ราชันเร้นลับ 627 : กลางดึกสงัด
ซินเธีย ผู้สัมผัสถึงความเจ็บปวดและอับจนหนทางของนายพลอมิรุส มิได้กล่าวสิ่งใดต่อ เพียงสวมกอดให้แน่นขึ้น ใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือช่วยสงบจิตใจของอีกฝ่ายเสร็จจากอาหารค่ำเรียบง่าย ไคลน์ชำระล้างร่างกายด้วยน้ำอุ่น เดินกลับมานอนแผ่บนเตียงในห้องเงียบห้องเดิม สายตาแหงนมองเพดานสำหรับไคลน์ การสวมบทบาทเป็นอมิรุสให้กลมกลืนไม่ใช่เรื่องยาก เพราะการยอมจำนนต่อโชคชะตา การต้องปกปิดความเจ็บปวด ล้วนเป็นประสบการณ์ชีวิตที่เคยผ่านมาแล้วทั้งสิ้น การปลอมตัวเป็นอมิรุสจึงไม่ต่างอะไรกับการเรียกตัวเองในอดีตกลับมาแต่การดำดิ่งเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี… หากเราไม่ใช้เทคนิค ‘เข้าถึง แต่ไม่หลอมรวม’ ป่านนี้คงสูญเสียตัวตนไปแล้ว… หึหึ… คงเหมือนกับดาราจากโลกเก่า เข้าถึงบทบาทของตัวละครมากเกินไป จนเกิดอาการทางจิตตามมา… แต่ในกรณีของผู้วิเศษ อาการทางจิตจะหมายถึงหายนะ…สติไคลน์จดจ่อ ตระหนักถึงตัวเองแจ่มชัดคาดไม่ถึงว่านายพลระดับสูงแห่งกองทัพเรือ บุคคลระดับครึ่งเทพ จะยังต้องเผชิญความอับจนหนทางถึงเพียงนี้ และเจ็บปวดถึงเพียงนี้…ความแข็งแกร่งช่วยให้คนเราสะดวกสบาย แต่ก็ไม่ใช่ยาครอบจักรวาล… พันคนก็พันใบหน้า และนี่คือตัวตนที่แท้จริงของครึ่งเทพ…ไคลน์มองเห็นแสงจันทร์สลัว อันกำลังฉาบเครื่องเรือนภายในห้องให้เป็นสีแดงในวินาทีนี้ ชายหนุ่มนำประสบการณ์และอุปนิสัยของอมิรุสมาเทียบกับตัวเอง พยายามค้นหาจุดแตกต่างจนกระทั่ง มันเริ่มพบความเป็นอมิรุสอย่างถ่องแท้ในทุกแง่มุม ขณะเดียวกันก็เริ่มมองเห็น ‘ตัวเอง’ อย่างถ่องแท้ในทุกแง่มุมเช่นกันมันคือคนที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก!ความทรงจำส่วนหนึ่งมาจากโลกเก่า แต่ก็ถูกอิทธิพลของไคลน์·โมเร็ตติกล่อมเกลาเล็กน้อยจนกลายเป็นบุคคลในปัจจุบันชายผู้มีเส้นทางอาชีพเหยี่ยวราตรีอันแสนสั้น แต่กลับอัดแน่นไปด้วยประสบการณ์และความทรงจำ ถือเป็นประตูบานแรกในโลกผู้วิเศษชายผู้มีไหวพริบดี เกรงกลัวอันตราย สามารถยับยั้งชั่งใจในทุกสถานการณ์วิกฤติชายผู้มีอุปนิสัยเกียจคร้านจากก้นบึ้ง ชื่นชอบการกิน การออกไปท่องโลกกว้าง การใช้ชีวิตอย่างเสรี แต่กลับทำไม่ได้เนื่องจากชีวิตยังมีเป้าหมายที่สำคัญกว่านั้นชายผู้ชื่นชอบหญิงงาม แต่จำเป็นต้องยึดติดกับกฎที่ตัวเองสร้างขึ้น ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจชายผู้หลงใหลเงินทอง แต่ก็ไม่ลังเลที่จะใช้จ่ายเพื่อความสุขของพี่ชายและน้องสาวชายผู้เก็บซ่อนความเจ็บปวดไว้ภายใน และสวมหน้ากากยิ้มแย้มเป็นเปลือกนอกชายผู้ชอบรำพันกับทุกเรื่อง แต่ต้องแสดงออกว่าสุภาพถ่อมตนชายผู้สามารถเอาชนะอุปสรรคทางจิตใจได้หนแล้วหนเล่า โดยไม่ฝ่าฝืนศีลธรรมพื้นฐานของตัวเองชายผู้เคอะเขิน และรู้สึกประหม่าทุกครั้งเมื่อต้องทำการแสดงต่อหน้าคนหมู่มาก…นอกจากนั้น เรายังเป็นผู้ทักพิทักษ์และสิ่งมีชีวิตที่น่าสมเพช ที่ต้องคอยรับมือกับภัยคุกคามและความบ้าคลั่งของโลกตลอดเวลา…มุมปากไคลน์ยกขึ้น กล่าวกับตัวเองเงียบงันชุดความคิดข้างต้นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกราวกับได้ใช้ฝ่ามือ ‘สัมผัส’ กับแก่นแท้ของตัวเองผ่านไปสักพัก ไคลน์หลับสนิทโดยไม่รู้ตัว ด้วยร่างกายและจิตใจที่สงบสุขผ่อนคลาย…ณ ห้องนอนใหญ่ ซินเธียกำลังหลับลึกเช่นกันหญิงสาวสวมชุดนอนผ้าบาง เริ่มขยับเรียวขาอันเปลือยเปล่าทั้งสองข้างที่มีผ้าห่มวางปิด เพื่อเสียดสีกันอย่างอ่อนโยนปลายเล็บข่วนจิกผิวหนังโดยไม่รู้ตัว เกิดรอยแดงเป็นทางยาว บวมนูนขึ้นมาเล็กน้อยหญิงสาวกำลังอยู่ในความฝัน มองเห็นดาวมายาอันงดงามบนท้องฟ้าดวงเดิม โดยอีกฝ่ายกำลังส่องแสงสว่างไสวทัศนียภาพของซินเธียขยับเข้าไปใกล้ทีละนิด จนเริ่มมองเห็นดาวดวงดังกล่าวได้อย่างเลือนราง…ฟู่ว…ไคลน์ลืมตาตื่นกลางคัน สมองยังคงคุกรุ่นไปด้วยฉากอันน่าเหลือเชื่อภายในความฝันเมื่อครู่ของตนทำไมเราถึงฝันแบบนี้…มันขมวดคิ้ว ส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อตัวเองเมื่อครู่ ไม่เพียงมันจะฝันถึงซินเธียในชุดนอนผ้าบางแสนเย้ายวน แต่ยังมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับหล่อน นอกจากนั้น มันยังฝันในลักษณะเดียวกันกับมาดามเชอรอน ‘แม่มดสุขสม’ จากเมืองทิงเก็น ฝันถึงมิสชารอน ผู้มีรูปโฉมงดงามราวกับตุ๊กตา ฝันถึงมิสจัสติส ผู้มีใบหน้าพร่ามัวคล้ายกับขณะอยู่บนมิติหมอก ฝันถึงทริสซี่·ชีค ฝันถึงเทรซี่ ทุกคนล้วนเป็นหญิงงามที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต โดยในแต่ละความฝันยังทำกิจกรรมด้วยท่วงท่าแตกต่างกันออกไปสำหรับผู้วิเศษส่วนใหญ่และคนธรรมดา ฝันเช่นนี้สามารถเกิดขึ้นได้เมื่ออารมณ์ทางเพศไม่ถูกปลดปล่อยเป็นเวลานาน แต่ในฐานะนักทำนายมืออาชีพ ไคลน์ย่อมให้ความสำคัญกับ ‘ฝัน’ มากเป็นพิเศษชายหนุ่มรีบสำรวจร่างกาย พบว่าน้องชายเบื้องล่างกำลังตั้งโด่ในสภาพแข็งตัว คราบอสุจิเปรอะเปื้อนหลายจุดบนเตียงนอนและผ้าห่มไม่ใช่ลางบอกเหตุในเชิงสัญลักษณ์ แต่เป็นอิทธิพลจากภายนอก…มีศัตรู! ไคลน์ประเมินสถานการณ์ด้วยสีหน้าตึงเครียดขณะเดียวกัน มันรีบพลิกตัวลงจากเตียงอย่างระมัดระวัง เปลี่ยนไปสวมเครื่องแบบของนายพลแห่งกองทัพเรือจากนั้น ชายหนุ่มจัดแจงยันต์กฎหมายที่เก้าและยุบพองหิวโหยให้เข้าที่ อยู่ในสภาพพร้อมทำศึกเต็มอัตราเนื่องจากยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ไคลน์ไม่บุ่มบ่ามส่งตัวเองเข้ามิติหมอกจนทำให้ร่างหลักไร้การป้องกัน ยังคงสวมบทบาทเป็นอมิรุสต่อไปด้วยใบหน้าขึงขัง ชายหนุ่มเดินไปหยุดหน้าประตูห้อง มือกำลูกบิดทันใดนั้น คล้ายกับมันเพิ่งได้เชื่อมต่อกับโลกแห่งความจริง ด้านนอกมีเสียงสับสนอลหม่านดังระงมมีทั้งเสียงของใครบางคนกำลังเคี้ยวอาหาร เสียงครางอย่างกระสัน เสียงคำรามอย่างเดือดดาล และเสียงกระตุ้นแหลมลึกเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น…ก่อนนอนยังปรกติดีทุกอย่าง!ไคลน์กลืนน้ำลาย ใช้การเข้าฌานสะกดจิตให้ตัวเองสุขุมเยือกเย็นก่อนนอนหลับ มันจะใช้เนตรวิญญาณตรวจสอบสภาพเหตุการณ์รอบคฤหาสน์เสมอ แต่ไม่เคยพบความผิดปรกติแม้แต่อย่างเดียวบอดี้การ์ดของนายพลไปไหน?เลขาลัวอานมัวทำอะไรอยู่?ยิ่งไคลน์ไตร่ตรองสถานการณ์ปัจจุบัน มันก็ยิ่งพบความผิดปรกติชายหนุ่มสัมผัสยันต์กฎหมายที่เก้าด้วยมือขวา แผ่อำนาจบารมีของนักสานกฎหมายออกมารอบตัว ระงับกระแสอากาศอันชวนอาเจียนที่ไหลเวียนไปทั่วไคลน์ออกแรงมือซ้าย หมุนบิดกลอนประตูและเปิดออกไปยังไม่ทันได้ก้าวขา มันเห็นบริกรชายคนหนึ่งกำลังนั่งขวางทางเดินฝั่งตรงข้ามด้านหน้าบริกรชายมีจานอาหารวางเรียงรายมากมาย บ้างสุก บ้างดิบ ประกอบด้วยสเต๊กเนื้อ แกะ ปลากระดูกมังกร และล็อบสเตอร์โอลาวีทันใดนั้น บริกรชายหยิบปลาตัวใหญ่ซึ่งดูคล้ายเพิ่งตายไปเมื่อครู่ พลางหันมาจ้องไคลน์ที่กำลังยืนมองฝั่งตรงข้าม และกล่าวด้วยรอยยิ้มล่องลอย“ท่านนายพล ผมอิจฉาอาหารของท่านมาตลอด”ท้องของมันกำลังบวมพอง ขยายใหญ่จนน่าหวาดเสียว คล้ายกับหญิงสาวตั้งครรภ์เจ็ดแปดเดือนเมื่อสิ้นเสียง บริกรชายยกปลาขึ้น กัดปลาสดที่ไม่ผ่านการปรุงเข้าไปหนึ่งคำใหญ่ ใช้ฟันฉีกเนื้อแดงชิ้นหน้าและกระชากออกมาริมฝีปากของมันพลันแดงฉาน ออกแรงเคี้ยวด้วยสีหน้าเย็นชามันกลืนลงคออย่างรีบเร่ง ท้องที่ป่องเกินพอดีไปมากยิ่งขยายตัว คล้ายกับพร้อมระเบิดทุกเมื่อเป็นอาการคล้ายคนยับยั้งภาวะอยากอาหารของตัวเองไม่ได้…ไคลน์ยืนจ้องบริกรชายตรงหน้า ด้วยเหตุผลบางประการ มันหวนนึกถึงคนเร่ร่อนที่บิลต์เตรียมไว้ ซึ่งเสียชีวิตไปจากอาการป่วยหลังจากกินอาหารเกินพอดีมันไม่มัวคิดนานนัก และไม่มีแผนช่วยเหลืออีกฝ่าย เนื่องจากทราบเป็นอย่างดีว่า หากต้นตอของปัญหายังไม่ถูกแก้ไข ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็คงไม่เกิดประโยชน์มากนักไคลน์เริ่มขยับตัว อาศัยสัมผัสวิญญาณนำทาง เดินอย่างระมัดระวังไปยังห้องนอนใหญ่มองไปยังบานประตูตรงหน้า จุดดังกล่าวมีสาวใช้สองคน คนหนึ่งนอนราบไปกับพื้น ส่วนอีกคนกำลังนั่งทับและบีบคอคนที่นอนอยู่สาวใช้ด้านบนฉีกยิ้ม ออกแรงบีบคอสาวใช้ด้านล่าง แผดเสียงตะโกน“เร็วเข้า! สรรเสริญฉันเร็ว! เร็วเข้าสิ! สรรเสริญฉันเดี๋ยวนี้!”เธอต้องการให้ใครสักคนชื่นชม…ไคลน์ขมวดคิ้ว เดินสองสามก้าว ออกแรงกระชากคอเสื้อสาวใช้คนด้านบนโครม! ชายหนุ่มเหวี่ยงหล่อนกระแทกกำแพง เป็นความรุนแรงที่มากพอจะทำให้หมดสติทันทีแต่เธอกลับยังลุกขึ้นมาคลานไหวสาวใช้คนที่นอนอยู่เอาแต่อ้าปากหาวพลางใช้มือปิดปาก ดวงตาหลับสนิทแม้เพิ่งจะเกือบจะขาดอากาศตาย ประหนึ่งว่ากำลังง่วงนอนเสียเต็มประดาเธอปรารถนาที่จะนอน…นี่มัน… ไคลน์เกิดความคิดที่จะวิ่งหนีออกจากคฤหาสน์ ไปแจ้งให้โบสถ์และกองทัพเรือทราบแต่เมื่อลองไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน มันพบว่าบนเกาะโอลาวีแห่งนี้ ไม่มีใครทรงพลังไปกว่านายพลอมิรุส·รีเวลต์อีกแล้ว!และตอนนี้เราคืออมิรุส… เดี๋ยวก่อน นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด ที่ควรกังวลในตอนนี้คือชีวิตของตัวเองต่างหาก…ไคลน์ ผู้เริ่มขนลุกไปทุกส่วน ผลักประตูห้องนอนใหญ่เปิดเข้าไปสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือบรรยากาศอันเย้ายวนเกินพรรณนา รวมถึงเสียงครวญครางอย่างสุขสมอันชวนให้หัวใจเต้นแรงและถี่ไคลน์เริ่มตระหนักว่า จมูกของตนมีเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อยนอกจากนั้นยังมีกลิ่นของเหลวในเชิงกามฟุ้งอบอวลจนเต็มห้อง สร้างความวิงเวียนและมึนเมาให้แก่ทุกคนที่สูดดมถัดมา ไคลน์เห็นลัวอาน เลขานุการผมทองมันกำลังยืนข้างประตู สายตาเพ่งเข้าไปข้างในอย่างเย็นชาเจือความเหยียดหยัน ประหนึ่งกำลังขยะแขยงบางสิ่งเมื่อตระหนักว่ามีใครบางคนเดินเข้าไปใกล้ ลัวอานมองกลับมา และพบว่าอีกฝ่ายคืออมิรุสสีหน้าของมันไม่แปรเปลี่ยน เช่นเดียวกันกับสายตาแสนเย็นชา โดยยังคงจ้องอมิรุสประหนึ่งอีกฝ่ายเป็นเพียงชาวบ้านตาสีตาสาในยามปรกติ เลขาคนนี้มักแสดงความเคารพตลอดเวลา… เนื้อแท้เป็นพวกทระนงตนสินะ…ขณะไคลน์เตรียมถามโดยเชื่อว่าอีกฝ่ายยังสามารถครองสติไว้ได้ ลัวอานพลันเบือนหน้าหนี และมองตรงไปยังใจกลางห้องนอนใหญ่เขายังปรกติอยู่ใช่ไหม…ไคลน์มองตามสายตาลัวอาน และพบว่าบนเตียงขนาดใหญ่ ณ กึ่งกลางห้อง มีร่างสีขาวสูงกว่าสามเมตรกำลังปักหลักเด่นสง่าผิวของร่างดังกล่าวถูกปกคลุมด้วยก้อนสีน้ำตาลอมเขียวคล้ายตุ่มต้นไม้ บางจุดมีรอยแยก รอบ ๆ รอยแยกบานออกคล้ายดอกไม้บอดี้การ์ดของนายพลบางคน รวมถึงบริกรชายอีกจำนวนหนึ่ง ต่างกำลังรุมล้อมร่างปริศนาสูงสามเมตรไว้ทุกทิศ บ้างยืนบ้างคุกเข่า บ้างปีนขึ้นไปบนลำตัว โดยทุกคนจะสอดแท่งอวัยวะเพศเข้าไปในช่องว่าง ‘ดอกไม้’ พลางส่งเสียงครางสั่นกระเส่าตลอดเวลาส่วนบอดี้การ์ดและคนรับใช้ที่เหลือ บางส่วนกระจายตัวไปตามพื้นห้องนอน ร่วมเพศกับสาวใช้เป็นหมู่คณะในจำนวนแตกต่างออกไป ด้วยสีหน้าท่าทางเร่าร้อนหันกลับไปมองร่างสีขาวสูงสามเมตร นอกจาก ‘ตุ่มต้นไม้’ และ ‘ดอกไม้’ ยังมี ‘กิ่งไม้’ ยืดยาวออกมาสร้างปฏิสัมพันธ์กับทุกอิริยาบถรื่นเริงของคนรอบข้างเชี่ยอะไรเนี่ย…ไคลน์ ผู้ได้เปิดโลกทัศน์ของศาสตร์เร้นลับในมุมใหม่ รีบลดมือซ้ายลดลง ตั้งท่าเตรียมต่อสู้ทันใดนั้น ศีรษะของร่างปริศนาสูงกว่าสามเมตรเริ่มหันกลับมาจ้องไคลน์อย่างเชื่องช้าเป็นใบหน้าของหญิงสาว เส้นผมสีทองอ่อน ดวงตาสีฟ้า สันจมูกโด่ง ริมฝีปากอวบอิ่มไม่ใช่ใครนอกจากซินเธีย หญิงสาวผู้ยังหลงเหลือความซุกซนของวัยรุ่น!‘กิ่งไม้’ เริ่มขยับโยก ‘ดอกไม้’ เริ่มบานออกสลับหุบเข้า ซินเธียจ้องไคลน์ด้วยสีหน้าขวยเขิน และกล่าวด้วยน้ำเสียงล่องลอย“ท่านนายพล ข้าอยากมีทายาทกับท่าน”……………………
คอมเม้นต์