ตอนที่ 1361

อ่านนิยายจีนเรื่อง Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล ตอนที่ 1361 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย
https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique
บทที่ 1361 – ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 4 เสร็จสิ้น ธงสวรรค์ปัญจธาตุไปถึงระดับที่ 3
 
ชิงสุ่ยได้เตรียมสมุนไพรต่างๆเอาไว้แล้ว เขายังคงจำความล้มเหลวครั้งที่แล้วได้แม้ว่าตอนนั้นเขาจะใช้หญ้าอสรพิษทองคำด้วยก็ตาม แต่ในครั้งนั้นเหตุผลที่ใหญ่ที่สุดของการล้มเหลวคือคุณภาพของสมุนไพรที่เขาใช้นั้นไม่ดีพอ
 
ในตอนนี้เขามีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น แต่เขาก้ยังคงมีความรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เขาทำความสะอาดส่วนประกอบของยาทุกๆอย่างจากนั้นก็นอนพักครู่หนึ่งเพื่อให้สภาพร่างกายของเขาอยู่ในระดับที่พร้อมที่สุดจากนั้นเขาก็เริ่มขั้นตอนการปรุงยานี้
 
เมื่อการปรุงยาเริ่มต้นขึ้นทุกๆสิ่งที่เป็นไปได้อย่างราบรื่นกว่าครั้งที่แล้ว แต่ในครั้งนี้ชิงสุ่ยตระหนักว่าการปรุงครั้งนี้ยานี้อาจใช้เวลานานและอาจยาวนานกว่าครั้งที่แล้วกว่า 10 เท่า
 
เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลงและกำลังจะเปลี่ยนเป้นวันถัดไปหม้อกลั่นยาเหล็กทองคำประกายเพลิงก็มีเสียงที่กระจ่างใสดังขึ้น มันกังวาลอย่างยิ่ง นี่แสดงให้เห็นว่าความพยายามตลอด 2 วันที่ผ่านมาของเขานั้นล้มเหลว
 
 
แม้ว่าเขาจะล้มเหลวแต่ชิงสุ่ยก็ยังรู้สึกมีความสุข เป็นเพราะดูเหมือนเขาจะสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกนี้ได้เป็นอย่างดี
 
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและกลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง เวลาผ่านพ้นไปเรื่อยๆกและชิงสุ่ยได้ควบคุมเปลวเพลิงของเขาได้อย่างชำนาญ ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี
 
ตุบ!
 
ในวันที่ 3 เสียงที่คุ้นเคยก็ดังออกมาอีกครั้ง แม้ว่าชิงสุ่ยจะรู้ว่าความสำเร็จของมันนั้นจะไม่สูงนักแต่เขาก็รู้สึกไม่มีความสุขเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงนี้ เขาเสียเวลาเปล่าไป 3 วันแล้ว
 
หลังจากได้พักผ่อนและทานอาหารชิงสุ่ยก็เริ่มใหม่อีกครั้ง เขาคิดว่าตนเองนั้นถือเป็นคนประเภทดื้อรั้นในการทำบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่อาจทำได้สำเร็จหรือเขาไม่อาจยอมรับมันได้ เมื่อเขาล้มเหลวซ้ำๆและเวลาที่ใช้นั้นก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งก็เสียเวลาไปครึ่งชั่วโมงแต่บางครั้งก้เสียเวลาไปหลายวัน เขาเตรียมสมุนไพรต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ชิงสุ่ยไม่มีทางเลือกทำได้เพียงแต่ต้องเตรียมวัตถุดิบต่างๆเท่านั้น มันคงเป็นเรื่องโกหกหากเขาจะบอกว่าเขาไม่ได้สูญเสียแต่อย่างใดเพราะสมุนไพรแต่ละอย่างนั้นล้ำค่าอย่างยิ่ง
 
5 วัน! 6 วัน!
 
หลังจากที่ล้มเหลวต่อเนื่องมาหลายครั้ง นี่ก็ผ่านไปกว่า 6 วันแล้วที่ชิงสุ่ยพยายามทำมัน เขาทำได้เพียงกัดฟันและทำมันต่อไปเรื่อยๆ หากเกิน 7 วันไปเขาคงหยุดเพียงแค่วันที่ 9 เท่านั้น เพราะหากต้องล้มเหลวต่อไปอีกเขาเองก็คงต้องยอมแพ้
 
7 วัน!
 
ติ๊ง!
 
