Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล ตอนที่ 451
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงในห้องปฏิบัติบัติการเเจ็คสันได้ปลดชุดเกราะไอรอนแมนทั้งหมดที่เหลืออยู่ทั้งหมดออกร่างกายของเขาได้รับการปกคลุมโดยเวน่อม ซึ่งมันสามารถทำให้การทดลองได้ดีขึ้น ธรรมชาติที่ด้านหลังของเเจ็คสันมีเครื่องเตาปฏิกรณ์อาร์คขนาดเล็กติดเอาไว้อยู่เพื่อเป็นเเหล่งพลังงานให้กับเวน่อม ฟุ่บ! การทดลองส่วนใหญ่ได้เสร็จสิ้นจนเเจ็คสันไม่ต้องการทำการทดสอบอีกต่อไปเพียงเเต่เวน่อมก็ยังเกาะติดกับตัวของเขาพร้อมกับดูดซับพลังงานผ่านเเกนของเตาปฏิกรณ์อาร์คแบบเงียบ ๆ เห็นความไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวของเวน่อมเเจ็คสันจำใจปลดอาวุธอย่างเวน่อมออกเขาได้ลดอาวุธเเกนพลังงานทิ้้ง จากนั้นพละกำลังที่ถูกเสริมเพิ่มขึ้นมาย่อมหายไปด้วย เเม้เวน่อมจะไม่มีผลกระทบทางความคิดของโฮสต์เเต่มันก็สามารถช่วยให้โฮสต์เเข็งเเกร่งขึ้นได้ เรื่องนี้สามารถทำให้โฮสต์เลือกที่จะอยู่กับมันต่ออย่างเห็นได้ชัด โชคดีที่เเจ็คสันมีจิตใจที่เเข็งเเกร่งเขาไม่ได้หลงมัวเมาไปกับความเเข็งเเกร่งที่เพิ่มขึ้นมา ฟุ่บ! จากนั้น เเจ็คสันก็ปล่อยให้ J.A.R.V.I.S จัดการที่เหลือต่อ ในเวลานี้เเจ็คสันได้ใช้พลังงานไปอย่างมากเขาต้องการพักผ่อน หากต้องการดำเนินการทดลองต่อไปที่เหลือก็สามารถปล่อยให้ปีเตอร์ทำได้ ซึ่ง เเจ็คสันเชื่อว่า อคติของปีเตอร์ที่มีต่อเวน่อมคงจะลดลงหลายส่วน ฟุ่บ! เวน่อมถูกดึงไปวางไว้ที่ด้านหลังมุมของห้องปฏิบัติการซึ่งเเจ็คสันได้เดินออกจากห้องปฏิบัติการในเวลาต่อมา ตอนนี้ โทนี่ กับปีเตอร์ ได้ยืนอยู่หน้าห้องพร้อมกับยื่นส่งมือเพื่อให้กับกำลังใจเขา “ไม่เป็นไร ฉันเเค่รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย”เเจ็คสันกล่าวออกมา “ไม่คิดเลยว่า เวน่อมที่เป็นปรสิตชั่วร้าย จะกลายเป็นอาวุธที่สุดยอดขนาดนี้”หลังจากได้รับการยืนยันว่าเเจ็คสันไม่เป็นอะไรปีเตอร์จ้องมองไปที่ภายในห้องปฏิบัติการเเละตรวจสอบเวน่อมอย่างละเอียด “ในสถานการณ์ปัจจุบันหากเรามีพลังงานที่เพียงพอต่อการหล่อเลี้ยงเวน่อม ฉันไม่คิดว่าการได้รับความช่วยเหลือจากมันจะมีญหาใด ๆ “เเจ็คสันพยักหน้าตอบ การทดลองครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เวน่อม ได้ดูดซับพลังงานของเตาปฏิกรณ์อาร์คไปมากกว่า 20% เเม้จะดูดเหมือนไม่มาก เเต่พลังงานที่ถูกบรรจุในเตาปฏิกรณ์อาร์คนั้นใหญ่มากทีเดียว โดยปกติเเล้ว ชุดเกราะไอรอนแมนที่ติดตั้งเตาปฏิกรณ์อาร์คเวลาออกปฏิบัติการในเวลาครึ่งชั่วโมงเเทบจะไม่กินพลังงานใด ๆ เเต่เวน่อมกลับบริโภคพลังงานมากขนาดนี้ นี่คือความต่างของทั้งสองอย่าง “อืม,เเจ็คสัน เธอมีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับ เวน่อม?”หลังจากปรับข้อมูลวิจัยในมือเเล้วโทนี่จ้องมองไปที่เเจ็คสันเเละถามอย่างจริงจัง เนื่องเพราะเเจ็คสันได้เป็นผู้ทดลองเเละทดสอบด้วยตนเองความรู้สึกของเเจ็คสันที่ได้สัมผัสโดยตรงย่อมมีค่ามากในเชิงข้อมูล “ความคิดเห็น? ดูจากลักษณะของเวน่อมในตอนนี้ เราสามารถนำมันออกไปใช้ในการปฏิบัติจริงได้อย่างเเน่นอน มันถือเป็นอาวุธทางการทหารที่มีค่ามากอย่างนึง ความเเข็งเเกร่งของเวน่อมสามารถเปลี่ยนให้โฮสต์เป็นสุดยอดนักรบได้”เเจ็คสันกล่าวโดยตรง “เรื่องนี้ฉันเห็นด้วยกับเธอ เพราะเวน่อมสามารถครอบคลุมร่างกายราวกับเป็นชุดเกราะได้ดังนั้นตัวโฮสต์จึงได้รับการป้องกันจากมันกลับกันเมื่อเทียบกับชุดเกราะไอรอนแมนความยืดหยุ่นของการควบคุมบังคับผ่านชุดเวน่อมย่อมมีสูงกว่ามาก”โทนี่พยักหน้าเห็นด้วย “มีข้อดีเเต่ก็ยังมีข้อเสีย ถึงเเม้เราจะจัดสรรหาพลังงานให้กับเวน่อมน่อมได้ เเต่ถ้าพลังจิตของเราไม่น่าเกรงขามมากพอจะสื่อสารกับเวน่อมทุกอย่างก็ล้วนเเล้วเเต่ไร้ความหมาย ยิ่งถ้าเกิดพลังงานนั้นเข้าสู่สภาวะฉุกเฉินเเละเราไม่สามารถรับมือได้บางทีเวน่อมอาจจะหันกลับมาบริโภคพลังงานของโฮสต์อีกครั้งเพื่อความอยู่รอด”เเจ็คสันกล่าวข้อเสียใหญ่ ๆ ของเรื่องนี้ “ใช่,พลังจิตของคนทั่วไปไม่ได้น่าเกรงขามเท่ากับพวกเธอ เเม้พลังงานจิตของเวน่อมจะอ่อนเเอลงเเต่มันก็ยังสูงล้ำกว่าคนธรรมดาทั่วไปมาก ปัญหาเรื่องการสื่อสารถือเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว ดังนั้นฉันจึงวางเเผนว่าจะไปเยี่ยมเยือนศาสตราจารย์ชาร์ลส์เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้”โทนี่เสนอวิธีเเก้ปัญหา “ศาสตราจารย์ชาร์ลส์? คุณจะให้เขาช่วยเรื่องพลังจิตงั้นหรอ? ถือเป็นตัวเลือกที่ดี หากสามารถได้รับความช่วยเหลือจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ในการพัฒนาเครื่องส่งเสริมพลังจิตมันจะสามารถช่วยให้พวกเราทำงานร่วมกันกับเวน่อมได้อย่างง่ายดาย”เเจ็คสันกล่าวออกมา ในเรื่องของพลังจิตนั้นต้องไว้ใจศาสตราจารย์ชาร์ลส์ “อืม,หากเราสามารถพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถช่วยเพิ่มการพัฒนาพลังจิตของคนเราได้มันจะดีอย่างมากต่อสถานการณ์ในตอนนี้”โทนี่ยิ้มออกมา “เเล้วเรื่องเวน่อมเราจะสามารถไว้ใจมันได้จริง ๆ งั้นหรอ? หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาพวกเราจะเเก้ไขยังไง?” “จะเกิดอะไรขึ้นหากเวน่อมในตอนนี้เป็นเพียงฉากหน้าหรือผลลัพธ์ที่ผิดพลาดหลังจากวิวัฒนาการ หากภายหลังมันถูกพัฒนาขึ้นจนส่งผลกระทบต่อโฮสต์อีกพวกเราจะทำยังไง?”ในขณะที่เเจ็คสันเเละโทนี่กำลังพูดคุยกัน ปีเตอร์ได้เปิดปากเตือนในเรื่องนี้ เกี่ยวกับเวน่อม ปีเตอร์ก็ยังคงหวาดระเเวงอยู่ “อ่า…ใช่เเล้วเเม้พวกเราจะหวังใช้งานมันเเต่เรื่องความปลอดภัยก็ต้องมาก่อน”ได้ยินคำเตือนของปีเตอร์ เเจ็คสัน เห็นด้วย “ดังนั้นพวกเราถึงต้องทำเนินการทดลองอย่างต่อเนื่อง ฉันไม่ได้ด่วนสรุปเลยว่าเวน่อมที่วิวัฒนาการนี้จะไม่มีผลต่อตัวโฮสต์เลยในตอนนี้หรือในอนาคต ดังนั้นฉันจึงหาทางเเก้ไขเรื่องนี้เอาไว้เเล้ว เวน่อมที่วิวัฒนาการมีการต้านทานพลังงานไฟฟ้าเเละพลังงานความร้อน ถ้าเกิดเราใช้พลังงานความเย็นในการรับมือมันฉันคิดว่ามันน่าจะอ่อนเเอลง”โทนี่ พิจารณาคำพูดของเขา “อ่อนเเอลง?คุณหมายความว่ามันจะเเพ้อุณหภูมิติดลบที่เย็นจัด?เพียงเเต่มันยังวิวัฒนาการไม่สมบูรณ์ เเต่หากมีสิ่งใดที่สามารถรับประกันความปลอดภัยของพวกเราได้ย่อมเป็นเรื่องที่ดี”เเจ็คสันตอบกลับ “อืม,หากเกิดปัญหาขึ้นอย่างน้อยเราก็ยังสามารถใช้อุณหภูมิต่ำเพื่อจัดการมันได้”ปีเตอร์รู้สึกโล่งใจ “เช่นนั้นฉันจะเริ่มโปรการพัฒนาชุดเกราะเวน่อมขึ้น พวกเราควรจะเรียกมันว่าอะไรดี? ชุดเกราะเวน่อม ดีหรือไม่?”โทนี่ต้องการเร่งเเผนการพัฒนาชุดเกราะเวน่อมขึ้นโดยเร็ว “เรื่องชื่อเอาอะไรก็ได้…”ปีเตอร์ยิ้มอย่างเขินอาย เขาไม่ค่อยมีรสนิยมในด้านนี้เท่าไหร่ “ชุดกลายพันธุ์!”ขณะที่ปีเตอร์กำลังเขินอายอยู่ เเจ็คสันได้พูดขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่งคำพูดที่ออกมาจากปากเเจ็คสันทำให้ ปีเตอร์ เเละ โทนี่จ้องมองอย่างสงสัย “,ชุดกลายพันธุ์”
คอมเม้นต์