เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ตอนที่ 46: โพสต์ถูกลบ
หูเจียวเจียวถือโอกาสเริ่มพูดกับเจี่ยนอีหลิง “เจี่ยนอีหลิง ฉันพบว่าชิวหยีเจนได้เดินอ้อมไปเมื่อเห็นเธอตอนนี้ เธอช่างฉลาดที่ยังไม่ได้โพสต์วิดีโอต้นฉบับ ถ้าเธอทำอย่างนั้นหลังจากที่วิดีโอต้นฉบับถูกลงไปแล้ว ชิวหยีเจนอาจจะตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย แต่ฝ่ายนั้นต้องกลับมาสร้างปัญหาให้เธอเหมือนคนบ้าแน่ๆหลังจากนั้น”
นี่คือข้อสรุปที่หูเจียวเจียวได้มาหลังจากที่สังเกตอยู่หลายวัน
ชิวหยีเจนไม่ได้มาสร้างปัญหาให้กับเจี่ยนอีหลิงอีกต่อไป และชิวลี่เย่าก็ได้ใช้เงินในการลบวิดีโอที่เกี่ยวข้องในอินเตอร์เน็ต
เจี่ยนอีหลิงพยักหน้ารับเงียบๆ
หลังจากที่อยู่ด้วยกันตามลำพังสองสามวันนี้ หูเจียวเจียวไม่ได้กลัวเจี่ยนอีหลิงอีกต่อไปเหมือนเมื่อตอนเริ่มแรก ในเมื่อเธอเริ่มคุ้นเคยกับความเงียบของเจี่ยนอีหลิง
หูเจียวเจียวพูดกับเจี่ยนอีหลิงต่อว่า “ว่าแต่ว่าเธอได้ไปดูที่ฟอรัมของโรงเรียนเราบ้างหรือเปล่า โพสต์ที่เกี่ยวข้องกับเธอในช่วงสองวันก่อนหน้านี้ก็ถูกลบด้วย”
โพสต์ถูกลบอย่างงั้นเหรอ
เจี่ยนอีหลิงเปลี่ยนหน้าจอโทรศัพท์ไปยังหน้าฟอรัมของโรงเรียน และเป็นดังคาด โพสต์ที่เป็นที่ติดอันดับยอดนิยมหายไปแล้ว
“เธอให้คนลบมันเหรอ” หูเจียวเจียวถาม
เจี่ยนอีหลิงส่ายหน้า
เจี่ยนอีหลิงไม่เคยคิดที่จะลบมัน เพราะว่าเกือบทุกคนในโรงเรียนได้เห็นโพสต์นั้นแล้ว และการลบมันก็ไม่ได้เปลี่ยนทัศนคติของทุกคนได้
“แล้วเธอไม่สนใจว่าใครเป็นคนลบมันเหรอ” หูเจียวเจียวถามอีกครั้ง
เจี่ยนอีหลิงส่ายหน้าเธออีกครั้ง
หูเจียวเจียวใช้มือแตะปลายคางกล่าวว่า “จากพื้นฐานที่ฉันได้ประสบการณ์มาจากการดูโคนันยอดนักสืบ ฉันคิดว่าเรื่องนี้ไม่ ง่าย นัก บางที….อาจจะเป็นคนที่หลงรักเธอที่ทำเช่นนี้”
ในเวลานี้ก็มีสมาชิกของคณะกรรมการนักเรียน หลิวเหวิน เข้ามาหา
หลิวเหวินสวมแว่นตาเลนส์หนามาก ทำให้เธอดูเคร่งเครียดอย่างมาก เธอเป็นนักเรียนหญิงห้องแปดเช่นเดียวกัน
หลิวเหวินเคาะโต๊ะของเจี่ยนอีหลิงและเตือนว่า “วันอังคารหน้าจะเป็นการทดสอบประจำเดือนที่สองของภาคการศึกษานี้ พวกเธอทั้งสองคนต้องพยายามสอบให้ผ่าน อย่าฉุดห้องเราลงอีกต่อไป”
คนส่วนใหญ่ในโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัวจะแบ่งออกเป็นสองประเภท ผลการเรียนดี กับ ผลการเรียนแย่แต่ครอบครัวหนุนหลังดี
หูเจียวเจียวและเจี่ยนอีหลิงต่างถูกจัดอยู่ในประเภทหลัง
พวกเธอเป็นหางกระเรียนในห้องแปดของชั้นมัธยมปลาย
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกเธอทั้งคู่ถูกจัดให้อยู่โต๊ะเดียวกัน
หลิวเหวินพูดกับหูเจียวเจียวอีกครั้งเป็นส่วนตัวว่า “หูเจียวเจียว ถ้าเธอตกการทดสอบอีกครั้ง เธอจะต้องเป็นคนเก็บค่าเช่าไปตลอดชีวิตในอนาคตแน่ๆ”
ครอบครัวของหูเจียวเจียวมีอาคารทั้งหลังอยู่ในใจกลางเมืองเหิงเหย่วน และที่นั่นมีร้านและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพียงแค่เก็บเงินค่าเช่าอย่างเดียวในแต่ละปีก็จะมีรายได้ที่คนอื่นอาจจะไม่สามารถเก็บออมได้ในชั่วชีวิต
เพราะว่าผลการเรียนของเธอไม่ดี หูเจียวเจียวจึงใกล้ที่จะต้องกลับบ้านและเลี้ยงชีพด้วยการเก็บค่าเช่า
เมื่อได้ยินอย่างนั้นหูเจียวเจียวจึงนอนฟุบลงไปบนโต๊ะอย่างขุ่นมัวและคร่ำครวญว่า “ฉันขอร้องอย่าพูดถึง ยิ่งเธอพูดถึงฉันก็ยิ่งเครียด”
หลิวเหวินกล่าวว่า “ตั้งเป้าหมายเล็กๆสำหรับตัวเธอก่อนเป็นอันดับแรกว่าอย่าสอบตก”
หูเจียวเจียวคร่ำครวญอีกครั้ง “พี่เหวิน เป้าหมายเล็กๆที่เธอพูดถึงนั้นเป็นสิ่งที่ฉันพยายามไขว่คว้ามาตลอดชีวิต เข้าใจไหม เธอขอให้ฉันตั้งเป้าหมายเล็กๆไว้ที่การหาเงินสักหนึ่งร้อยล้านหยวนจะดีกว่า”
“ให้เธอยืมสมุดโน๊ตก็ได้นะ ต้องการไหม”
หลิวเหวินพยายามช่วยเต็มที่
หูเจียวเจียวพนมมือและขอบคุณอีกฝ่ายอย่างจริงใจ “เอา เอา เอา พี่เหวินยอดเยี่ยมที่สุด ฉันรักพี่เหวิน”
หูเจียวเจียวซึ่งได้รับสมุดบันทึกของหลิวเหวินรีบไปที่ห้องถ่ายเอกสาร
ในฐานะเป็นโรงเรียนมัธยมเอกชน โรงเรียนมัธยมเชิ่งหัวมีอุปกรณ์การเรียนการสอนครบครัน มีเครื่องพิมพ์อยู่ในอาคารสำหรับนักเรียนใช้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
หูเจียวเจียวถ่ายเอกสารสมุดบันทึกไว้สองชุด ชุดหนึ่งของตัวเธอเอง และอีกชุดสำหรับเจี่ยนอีหลิง
เจี่ยนอีหลิงมองดูกระดาษเอกสารบันทึกในมือเธอ จากนั้นก็มองไปที่หูเจียวเจียว
หูเจียวเจียวแสดงท่าทางให้กำลังใจแก่เจี่ยนอีหลิงแล้วกล่าวว่า “เจี่ยนอีหลิง พวกเราทั้งคู่จะผ่านการทดสอบในครั้งนี้ ความฝันต้องกลายเป็นจริง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอเห็นด้วยไหม”
“เห็นด้วย” เจี่ยนอีหลิงตอบตกลง
คอมเม้นต์