หลังจากที่ล้มเหลวมามากกว่า 10 ครั้งในที่สุดชิงสุ่ยก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย มันเป็นเสียงที่เสนาะหูอย่างยิ่งและชิงสุ่ยก็รู้สึกดีใจเหลือเกิน เพราะเขาล้มเหลวมาหลายครั้ง หากเขายังคงล้มเหลวอีกเวลาภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะคงจะหมดไป โชคดีที่เขาสำเร็จในครั้งสุดท้ายที่ทำ
 
ชิงสุ่ยไม่อาจทนรอได้และเปิดหม้อกลั่นยาเหล็กทองคำประกายเพลิงออกและพบยาเม็ดสวรรค์หยางที่เปร่งประกายสีทองอยู่ภายในนั้น ขนาดของมันนั้นยังคงเท่าเดิมแต่สีและจิตแห่งปราณของมันนั้นเข้มยิ่งขึ้น
 
ชิงสุ่ยไม่อาจทนรอด้วยและตรวจสอบมันด้วยเคล็ดวิชาเบิกเนตรสวรรค์
 
ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 4!
 
ผล: ปรับปรุงร่างกายครั้งใหญ่ เพิ่มพลังพื้นฐานได้ 1 สุริยากรือพลังทั้งหมดได้ 100 สุริยา มีผลที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่จุดตันเถียน เส้นลมปราณ และอวัยวะภายใน
 
มนุษย์แต่ละคนสามารถกินมันได้ 1 เม็ดต่อปีและกินได้ไม่เกิน 10 ครั้งต่อคน ไม่เกี่ยวข้องกับยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 1 ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 2 และยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 3
 
ข้อกำหนดเบื้องต้น: ผู้ที่ใช้ยานี้ต้องมีพลัง 100 สุริยาหรือมากกว่านั้น
 
มีผลพิเศษสำหรับผู้ที่มีร่างกายที่เป็นเอกลักษณ์ ผลนั้นจะเกี่ยวข้องกับร่างกายของแต่ละบุคคล
 
ชิงสุ่ยเก็บยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 4 เอาไว้ เขาไม่เหลือเวลาพอที่จะลองใช้มันเพราะตอนนี้เวลาของดินแดนหยกยุพราชอมตะได้หมดลงแล้ว เขาต้องอาบน้ำและเตรียมตัวที่จะออกไป
 
ในตอนนี้คนอื่นๆเริ่มที่จะทานอาหารเย็นกันแล้ว ชิงสุ่ยก็คิดถึงเรื่องเวลานี้แล้วเช่นกันดังนั้นเขาจึงไม่ได้ทานอาหารในดินแดนหยกยุพราชอมตะ เพราะที่หอคอยจักรพรรดินั้นไม่เคยขาดอาหารอยู่แล้ว
 
“ชิงสุ่ย มาช่วยข้าเอาอาหารออกไปหน่อย” เมื่อหยวนสู่เห็นชิงสุ่ยนางก็ยิ้มและโบกมือ
 
ชิงสุ่ยตามนางเข้าไปยังห้องครัว มีอาหาร 4 จานและซุป 1 ถ้วย มี 2 จานที่เป็นจานเนื้อและอีก 2 จานเป้นจานผัก ยังมีถาดของซาลาเปาหยกและขวดสุราด้วยเช่นกัน ชิงสุ่ยมองไปยังหยวนสู่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น “หืม? มีโอกาสอะไรงั้นหรือวันนี้?”
 
มันไม่ได้หรูหรามากมายแต่อย่างใดแต่ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่าง ด้วยความรู้สึกนี้เขาจึงถามขึ้นมา
 
“วันนี้เป็นวันเกิดของข้า เพราะเจ้ากับมาจึงได้ร่วมฉลองวันเกิดกับข้า ทุกๆปีข้าจะฉลองวันเกิดคนเดียวเสมอ” หยวนสู่ยิ้มและกล่าวขึ้น
 
ชิงสุ่ยตกตะลึงจากนั้นก็ยิ้มและกล่าวขึ้น “สุขสันต์วันเกิด”
 
“ขอบคุณ!”
 
จากนั้นชิงสุ่ยก็นำต่างหูสีม่วงที่เป็นรูปดอกหงส์ฟู่ออกมาคู่หนึ่ง เขายื่นมันให้แก่หยวนสู่ “ข้าไม่ได้เตรียมสิ่งใดเอาไว้ ข้าจึงของมอบสิ่งนี้ให้แก่เจ้า”
 
“เพียงแค่เจ้ากลับมาและฉลองวันเกิดกับข้า ข้าก็มีความสุขมากแล้ว เจ้าช่วยข้าได้ในเรื่องนี้ ข้าไม่สะดวกที่จะรับมันในตอนนี้เพราะข้ากำลังถือจานอยู่” หยวนสู่เดินออกไปและเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้นางอยู่ห่างจากชิงสุ่ยเพียงระยะก้าวเท้าเท่านั้น
 
แม้ว่าจะมีกลิ่นของอาหารที่ลอยเข้ามาชิงสุ่ยก็ยังสามารถได้กลิ่นจางๆของนาง ใบหน้าอันอ่อนโยนและไร้ตำหนิของนางราวกับเชิญชวนให้เขาไปสัมผัส ริมฝีปากอันเย้ายวนขอฃนางและดวงตาอันสงบนิ่งและกระจ่างใสของนางมองไปยังชิงสุ่ยโดยไม่กระพริบตา
 
ชิงสุ่ยยิ้มและค่อยๆรวมปอยผมของนางไปไว้หลังใบหูเผยให้เห็นใบหูอันงดงามของนาง จากนั้นเขาก็สวมต่างหูสีม่วงคู่นี้ไปยังใบหูที่งดงามของนาง ต่างหูสีม่วงทำให้นางดูสง่างามยิ่งขึ้น ดอกหงส์ฟู่นั่นช่างเหมาะสมกับนางอย่างยิ่ง
 
“มันดูเป็นเช่นไรบ้าง?” หยวนสู่มองไปยังชิงสุ่ยและยิ้มพร้อมกับถามขึ้น
 
“งดงามอย่างยิ่ง!” ชิงสุ่ยพยักหน้าและกล่าวขึ้น
 
“ขอบคุณ!” หลังจากกล่าวเช่นนี้หยวนสู่ก็จุมพิตไปที่ริมฝีปากของชิงสุ่ยและรีบหนีออกไปจากห้องครัวทันที
 
ชิงสุ่ยรับรู้ได้ถึงคสามอ่อนนุ่มของริมฝีปากของนางก่อนหน้านี้ มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแต่เขาก็รู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจน แม้เพียงสัมผัสช่วงสั้นๆแต่เขาก็ยังคงคิดถึงมัน
 
ชิงสุ่ยไม่ได้ติดใจอะไรกับความรู้สึกนี้แต่สงสัยว่าหยวนสู่ทำเช่นนี้หมายความว่าอะไร จากนั้นเขาก็หยิบจานอีก 2 ใบที่เหลือขึ้นมาและเดินตามนางออกไป
 
การฉลองวันเกิดของโลกนี้คล้ายคลึงกับโลกก่อนหน้านี้ของเขา ที่นี่ไม่มีเทียนแต่มีหินแสงสว่างแทน ผู้คนก็อธิฐานขอพรเช่นกันโดยเฉพาะเหล่าหญิงสาว ผู้ชายส่วนใหญ่จะข้ามเรื่องนี้ไป
 
หยวนสู่ยังคงทำตัวเหมือนปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
 
นางประกบฝ่ามือทั้ง 2 ข้างเข้าด้วยกันพร้อมกับปิดตาและอธิฐาน ขนตายาวของนางเป็นแพหนา มันทำให้นางนั้นดูเย้ายวนใจอย่างยิ่ง
 
ชิงสุ่ยไม่ได้ถามว่าหยวนสู่นั้นขออะไร เพราะอย่างน้อยในตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน หากนางเป็นหญิงสาวของเขา เขาคงจะถามไปแล้ว “ชิงสุ่ย ข้ามีความรู้สึกว่าเจ้าคงไม่อาจอยู่ที่นี่ได้อีกนานนัก” หยวนสู่มองไปยังชิงสุ่ยด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
 
สายตาของนางที่มองไปยังชิงสุ่ยดูหวั่นไหวเล็กน้อย แต่เมื่อชิงสุ่ยได้เห็นมันเขาก็แอบเห็นความโดดเดี่ยวที่อยู่ในสายตาของหยวนสู่ มันคงอยู่เพียงครู่เดียวเท่านั้นและหยวนสู่ก็รีบกลับมาเป็นปกติที
 
“ข้ายังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลย ข้าอาจจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกสักหน่อยและรอจนกว่าจะสามารถยกระดับไปยังระดับพลังปราณบรรชาสวรรค์พินาจ”
 
หยวนสู่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ชิงสุ่ยปฏิเสธไม่ได้ว่านางทำให้เขามาถึงระดับนี้ได้อย่างรวดเร็ว อย่างน้อยที่สุดนางก็เคยช่วยเหลือเขามาหลายครั้ง
 
หยวนสู่ยิ้มและไม่ได้พูดอะไรออกมา นางรินสุราออกมา 2 แก้วสำหรับชิงสุ่ยและสำหรับตัวนางเอง
 
“พี่สาวสู่ มาชนแก้วกันเถอะ ข้าขอให้ท่านเยาว์วัย สง่างาม และมีความสุขตลอดไป”
 
“ขอบคุณ!”
 
“มาเถอะ มาลองชิมอาหารที่ข้าทำเอง ข้าไม่ได้ใช้เครื่องเทศใดๆ” หยวนสู่คีบอาหารมาให้ชิงสุ่ย
 
อาหารพวกนี้ช่างอร่อยยิ่งนัก การกินอาหารคือสิ่งที่ทำให้เกิดอารมณ์แห่งความสุขมากที่สุดและชิงสุ่ยก็หิวอย่างยิ่งในตอนนี้ เขารู้สึกว่ามันยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง การทำให้อาหารให้มีหน้าตาที่น่ากินช่วยให้ความเจริญอาหารนั้นมีมากยิ่งขึ้น
 
มื้ออาหารนี้กินเวลากว่า 3 ชั่วโมงและพวกเขา 2 คนก็ได้พูดคุยกันมากมาย
 
แต่พวกเขาไม่ได้ใส่อารมณ์มากเกินไปหรือพูดอะไรที่สนิทกันเกินไป หยวนสู่มีความสุขอย่างยิ่ง นางดูมีความสุขอย่างยิ่งในตอนนี้
 
“มันดึกมากแล้ว พี่สาวสู่ ท่านไปพักผ่อนเถอะ ข้าหวังว่าท่านจะหลับฝันดี” ชิงสุ่ยยืนขึ้น พวกเขาอยู่ในห้องรับแขกของหยวนสู่ มีห้องคู่อยู่ที่ชั้นห้าและห้องโถงก็เหมือนทางเดิน
 
หยวนสู่ส่งชิงสุ่ยออกไปและในตอนที่ประตูปิดลง หยาดน้ำตาก็ไหลรินอาบแก้มของนาง นางไม่ได้ตระหนักเลยว่าตนเองได้หลงรักชายหนุ่มผู้นี้ในปีที่ผ่านมา นางเป็นหญิงสาวที่รักนวลสงวนตัวและจุมพิตที่นางมอบให้แก่เขาก่อนหน้านี้และการใช้เขาสวมต่างหูให้นั้นก็เป็นการยั่วยวนเขา
 
เขาไม่ได้ชอบข้า…
 
ในตอนนั้นหยวนสู่รู้สึกว่างเปล่าอย่างยิ่งและยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง นางเป็นหญิงสาวที่มั่นใจในตนเองและแม่ว่านางจะไม่ได้ฝึกยุทธในอดีตแต่นางก็ยังไม่ได้มีคู่ครองใดๆ เพราะนางไม่เคยรู้สึกเช่นนี้กับใครมาก่อน
 
ครั้งนี้แม้ว่าจะอยู่ในมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำมันก้ทำให้นางรู้สึกว่าไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรดี เพียงแต่หลังจากที่นางที่ได้พบกับชิงสุ่ยนางก็รู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง เมื่อเวลาผ่านไปนางไม่รู้ว่าความรู้สึกเช่นนี้มันพัฒนาขึ้นตั้งแต่เมื่อใด
 
แต่ในตอนนี้นางมีความรู้สึกว่าชิงสุ่ยไม่ได้ชอบนางหรือไม่ได้สนใจนาง
 
นางรู้สึกขมขื่นเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกเจ็บปวดแต่นางก็ยังรู้สึกว่ามันน่ากลัวอย่างยิ่ง
 
นางไม่ได้หวังที่จะสารภาพเรื่องนี้กับชิงสุ่ย นางกลัวการปฏิเสธของเขา และยังคงปล่อยมันให้เป็นเพียงความคาดหวังของนาง นางทำได้เพียงทิ้งมันไว้ให้เป็นความฝันที่ไม่อาจไขว่คว้าได้!
 

 
ชิงสุ่ยกลับไปที่ห้องของเขาและไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ว่าการกระทำก่อนหน้านี้ของหยวนสู่จะดูแปลกประหลาดไปนัก อาจเป็นเพราะสถานการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อตอนที่พวกเขาอยู่ในทั้ง 5 มหาทวีป ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดอะไรมากในเรื่องนี้
 
เมื่อเข้าไปยังดินแดนหยกยุพราชอมตะ ชิงสุ่ยก็ยังคงฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ…
 
การฝึกฝนในครั้งนี้ทำให้มีเขามีรอยยิ้มขึ้นมา ธงสวรรค์ปัญจธาตุที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นเวลานานได้ยกระดับขึ้น ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นและรีบตรวจสอบมันอย่างรวดเร็ว มันกะทันหันอย่างยิ่ง
 
ธงสวรรค์ปัญจธาตุ (ตัวส่ง)!
 
ระดับที่ 3 สามารถปรับเปลี่ยนได้ด้วยโลหิตแก่นแท้ 3 ครั้งต่อวัน ในตอนนี้สามารถปักจุดหมายได้ 3 จุดบนแผนที่ของธงสวรรค์ปัญจธาตุ จำนวนยจุดหมายนั้นสามารถเพิ่มขึ้นได้ตามระดับของธง ผู้ใช้สามารถเคลื่อนที่ไปมาระหว่างตำแหน่งที่ปักเอาไว้ได้ มันสามารถใช้เดินทางได้ 1 ครั้งต่อเดือน
 
สถานะ: จดจำการเป็นเจ้าของแล้ว!
 
มันสามารถใช้ด้วยกันกับธงสวรรค์ปัญจธาตุ (ตัวรับ) ในการเดินทางไปมาระหว่างจุด 2 จุดโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวคือใช้ได้เฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าของทั้ง 2 คนของธงสวรรค์ปัญจธาตุเท่านั้น!
 
ในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถตั้งตำแหน่งได้ 3 แห่ง เขาเข้าไปยังช่องว่างของธงสวรรค์ปัญจธาตุ สำหรับตำแหน่ง 2 ตำแหน่งก่อนหน้านี้เขาวางไว้ที่มหาทวีปธรรมไตรและศูนย์กลางของมหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ
 
ชิงสุ่ยยังไม่รู้ว่าเขาจะตั้งตำแหน่งที่ 3 ตรงไหนดี เขาไม่รู้ว่าธงสวรรค์ปัญจธาตุของอี่หวง กู่หวู๋นั้นได้ยกระดับขึ้นหรือยังในตอนนี้
 
เพราะเวลาที่เขาใช้ในการยกระดับไประดับที่ 2 นั้นเป็นเวลาเพียงประมาณ 1 ปี ชิงสุ่ยก็ไม่ได้ยกระดับไประดับที่ 3 เลยตลอดทั้งปี เมื่อเขาเห็นว่าเขาสามารถตั้งตำแหน่งตรงไหนได้เขาก็ตะลึงอีกครั้ง
 
มหาทวีปอุดรเทวา!
 
ตอนแรกเขาคิดจะวางมันเอาไว้ที่ทางแยกของทั้ง 3 มหาทวีปแต่ตอนนี้เขามีความคิดใหม่แล้ว มหาทวีปอุดรเทวานั้นกว้างใหญ่เกินไป หากเขาวางเอาไว้ตรงจุดตัดของมหาทวีปอุดรเทวา มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ และมหาทวีปมังกรอหังกาล มันย่อมเป็นการสูญเปล่าเกินไป
 
นี่เป็นเพราะเขารู้สึกว่าตำแหน่งที่ 2 ของอี่หวงนั้นน่าจะวางเอาไว้ที่ กู่หวู๋มหาทวีปมังกรอหังกาล ดังนั้นไม่จำเป็นที่เขาจะต้องไปวางที่จุดตัดกันระหว่างมหาทวีปอุดรเทวา มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ และมหาทวีปมังกรอหังกาล
 
นี่คือความคิดของชิงสุ่ยในตอนนี้ เขาจะต้องไปยังมหาทวีปอุดรเทวาไม่ช้าก็เร็ว เมื่อถึงตอนนั้นรองเท้า 9เทวาของเขาก็ควรจะยกระดับขึ้นแล้วเช่นกัน ดังนั้นชิงสุ่ยจึงตัดสินใจตั้งตำแหน่งที่ 3 เอาไว้ที่ใจกลางของมหาทวีปอุดรเทวาอันกว้างใหญ่
 
ด้วยธงสวรรค์ปัญจธาตุที่ยกระดับสูงขึ้นพร้อมกับอี่หวง กู่หวู๋ เขาจะสามารถเคลื่อนที่ไปที่ต่างๆในโลก 9 มหาทวีปได้ตามที่เขาต้องการ แต่เขาไม่รู้ว่าความคิดนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้งหรือไม่เมื่อธงสวรรค์ปัญจธาตุได้ยกระดับขึ้นอีกครั้งในอนาคต

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด