Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1869 vs 1870-1 vs 1870-2
ตอนที่ 1869ถึงคุณพ่อบ้านจะยังหนุ่ม แต่ปฏิบัติงานได้อย่างยอดเยี่ยม อาหารถูกนำมาวางไว้บนถาด เป็นอาหารเช้าสไตล์อเมริกันพรั่งพร้อมด้วยไข่ดาว นม ขนมปัง และมีจานเล็กๆ ใส่เนยไว้ฉินมั่วนั่งข้างโต๊ะ ตอนที่หยิบเอาแก้วนมมา ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เผลอนึกถึงยัยเสือน้อยที่ประคองแก้วนมมาให้เมื่อวานนี้คุณพ่อบ้านไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายตัวน้อยถึงได้หยุดชะงัก จึงเอียงศีรษะเรียก “คุณชาย”ฉินมั่วเงยหน้าขึ้น ถามอย่างไม่ใส่ใจสักเท่าไรว่า “เขาล่ะ?”เขา? ใครเหรอ? คุณพ่อบ้านหนุ่มงุนงง คงเพราะแนวความคิดของคนต่างชาติและคนจีนไม่เหมือนกัน หากว่ากันตามนิสัยของฉินมั่วแล้ว สิ่งได้ที่เคยถามย่อมไม่ถามซ้ำ แถมเจ้าตัวไม่ได้อยากรู้ให้ได้ว่ายัยเสือน้อยไปที่ไหน แค่รู้สึกว่าอีกฝ่ายอายุยังน้อยเท่านั้นคุณท่านอานเดินเข้ามาพอดี มีเพื่อนอเมริกันเดินตามหลังมาด้วย เพื่อนคนนี้เป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยที่มีหนวดยาวเฟิ้ม เมื่อเห็นฉินมั่วเขาชอบใจมาก บอกว่าจะแนะนำหลานสาวให้รู้จัก คุณท่านอานยิ้มอยู่ด้านข้าง เพิ่งมาถึงที่นี่ ท่านย่อมต้องแนะนำหลานให้กับคนในแวดวง ดังนั้นบ้านแห่งนี้จึงไม่เคยสงบเอาเสียเลย แถมก่อนหน้านี้คุณท่านอานก็ส่งบัตรเชิญไว้แล้ว หลายๆ คนจึงสงสัยอยากรู้ว่าหลานของนักธุรกิจชาวจีนท่านนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไรแน่นอน คนที่ได้บัตรเชิญย่อมมีสถานะไม่ธรรมดา แขกมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย ฉินมั่วเปลี่ยนไปสวมสูทเนี้ยบ นัยน์ตาและเส้นผมสีดำทำให้เขาดูลึกลับกว่าเด็กในวัยเดียวกัน แถมด้วยบุคลิกของเจ้าตัวที่ทำให้คนได้เห็นเด็กน้อยแสนสง่าคนนี้แล้วรู้สึกชอบใจทันที“ฉินมั่วใช่หรือเปล่า? ฉันได้ยินคุณปู่ของฉันพูดถึงชื่อเธอ” ประโยคนี้มาจากหนูน้อยผมทองสวมกระโปรงฟูฟ่อง เจ้าหล่อนมีดวงตาสีฟ้า มองอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ “เธอมาจากญี่ปุ่นใช่ไหม?”ฉินมั่วหันไปมอง อายุน้อยก็รู้จักรักษาระยะห่างแล้ว “เปล่า ฉันเป็นคนจีน”“น่าเสียดายที่ฉันเดาผิด” หนูน้อยผมทองหดหู่ ก่อนจะยิ้มขึ้น “ฉันชื่อแองเจลิน่า ตรงนั้นเป็นเพื่อนฉันเอง จะไปทักทายเขากับฉันไหม? ทุกคนจะได้เล่นด้วยกันไง แล้วจะได้กินเครปเค้กด้วยกันด้วย”ฉินมั่วเย็นชาเป็นปกติวิสัย แต่รู้ว่าคุณตาจัดงานเลี้ยงนี้เพื่อตัวเองจึงไม่ปฏิเสธ ทว่าพูดน้อยตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้หนูน้อยชาวต่างชาติมองเขาด้วยความรู้สึกว่าเขาเหมือนเจ้าชายน้อยมากขึ้นทุกที ปกติเด็กๆ มักจะคบหากันไปเรื่อย หลายคนวิ่งไปวิ่งมา อย่างไรก็เป็นพวกเด็กน้อย เวลาอยู่ด้วยกันเยอะๆ ย่อมต้องครึกครื้นกันอยู่แล้วหากเทียบกันแล้ว เด็กผู้หญิงหลายคนชอบฉินมั่วที่ดูสง่างามมากกว่า ด้วยความที่เติบโตมาจากเขตทหาร ทำให้ท่ายืนของฉินมั่วต่างจากเด็กคนอื่น ทั้งนี้มีคนถามว่าเขาเคยได้รับการอบรมแบบตระกูลผู้ดีอังกฤษหรือเปล่า คุณท่านอานยิ้ม ตอบเพียงว่าเปล่า ไม่เอ่ยอะไรมากไปกว่านั้นพวกผู้ใหญ่ต่างถือแก้วไวน์ กระทั่งลมยังพัดโชยกลิ่นหอมของอาหารมา รวมทั้งมีเนื้อไก่และพิซซ่าจัดวางอยู่บนโต๊ะล้วนแต่หอมกรุ่น แถมยังมีขนมหวานอีกเพียบ พร้อมพรั่งทุกรูปแบบ ที่นี่ประหนึ่งเป็นสวรรค์ของเด็กน้อย ฉินมั่วยืนอยู่ที่นั่น เมื่อมาถึงช่วงพักกลางงาน เขาที่เบื่อมานานแล้วจึงหาที่นั่งพัก เมื่อเงยหน้ามองดูข้างบ้านถึงเห็นว่าแสงไฟส่องสว่าง แสดงว่าที่นั่นมีคนอยู่…………………………………………………………. ตอนที่ 1870-1ในเมื่อมีคนอยู่แล้วทำไมถึงไม่มา หรือวันนี้เธอไม่ต้องขอข้าวกิน หรือไม่ได้กลิ่นอาหารที่ลอยออกไป นิสัยมุ่งมั่นอย่างยัยเสือน้อย น่าจะไม่ยอมทิ้งโอกาสมาขอข้าวกินถึงจะถูกเมื่อรู้ตัวว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ฉินมั่วถึงกับขมวดคิ้ว คงเพราะเบื่อจริงๆ เขาถึงได้นึกถึงยัยเสือน้อยที่ชอบกอดคนอื่น เขาเบือนหน้าออกไป เห็นเด็กในวัยเดียวกันที่กำลังกินขนมหวานอยู่ฉินมั่วไม่ชอบคบหาใคร เวลาที่เด็กคนอื่น เล่นซนไปทั่ว เขากลับชอบต่อเลโก้ไม้กับค้นหาสมบัติห้องใต้ดินตอนอายุสามขวบ เขาเคยไม่พูดทั้งวัน จนคนที่บ้านกังวลใจว่าจะเป็นโรคสันโดษ คงเพราะเด็กที่ฉลาดและอ่อนไหวง่ายจะยิ่งประสบภาวะแบบนี้ เริ่มจากเบื่อ ตามมาด้วยไม่เกิดความรู้สึกอะไรเลย สาเหตุมาจากสภาพแวดล้อมและตัวเด็กเองฉินมั่วเป็นเด็กนิสัยนิ่งเงียบ มีวุฒิภาวะโตกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เขาจึงเก็บตัวมาก คุณท่านอานเองก็สังเกตถึงข้อนี้ จึงเสนอให้เปลี่ยนสภาพแวดล้อม เด็กต่างชาติล้วนแต่โตกว่าวัย ไม่แน่ว่าหลานท่านอาจหาเพื่อนได้ ทว่าเมื่อคุณท่านอานหันมามองหลานชายที่ดูสง่า พรั่งพร้อมด้วยมารยาทตั้งแต่หัวจรดเท้า ชนิดที่เด็กวัยเดียวกันยังทำไม่ได้ จึงรู้ดีว่าแผนที่วางไว้ได้ผลไม่ดีสักเท่าไรตามปกติแล้วงานเลี้ยงที่มีเด็กน้อยอยู่ด้วยจะไม่ยืดยาวจนถึงช่วงดึก ฉินมั่วส่งแขกพร้อมคุณตา เห็นแสงไฟของบ้านตรงข้ามสว่าง ก็เอ่ยเสียงใสตามวัย “คุณตาครับ ทำไมคุณอาป๋อถึงไม่มาด้วยล่ะครับ?” ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน เมื่อจัดงานเลี้ยงแบบนี้ ฝ่ายตรงข้ามต้องมาร่วมงานสิถึงจะถูกคุณท่านอานไม่คิดว่าหลานชายจะถามปัญหานี้ขึ้นมา จึงหันมายิ้มบอก “คุณอาป๋อคงยังไม่กลับมา”“ยังไม่กลับมาเหรอฮะ?” ฉินมั่วขมวดคิ้วเล็กน้อยคุณท่านอานส่งเสียงตอบรับ “บ้านนั้นน่าจะมีป๋อจิ่วอยู่คนเดียว แต่เดี๋ยวตอนค่ำแม่เขาก็กลับมาแล้ว พรุ่งนี้คุณอาป๋อคงจะเอาของขวัญมาฝาก เขาในเวลากลางวันกับกลางคืนจะไม่เหมือนกัน”ฉินมั่วฟังอย่างไม่ใส่ใจสักเท่าไร หันไปมองฝั่งนั้นอีกครั้ง ยัยเสือน้อยอายุเท่าไรเองก็ถูกปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียวแล้ว แต่เขาจะถามเรื่องแบบนี้ออกไปไม่ได้ เพราะรำคาญว่าหากเขาถาม คุณตาจะต้องส่งคนไปรับยัยเสือน้อยมาแน่หรืออาจคิดไปอีกอย่างฉินมั่วคิดมาถึงตรงนี้ก็เดินกลับเข้าบ้านไปพร้อมกับคุณตา อุณหภูมิภายในห้องต่างจากด้านนอกมาก แขกที่เหลือยังไม่ได้ไปไหน คุณท่านอานต้องการแสดงน้ำใจของเจ้าของบ้าน จึงสั่งให้ห้องครัวจัดอาหารมื้อดึกแบบจีนซาลาเปาไส้ถั่วดำเป็นเข่งๆ แถมด้วยโจ๊กไข่เยี่ยวม้า รวมถึงบัวลอยงาดำที่เอามาจากจีนได้ถูกต้มให้หนูน้อยทั้งหลายกินอย่างอิ่มหนำพอแองเจลิน่าเห็นของเหล่านี้ ดวงตาสีฟ้าของเจ้าหล่อนเหมือนถูกจุดไฟสว่าง ดูน่ารักน่าชัง ส่วนเด็กคนอื่นต่างกรูกันเข้ามา ……………………………………….ตอนที่ 1870-2คุณพ่อบ้านหนุ่มเอาบัวลอยมาส่งถึงมือของฉินมั่ว มองดูเจ้าชายน้อยที่งามสง่าเหนือมนุษย์รับถ้วยไปพลางเอ่ยต่อเขาว่า “เอาซาลาเปาไส้ถั่วสองลูก แล้วเอาโจ๊กใส่ถ้วยเก็บอุณหภูมิไปส่งให้ข้างบ้านด้วย”ข้างบ้าน? คุณพ่อบ้านหนุ่มผมทองถึงกับอึ้ง ก่อนจะลงมือทำตามทันที ฉินมั่วถึงค่อยเริ่มหลุบตาลง เคี้ยวบัวลอยทีละคำๆ เขาค่อยๆ ละเลียดอาหาร ทำให้พวกเด็กที่อยู่ด้านข้างต่างจ้องมอง แต่ฉินมั่วกลับไม่สนใจและไม่ได้อธิบายการกระทำของตนต่อคุณพ่อบ้านด้วย คงเพราะที่นี่มีเด็กชาติเดียวกับตัวเองจึงอยากดูแลเธอ เรื่องแบบนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นนักหรอกเวลาอยู่ในประเทศจีน เพราะที่นั่นไม่มีเด็กเล็กคนขนาดนี้อยู่บ้านเพียงคนเดียว นอกจากเขา…ไม่ผิดหรอก ยัยเสือน้อยมีสภาพเหมือนเขาที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว ถึงจะเป็นตอนค่ำก็เหมือนกัน ตอนที่ฉินมั่วกินบัวลอยคำแรก เขาได้สะกดความรู้สึกหลายอย่างที่พรั่งพรูทางแววตาคุณตายังคงดูแลแขกที่มาร่วมงาน คงไม่ได้สังเกตเห็นทางนี้ ดีแล้ว เพราะหากคุณตารู้ว่าเขาสั่งให้คนเอาของกินไปให้ยัยเสือน้อยข้างบ้าน มีหวังต้องลากยัยเสือน้อยมามัดตัวเขาแน่ และจะกลายเป็นความยุ่งยากอันใหญ่โต ซึ่งเขาไม่ชอบเอาเสียเลยข้างนอกยังคงมีหิมะยังคงตกอยู่ อาหารมื้อดึกแบบจีนทำให้เด็กๆ มีชีวิตชีวาช่วงท้ายของงานเลี้ยง เหล่าเด็กน้อยต่างชื่นชมความอร่อยของอาหารจีน แต่ข้างบ้านกลับเงียบสงบเหลือเกิน อันที่จริงป๋อจิ่วอยู่บ้านนี่เอง เธอกำลังกอดคีย์บอร์ดอันเล็ก ก้มหน้าก้มตากินยา ก่อนจะไอออกมาเป็นพักๆ ไม่ได้รุนแรงอะไรหนักหนา เจ้าหล่อนยังคงสวมชุดนอนเสือน้อย หน้าแดงแบบคนไม่สบาย พอได้ยินเสียงรถข้างนอกก็วิ่งเตาะแตะมายังข้างหน้าต่าง ก่อนจะส่ายหางเล็กน้อยแล้วกลับไปนอนที่โซฟาโทรศัพท์บนโต๊ะส่งเสียงดัง ป๋อจิ่วไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นสายของใคร เธอรับโทรศัพท์ พยักหน้าสองที ก่อนจะเน้นส่งท้าย “แม่คะ หนูกินยาเรียบร้อยแล้ว” ฝั่งทางโน้นได้ยินแล้วหัวเราะเบาๆ อยากจะบินกลับมาให้เร็วที่สุด แต่ยังมีงานที่ต้องจัดการ ป๋อจิ่วเสนอให้วางสายก่อนเมื่อวางสาย เด็กน้อยก็กอดคีย์บอร์ดอันเล็กของตนเอง นั่งเคาะแคะอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกัดกินขนมปังทางบ้านตระกูลป๋อ อาหารที่ปรุงเสร็จแล้วตั้งบนอยู่โต๊ะอาหาร โดยมีแม่บ้านที่จ้างมาดูแลเป็นระยะยาว ทว่าพวกเขาชอบทำกับข้าวกินเองมากกว่า แม้ของกินจะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ตาม แต่วันนี้พิเศษกว่าหน่อยตรงที่คุณป๋อไม่ได้กลับมา มาดามฟู่ก็ยุ่งมาก จึงต้องให้แม่บ้านเป็นผู้เตรียมอาหารให้ ทั้งนี้ป๋อจิ่วไม่ชอบให้แม่บ้านดูแลตัวเอง ยิ่งที่บ้านมีความลับของพ่อเยอะแยะมากมาย ดังนั้นเธอจึงให้แม่บ้านกลับตั้งแต่บ่ายเด็กหญิงเดินเล่นในห้องส่วนตัว แกะคีย์บอร์ดบ้าง ปกติเธอก็เล่นอย่างนี้ ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่ไม่รู้ว่าทำไม สงสัยวันนี้ข้างนอกจะครึกครื้นกันมาก เพราะเป็นหวัดเธอจึงออกไปไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงได้แต่อิจฉาพวกที่ไปบ้านเจ้าหญิงน้อยเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ป๋อจิ่ววิ่งไปดูที่หน้าต่างอีกครั้ง ก่อนจะไอเล็กน้อยเจ้าหล่อนเบะปาก หูตกเลยทีเดียว ……………………………………………..
คอมเม้นต์