Black Peach Z เดิมพันรักสาวแฮกเกอร์ ตอนที่ 1689 vs 1690
ตอนที่ 1689แมงป่องขับรถไปยังลานกว้างที่อยู่ห่างจากทะเลดอกไม้ไม่ไกลนัก ก่อนจะจอดลงอีกด้านหนึ่ง ทหารรับจ้างยืนเรียงเป็นแถว พวกเขาต่างสักหน้า ถือปืนไว้ในมือ สีหน้าดูเหี้ยม คงเป็นเพราะเอกลักษณ์ของที่นี่ พวกเขาจึงโดนแดดแผดเผาจนผิวดำคล้ำ อันเป็นการแสดงนัยยะของความเป็นพวกเดนตายอีกต่างหากมีเพียงคนที่ยืนตรงกลางต่างจากคนอื่น นั่นคือฝานเจีย แต่วันนี้เธอไม่ได้โผล่หน้าออกมา กลับยืนสวมหมวกคลุมหน้า ทำให้คนเห็นหน้าตาเธอไม่ชัดนัก ส่วนอีกคนกลับสวมชุดสูท อายุประมาณห้าสิบปี กำไม้เท้าไว้ในมือ เงยหน้ามองราวกับรอคอยพวกฉินมั่วเป็นพิเศษเจ้าชายน้อยเห็นคนพวกนี้แล้ว ถึงกับมือเกร็งทันที นักมายากลและเพื่อนๆ ก็เช่นเดียวกันฉินมั่วเป็นคนเดียวที่มีแววตาเรียบเฉย ทั้งไม่ได้มองไปยังชายคนนั้น แต่กลับหยุดสายตาอยู่มองผู้ชายที่สวมเสื้อกาวน์อยู่ครู่หนึ่ง“นี่คือคิงของพวกเรา” แมงป่องแนะนำ “คิงครับ นี่คือประธานหรง”คนที่ถือไม้เท้ายื่นมือออกมา “สวัสดีครับ”มุมปากของฉินมั่วยกยิ้ม ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ แววตาลุ่มลึกมาก “ได้ยินชื่อเสียงคุณมานานแล้ว”“มา เชิญครับ” ชายคนนั้นผายมือเชื้อเชิญฉินมั่วให้เข้าไปในกระท่อมในเวลาที่เข้าไป ฉินมั่วแทบจะได้กลิ่นข้างในทันที มันเป็นกลิ่นหอมของดอกฝิ่น“คุณอารมณ์สุนทรีจัง” ฉินมั่วเอ่ยขึ้นเมื่อนั่งลงทำให้ชายคนนั้นหัวเราะ “ประธานหรงตาสูงมากกว่า ผมชินกับกลิ่นนี้ ทำให้นอนหลับสบาย” ว่าแล้วก็ดึงซิการ์ยื่นให้ฉินมั่ว “ลองสูบสักอันไหม?”ระหว่างที่อีกฝ่ายพูด เจ้าชายน้อยอยากจะกำมือขึ้นทันที เพราะใครก็รู้ว่าเมื่อมาถึงสถานที่แบบนี้ ไม่ควรรับของจำพวกบุหรี่ เพราะไม่รู้ว่ามันผสมอะไรบ้างแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ฉินมั่วก็รับซิการ์มา แล้วยื่นให้เจ้าชายน้อยสูบ พูดเพียง “เช็คของดู”เจ้าชายน้อยรับมา ทำให้ไม่ว่างพอจะแสดงสีหน้าแต่อย่างใดชายคนนั้นหรี่ตาลง “ประธานหรง หมายความว่าไง” “ถึงผมจะทำการธุรกิจด้านนี้ แต่ไม่เคยแตะพวกมัน” ฉินมั่วนั่งไขว่ห้าง บารมีแรงจัด “คุณสิครับ ให้ของแบบนั้นกับผม หมายความว่าไง? สงสัยสถานะของผมเหรอ? งั้นผมควรจะสงสัยสถานะของพวกคุณไหม? ตกลงแล้วคุณเป็นคิงตัวจริงหรือเปล่า?ชายคนนั้นผงะ ราวกับไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยตรงๆทั้งนี้ ชายหนุ่มยังไม่เหมือนเป็นทหาร ยิ่งไม่น่าจะเป็นคนจากหน่วยไหน แถมบารมีมาเฟียยังคุอีกต่างหาก”แล้วเขาควรจะพูดอย่างไรต่อ ชายคนนั้นไม่รู้ จึงหันไปมองอีกด้านเวลานี้ กระทั่งเจ้าชายน้อยยังมองออกว่า ‘คิง’ คนนี้ผิดปกติ เขาเอาแต่มองหมอประจำตระกูลอยู่นั่นแหละเจ้าชายน้อยเพิ่งจะสงสัย เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหู “ประธานหรงแววตาหลักแหลมจริงๆ”คุณหมอเดินออกมาจากด้านใน เขาสวมชุดกาวน์ มีแว่นตากรอบทองบนหน้า รวมถึงหน้าตาที่สุภาพ กระทั่งพูดยังสง่าอย่างบอกไม่ถูกเขามองกลุ่มคนตรงหน้า มุมปากแยกยิ้มที่ทำให้คนทั้งวางใจ และรู้สึกถึงอันตรายขึ้นมา……………………………………………….. ตอนที่ 1690นี่แหละ คิง! เจ้าชายน้อยเข้าใจในทันใด เงยหน้ามองดู “คุณหมอประจำบ้าน”เวลานี้ คิงนั่งเก้าอี้ประจำสถานะตัวเอง โดยอยู่ตรงข้ามกับฉินมั่ว และคนที่สวมรอยเป็นคิง กลับเดินไปยืนข้าง ๆ อย่างให้เกียรติ ส่งผลให้แพทย์ทหารและนักมายากลถึงกับหัวใจตกลงไปอยู่ตาตุ่ม เพราะแม้ว่าบอสจะแปลงโฉมขนาดที่ฝานเจียยังจำไม่ได้ แต่คิงไม่ใช่ฝานเจีย เขาไม่เพียงแต่จะเจ้าเล่ห์มากแผน แต่ยังเป็นนักจิตวิทยาด้านอาชญากรรมตัวฉกาจ เวลาสำรวจสถานะของใครก็ตาม ย่อมไม่ดูแค่หน้าตา ซึ่งฉินมั่วก็เช่นเดียวกัน คนอย่างพวกเขา มักจะสำรวจรายละเอียดปลีกย่อยของฝ่ายตรงข้ามอย่างเป็นเรื่องปกติ เช่นกิริยาอาการ วิธีพูด กระทั่งท่าทางการดื่มน้ำยังเป็นจุดสำคัญในการตรวจเช็คเหตุใดคิงถึงไม่แสดงตัวออกมาตรง ๆ ก็เพราะเขามีแผนว่าจะลอบสำรวจคนเหล่านั้นมาตั้งแต่แรกน่าเสียดายที่คนของเขาไม่อดทนเอาเสียเลยคิงเงยหน้ากวาดตามองสีหน้าจริงจังของพวกคนที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มขึ้น “แกะซิการ์ออกมาเช็คของก็สะดวกดีนะ”“ครับ” แมงป่องพิษรับซิการ์มา แล้วใช้มีดแงะออก จึงเห็นว่าด้านในนอกจากจะบรรจุยาสูบแล้ว ยังมีผงสีขาวอีกด้วยฉินมั่วเห็นแล้วก็หัวเราะเย้าหยอก “มิน่าล่ะ เขาถึงว่ากันว่า ทำธุรกิจกับคุณ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตรวจสอบ เพราะบรรจุแบบนี้ดูเป็นธรรมชาติมาก”“นี่เรียกว่าธรรมดาแล้วครับ” คิงหัวเราะ ยกกาน้ำชามารินให้ฉินมั่วถ้วยหนึ่ง “ผมชอบศิลปะพู่กันจีน แต่ความสามารถจำกัด เมื่อก่อนเคยมีนักเรียนอยู่คนหนึ่งมีเขียนพู่กันจีนสวยมาก น่าเสียดายที่เด็กคนนั้นไม่ยอมเป็นลูกศิษย์ในความดูแลของผม แต่ก็ทำให้ผมสนใจศิลปะวัฒนธรรมของจีนมาก ดังนั้น…” พูดมาถึงตรงนี้ คิงก็ชะงักฝานเจียที่ยื่นปากกาลูกลื่นให้ คิงหักมันออก เทผงสีขาวชั้นเยี่ยมที่บรรจุอยู่ด้านในออกมาเจ้าชายน้อยกัดกรามแน่นอยู่ด้านข้าง แต่กลับไม่ได้แสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยว แต่คุณหมอทหารและนักมายากลกลับกลายเป็นอีกเรื่อง นักเรียนที่คิงพูดถึง คงไม่ใช่…เวลานั้น คุณหมอทหารเริ่มเครียด คิงหมายความว่ายังไง หรือว่ามันเดาสถานะของบอสออกแล้ว? ไม่งั้น จะจงใจพูดถึงนักเรียนคนนั้นทำไมเมื่อถูกยั่วยุอารมณ์ คุณหมอทหารก็ทราบดีว่า สถานการณ์เช่นนี้อันตรายมาก ไม่ควรปล่อยให้อีกฝ่ายชักนำทางอารมณ์ แต่คนที่ได้เรียนด้านจิตวิทยา ล้วนแต่อ่อนไหวกว่าคนปกติมากนักอารมณ์ของเขาก็เป็นเช่นนั้น บอสสิ ยิ่งซับซ้อนเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าคิงไม่มั่นใจในสถานะของบอสแล้วแค่ลองใจล่ะ งั้นคำตอบของบอสจึงสำคัญมาก“เป็นวิธีที่ไม่เลว” ฉินมั่ววางปากกาลง มองสำรวจทั่ว “เห็นเจ้านี่แล้ว ผมกลับคิดถึงวิธีที่ดีกว่า”ห้วงเวลานั้น ความเหี้ยมในก้นบึ้งนัยน์ตาของคิงลดลงไปเยอะ เขาเลิกคิ้ว “โอ้ว? วิธีไหนเหรอ?”“ก็ลิขวิดเปเปอร์ไง ปลอดภัยกว่าไอ้นี่อีก” ฉินมั่วโยนปากกาด้ามนั่นลงพื้น บารมีเจิดจ้ากว่าเดิมคิงได้ยินแล้วถึงกับอึ้ง ก่อนจะหัวเราะขึ้น “ได้ร่วมธุรกิจกับประธานหรงถือเป็นเรื่องน่ายินดี พวกเราไปดื่มชากันในระหว่างที่ให้พวกเขาตรวจสอบสินค้ากันดีกว่า แล้วดูหนังสักเรื่อง ส่วนเรื่องช่องทางการค้า เราค่อยว่ากัน”………………………………………ตอนที่ 1690นี่แหละ คิง! เจ้าชายน้อยเข้าใจในทันใด เงยหน้ามองดู “คุณหมอประจำบ้าน”เวลานี้ คิงนั่งเก้าอี้ประจำสถานะตัวเอง โดยอยู่ตรงข้ามกับฉินมั่ว และคนที่สวมรอยเป็นคิง กลับเดินไปยืนข้าง ๆ อย่างให้เกียรติ ส่งผลให้แพทย์ทหารและนักมายากลถึงกับหัวใจตกลงไปอยู่ตาตุ่ม เพราะแม้ว่าบอสจะแปลงโฉมขนาดที่ฝานเจียยังจำไม่ได้ แต่คิงไม่ใช่ฝานเจีย เขาไม่เพียงแต่จะเจ้าเล่ห์มากแผน แต่ยังเป็นนักจิตวิทยาด้านอาชญากรรมตัวฉกาจ เวลาสำรวจสถานะของใครก็ตาม ย่อมไม่ดูแค่หน้าตา ซึ่งฉินมั่วก็เช่นเดียวกัน คนอย่างพวกเขา มักจะสำรวจรายละเอียดปลีกย่อยของฝ่ายตรงข้ามอย่างเป็นเรื่องปกติ เช่นกิริยาอาการ วิธีพูด กระทั่งท่าทางการดื่มน้ำยังเป็นจุดสำคัญในการตรวจเช็คเหตุใดคิงถึงไม่แสดงตัวออกมาตรง ๆ ก็เพราะเขามีแผนว่าจะลอบสำรวจคนเหล่านั้นมาตั้งแต่แรกน่าเสียดายที่คนของเขาไม่อดทนเอาเสียเลยคิงเงยหน้ากวาดตามองสีหน้าจริงจังของพวกคนที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มขึ้น “แกะซิการ์ออกมาเช็คของก็สะดวกดีนะ”“ครับ” แมงป่องพิษรับซิการ์มา แล้วใช้มีดแงะออก จึงเห็นว่าด้านในนอกจากจะบรรจุยาสูบแล้ว ยังมีผงสีขาวอีกด้วยฉินมั่วเห็นแล้วก็หัวเราะเย้าหยอก “มิน่าล่ะ เขาถึงว่ากันว่า ทำธุรกิจกับคุณ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตรวจสอบ เพราะบรรจุแบบนี้ดูเป็นธรรมชาติมาก”“นี่เรียกว่าธรรมดาแล้วครับ” คิงหัวเราะ ยกกาน้ำชามารินให้ฉินมั่วถ้วยหนึ่ง “ผมชอบศิลปะพู่กันจีน แต่ความสามารถจำกัด เมื่อก่อนเคยมีนักเรียนอยู่คนหนึ่งมีเขียนพู่กันจีนสวยมาก น่าเสียดายที่เด็กคนนั้นไม่ยอมเป็นลูกศิษย์ในความดูแลของผม แต่ก็ทำให้ผมสนใจศิลปะวัฒนธรรมของจีนมาก ดังนั้น…” พูดมาถึงตรงนี้ คิงก็ชะงักฝานเจียที่ยื่นปากกาลูกลื่นให้ คิงหักมันออก เทผงสีขาวชั้นเยี่ยมที่บรรจุอยู่ด้านในออกมาเจ้าชายน้อยกัดกรามแน่นอยู่ด้านข้าง แต่กลับไม่ได้แสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยว แต่คุณหมอทหารและนักมายากลกลับกลายเป็นอีกเรื่อง นักเรียนที่คิงพูดถึง คงไม่ใช่…เวลานั้น คุณหมอทหารเริ่มเครียด คิงหมายความว่ายังไง หรือว่ามันเดาสถานะของบอสออกแล้ว? ไม่งั้น จะจงใจพูดถึงนักเรียนคนนั้นทำไมเมื่อถูกยั่วยุอารมณ์ คุณหมอทหารก็ทราบดีว่า สถานการณ์เช่นนี้อันตรายมาก ไม่ควรปล่อยให้อีกฝ่ายชักนำทางอารมณ์ แต่คนที่ได้เรียนด้านจิตวิทยา ล้วนแต่อ่อนไหวกว่าคนปกติมากนักอารมณ์ของเขาก็เป็นเช่นนั้น บอสสิ ยิ่งซับซ้อนเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าคิงไม่มั่นใจในสถานะของบอสแล้วแค่ลองใจล่ะ งั้นคำตอบของบอสจึงสำคัญมาก“เป็นวิธีที่ไม่เลว” ฉินมั่ววางปากกาลง มองสำรวจทั่ว “เห็นเจ้านี่แล้ว ผมกลับคิดถึงวิธีที่ดีกว่า”ห้วงเวลานั้น ความเหี้ยมในก้นบึ้งนัยน์ตาของคิงลดลงไปเยอะ เขาเลิกคิ้ว “โอ้ว? วิธีไหนเหรอ?”“ก็ลิขวิดเปเปอร์ไง ปลอดภัยกว่าไอ้นี่อีก” ฉินมั่วโยนปากกาด้ามนั่นลงพื้น บารมีเจิดจ้ากว่าเดิมคิงได้ยินแล้วถึงกับอึ้ง ก่อนจะหัวเราะขึ้น “ได้ร่วมธุรกิจกับประธานหรงถือเป็นเรื่องน่ายินดี พวกเราไปดื่มชากันในระหว่างที่ให้พวกเขาตรวจสอบสินค้ากันดีกว่า แล้วดูหนังสักเรื่อง ส่วนเรื่องช่องทางการค้า เราค่อยว่ากัน”………………………………………
คอมเม้นต์