ราชันเร้นลับ 933 : จุดร่วมของวิญญาณมาร
ผ่านไปสักพัก เลียวนาร์ดกระแอมในลำคอพลางยิ้ม มันลดเสียงลงและพูด“ตาแก่… ข้อเสนอของไคลน์… ฟังดูไม่เลวเลยนะ… เข้าท่ามาก… ผลลัพธ์ของยันต์น่าจะยอดเยี่ยมพอสมควร ลองคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดูก่อนไหม? ไม่ใช่ว่าคุณเคยพูดหรือ ว่าจะช่วยผมแก้แค้นอย่างเต็มที่… ฮะฮะ… เคยคิดว่าหนอนกาลเวลาจะทำได้แค่การสร้างร่างโคลนและคอยสนับสนุน…”มันพรั่งพรูออกมาโดยไม่รู้ตัว ส่วนพาลีส·โซโรอาสเตอร์ยังคงนิ่งเงียบ ก่อนจะถอนหายใจหลังจากผ่านไปสักพัก“สำหรับตอนนี้ ข้าสามารถให้ ‘หนอนกาลเวลา’ ได้มากที่สุดแค่สองตัว”โดยไม่รอให้เลียวนาร์ดพูด พาลีสเสริมอีกสองประโยค“หากต้องการล้างแค้นกับครึ่งเทพที่มีสมบัติปิดผนึกระดับ 0 สิ่งสำคัญที่สุดคือความแข็งแกร่งและระดับพลังของตัวเอง ไม่อย่างนั้น ถึงจะพกพายันต์คุณภาพสูงสักเพียงใด แต่ถ้าไม่มีโอกาสได้ใช้ก็เปล่าประโยชน์”เลียวนาร์ดหุบยิ้มเล็กน้อย กล่าวหน้านิ่ง“ผมจะพยายามย่อยโอสถ… ถ้าย่อยโอสถเสร็จเมื่อไร ถึงคะแนนผลงานจะไม่เพียงพอ แต่ผมก็มีช่องทางส่วนตัวสำหรับตามหาวัตถุดิบหลักของจอมอาคมวิญญาณ”การที่มี ‘หนอนกาลเวลา’ เพียงสองตัว เลียวนาร์ดมิได้ผิดหวัง ตามความเห็นของมัน สองตัวถือเป็นกำไร การมีแค่ตัวเดียวก็นับว่าโชคดีมากแล้ว ยิ่งมีสองตัวจะยิ่งหมายถึง มันและไคลน์สามารถแบ่งกันคนละตัวหลังจากแสดงทัศนคติของตัวเอง มันถามด้วยความสงสัย“ตาแก่… สำหรับหนอนกาลเวลาตัวที่แล้ว คุณคิดว่าไคลน์นำไปสร้างเป็นยันต์ไหม?”มันยังจำได้แม่น ย้อนกลับไปในอดีต เพื่อจะหาว่าเอ็มลิน·ไวท์มาซื้อสมบัติวิเศษให้ใคร พาลีสได้ใส่หนอนกาลเวลาไว้ในถุงมือ ‘อินธน์’ แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อ ไม่มีข้อมูลใดถูกส่งกลับมาอีกเลย จนกระทั่งในภายหลัง เลียวนาร์ดสืบจนทราบว่าเอ็มลิน·ไวท์และเชอร์ล็อก·โมเรียตี้ค่อนข้างสนิทกัน ทำให้สามารถอนุมานได้ว่า หนอนกาลเวลาตัวดังกล่าวถูกจัดการโดยเบื้องบนขององค์กรลับที่เชื่อในเดอะฟูล หรืออาจเป็นฝีมือของเดอะฟูลเองด้วยซ้ำ และมีความเป็นไปได้มากที่ศพหนอนกาลเวลาจะถูกมอบให้ไคลน์ ไม่อย่างนั้น อดีตเพื่อนร่วมงานของตนคงไม่ทราบถึงการมีอยู่ของหนอนกาลเวลาพาลีส·โซโรอาสเตอร์เหยียดหยันในลำคอ“ถ้ายังไม่เคยใช้และเห็นผลลัพธ์ด้วยตัวเอง ทางนั้นคงไม่เป็นฝ่ายออกปากขอเพิ่มแบบนี้”“ก็ได้… ข้าจะแยกหนอนกาลเวลาให้ นั่นจะส่งผลให้หลับไปอย่างน้อยสองสัปดาห์ หากมีคำถามก็หาคนตอบเอาเอง”กล่าวจบ มันไม่เปิดโอกาสให้เลียวนาร์ดถาม พาลีสแผ่พลังวิญญาณ สร้างก้อนแสงที่ ‘ลอย’ อยู่ภายในใจเลียวนาร์ด ราวกับบอกเป็นนัยว่าไม่ต้องการพูดอะไรเลียวนาร์ดหัวเราะแห้ง กลับมาสนใจจดหมายที่ไคลน์·โมเร็ตติส่งมาให้ อ่านซ้ำอย่างระมัดระวังถูกวิญญาณมารเข้าสิง… ต้องสืบหาต้นกำเนิดและจุดประสงค์ของวิญญาณมาร…เราแทบไม่มีข้อมูลของวิญญาณมารเลย สมองขาวโพลนอย่างมาก…ครุ่นคิดอยู่หลายนาที เลียวนาร์ดล้วงหยิบกล่องไม้ขีด เผากระดาษจดหมาย จากนั้นก็ออกจากห้องพักชั่วคราวที่ได้รับการจัดสรรจากเหยี่ยวราตรีท้องถิ่น เดินไปในแนวเฉียงและใช้นิ้วเคาะประตูห้องเพียงไม่นาน ดาลีย์·ซิโมเน่ซึ่งยังไม่ได้ลบขอบตาและปัดแก้มสีฟ้า เปิดประตูออกมาพลางเลิกคิ้ว“ตั้งแต่เมื่อไรกันที่ผู้ไร้หลับกล้ามาเคาะประตูห้องนอนสตรีในยามวิกาล?”“แฮ่ม… ผมมีเรื่องอยากปรึกษา” เลียวนาร์ดไม่กล้าเล่นไปตามเกมของดาลีย์ รีบแสดงจุดยืนทันทีดาลีย์ชำเลืองอีกฝ่ายหัวจรดเท้า ยิ้มและตอบ“ฉันไม่มีหน้าที่ต้องให้คำปรึกษาไก่อ่อน”กล่าวจบ หญิงสาวฉากหลบให้ เป็นนัยอนุญาตให้เลียวนาร์ดเข้าไปในห้องโดยไม่กล้ามองไปรอบๆ มันมุ่งตรงไปทางเก้าอี้และนั่งลงทันที กล่าวเข้าประเด็น“มาดาม ผมต้องการข้อมูลของวิญญาณมาร… คุณเป็นถึงลำดับ 5 ของเส้นทางมรณา สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลสูงกว่าผม ย่อมรู้มากกว่าผม”“แล้วทำไมถึงมาถามฉัน” ดาลีย์กล่าวพลางนำมือวางลงบนขอบโต๊ะยังไม่ทันที่เลียวนาร์ดจะตอบ เธอพึมพำ“วิญญาณมารโดยส่วนใหญ่เกิดจากการตายของผู้วิเศษลำดับสูง มีส่วนน้อยที่พัฒนาจากวิญญาณอาฆาตซึ่งสามารถพัฒนาข้ามขีดจำกัดด้วยหลากหลายเงื่อนไข… กรณีแรกสามารถพบเห็นได้ทั่วไป หลังจากผู้วิเศษลำดับสูงดื่มโอสถและได้รับครอบครองเศษเสี้ยวความเป็นเทพ ร่างวิญญาณจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับแก่น ส่งผลให้แม้พวกมันจะตายไป หรือไม่ก็สูญเสียพลัง แต่ร่างวิญญาณจะยังคงอยู่ อาจมีออร่าของเทพเจือปนอย่างเบาบาง ส่งผลให้น่าสะพรึงกลัวมาก ซึ่งกรณีหลังก็ไม่ต่างกันในเชิงโครงสร้างและหลักการ… ตามปรกติแล้ว วิญญาณมารจะค่อยๆ อ่อนแอลงเมื่อเวลาผ่านไป จนกระทั่งสลายตัวโดยสมบูรณ์ ทว่า พวกมันสามารถหลอมรวมกับสถานที่ที่ถือกำเนิดขึ้น แถมยังเปลี่ยนให้โลกวิญญาณ หรือกระทั่งโลกแห่งความตาย หลอมรวมเข้าด้วยกันในสถานที่ดังกล่าว จากนั้นก็ดึงพลังออกมาใช้เพื่อคงสภาพ… ด้วยเหตุนี้ วิญญาณมารจำนวนมากจึงมี ‘อาณาเขต’ ค่อนข้างจำกัด ไม่ใช่ว่าพวกมันไม่ต้องการไปที่อื่น แต่ทำไม่ได้ต่างหาก ข้อยกเว้นเดียวก็คือ ต้องสั่งสมพลังจนถึงระดับที่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างของระดับตัวตน”เลียวนาร์ดไขว่ห้างขวาทับซ้าย ถามอย่างครุ่นคิด“วิญญาณมารสามารถออกจาก ‘อาณาเขต’ ด้วยการสิงร่างมนุษย์ได้ไหม?”“ทำได้ แต่คนธรรมดาและผู้วิเศษส่วนใหญ่มิอาจต้านทานภาระที่วิญญาณมารสร้างแก่ร่างกาย พลังวิญญาณจะรั่วออกจากร่างอย่างรวดเร็ว อุณหภูมิร่างกายลดลง มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน” ขณะพูด ดาลีย์ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “วิธีที่ดีที่สุดจึงเป็นการสิงร่างผู้วิเศษเส้นทาง ‘มรณา’ แน่นอน อย่างน้อยก็ต้องลำดับ 5 เพราะ ‘ผู้เฝ้าประตู’ ทุกคนจะมีคุกส่วนตัวสำหรับกักขังวิญญาณคนตาย เรียกได้ว่าเป็นโลกแห่งความตายขนาดย่อม เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะจะให้วิญญาณมารอาศัย ไว้คุณได้เป็น ‘จอมอาคมวิญญาณ’ ก็จะมีพลังที่คล้ายคลึงกัน เพียงแต่เน้นไปในด้านการผนึกวิญญาณและทำให้พวกมันหลับใหล มากกว่าจะเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความตาย หึหึ… แต่การมีวิญญาณเร่ร่อนและวิญญาณมารผ่านเข้าออกร่างกายบ่อยๆ ก็น่าหงุดหงิดไม่น้อยเหมือนกัน”ลำดับ 5 ของอินซ์·แซงวิลล์คือ ‘ผู้เฝ้าประตู’ … เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงถูกวิญญาณมารสิงสู่ได้เป็นเวลานาน หรือจะเป็นเพราะมันพยายามทำให้วิญญาณมารเชื่อง แต่ลงเอยด้วยความล้มเหลว? สมองเลียวนาร์ดกำลังเปิดโล่ง พบว่าข้อมูลทั้งหมดเชื่อมถึงกันอย่างลงตัวมันครุ่นคิดสองสามวินาที ถามอีกครั้ง“วิญญาณมารต้องการอะไร?”“ต้องการ? ร้องเพลง? เต้นรำ? เขียนกวี? ผู้ชาย? ผู้หญิง? ทะเลดวงดาว?” ดาลีย์ย้อนถามติดตลกเลียวนาร์ดตระหนักถึงปัญญาในการเลือกใช้คำของตน จึงยกมือขึ้นมาสางผมเล็กน้อยและตอบ“ผมหมายถึง วิญญาณมารมีความปรารถนาบ้างไหม?”“ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกมันปรารถนาขณะยังมีชีวิตอยู่… โดยธรรมชาติแล้ว สัญชาตญาณของวิญญาณมารจะตรงกับความต้องการสมัยที่ยังมีชีวิต แถมยังไม่รักษาสมดุลกับเหตุและผล ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นคุณ วิญญาณมารตนนั้นคงพยายามเขียนบทกวี จากนั้นก็จับเหยื่อจำนวนหนึ่งมากักขังเพื่อถามความเห็น หรือไม่ก็พยายามทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เหมือนกับพวกพระเอกในนิยายหรือละคร” หลังจากติดตลก ดาลีย์เล่าอย่างมีสาระ “อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสมัยที่ยังมีชีวิตจะเป็นคนยังไง แต่วิญญาณมารทุกตนจะมีความปรารถนาสองเรื่องร่วมกันเสมอ”“สองเรื่อง?” เลียวนาร์ดเริ่มตั้งใจฟังดาลีย์ชำเลืองด้วยหางตา“เรื่องแรก การสูบวิญญาณของสิ่งมีชีวิต สิ่งนี้จะทำให้พวกมันมีความสุข ความสุขอันเกิดจากสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของสายพันธุ์ นอกจากนั้น วิญญาณจำนวนมากที่สูบเข้าไป จะช่วยให้พวกมันปลดเปลื้องพันธนาการเกี่ยวกับ ‘อาณาเขต’ ของการใช้พลัง เพราะดวงวิญญาณจะเข้ามาแทนที่แหล่งพลังงานเดิมอย่างโลกวิญญาณและโลกแห่งความตาย… เรื่องที่สอง ตามหาวัตถุดิบโอสถของเส้นทางตัวเองสมัยยังมีชีวิต ด้วยสิ่งนี้ วิญญาณมารจะมีแหล่งพลังในการดำรงชีวิตเป็นของตัวเอง เมื่อถึงจุดหนึ่งจะไม่ต้องพึ่งพาพลังจากโลกวิญญาณหรือโลกแห่งความตายอีกต่อไป ไม่ถูกผูกมัดโดยอาณาเขต ในทางทฤษฎี พวกมันจะกลายร่างเป็นสัตว์วิญญาณชนิดพิเศษ”เลียวนาร์ดเริ่มจับประเด็นบางอย่างได้ ทำหน้าครุ่นคิดสักพัก“กล่าวอีกนัยหนึ่ง วิญญาณมารสามารถดื่มโอสถได้เช่นกัน?”“ไม่ใช่… โอสถถูกออกมาเพื่อมนุษย์เท่านั้น เป็นการลดความเสี่ยงของภาวะคลุ้มคลั่ง แต่สำหรับสัตว์วิเศษ พวกมันไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ สามารถกินวัตถุดิบสดๆ เข้าไปได้โดยตรง โดยเฉพาะวิญญาณมาร… ต้องไม่ลืมว่า สิ่งมีชีวิตประเภทนี้เปี่ยมไปด้วยความหวาดระแวง ป่าเถื่อน เอาแต่ทำตามสัญชาตญาณ ไม่ต่างอะไรกับพวกกึ่งเสียสติ… ไม่จำเป็นต้องดื่มโอสถอย่างมีพิธีรีตอง นอกจากนั้น วิญญาณมารยังมีสถานะเป็นร่างวิญญาณ สามารถ ‘ปรองดอง’ กับวัตถุดิบได้โดยตรงไปพร้อมกับย่อยอย่างเชื่องช้า” ดาลีย์แก้ไขความเข้าใจของเลียวนาร์ดนี่มัน… ในกรณีของวิญญาณมารที่สิงร่างอินซ์·แซงวิลล์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันกำลังพยายามตามหาวัตถุดิบหลักของเส้นทางตัวเองสมัยที่ยังมีชีวิต!เลียวนาร์ดตกใจในตอนต้น แต่เพียงไม่นานก็ฉุกคิดบางสิ่ง กล่าวด้วยสีหน้าเจือความยินดี“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากสำหรับคำตอบ”พูดจบ มันลังเลสองสามวินาที เรียบเรียงคำพูดก่อนจะกล่าวต่อ“มาดาม ผมคิดว่าพวกเราไม่ควรเอาแต่สืบสวนหาสาเหตุที่อินซ์·แซงวิลล์แอบพบกับครึ่งเทพของนิกายวิญญาณเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสืบสวนย้อนกลับไปยังระหว่างทางจากเบ็คลันด์มาถึงไบลัมตะวันออก หาให้พบว่ามันทำอะไรลงไปบ้าง หรือรวบรวมสิ่งของแบบใด นั่นอาจช่วยให้พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์”ดาลีย์เงียบไปสักพัก จนกระทั่งเลิกคิ้วพลางพึมพำ“พูดได้ดี… ว่าแต่… เรื่องนี้เกี่ยวข้องยังไงกับวิญญาณมาร?”“…ไม่เกี่ยว ผมตั้งคำถามเพราะว่าพวกเรากำลังจะได้เผชิญหน้ากับนิกายวิญญาณ มีโอกาสสูงที่จะได้ปะทะกับวิญญาณมารโดยตรง การเตรียมข้อมูลไว้ล่วงหน้าไม่ใช่เรื่องเสียหาย… ส่วนอย่างหลังเป็นแนวทางที่ผมคิดได้ขณะพักผ่อนในช่วงที่ผ่านมา แต่เพิ่งมีโอกาสเล่าให้คุณฟัง” เลียวนาร์ดลดความเร็วให้การพูดลง และเพิ่มความเร็วสมองที่กำลังประมวลผลข้ออ้างตลบตะแลงดาลีย์ที่ฟังอย่างเงียบงัน หัวเราะในลำคอ“ถ้าคุณโกหกเก่งแบบนี้ต่อหน้าสาวๆ ด้วยรูปลักษณ์ของคุณ ฉันรับประกันว่าคุณไม่มีทางโสดแบบทุกวันนี้… น่าเสียดาย ฉันดันเป็นผู้หญิงขี้สงสัย… ช่างเถอะ ไม่อยากฟังคำอธิบายแล้ว เชิญออกไปได้”เลียวนาร์ดลุกขึ้นยืนโดยไม่พยายามกลบเกลื่อน เดินตรงไปทางประตูขณะจับลูกบิด เสียงอันล่องลอยของดาลีย์ดังขึ้นจากด้านหลัง“ฉันไม่รู้ว่าคุณซ่อนความลับอะไรไว้ หรือว่าไปรู้อะไรเข้า… เรื่องพวกนั้นไม่สำคัญกับฉัน… แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอินซ์·แซงวิลล์ หากคุณต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อมาหาได้ทุกเมื่อ”เลียวนาร์ดชะงักไปสองวินาที พะงาบปากสองสามหน แต่สุดท้ายก็ทำเพียงประตูและเดินออกจากห้อง…เมืองเงินพิสุทธิ์เดอร์ริค·เบเกอร์ได้รับคำสั่งให้เข้าร่วมทีมสำรวจ หัวหน้าทีมคือเจ้าเมืองโคลิน·อีเลียด จุดหมายคือเมืองนอร์ธ เป็นซากปรักหักพังของเมืองทางทิศเหนือที่มี ‘ตัวจำแลงกาย’ และสิ่งชีวิตที่น่าสะพรึงอื่นๆ อาศัยอยู่!…………………………………….
คอมเม้นต์