Divine Soul Emperor ระบบเจ้าสำนัก ตอนที่ 447 : การพบปะที่ไม่คาดคิด

อ่านนิยายจีนเรื่อง Divine Soul Emperor ระบบเจ้าสำนัก ตอนที่ 447 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ตอนที่ 447 : การพบปะที่ไม่คาดคิด
หลังจากที่รู้ระดับการบ่มเพาะของเซียวเหยียน ผู้อาวุโสต่างก็พากันตื่นเต้นและรีบประจบเซียวเหยียนทันที
 
คำชมของผู้อาวุโส เซียวเหยียนรู้สึกว่ามันไม่ได้มีความหมายใดๆ บางคนถึงกับพูดเกินไป
 
หากเทียบกับจิ้งจอกเฒ่าเหล่านี้แล้ว เขาอยากอยู่กับคนรุ่นเดียวกันในตระกูลมากกว่า ถึงแม้ว่าคนพวกนั้นจะเคยหัวเราะเยาะเขา แต่ก็ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรนัก จิตใจของพวกเขาค่อนข้างซื่อตรง ไม่ว่าจะโกรธหรือดีใจล้วนแสดงออกมาบนใบหน้า
 
“ผู้นำตระกูล ข้ามีอีกเรื่องต้องรายงานท่าน” ตอนนั้นเองเซียวติงก็พูดขึ้นมา
 
ผู้อาวุโสพากันปิดปากเงียบ เซียวอู่เว่ยมองไปที่เซียวติงและถามขึ้นมาด้วยความสงสัย  “ว่ามา”
 
เซียวติงพูดขึ้นมาอย่างภูมิใจ  “ผู้อาวุโสโจวถิงตกลงให้เซียวเหยียนกับองค์หญิงซินเอ๋อร์หมั้นกันภายใน 1 เดือน และเหยียนเอ๋อร์จะต้องไปที่เมืองหลวง เพื่อพูดคุยกับราชวงศ์โจว และภายใน 1 ปีเขาจะต้องแต่งงานกับองค์หญิงซินเอ๋อร์!”
 
ฐานะของโจวซินเอ๋อร์นั้นทั้งตระกูลเซียว มีแค่ผู้นำตระกูลกับผู้อาวุโสกลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่รู้
 
คนที่เหลือแม้แต่คนที่ใกล้ชิดกับผู้นำตระกูลและผู้อาวุโส ต่างก็ไม่รู้ฐานะของโจวซินเอ๋อร์ พวกเขารู้แค่ว่านางมีชื่อเสียงและฐานะของนางนั้นลึกลับ
 
เมื่อได้ยินที่เซียวติงบอกมา ผู้คนด้านนอกต่างก็พากันอึ้ง  คำว่าองค์หญิงฝังอยู่ในหัวของทุกคน
 
“เซียวซินเอ๋อร์คือองค์หญิงงั้นรึ?”  คนด้านนอกต่างก็พากันแสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมา
 
เซียวอู่เว่ยลุกขึ้นยืนและมองไปที่เซียวติงด้วยความช็อก  “ที่เจ้าพูดมานี่จริงรึ?”
 
เซียวติงพยักหน้า  “จริง!”
 
“ฮาฮา ดี ดี!” เซียวอู่เว่ยหัวเราะออกมาอย่างพอใจ  “นี่คือพรสำหรับเหยียนเอ๋อร์ มันคือความสุขของตระกูลเซียว!”
 
เซียวอู่เว่ยไม่ได้ตื่นเต้นแบบนี้มาหลายปีแล้ว เขาได้ยินข่าวดีถึงสองข่าวติดกัน เขาไม่คิดว่าเขาจะตื่นเต้นแบบนี้ได้
 
มีผู้อาวุโสมากมายภายในห้องโถง พวกเขาต่างก็พูดกับเซียวอู่เว่ยว่า “ยินดีด้วยผู้นำตระกูล!”
 
เซียวเหยียนคือหลานของเซียวอู่เว่ย การที่พวกเขายินดีกับเซียวอู่เว่ยก็เป็นเรื่องธรรมดา หากเซียวเหยียนแต่งงานกับโจวซินเอ๋อร์ มันก็จะส่งผลดีต่อทั้งตระกูลเซียว ผู้อาวุโสหลายคนเองก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย
 
ครั้งนี้พวกเขายินดีกับเซียวอู่เว่ยจากใจจริง ใบหน้าของพวกเขาแสดงรอยยิ้มที่ดูจริงใจออกมา
 
“ราชวงศ์โจวไม่ใช่ตระกูลทั่วไป เราต้องเตรียมตัวเรื่องสินสอด เราต้องแสดงความจริงใจของเราออกมา” เซียวอู่เว่ยใจเย็นลงและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “นี่ถือว่าเป็นงานใหญ่สำหรับตระกูลเซียว ทุกคนต้องช่วยกัน  ใครที่กล้าขัดขวางความเจริญของตระกูล ข้าจะไม่ไว้หน้า….”
 
