Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1838 vs 1839 vs 1840
ตอนที่ 1838 ฉินมั่วพูดว่า “เมื่อกี้ที่เธอนอกใจฉัน จะอธิบายยังไง?”ป๋อจิ่วสะอึก ก่อนจะตอบ “พี่มั่วให้นิยามของคำว่า ‘นอกใจ’ ตื้นไปหน่อยหรือเปล่า”“ห้ามเถียง” ฉินมั่วกระชากอีกฝ่ายอย่างเจ้าอำนาจระคนเด็กน้อยนั่นไง หึงอีกแล้ว ป๋อจิ่วกลั้นขำไม่ไหว อยากหัวเราะออกมา แต่พอฉินมั่วเห็นเข้าก็กำมืออีกฝ่ายแน่น สื่อให้รู้ว่าสำรวมหน่อย ทว่ากิริยาต่อกันที่เล็กน้อยเช่นนี้ กลับไม่รอดสายตาของเหล่าแฟนคลับ ยังไม่ทันได้มโนแต่อย่างใด ฝ่ายคณะกรรมการระดับเอเชียต่างก็เดินเข้ามาแล้วว่ากันตามธรรมเนียมสากล ทีมที่ชนะจะได้ยืนบนแท่นสูงสุด ทว่าอันที่จริงมันไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่ธงชาติจีนซึ่งเจิดจ้าเหมือนเปลวไฟโบกสะบัดกลางอากาศมากกว่า คนทั้งสิบเอ็ดต่างยืนเรียงเป็นแถว พวกเขาในเวลานี้เหมือนเด็กน้อยที่เติบโตจากพื้นที่นี้ ต่างร้องเพลงเดียวกันหัวใจของผู้ชายทุกคนต่างมีความฝัน บ้างก็อยากเป็นทหารปกป้องดินแดนประเทศ บ้างก็อยากยืนอยู่บนเวทีนานาชาติ ให้คนทั้งโลกต่างเห็นธงที่ลอยขึ้นไปท่ามกลางสายตาพวกเขา เพราะทำเช่นนี้แล้วจะได้รับความเคารพมากยิ่งขึ้น นั่นเป็นความปรารถนาเดิมของพวกเขา ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยในหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามแต่สิ่งมหัศจรรย์อยู่ตรงที่ เมื่อเราเห็นธงชาติผงาดขึ้นฟ้า หัวใจของเราจะเปรมดิ์ปรีและอ่อนโยน ไม่ว่าเราต้องเจอกับอะไร จะต้องรู้สึกถึงเกียรติยศในเวลานั้น แม้ว่าอาชีพนี้จะไม่ได้รับความเข้าใจจากผู้คน แต่นั่นไม่สำคัญแต่อย่างใด เหมือนอย่างที่พูดในตอนแนะนำตัว พวกเขาเคยตกอยู่ในหลุมแห่งความมืดมิด เวลานี้พวกเขากลับมากลายเป็นแชมป์แล้ว32 สื่อหลัก 64 แพลตฟอร์มถ่ายทอดสด รวมถึงนิตยสารต่างประเทศ ต่างโชว์ภาพของคนทั้งสิบเอ็ดแน่ล่ะ รูปของป๋อจิ่วและฉินมั่วจะใหญ่ที่สุด แต่ทุกคนต่างไม่รู้ว่า กลุ่มคนที่รับรางวัลแล้วไม่ได้รีบเปิดเวยป๋อ นิตยสารหรือสื่ออื่นๆ อ่าน เดิมก็คิดว่าจะฉลองอยู่แล้ว จึงไปที่อินเทอร์เน็ตบาร์ของอินอู๋เย่า อย่าว่าไป ไม่รู้ว่าคนกลุ่มนี้ชอบไปชุมนุมกันที่ชั้นสองตั้งแต่เมื่อไร คงเพราะได้ยินเสียงคีย์บอร์ดจริงจัง“เป็นโรคอาชีพขึ้นสมองไงล่ะ” หลินเฟิงวิจารณ์ตัวเองได้อย่างแม่นยำ แต่ไม่กระทบกับคนเหล่านั้น เฟิงอี้รู้ว่าทุกคนอยากออกไปสูดอากาศหายใจ ต่างงดออกงาน เว้นแต่การสัมภาษณ์ระดับชาติ เขาสั่งอาหารมากินกัน แล้วลากผู้ช่วยให้มากันไว้ด้านบนแต่เมื่อเขาเดินขึ้นชั้นสอง ก็พบว่าแต่ละคนไม่ได้สติกันเลย ไม่ใช่ว่าดื่มเหล้า แต่นั่งหลับกันต่างหาก แต่ละคนสนิทชิดเชื้อกันจะแย่ โคโค่และเฟิงซ่างเอาหัวชนกัน ปล่อยตุ๊กตากระต่ายร่วงลงพื้นบางทีคนนอกวงการอาจไม่เข้าใจ แต่ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยของเฟิงอี้ เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ก็ไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด เพราะรู้ดีว่าคนกลุ่มนี้เหนื่อยมากเหลือเกินอาชีพที่เกี่ยวข้องกับโลกออนไลน์ต่างจากอาชีพอื่นๆ ด้วยมีแรงกดดันสูง ทั้งยังเป็นบุคคลสาธารณะ จะต้องระมัดระวังทุกคำพูด แม้จะเป็นแค่คำพูดธรรมาดา ก็ยังมีคนไปตีความหมายไปอีกแบบ ความชอบในทัศนะของคนบางพวก ทำให้พวกเขาหายใจแทบไม่ออก การนอนไม่หลับเป็นอาการธรรมดาหลายต่อหลายครั้ง เฟิงอี้ยังกลัวเลยว่าจะมีใครสักคนที่มีปัญหาทางจิตใจ ยังดีที่ทุกอย่างผ่านไปแล้ว ชัยชนะในการแข่งระดับเอเชียถือเป็นกระดาษคำตอบที่ดีที่สุด…………………………………………………ตอนที่ 1839เฟิงอี้มองคนเหล่านั้นแวบหนึ่ง ก่อนจะพยักเพยิดให้ผู้ช่วยจนเมื่อฝ่ายหลังเข้าใจความหมาย ก็รีบวางของลงบนโต๊ะ แล้วยกมือปรับเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมอากาศของจีนทางตอนเหนือมักจะหนาวเป็นพิเศษเสมอเมื่อมาถึงเวลานี้ ไม่รู้ว่าข้างนอกหิมะตกตั้งแต่เมื่อไรเฟิงอี้มองดูปฏิทินที่แขวนบนผนัง ไม่คิดเลยว่าเวลาจะผ่านไปรวดเร็วมาก ใกล้จะสิ้นปีแล้ว ไม่ว่าเจ้าแบล็กหรือพวกเฮียเย่าจะมาอยู่ที่นี่นานมากในเมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลงแล้ว ก็ได้เวลาหาเรื่องอื่นให้พวกนี้ทำเสียที อย่างน้อยในฐานะที่เป็นผู้เล่นมือทองของทีมไดมอนด์ ก็ย่อมล่อเด็กใหม่เข้ามาได้ง่ายๆ จะว่าไป เขาเป็นนักธุรกิจนี่นะเฟิงอี้ยิ้มมุมปาก กลับมาเป็นผู้จัดการเฟิงผู้มีสมญานามว่าจิ้งจอกหน้ายิ้มอีกครั้ง เล่นเอาผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างถึงกับตัวสั่น เธอรู้สึกว่าห้วงเวลาแห่งการทำโอทีมาถึงแล้ว!แม้จะเป็นเช่นนี้ เมื่อเดินจากไป อากัปกิริยาปิดประตูยังระมัดระวังเต็มที่ และเมื่อตอนที่ประตูถูกเปิดออก ฉินมั่วก็ตื่นแล้ว แต่ขี้เกียจลุกขึ้นมา เขากอดใครบางคนไว้ในอ้อมกอด คนที่ถูกกอดเป็นใคร ทุกคนคงรู้ แม้จะไม่พูดออกมา แต่ไม่นานเขาก็จูบจนอีกฝ่ายตื่นขึ้น ลมหายใจกระทบใบหู น้ำเสียงที่พูดออกมาราบเรียบ “แกล้งหลับอยู่ตอนนี้เพราะกลัวว่าฉันจะคิดบัญชีย้อนหลังหรือไง?”ป๋อจิ่วถูกจูบจนตัวสั่น จึงลืมตาตื่น “พี่มั่ว พวกเราอย่าพูดเรื่องที่มันไม่เป็นมิตรกับหูตอนที่ทุกคนหลับอยู่เลย”“อ้อ? งั้นเราพูดมาซิว่า เรื่องไหนบ้างที่เป็นมิตรกับหู?” ฉินมั่วหัวเราะ เขี่ยเส้นผมให้ ขายาวๆ พาดบนโซฟาตัวยาว ทั้งสองนอนแนวขวาง ซึ่งก็นอนได้อยู่ เพียงแต่ฉินมั่วสูงเกินไปจึงต้องนอนเอนตัวป๋อจิ่วกอดเอวอีกฝ่ายไว้ คนอื่นไม่รู้หรอกว่าการได้นอนกอดท่านเทพสบายแค่ไหน ดังนั้นจึงอาศัยทีเผลอแต๊ะอั๋งชายหนุ่มเข้าให้ท่าทางดูจะไม่เป็นประโยชน์ต่อเธอสักเท่าไรในตอนนี้ แต่ก่อนที่จะมา เธอก็เตรียมแผนไว้แล้ว “ก็เช่น เราลองมาคุยกันว่าของรางวัลอีกอย่างที่พี่จะให้คืออะไร?” การคุยกันแบบเป็นแฟนของทั้งสองช่างไม่เหมือนคู่รักคู่อื่นจริงๆฉินมั่วมองคนที่ยักคิ้วให้ ก่อนจะยื่นมือไปบีบแก้มอีกฝ่าย “เก็บไม้เก็บมือให้ดี จะเอาของรางวัลก็บอกดีๆ อย่าแอบเจ้าชู้”ป๋อจิ่วมองเขาดึงมือเธอออกจากเสื้อฟอร์มของเขาอย่างสุดแสนเสียดาย ท่านเทพออกจะทรงคุณค่าขนาดนี้ ในฐานะที่เป็นแฟน เธอจะลูบซิกส์แพ็กของเขาก็ยังไม่ได้เลยเมื่อไม่มีเรื่องเจ้าชู้ให้ทำ ป๋อจิ่วจึงได้แต่นอนตรงนั้นอย่างขี้เกียจเหมือนคุณชายเสเพลสักตระกูล แค่หมดแรงเล่นฤทธิ์เท่านั้น“ท่าทางแบบนี้ เหมือนจะไม่สนใจของรางวัลที่ฉันจะให้เลยนะ?” ฉินมั่วบีบแก้มเธอป๋อจิ่วทำหน้าจริงจัง “อย่างฉันเขาเรียกว่าเก็บอารมณ์ไม่ให้ออกมาทางสีหน้า” ก็กลัวว่าเขาจะขุดประวัติอันดำมืดของเธอนี่แหละ“ไม่เลวนี่ เก็บความรู้สึกดีมาก” ฉินมั่วพูดธรรมดา แต่ป๋อจิ่วกลับรู้สึกว่าท่าทางเขาประหลาดไป เพราะไม่เหมือนว่าจะให้รางวัลเธอ เหมือนขุดหลุมพรางดักเธอเสียมากกว่าจู่ๆ เขาก็พูดขึ้น “รอเดี๋ยว”ป๋อจิ่วไม่เข้าใจ “ทำไมเหรอ”ฉินมั่วยืนขึ้นจากโซฟา ก่อนจะเบี่ยงตัวให้ ท่าทางแบบนี้เท่เหลือเกิน “ของไม่อยู่ที่นี่ อยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุม”ป๋อจิ่วชะงัก ก่อนจะลุกขึ้นมาทั้งๆ ที่เส้นผมชี้โด่เด่ ใบหน้านั่นดูงุนงงระคนน่ารักมีของรางวัลจริงๆ ด้วย ไม่ใช่การขุดประวัติน่าอาย? แล้วจะเป็นอะไร?…………………………………………………..ตอนที่ 1840ฉินมั่วรู้ดีว่าใครบางคนสงสัยอยากรู้ มุมปากจึงหยัดยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ ปล่อยให้เจ้าหล่อนตามไปเหมือนไม่ได้ตั้งใจ ส่วนป๋อจิ่วเองก็ตามไปอย่างเปิดเผย ยังไงเสียก็ไม่ใช่ประวัติดำมืดที่น่าอับอาย ไม่เห็นต้องกลัว!ฉินมั่วกวาดตามองใบหน้ายินดีที่พิลึกๆ มุมปากยิ่งกดยิ้มหนัก ก่อนหยิบเสื้อตัวนอก ยืนพิงอยู่อย่างนั้น แล้วกระดิกนิ้วเรียกอีกฝ่ายป๋อจิ่วจึงเดินไปหา “ทำไมเหรอ?”ฉินมั่วพยักเพยิดให้เธอคว้าของในกระเป๋าเสื้อตัวนอกให้เธอหยิบเองเหรอ?ป๋อจิ่วสนใจขึ้นมาทันที เมื่อเห็นของนั่น หูเธอกางขึ้นทันใด เป็นรูปถ่ายที่วางในปราสาทนั่น เธอรู้อยู่แล้วล่ะว่ามีแฟนอย่างท่านเทพ ก็อย่าหวังว่าเขาจะให้แหวนเพชรอะไรทำนองนั้นสิ่งที่ท่านเทพชอบทำมากที่สุดคือการรื้อประวัติที่น่าอับอายของเธอ ต่อไปเธอต้องหาเวลาว่างถามพวกแฟนคลับเสียหน่อยว่า เวลามีแฟนที่ชอบทำอะไรประหลาดๆ จะต้องทำอย่างไร?ถึงจะรู้สึกสนุกที่เห็นท่านเทพหึงตัวเขาเองในวัยเด็ก แต่เห็นหลายครั้งเข้าก็คงไม่ดี เกิดเขาฟื้นความทรงจำขึ้นมาได้จะทำยังไง มันจะกลายเป็นประวัติอันดำมืดของเธอต่อน่ะสิป๋อจิ่วตัดสินใจแล้วว่า เธอจะอธิบายเรื่องทั้งหมดก่อนที่เขาจะฟื้นความทรงจำทุกเรื่องได้!ฉินมั่วเห็นเธอไม่ยอมเอารูปถ่ายออกมาเสียที แถมยังทำหน้าแบบจนปัญญา จึงดึงตัวเธอเข้ามาหา แล้วกำมือชนใบหน้าเธอเบาๆ “เธอโง่หรือไง? เอาออกมา แล้วพลิกดูด้านหลัง”รูปนั่นจะไปมีอะไร ยังไงก็พลิกไม่เจอแหวนหรอก…ป๋อจิ่วนิ้วแข็งทื่อ สายตาหยุดมองด้านหลังของภาพ มันเป็นตัวอักษรจีนฟอนต์ข่ายถี่ที่ไม่ยาวนัก สั้นๆ เพียงแค่ว่า ‘เธอคือสุดที่รัก’“อ่านกลับหลังสิ แล้วเธอจะเข้าใจ” ฉินมั่วหลบตาลง ภายใต้แสงไฟ ความมืดด้านนอกเหมือนจะขับเน้นร่างเขาให้เด่นขึ้นเวลานั้น หูของป๋อจิ่วเหลือเพียงเสียงที่ผ่านเข้ามาช้าๆ ไม่ดังและไม่เบา ทว่ามีความหมาย ‘รักที่สุดคือเธอ’ นี่ไม่ใช่การสารภาพรักธรรมดา ไม่งั้นคงไม่ปรากฏบนด้านหลังของภาพนี้ป๋อจิ่วถึงกับนิ้วแข็งทื่อ กำแขนเสื้อฉินมั่วไว้ กระจ่างแจ้งในทันใด ส่วนฉินมั่วยิ้ม ก้มลงจูบหน้าผากเธอ “ฉันเอง” สองคำนี้นี่แหละที่อธิบายทุกสิ่งท่านเทพ เขาฟื้นความทรงจำแล้ว ความทรงจำทั้งหมด!ป๋อจิ่วไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกของตนเองว่าอย่างไรดี มันว่างเปล่าไปหมด เธอยื่นมือไปรัดตัวเขาแน่น คราวนี้ล่ะ เขาได้เป็นของเธอเสียที จากในสู่นอก ทั้งหมดทั้งมวลหลังจากความยินดี ก็เริ่มเป็นความน้อยใจ “ฉันเขียนจดหมายให้พี่ แต่พี่ไม่เคยตอบฉันเลย”ฉินมั่วเกี่ยวผมทัดหูให้เธอ “ฉันผิดเอง”“ตอนนั้นฉันจดหมายทุกวัน เขียนผิดตั้งหลายตัว คุณตาพ่อบ้านหัวเราะตั้งนาน”ฉินมั่วถอนหายใจ “แล้วทำไมเธอถึงเขียนจดหมายล่ะ” เป็นถึงแฮกเกอร์ จะมาเขียนจดหมายทำไมป๋อจิ่วคิดเหมือนกันว่าตอนนั้นเธอบื้อเหลือเกิน “ก็ในละครทำพิษน่ะสิ บอกว่าการเขียนจดหมายจะทำให้คนรู้สึกถึงความจริงใจ แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าอีเมลมันน่าเชื่อถือกว่า อย่างน้อยเวลาที่อ่านแล้ว ก็ยังบอกว่าสถานะว่ามีคนอ่านแล้ว ฉันจะได้รู้ว่าพี่ได้รับจริงหรือเปล่า”“อืม ไม่ถือว่าโง่หรอก” ฉินมั่วได้ยินเธอบ่นเสียงเบา กลั้นหัวเราะไม่ไหวป๋อจิ่วชะงัก เดี๋ยวก่อน รู้สึกว่าพูดกันไม่ถูกนะ ทั้งที่เธอแขวะท่านเทพแท้ๆ ทำไมเขาถึงบอกว่าเธอถือว่าไม่โง่ล่ะ………………………………………………
คอมเม้นต์