Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1946 vs 1947
ตอนที่ 1946เฟิงอวิ๋น 4 “วันหลังถ้าอยากเจอกัน ก็ไม่ต้องทำแบบนี้หรอก” หลินเฟิงถือถ้วยชาในมือเล่น เมื่ออยู่ต่อหน้าอวิ๋นหู่ เขาไม่เคยแก้นิสัยตัวเองได้สักทีแม้เวลาอยู่ในสนามธุรกิจ เขาจะไม่พูดอะไรออกมาตรงๆ ก็จริง เพราะคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ พูดเยอะก็ยิ่งสร้างความผิดพลาดแยะทว่าหลินเฟิงกลับคิดว่านี่คืออวิ๋นหู่ ไม่ใช่คนอื่น จึงตัดสินใจพูดตรงๆอวิ๋นหู่ยิ้ม ตอบเพียงว่า “ได้”ครั้งนี้ทั้งสองกลับด้วยกันอวิ๋นหู่ไม่ได้ขับรถมา นี่มาจากความจงใจสักแปดสิบเปอร์เซ็นต์ได้คนที่อยู่รอบข้างต่างมองออกเมื่อไปอวิ๋นหู๋กลับ ซ่งเจียเหอยังคงยิ้มอยู่ มองอวิ๋นหู่ด้วยแววตารู้เท่าทันอวิ๋นหู่ทำแค่เหลือบมองเขา แต่ซ่งเจียเหอสำรวมขึ้นมากทันทีอีกอย่างการกระทำของหลินเฟิงยิ่งอธิบายได้ว่า จะยังไงเขาก็เป็นหลินเฟิงคนเดิมอยู่ดี แม้บ้านตระกูลหลินจะล้ม แต่ศักดิ์ศรียังคงอยู่หลินเฟิงเข้าไปตบบ่าเจียเหอ ทั้งยังจงใจโยนบุหรี่ให้ พูดเพียงว่า “ว่างๆ ก็ค่อยคุยกัน”เขายังทระนงตัวเหมือนเดิม ใบหน้านั่นยังสวยเช่นเคย แต่หากดูดีๆ จะยิ่งเห็นเหลี่ยมมุมคมสันซ่งเจียเหอพอจะรู้ว่าทำไมเพื่อนผู้ทรงอิทธิพลของเขาถึงได้อาลัยอาวรณ์บ้านหลินนัก แนะนำคนให้ตั้งเยอะ แต่อวิ๋นหู่กลับไล่ตะเพิดทว่าเวลาอยู่ต่อหน้าหลินเฟิง อวิ๋นหู่ไม่เคยพูดรุนแรงใส่เลย คงเพราะแม้จะผ่านอะไรมามาก แต่หลินเฟิงกลับยังคงไว้ซึ่งความเป็นหนุ่มน้อยคนเดิมแน่ล่ะ ใช่ว่าจะไม่มีพวกหน้าตาสวยใส แต่มันไม่เหมือนกันสิ่งที่อยู่ในตัวหลินเฟิงต่างไปจากคนอื่น คนในวงการพวกเขา หากตระกูลล้มย่อมถูกลบเหลี่ยมคมไปหมด จนกลายเป็นคนหมดความมั่นใจแม้หลินเฟิงจะไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่น่าแปลกมาก หลังจากเขายอมรับทุกอย่างแต่โดยดีแล้วก็ยังเป็นแบบนี้ได้ซ่งเจียเหอเป็นคนกว้างขวาง รู้ดีว่าคนอื่นปฏิบัติต่อหลินเฟิงอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นทำลายคนได้ไม่น้อย เมื่อก่อนเขาคิดว่าอวิ๋นหู่ชอบหน้าตาอีกฝ่าย เพราะรูปร่างหน้าตาสวยแบบนั้น ในวงการนั้นมีน้อยมากแต่ก็ต้องดูใครเป็นคนอยากได้ด้วย เพราะขึ้นชื่อว่าคุณชายอวิ๋น ย่อมมีคนเรียงคิวเข้าหาโดยไม่ต้องเอ่ยปาก เวลานี้ซ่งเจียเหอเข้าใจแล้วว่าไม่เกี่ยวกับหน้าตา คงเพราะชอบมานานมาก หรืออาจจะเป็นอย่างที่เขาว่ากันว่า ‘คนหน้าตาดีเลิศมีมากมาย แต่จิตวิญญาณที่น่าตรึงใจกลับมีเพียงหนึ่งในหมื่น’คุณชายอวิ๋นชอบหลินเฟิงที่ตรงไหน คงมีแต่เจ้าตัวที่รู้ซ่งเจียเหอรู้ดีว่า ในสายตาของคนอื่นเขาคือพวกจัดหาผู้หญิงและผู้ชายให้คนที่ต้องการจะว่าไป นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจัดหาคนให้อย่างบริสุทธิ์ใจแค่อยากเจอหน้ากัน?ซ่งเจียเหอมองดูเสี้ยวหน้าของทั้งสอง ก่อนจะคาบบุหรี่เสียชื่อเสียงเขาหมด ก็คนอย่างเขาเคยทำการค้าที่บริสุทธ์ใจตั้งแต่เมื่อไรหลายคนอาจไม่เข้าใจ ด้วยเห็นการแลกเปลี่ยนเนื้อตัวเพื่อผลประโยชน์มามากมาย แต่เมื่อเห็นสองคนนี้ จะรู้ว่านี่แหละคือความรัก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ลงเอยกันก็ตามอันที่จริงอ ย่าเห็นว่าหลินเฟิงรับเพื่อนกลับอย่างสบายอารมณ์ รอจนอวิ๋นหู่เข้าไปนั่งข้างตัว เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดอะไรด้วยด้วยระยะห่างอยู่ใกล้กันเหลือเกิน ใกล้มากจนได้กลิ่นชาจากตัวอีกฝ่าย แถมเมื่อนั่งด้วยกันในรถ ก็รู้สึกว่าเงียบพิกล บวกกับก่อนหน้านี้เขาเป็นฝ่ายหาเรื่องมาคุยด้วยเสมอ “จิ้งจอกเฟิงให้พวกเราไปรวมตัวกันที่คลับ นายได้ข้อความแล้วใช่ไหม?”อวิ๋นหู่มองเพื่อนแวบหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยอย่างเป็นปกติ “ฉันเป็นคนบอกเรื่องนี้กับนายเอง”หลินเฟิง…เขาอยากศึกษาดูว่าเวลาคนอื่นกระอักกระอ่วนน่ะ ต้องทำอย่างไรกัน ทำไมเขารู้สึกว่าแสดงออกยากจัง!………………………………………….ตอนที่ 1947มั่วจิ่ว “ช่วงนี้งานค่อนข้างยุ่ง สมองเลยมึนๆ ไปหมด” หลินเฟิงไอเบาๆ แล้วกดปุ่มเปิดกระจกหน้าต่าง “ปล่อยให้ลมพัดเข้ามาเถอะ ในรถมันอึดอัด”อวิ๋นหู่ไม่อยากเปิดโปงแผนหลินเฟิง เขารู้นิสัยขี้โมโหของเพื่อนดี จึงได้แต่ทอดสายตามองยังนอกหน้าต่างทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ หลินเฟิงก็ยังรู้สึกว่าบรรยากาศยังไม่ดีขึ้น เพราะไม่อาจคุยต่อทั้งที่หน้าแตกอย่างนี้ได้และในระหว่างที่คิดว่าจะทำอะไรต่อดี ข้อความทางมือถือก็ช่วยชีวิตเขาไว้ก่อนหน้านี้เขาไม่ชอบข้อความทำนองนี้นัก ใครล่ะจะชอบถูกโชว์หวานป้อนอาหารหมา แต่เจ้าแบล็กอุตส่าห์นับถือเขาเป็นพี่น้อง แถมยังแอบถามบ่อยๆ ว่าหัวหน้าชอบอะไร พอถามจบก็ยิ้มถามเขาอีก ยิ้มนั่นช่างดูไม่เหมือนยิ้มจริงๆ “เมื่อไรจะคบแฟนอะ?”หลินเฟิงรู้สึกว่าสิ่งที่เจ้าหล่อนถามก่อนหน้านี้คือการปูพรม จากนั้นก็กระแทกใจหมาโสดเช่นเขาอย่างแรงแต่ข้อความในวันนี้มาในรูปแบบใหม่ “ได้ยินว่านายอยู่กับเทพอวิ๋น? ฉันมีตั๋วหนังสี่ใบ ในฐานะที่เป็นตัวประกอบคนสำคัญ ขอเชิญนายกับเทพอวิ๋นมาช่วยเพิ่มรายได้ให้หนังอย่างจริงใจหน่อย”เพิ่มยอด?อุตส่าห์มีนางฟ้าของเขาช่วยเพิ่มกระแสแล้ว ยอดจะแย่ได้อย่างไร?ยิ่งไปว่านั้น ใครบ้างจะไม่รู้ว่าหนังเรื่องนี้ดังระเบิดระเบ้อขนาดไหน เจ้าแบล็กไม่ได้ชวนเขาเพราะต้องการเพิ่มยอดแน่ เขาจะติดกับเจ้านั่นไม่ได้!แต่…“เอ้อ ลืมบอกไปว่าฉันมีเสื้อทีมที่นางฟ้าของนายเซ็นชื่อให้ด้วย พอมาแล้วฉันจะให้นายนะ”จาก…เจ้าแบล็กคนชอบอวดผัวชื่อนั่นหลินเฟิงเป็นคนตั้งให้ป๋อจิ่วเอง พอได้เห็นข้อความเธอ เขาก็ยิ่งว้าวุ่นใจ พยายามเทียบกันระหว่างไปที่บ้านตระกูลอวิ๋นหรือไปดูหนังดี เพราะหากไปบ้านตระกูลอวิ๋นแล้วได้เจอแม่บุญธรรมเขา รับรองว่าไม่ได้แค่เข้าไปนั่งแน่ เรื่องดื่มชาอะไรเนี่ย เขาไม่กลัวหรอก แต่ตามวิถีปกติแล้ว จะต้องให้เขานอนค้างชัวร์หากเทียบกันแล้ว การไปโรงหนังน่าจะไม่ทำให้อึดอัดเมื่อคิดได้เช่นนี้ หลินเฟิงก็เอ่ยปาก “นายว่างใช่ไหม? เจ้าแบล็กนัดพวกเราไปดูหนัง ไปป่ะ?”อวิ๋นหู่กดปิดหน้าจอมือถือ เอ่ยตอบตามปกติ “อื้อ”หลินเฟิงที่บื้อแบ๊วมองออกว่าเป็นแผนนัดเขาออกไป แต่คิดไม่ถึงว่าหลุมพรางของจริงอยู่ตรงนี้ต่างหากป๋อจิ่วที่ได้รับข้อความแล้วหัวเราะเบาๆ เรียวปากแย้มยิ้ม ตอบกลับอวิ๋นหู่เพียงว่า “ไม่ต้องเกรงใจ เจอกันที่โรงหนังนะ”จะว่าไปเธอกับท่านเทพไม่เคยดูหนังด้วยกันสักที ครั้งนี้ได้โอกาสแล้ว ป๋อจิ่วเก็บข้าวของอย่างรวดเร็ว ด้วยเพราะฝึกฝนมาดี หลังจากที่สวมเสื้อกันลม ก็สวมผ้าปิดปากสีดำให้ตัวเอง ก่อนจะสวมให้ท่านเทพด้วยฉินมั่วเลิกคิ้ว วางหนังสือในมือลง “ทำอะไร?”“อุตส่าห์ตั้งใจอ่านหนังสือมาตั้งนาน ฉันกะจะให้รางวัลตัวเอง” ในระหว่างที่หัวเราะ ใฝเสน่ห์ใต้ตายิ่งเด่นชัด “ไปดูหนังกัน”ฉินมั่วช้อนสายตามอง ดูสูงส่งไฮโซ เสียงที่เอ่ยขึ้นออกจะทุ้มต่ำเพราะพูดผ่านแมสก์ “เด็กหญิงป๋อเสียวจิ่ว ขอเตือนนะว่าอีกไม่กี่วันก็จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วใช่ไหม? หรือไม่อยากจะแต่งงานกับฉันแล้ว คิดจะทิ้งกันหรือไง?”คนที่เรียกร้องให้ฝ่ายหญิงมาขอตัวเองแต่งงานได้โดยไม่หน้าแดงแบบนี้ คงมีท่านเทพเพียงคนเดียวป๋อจิ่วทำหน้าจริงจัง “ฉันคิดว่าเราควรจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้สนิทขึ้น พวกแฟนคลับบอกว่าช่วงนี้อาหารหมาน้อยไป”“จะพัฒนาความสัมพันธ์เหรอ?” ฉินมั่วหัวเราะ ละมือข้างหนึ่งมาตบแก้มเธอเบาๆ ใบหน้ามีแมสก์กั้นเอาไว้ เผยให้เห็นเพียงแววตาที่ลุ่มลึก “รอเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัย A ได้ แล้วมีอายุเท่าฉันตอนนี้ รับรองว่าฉันจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอบนเตียงทุกวันเลย”………………………………….
คอมเม้นต์