การแต่งงานของเซียวเหยียนและโจวซินเอ๋อร์ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของตระกูลเซียว มันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มากมาย ไม่มีใครกล้ามองข้ามผลประโยชน์นี้
 
“ได้ ผู้นำตระกูล!”  ผู้อาวุโสรวมไปถึงเซียวติงและเซียวจ้านเทียน ต่างก็พากันแสดงสีหน้าจริงจังออกมา
 
ตอนนี้เองฐานะของเซียวเหยียนในตระกูลก็สูงขึ้นไปอีก อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเซียวเหยียนต่างก็เป็นเรื่องใหญ่ แม้แต่ผู้อาวุโสระดับสูงและคนอื่นๆก็ยอมทำหน้าที่ต่างๆแทนเซียวเหยียนโดยไม่คิดจะบ่นเลยแม้แต่น้อย
 
เมื่อเห็นสีหน้าตื่นเต้นของทุกคนเซียวเหยียนก็เงียบไป
 
การที่พวกเขากระตือรือร้น ไม่ใช่ว่าเขาดูถูกตระกูลของตัวเอง แต่ว่าตระกูลเซียวนั้นด้อยกว่าตระกูลโจวอย่างมาก ตระกูลเซียวจะได้รับการสนใจจากตระกูลโจวจริงๆรึ?
 
“ดูเหมือนว่าข้าต้องไปหาอาจารย์เพื่อขอความช่วยเหลือ” เซียวเหยียนคิด
 
ในห้องโถงนั้นทุกคนต่างก็พากันยินดี พวกเขาพากันพูดคุยถึงเรื่องสินสอดกันจนดึก พวกเขาตื่นเต้นกันอยู่นานยากที่จะสงบจิตใจลงได้

ดวงอาทิตย์ได้ขึ้นมาแทนที่ดวงจันทร์ พร้อมกับแสงอันอบอุ่นที่ขับไล่ความหนาวเย็นยามค่ำคืน
 
ในวันนั้นเหนือท้องฟ้าของเขตตงโจว มีชายวัยกลางคนในชุดสีฟ้าบินตัดผ่านไปด้วยความเร็วสูง แค่ครึ่งชั่วโมงเขาก็มาถึงที่เขตนอกของเมืองทะเลทราย
 
เขาเอาแผนที่ออกมาจากแหวนมิติก่อนจะมองไปยังพื้นดินด้านล่างแล้วพึมพำออกมา “สำนักคังเฉียงน่าจะอยู่ที่นี่ไม่ใช่รึ?”
 
เขาเก็บแผนที่และลงไปที่พื้น ไม่นานเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูเมือง
 
“ข้าไม่รู้ว่าสำนักคังเฉียงแห่งนี้มีอะไรดี ถึงกับทำให้…”  ชายวัยกลางคนถอนหายใจออกมาและส่ายหน้า
 
เขาหันกลับและยกเท้าขึ้นเตรียมตัวจะเดินเข้าเมือง
 
แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวเขาก็ต้องหยุด เขาเงยหน้าขึ้นมองฟ้าและหรี่ตาลงเล็กน้อย “ขอบเขตตุ้นซวน!”
 
เขาแปลกใจนิดๆ ในที่ห่างไกลแบบนี้แต่เขากลับเจอคนที่อยู่ขอบเขตตุ้นซวน
 
“ฮี่ฮี่ ดูน่าสนใจจริงๆ” ชายชุดฟ้าเริ่มจับตาดูคนที่อยู่ขอบเขตตุ้นซวน หลังจากที่อีกฝ่ายเข้ามาใกล้เขาก็เห็นหน้าตาของอีกฝ่ายและจำได้ทันที  “เขานี่เอง!”
 
ในเวลาเดียวกัน ชายลึกลับที่อยู่ขอบเขตตุ้นซวนเองก็เห็นชายชุดฟ้าเช่นกัน เขาบินมาหาชายชุดฟ้าทันที
 
“เทียนเย่!”
 
“คังชือหลิน!”
 
เมื่อชายชุดฟ้าอยู่ห่างกันแค่ 10 ลี้ ทั้งสองก็ตะโกนออกมาแทบจะพร้อมกัน
 
ชายชุดฟ้าคือคังชือหลิน เขามองไปที่เทียนเย่ด้วยสีหน้าสงสัยก่อนจะถามขึ้นมา  “ เจ้าไม่ได้อยู่ที่สมาคมปรุงยารึ เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
 
เทียนเย่คือผู้อาวุโสของสมาคมปรุงยา เขาเป็นปรมาจารย์ปรุงยา 5 ดาวอยู่ขอบเขตตุ้นซวนขั้นต่ำ
 
“เจ้าเองก็เหมือนกันไม่ใช่รึ?”  เทียนเย่ยิ้มออกมา หากเทียบกับคังชือหลินแล้ว เขาเองก็สงสัยไม่แพ้กัน  “อย่าบอกนะว่าท่านเซียนส่งเจ้ามา?”
 
คังชือหลินชะงัก เขาเหมือนจะไม่เข้าใจ
 
เมื่อเห็นว่าคังชือหลินเหมือนจะสับสน เทียนเย่ก็พูดขึ้นมาทันที  “ตามที่เซียนโอสถบอกข้ามา ครั้งนี้สามสมาคมใหญ่รวมไปถึงพันธมิตรร้อยสำนัก จะส่งคนหนึ่งคนออกมา เกณฑ์ขั้นต่ำคือขอบเขตตุ้นซวนขั้นต่ำหรือมีสายอาชีพพิเศษ 5 ดาว คนที่มาจากสมาคมปรุงยาคือข้า ดูเหมือนว่าคนที่สมาคมค่ายกลส่งมาจะเป็นเจ้า”
 
ทั้งสองต่างก็เป็นผู้อาวุโสของสมาคม พวกเขาเคยพบกันอยู่หลายครั้งจึงได้รู้จักกัน
 
“เจ้าเองก็มาเพราะสำนักคังเฉียงรึ?”  คังชือหลินแปลกใจ
 
“แล้วจะเป็นอะไรได้อีก?”  เทียนเย่พูดขึ้น  “สมาคมปรุงยานั้นคือชีวิตของข้า ข้าอยู่ที่นั่นมาหลายร้อยปี แต่สุดท้ายข้ากลับถูกบีบให้ออกมา เฮ้อ!”
 
เมื่อได้ยินที่เทียนเย่พูดแบบนั้น  คังชือหลินก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เขาเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน
 
บอกได้ว่าพวกเขาหัวอกเดียวกัน พวกเขาคือคนที่โชคร้าย
 
แต่คังชือหลินกังวลกับอีกปัญหาที่เทียนเย่พูดถึงเมื่อตะกี้มากกว่า เขาพึมพำออกมา  “เจ้าหมายความว่านอกจากพวกเราสองคนแล้ว ยังมีคนอื่นจากสมาคมหลอมกับพันธมิตรร้อยสำนักมาด้วยรึ ?”
 
เทียนเย่พยักหน้าและพูดขึ้น  “ตามที่เซียนโอสถบอกมาก็น่าจะเป็นแบบนั้น เขาไม่น่าจะหลอกข้า ข้ามั่นใจเมื่อข้าได้พบกับเจ้า”
 
“สำนักคังเฉียงแห่งนี้วิเศษตรงไหนกัน ทำไมถึงให้เรามาเป็นอาจารย์ที่นี่ด้วย?” คังชือหลินถามขึ้นมา “เทียนเย่ เจ้าเคยได้ยินเรื่องสำนักคังเฉียงมาก่อนหรือไม่?” เขาสงสัยในเรื่องสำนักคังเฉียงมานานแล้ว แต่เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสำนักคังเฉียงเลย เมื่อเขาได้พบกับเทียนเย่ จึงเป็นธรรมดาที่เขาหวังว่าจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสำนักคังเฉียงจากเทียนเย่
 
เมื่อได้ยินแบบนั้น เทียนเย่ก็ส่ายหน้าและพูดขึ้นมา  “ข้าเองก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อสำนักคังเฉียง”
 
“เจ้าเองก็ไม่รู้รึ?” คังชือหลินรู้สึกสลด เขาหวังว่าจะได้ข้อมูลที่มีประโยชน์จากเทียนเย่
 
เทียนเย่คิดอยู่สักพักและพูดขึ้นมา  “หากเจ้าไม่รีบ เรารอที่นี่ก่อนได้ คนของสมาคมหลอมและพันธมิตรร้อยสำนักยังมาไม่ถึง บางทีพวกเขาอาจจะรู้เรื่องสำนักคังเฉียงก็ได้”
 
คังชือหลินไม่ได้คัดค้าน  “เซียนค่ายกลบอกให้ข้าไปรายงานตัวกับสำนักคังเฉียงภายใน 3 วัน นี่ก็ผ่านมาแค่ 2 วันเอง มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ”
 
ก่อนที่เขาจะรู้ข้อมูลของสำนักคังเฉียง คังชือหลินนั้นระวังตัวอย่างมาก เขาถึงกับไม่กล้าแผ่การรับรู้เพื่อสำรวจภูเขาด้วยซ้ำ  มีแค่สวรรค์ที่รู้ว่าจะมีสัตว์ประหลาดแบบไหนออกมาจัดการเขา หากเขาทำแบบนั้น
 
สำนักคังเฉียงแห่งนี้ลึกลับ การระวังตัวไม่ใช่เรื่องผิด !
 
ทั้งสองคนต่างก็มีความคิดคล้ายๆกัน  “ครั้งนี้ข้าไม่ได้ตัวคนเดียว!”
 
เทียนเย่รู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเขาเป็นคนที่โชคร้ายกว่าใคร แต่การที่คังชือหลินปรากฎตัวที่นี่ก็ทำให้เขารู้ว่า เขาไม่ใช่คนโชคร้ายแค่คนเดียว ยังมีคนอื่นมาโชคร้ายกับเขาด้วย
 
ด้านนอกเมืองทะเลทราย คังชือหลินและเทียนเย่ได้ไปนั่งอยู่บนก้อนหินและหลับตาลง ซึ่งนั่นทำให้คนที่เดินผ่านไปมาสนใจ
 
จนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้นมาอยู่เหนือหัว อากาศก็เริ่มร้อนขึ้นแต่พวกเขากลับไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
 
อยู่ๆก็เกิดลมพัดขึ้น คังชือหลินและเทียนเย่ลืมตาขึ้นมาก่อนจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า  “มาแล้ว!”
 
“จงเซี่ยวเซี่ยว” เมื่อเห็นหน้าตาของอีกฝ่าย คังชือหลินและเทียนเย่ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ พวกเขาไม่คิดว่าคนที่สมาคมหลอมส่งมา จะเป็นจงเซี่ยวเซี่ยว
 
จงเซี่ยวเซี่ยวเป็นผู้อาวุโสอัจฉริยะของสมาคมหลอม เขาเป็นปรมาจารย์หลอม 5 ดาวอยู่ขอบเขตตุ้นซวนขั้นสูง เรื่องที่น่าตกใจที่สุดคือ จงเซี่ยวเซี่ยวอายุแค่ 88 ปีและมีความสำเร็จมากมาย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจงเซี่ยวเซี่ยวคืออัจฉริยะ อัจฉริยะที่ไม่มีใครกล้ามองข้าม  มีข่าวลือว่าจงเซี่ยวเซี่ยวถูกหงจินเป่าประเมินค่าไว้สูง ไม่ใช่แค่รับจงเซี่ยวเซี่ยวเป็นศิษย์สายตรง แต่ยังใช้เวลามากมายเพื่อสั่งสอนด้วยตัวเอง คอยชี้แนะจงเซี่ยวเซี่ยวในเรื่องการหลอมและการบ่มเพาะ ราวกับว่าจะปั้นเขาเป็นผู้สืบทอด
 
คนแบบนี้ สมาคมหลอมกล้าส่งมาที่สำนักคังเฉียงจริงๆรึ?
 
สมาคมหลอมไม่กลัวว่าจงเซี่ยวเซี่ยวจะถดถอยไปเพราะสำนักคังเฉียงรึ?
 
ต้องรู้ก่อนว่าเขาเป็นศิษย์สายตรงเพียงคนเดียวของเซียนหลอม !
 
“ท่านคังชือหลิน ม่านเทียนเย่ สวัสดี” จงเซี่ยวเซี่ยวยิ้มออกมาและมองไปที่ทั้งสองคน ท่าทีภายนอกของเขาดูมั่นใจและเป็นกันเอง บทสนทนาทำให้ผู้คนรู้สึกสบายและประทับใจในตัวเขา “ในอนาคตทุกคนจะเป็นอาจารย์ของสำนักคังเฉียง ข้าหวังว่าเราจะช่วยเหลือกัน!”
 
คังชือหลินและเทียนเย่มองหน้ากันก่อนจะตอบกลับ  “ผู้อาวุโสพูดเกินไป!”
 
“ฮาฮา เจ้าทั้งสองทำให้ข้าหัวเราะ ข้าไม่ใช่ผู้อาวุโสสมาคมหลอมอีกต่อไปแล้ว” จงเซี่ยวเซี่ยวหัวเราะออกมา
 
เมื่อได้ยินที่จงเซี่ยวเซี่ยวพูด คังชือหลินและเทียนเย่ก็ยืนยันได้ว่า อัจฉริยะของสมาคมหลอมที่อาจจะเป็นผู้สืบทอดต่อจากหงจินเป่า ได้ออกจากสมาคมหลอมจริงๆและฐานะในอนาคตก็เป็นเหมือนกับพวกเขา
 
“เซียนหลอมบ้าไปแล้วรึ?” คังชือหลินและเทียนเย่ต่างก็ตะลึง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด