ตอนที่ 1482

อ่านนิยายจีนเรื่อง Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล ตอนที่ 1482 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

บทที่ 1482 – การชอบใครสักคนอาจเพียงแค่ช่วงสบตามอง แต่การตกหลุมรักจะคงอยู่ยาวนานไปตลอดชีวิต
หลังจากพูดจบ หญิงสาวปลดปล่อยเสน่ห์ของเธอออกมา เรือนร่างของเธอสง่างาม สมองของเฮยหลางเหลี่ยวยังคงปกติ แต่ตอนนี้ดวงตาของเขาเริ่มพร่ามัว ในขณะที่ผู้ชมทั้งหมดตกอยู่ในความงุนงง
ดวงตาของเฮยหลางเหลี่ยวค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดง ทันใดนั้นเขาก็ดึงเสื้อของชายหนุ่มข้างๆและกระชากลงไปที่พื้น เขาเริ่มจูบชายหนุ่มอย่างดุเดือด
ชายคนนั้นพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อขัดขืน แต่ความแข็งแกร่งของเขาน้อยกว่าเฮยหลางเหลี่ยว แรกเริ่มเขาตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทันทีหลังจากนั้นเขาก็ต่อสู้สุดกำลังแม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์ เสื้อท่อนบนของเขาถูกฉีกกระจุยเป็นชิ้นๆขณะที่เฮยหลางเหลี่ยวเล้าโลมร่างกายของเขา
เฮยหลางเหลี่ยวฟื้นสติอย่างฉับพลัน เมื่อเขาพบว่าตัวเองกำลังจูบชายคนหนึ่งอยู่ เขาก็อาเจียนออกมาทันทีก่อนที่จะกระแทกฝ่ามือสังหารชายที่น่าสงสารข้างล่างเขา
ทุกอย่างเงียบสงัด เงียบมากเสียจนอาจได้ยินเสียงเข็มหล่น ตระกูลหลินและตระกูลหยินมึนงงกับสิ่งที่เห็น หยินต่งเข้าใจแล้วว่าทำไมชิงสุ่ยถึงบอกว่าหญิงสายที่เขาแต่งงานด้วยเป็นผู้หญิงที่ดี
เคล็ดวิชาที่เธอฝึกฝนนับว่ายอดเยี่ยม เนื่องจากเฮยหลางเหลี่ยวจะใช้กำลังบังคับหลินเฟ่ย ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเธอผิดในการทำเช่นนี้
ผู้คนโดยรอบได้เรียนรู้ว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ใช่เด็กน้อยอย่างที่พวกเขาคิด นอกจากนี้พวกเขายังรู้สึกเวทนาเมื่อเห็นเฮยหลางเหลี่ยว
เฮยหลางเหลี่ยวอยู่ในความงุนงง ก่อนหน้านี้เขาเห็นว่าตัวเองกำลังเพลิดเพลินและแสดงความรักอยู่กับหลินเฟ่ยในห้อง มันไม่ควรจะผิดพลาดใดๆ เกิดอะไรขึ้น? เป็นไปได้ไหมที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้คือจินตนาการของเขามาตลอด?
เขายังไม่เคยแม้แต่จะจับมือกับเธอ?
“เจ้าทำให้ตระกูลหมาป่าทมิฬของพวกเราขายหน้า ข้าจะกวาดล้างตระกูลเจ้าให้สิ้นซาก” เฮยหลางเหลี่ยวพุ่งเข้าใส่หลินเฟ่ยและหยินต่งอย่างฉุนเฉียว
“วันนี้ ข้าไม่อยากเห็นการนองเลือดมากไปกว่านี้ รีบๆและไสหัวออกไปซะ อย่าให้ข้าต้องทำให้เจ้าเสียใจต่อการกระทำของตัวเอง” หยินต่งจ้องมองไปที่เฮยหลางเหลี่ยวขณะที่เขาพูด เฮยหลางเหลี่ยวเป็นคนที่น่าสงสารอย่างแท้จริง
ตอนนี้มีความกังวลใจปรากฏอยู่ในสายตาของใครหลายๆคนที่จ้องมองหลินเฟ่ย เธอทำให้ผู้ชายเป็นเหมือนของเล่น ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเฮยหลางเหลี่ยวเกิดขึ้นกับพวกเขา มันจะเป็นชะตากรรมที่เลวร้ายเสียยิ่งกว่าความตาย
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” หลังจากพูดเสร็จ เฮยหลางเหลี่ยวก็วิ่งหนีอย่างฉับพลัน
“ข้าอยู่ที่นี่แล้ว มีใครจากตระกูลหลินยังต้องการที่จะขึ้นมาอีกหรือไม่? ไม่มีการจำกัดอายุ เหล่าผู้อาวุโสสามารถขึ้นมาได้เช่นกัน ข้าหยินต่งจะยืนอยู่ที่นี่ ขอคำชี้แนะด้วย” หยินต่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน มันกังวาลไปทั่วบริเวณ
โดยธรรมชาติไม่มีทางที่คนรุ่นเยาว์จะกล้าขึ้นไป หยินต่งสามารถสังหารหลินชาได้ในการโจมตีเดียว แม้ว่าพวกเขาจะมีคนที่แข็งแกร่งกว่าหลินชา แต่การขึ้นไปก็เหมือนสร้างความอัปยศให้กับตัวเอง
คำพูดของหยินต่งหมายความว่าเขากำลังท้าทายคนทั้งตระกูลหลิน
“คุณชายสามช่างเป็นมังกรซ่อนเล็บที่แท้จริง ขอให้ชายชราผู้นี้ได้แลกเปลี่ยนความรู้สักเล็กน้อย” เสียงจางหายไป ชายชราคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นบนสนามประลอง
ชายชราคนนี้มีร่างกายที่ผอม เขาสูงและแข็งแรง ถึงแม้ผมและเคราของเขาจะมีสีขาว แต่การแสดงออกของเขาก็ดูสุภาพและร่าเริง
“ขอความกรุณาด้วย” หยินต่งไม่มีการแสดงออกอะไร
ชายชราสวมนิ้วมือเข้าไปในกรงเล็บที่ส่องสว่างสีเงิน เขาสร้างภาพติดตาและพุ่งเข้าใส่หยินต่ง
หยินต่งส่ายหัวเบาๆและพลิกตัวไปด้านข้าง
จิ้งจอกทะยาน!
ในขณะที่หยินต่งหลบ มือข้างหนึ่งของเขาเปลี่ยนเป็นอุ้งเท้าจิ้งจอกและคว้าไปที่ข้อมือของชายชรา ความเร็วอาจไม่มากนัก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ชายชรากลับไม่สามารถหลบได้
กร๊อบ!
ข้อมือของชายชราหัก ภาพเงาของหยินต่งปรากฏและปล่อยหมัดเข้าใส่ไหล่ของชายชรา
กร๊อบ!
ชายชราทรุดตัวลงกับพื้น แม้ว่าชีวิตของเขาจะไม่ตกอยู่ในอันตรายถึงตาย แต่พื้นฐานการฝึกตนของเขาก็หายไปจนสิ้น
คราวนี้ทุกคนตกใจมากอีกครั้ง ชายชราคนนี้คือหลินห่าว เป็นผู้ฝึกตนระดับปราณจักรพรรดิ อย่างไรก็ตามเขาพิการด้วยฝีมือหยินต่งเพียงไม่กี่กระบวนท่า
ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆจากผู้อื่น แต่การถกเถียงด้านล่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“พวกเจ้าคิดว่าคุณชายสามของตระกูลหยินมีพลังแค่ไหนกัน?”
“เขาแข็งแกร่งมากแม้ยังเยาว์วัย ถ้าหากเป็นข้า ข้าคงไม่มีทางยับยั้งชั่งใจได้เช่นนี้ ข้าจะส่งผู้ที่เยาะเย้ยข้าไปสู่สวรรค์ในทันที”
“ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เพราตระกูลหลินบังคับเขาในวันนี้ เขาอาจจะยังทำตัวเหมือนขยะที่ไร้ค่าต่อไป”
“ไม่มีทางที่จะเทียบกับเขาได้อย่างแน่นอน คุณชายสามแห่งตระกูลหยินไม่ได้แก่งแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูล เพราะเขาไม่ได้ใส่ใจกับมัน การสืบทอดตระกูลไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา เมื่อเขาเปิดเผยความแข็งแกร่งของตัวเองแล้วในตอนนี้ เขาอาจเลือกที่จะจากไป”
“ถูกต้อง ตระกูลหยินดูแลเขาได้แย่มาก แม่ผู้เป็นที่รักของเขาก็ได้จากไปแล้ว…”
……
ใบหน้าของชายชราคนหนึ่งจากตระกูลหยินแสดงถึงความเสียใจลึกๆในหัวใจ อัจฉริยะของตระกูลหยินกำลังจะหายไป
เขาลังเลใจ แต่การดูแลหยินต่งของตระกูลหยินนั้นเลวร้ายมากจริงๆ แม่ของหยินต่งถูกทารุณกรรมโดยภรรยาคนอื่นๆของผู้เป็นพ่อ แม้ว่าหยินต่งจะได้ทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นตายไปแล้ว เขาก็ยังคงไม่สามารถให้อภัยพ่อได้
นี่เป็นเพียงเรื่องที่เกิดจากฝีมือของหญิงสองสามคน แต่ชายวัยกลางคนกลับไม่สามารถจัดการกับพวกเธอได้ มันเป็นความล้มเหลว
ด้วยตำแหน่งผู้นำตระกูลในปัจจุบัน มันเป็นไปไม่ได้ที่ชายชราจะต้องรับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีใครจินตนาการได้ว่าอัจฉริยะที่แท้จริงจะมาเกิดขึ้นในตระกูลของพวกเขาและเขาคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหยินต่ง
หนึ่งคนจากตระกูลหลินตายขณะที่อีกคนหนึ่งพิการ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้พูดอะไรและสีหน้าซีดเผือดลง ไม่ว่าในกรณีใดๆ หลินเฟ่ยเป็นเพียงลูกสาวบุญธรรมของผู้อาวุโสในตระกูลเท่านั้น ผู้อาวุโสคนนั้นได้ตายไปแล้ว หลินเฟ่ยไม่เคยยอมรับว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหลิน…
“พวกท่านต้องการที่จะให้ข้าแสดงอะไรอีกหรือไม่? ข้าจะแต่งงานกับนางและไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลหลินของพวกท่าน” หยินต่งกล่าวขณะที่เขาจ้องมองคนจากตระกูลหลิน
ใบหน้าของผู้คนตระกูลหลินผสมปนเปไปด้วยสีเขียวและแดง แต่เนื่องจากพวกเขาอยู่พื้นที่ของตระกูลหยิน พวกเขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากลดศีรษะต่ำลง หลังจากนั้นทุกคนก็จากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นหยินต่งก็จ้องมองไปที่หลินเฟ่ย “ข้าไม่รู้ว่าจุดประสงค์ดั้งเดิมของเจ้าคืออะไรสำหรับการแต่งงานกับข้า แต่ตอนนี้ มันถึงเวลาแล้วที่เจ้าต้องเลือก”
หญิงสาวมองแปลกๆไปที่หยินต่ง เธอไม่ได้คาดคิดว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ จากนั้นไม่นานเธอก็กล่าวอย่างช้าๆ “ข้ารู้สึกเสียใจเล็กน้อยตอนนี้ พวกเรายกเลิกการแต่งงานได้หรือไม่?”
“ไม่!” หยินต่งยิ้ม
หลินเฟ่ยโกรธและจ้องมองเขา “แล้วทำไมเจ้าถึงยังถามอีกหล่ะ?”
“ข้าต้องให้โอกาสเจ้าในการตัดสินใจ เจ้าจะทำให้มันเสียเปล่าหรือ?”หยินต่งหัวเราะ
“เช่นนั้นข้ามีสิทธิ์ที่จะเลือกหรือ?”
“เมื่อเจ้าใส่ชุดแต่งงานในวันนี้ เจ้าได้เลือกมันแล้ว ข้าอยากแต่งงานกับเจ้า แม้หากชื่อเสียงของเจ้าไม่ดี ข้าก็ยังแต่งงานกับเจ้า อย่างไรก็ตามเจ้าไม่สามารถมีความสัมพันธ์อื่นใดกับใครได้อีกในตอนนี้” ความอดทนของหยินต่งนั้นมีไม่มากนัก
“เช่นนั้นเจ้าจะดูแลข้าเป็นอย่างดีหรือ?”
“แน่นอน ถ้าหากเจ้าเป็นผู้หญิงที่ดี”
ประโยคนี้ชัดเจนมาก ถ้าเธอเป็นภรรยาที่ดี เขาก็จะดูแลเธอเป็นอย่างดีตามสมควร
“แล้วเจ้าชอบข้าหรือ?” หลินเฟ่ยถามอย่างจริงจัง
“การชอบใครสักคนอาจเพียงแค่ช่วงสบตามอง แต่การตกหลุมรักจะคงอยู่ยาวนานไปตลอดชีวิต ตอนนี้ข้าเพียงแค่ชอบเจ้า แต่ข้าเชื่อว่าข้าต้องตกหลุมรักเจ้า” หยินต่งตอบอย่างจริงจัง
“ข้ามีความสุขมากที่ได้ยินเช่นนี้” เธอยิ้ม
ชิงสุ่ยไม่คาดคิดว่าหยินต่งจะกล่าวอะไรแบบนั้น เขาจดจำทุกคำเพื่อจะได้นำไปใช้ในอนาคต แม้ว่ามันจะฟังดูเชย มันก็เป็นความรู้สึกที่แท้จริงของหยินต่ง
งานแต่งดำเนินต่อไป มีทั้งผู้ที่มีความสุขมากและผู้ที่ไม่มีความสุขเลย อย่างไรก็ตามตอนนี้หยินต่งปิติยินดีอย่างแท้จริง สมาชิกในครอบครัวของเขาหลายคนร่วมแสดงความยินดีจากใจจริง
“ต่งเอ๋อ ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ข้าเองก็อายุมากขึ้นทุกวัน ดังนั้นตระกูลหยินคงต้องขอฝากไว้ในมือของเจ้า” ชายชราเหลือบมองผู้คนรอบข้างขณะที่เขายิ้ม
“ผู้อาวุโส มันยังเร็วเกินไป ข้ายังคงมีสิ่งที่ต้องการจะทำ ข้าไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานนัก” หยินต่งยิ้มขณะที่เขาส่ายหัว
“มันไม่สำคัญหรอก เมื่อเจ้ากลับมา สถานที่แห่งนี้ก็ยังเป็นบ้านของเจ้า” ชายชราตอบ
“ข้ามีสิ่งที่ต้องทำมากมาย บางทีข้าอาจไม่สามารถทำมันให้เสร็จสิ้นได้แม้จะหมดลมหายใจไป อันที่จริงข้าไม่รู้เลยว่าจะได้กลับมาเมื่อใด ข้าจะจากไปทันทีหลังจากวันนี้ ผู้อาวุโส พวกท่านดูแลตัวเองด้วย อย่าได้กังวลเกี่ยวกับตระกูลหลินหรือตระกูลหมาป่าทมิฬ” หยินต่งกล่าว
“เด็กเหม็นสาบ ตอนนี้เจ้าคงจะย่ามใจมาก เจ้ากล้าพูดกับผู้อาวุโสเช่นนี้ได้อย่างไร? ข้าขอสั่งให้เจ้าอยู่ที่ตระกูลหยิน” ชายวัยกลางคนที่กำลังจะเข้าสู่วัยชราตะโกนเสียงดังขึ้น
“เด็กเหลือขอ ใครบอกให้เจ้าพูดกัน?” ชายชราไม่รีรอให้หยินต่งตอบ ขณะที่เขาตะคอกใส่ชายวัยกลางคน
ชายวัยกลางคนไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพ่อของหยินต่ง โดยปกติแล้วเขาไม่สนใจเรื่องของหยินต่งและในความเป็นจริงเขาเกือบจะลืมไปแล้วว่าเขามีลูกชายคนหนึ่งเสียด้วยซ้ำ ตอนนี้เขาต้องการพูดในฐานะผู้เป็นพ่อ แต่เขายังมีคุณสมบัติที่จะทำเช่นนั้นหรือไม่?
“เจ้ายังจำท่านแม่ได้อยู่หรือไม่? ถ้าเจ้าสามารถทำให้ท่านแม่ฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง เจ้าจะตะโกนใส่ข้าอย่างไรก็เชิญ” หยินต่งดึงหลินเฟ่ยเข้ามาและเดินไปหาชิงสุ่ย
“ฮึ ข้าอยากตบเจ้าให้ตายเสียจริงๆ” ชายวัยกลางคนถอนหายใจ
……………..
โต๊ะของชิงสุ่ยมีเพียงเขาคนเดียวที่นั่งอยู่ เมื่อหยินต่งและหลินเฟ่ยมาถึง คนอื่นๆก็สังเกตเห็นมัน ก่อนหน้านี้หยินต่งคุยกับชายหนุ่มคนนี้ก่อนงานแต่งงานของเขา
“ขอบคุณ!” หยินต่งหัวเราะขณะที่เขามองไปที่ชิงสุ่ย
หลินเฟ่ยก็ยิ้มด้วยเช่นกัน
“ข้ารู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่บังเอิญมาก วันนี้เป็นวันแรกที่ข้ามาถึงมหาทวีปอุดรเทวาและข้าได้พบกับผู้สืบทอดแห่งจิ้งจอกเทวะ” ชิงสุ่ยยิ้มให้
“นี่เป็นวันแรกที่เจ้ามาที่มหาทวีปอุดรเทวางั้นหรือ?” หยินต่งจ้องชิงสุ่ยด้วยความประหลาดใจ สถานที่แห่งนี้ไม่ได้อยู่แถบชายแดนของมหาทวีปอุดรเทวา มันถือได้ว่าอยู่ที่จุดศูนย์กลางของทวีป สัตว์อสูรบินได้ชนิดใดกันที่มีพลังมากเสียจนสามารถเดินทางมาได้ไกลเช่นนี้
“ถูกต้อง ข้ามีวิธีการพิเศษบางอย่าง”
“เจ้าได้รับมรดกของเทพสงครามหรือเป็นลูกหลานของเขางั้นหรือ?” หยินต่งยิ้มขณะที่เขาเติมสุราทั้งสามถ้วยของพวกเขา
“ข้าก็เหมือนกับท่านที่ได้รับมรดกมา ความปรารถนาสุดท้ายของจิ้งจอกเทวะคืออะไรหรือ?” ชิงสุ่ยยกถ้วยสุราขึ้นและดื่มอวยพรพวกเขาขณะถาม
“ท่านขอให้ข้าช่วยให้เทพสงครามกลับมารุ่งเรืองเหมือนในอดีต อย่างไรก็ตามแม้พวกเราสองคนจะช่วยกัน มันก็ยังไม่อาจบรรลุได้ ในมหาทวีปอุดรเทวา มีอสูรและราชันย์ปีศาจหลายตน พวกเราต้องการกำลังคน” หยินต่งตอบ
“ข้าได้พบผู้สืบทอดแห่งกระบี่มังกรเทวะแล้ว รวมทั้งเจ้าก็ด้วย มันอาจต้องใช้เวลา ตอนนี้พวกเราต้องค้นหาผู้สืบทอดของเทพสงครามก่อน หลังจากนั้นพวกเราจะรวมตัวกันและหารือถึงวิธีจัดการกับพวกมัน”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด