแล้ว เธอก็หันไปสบตาคนที่อยู่หัวเรืออีกลำ แววตาของชายผู้นั้นไม่แฝงแววออกคำสั่งเลยตั้งแต่แรกจนถึงบัดนี้ทว่าป๋อจิ่วยังไม่ทันเอ่ย เสียงอีกฝ่ายก็ดังขึ้น “ฉินมั่วจะต้องตามพวกเรากลับไป ส่วนเรื่องที่เหลือจะมีคนจัดการเอง” อันเป็นการปฏิเสธสิ่งที่ป๋อจิ่วปรารถนาในเมื่อเป็นเช่นนี้ “คุณชายถัง คุณน่าจะเข้าใจว่าฉันคงจะมอบเขาในสภาพแบบนี้ให้คุณไม่ได้หรอก” ป๋อจิ่วรู้ดีว่า หากชายหนุ่มกลับไปกับพวกทหาร ก็จะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม แต่เรื่องสภาพจิตใจล่ะ อาจจะเกิดผลเหมือนเมื่อตอนนั้น ฉินมั่วในเวลานี้ไม่เหมาะที่จะมีตำแหน่งทางทหารต่อไป เมื่อพิจารณาด้านความปลอดภัยต่อทุกคน พวกเขาจะให้ชายหนุ่มกลับเมืองเจียงเฉิงอีกครั้ง หลายสิ่งหลายอย่างที่ฉินมั่วทุ่มเทลงไป ยอมกระทั่งทิ้งอีสปอร์ตที่รักอย่างไม่เสียดาย ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในสภาพทแบบนี้อีกครั้ง แต่ท้ายที่สุดกลับถูกกระทำเช่นนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาไม่ใช่ฉินมั่วที่เป็นปกติทางทหารไม่ผิดหรอก เพราะเขาในเวลานี้น่ากลัวเกินไป หากบอกว่าคิงใช้เวลาสั้นๆ ในการสะกดจิตแต่เขาในเวลานี้ กลับความสามารถทุกชนิดต่อการควบคุมจิตใจของคนการป้องกันการตรวจสอบ ความสามารถในการสู้รบ การยิงไกล กระทั่งปฏิกิริยาทั้งหมดทางด้านร่างกาย ล้วนแสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มคุ้นเคยต่อการสู้รบของทหารอย่างยิ่งยวดคนเก่งเช่นเขา ในทันทีที่กลายสภาพเป็นคนร้าย ย่อมทำให้ฝ่ายทหารระแวงป๋อจิ่วไม่เชื่อใคร นอกจากตัวเองเท่านั้น เธอกลัว กลัวพวกเขาจะหาว่า ชายหนุ่มกลายเป็นคนโรคจิตเหมือนคิง แล้วเอาเขาไปดูแลในที่ที่ปลอดภัย ให้ความเป็นอยู่อย่างดี แต่ออกไปไหนไม่ได้นั่นไม่ใช่สัตว์เลี้ยงตัวน้อยของเธอ สัตว์เลี้ยงตัวน้อยของเธอเป็นดั่งเจ้าชายน้อยมาตั้งแต่ยังเด็ก ทั้งหยิ่ง ไม่แคร์ใคร แถมยังเป็นคนยุติธรรม เขาเหมาะที่จะอยู่บนแท่นท่านเทพเป็นที่สุด เขาไม่ควรจะแปดเปื้อนต่อสิ่งใดมาตั้งแต่แรก แล้วเธอจะอนุญาตให้คนอื่นทำเหมือนเขาเป็นตัวเชื้อโรคที่ต้องโดนกักกันได้ย่างไร ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็เถอะ“ฉันจะพาตัวเขาไป” ป๋อจิ่วมองร่างนั้น ค่อยๆ ยิ้ม “ถ้าวิธีนิ่มนวลใช้ไม่ได้ผล ฉันยังพอจะมีวิธีอื่น เชื่อว่าคุณชายถังคงไม่อยากเป็นศัตรูกับฉัน”ชายหนุ่มไม่ขยับ เอ่ยเสียงเรียบ “Z คุณเคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าคุณพาตัวเขาไป จะเกิดอะไรขึ้น ทางทหารจะประกาศจับคุณ ซึ่งมันก็ไม่สำคัญหรอก สิ่งสำคัญคือ คุณมั่นใจเหรอว่าเขาไม่ได้มีอะไรแอบแฝง คุณน่าจะรู้ดีว่าเขาในเวลานี้น่ากลัวแค่ไหน ไม่แน่ว่าพอคุณพาตัวเขาไป เขาก็จะควบคุมคุณให้ทำในสิ่งที่เขาต้องการนะ”ฉินมั่วหัวเราะ ไม่คิดเลยว่าฝั่งนั้นจะมีคนฉลาดมากอย่างนี้ ท่าทางแผนการของเขาคงไม่สำเร็จ…“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันก็รับผิดชอบได้ทั้งนั้น ฉันเคยบอกแล้วว่า ครั้งนี้ฉันจะขอพาเขากลับบ้านเอง”ฉินมั่วได้ยินแล้วถึงกับตะลึงทั้งร่าง ค่อยๆ หันไปมองป๋อจิ่ว แววตาลุ่มลึกของเขาแฝงไปด้วยอารมณ์อื่นๆ หมายความว่าเจ้าเด็กนี่รู้แผนการของเขาแล้ว มิน่าล่ะ ถึงได้พูดว่า “ถ้าพี่ต้องการ ก็ได้” ยังจะตอบรับในสิ่งที่เขาต้องการอีกโง่หรือเปล่า?………………………………
คอมเม้นต์