ราชันเร้นลับ 919 : การอนุมานที่ ‘สมบูรณ์แบบ’
เบ็คลันด์ เขตเชอร์วู้ดฟอร์สที่กำลังงีบหลับ พลันตื่นจากความฝันและพบกับหมอกสีเทาไร้ขอบเขตเบื้องหน้า และยังเห็น ‘เดอะมูน’ กำลังก้มศีรษะสวดวิงวอนด้วยประโยคที่ชัดเจน“…ชานเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของเบ็คลันด์ กึ่งกลางป่าเดแลร์จะมีปราสาทร้างอยู่หนึ่งหลัง ภายในนั้นมีวิญญาณอาฆาตโบราณอย่างน้อยสองตน รวมถึงวิญญาณประเภทอื่นของคนตาย ปัจจุบันยังไม่ยืนยันว่าที่นั่นไม่มีผู้วิเศษอาศัยอยู่ ส่วนพิกัดโดยละเอียดคือ…”ในที่สุดก็มีข่าวเกี่ยวกับวัตถุดิบหลักของโอสถ ‘นักบันทึก’ เสียที… ข่าวมูลค่าสามร้อยปอนด์… ฟอร์สพลันตื่นเต้นยินดี รีบขอบคุณมิสเตอร์และขอให้อีกฝ่ายแจ้ง ‘เดอะมูน’ ว่าจะส่งค่าตอบแทนในภายหลังจัดการเสร็จ หญิงสาวพลิกตัวลุกขึ้นและเดินลงไปยังชั้นแรก เตรียมเทไวน์ใส่แก้วพลางครุ่นคิดว่าการสำรวจปราสาทต้องใช้สิ่งใดบ้างคงให้ใครเช่า ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ ในช่วงนี้ไม่ได้… ซิลก็ต้องมาด้วย… ในปราสาทร้างเต็มไปด้วยวิญญาณคนตาย นับว่าค่อนข้างอันตราย เราต้องคำนึงถึงการผสมผสาน ‘เวทมนตร์’ ให้ดี หากยังขาดในจุดใด ต้องใช้เงินจ้างให้มิสเตอร์เวิร์ล แฮงแมน เดอะซัน ช่วยบันทึกพลังพิเศษลงไป… แม้ว่าฟอร์สจะมีประสบการณ์การต่อสู้เพียงเล็กน้อย แต่เธอก็แฝงตัวในโลกเหนือธรรมชาติมานานหลายปี แถมในภายหลังยังได้เข้าร่วมชุมนุมทาโรต์ ได้เห็นได้ยินหลายสิ่ง ย่อมรู้จักเตรียมการก่อนลงมือเสี่ยงสำหรับตัวเลือกที่จะขอให้มิสเตอร์เวิลด์ช่วยทำภารกิจนี้แทน เธอไม่เคยคิดถึง เพราะเชื่อว่าต้องให้ทุ่มเงินเก็บทั้งหมด รวมถึงการยก ‘ผลลัพธ์การเก็บเกี่ยว’ ให้อีกฝ่าย ก็ยังไม่มากพอจะจ้างให้บุคคลระดับเดอะเวิร์ลลงมือแน่นอน หากการสำรวจเบื้องต้นของเธอยืนยันว่าปราสาทร้างดังกล่าวเต็มไปด้วยอันตราย ไม่ใช่สถานที่ผู้วิเศษในระดับเธอจะสำรวจเข้าไปถึงส่วนลึก ฟอร์สคงไม่มีทางเลือกนอกจากแบกรับภาระหนี้สิน ยอมจ้างให้เดอะเวิร์ลเข้าไปรวบรวมวัตถุดิบหลักของโอสถนักบันทึก เพราะท้ายที่สุดแล้ว นั่นคือความหวังในการมีชีวิตรอดต่อไปเพียงทางเดียวในทางทฤษฎี เรื่องราวยังไม่น่าจะไปถึงขั้นนั้น ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ ยังมีพลังพิเศษในลำดับครึ่งเทพสองชนิดที่มิสเตอร์เวิร์ลเหลือไว้… เราสามารถยืมใช้สักชนิดแล้วค่อยหาทางชดเชยในภายหลัง… ปัญหาเดียวก็คือ พลังระดับครึ่งเทพทั้งสองชนิดอาจไม่เหมาะกับการปราบภูตผีและวิญญาณคนตาย… ฟอร์สจิบแรนดี้ดำพลางประกอบความคิดให้เป็นรูปเป็นร่างคิดถึงตรงนี้ เธอได้ยินเสียงกุญแจถูกเสียบเข้าไปในรูกุญแจ จึงหันไปมองทางประตูตามสัญชาตญาณประตูเปิดออกพร้อมกับซิลที่เดินเข้ามา ในมืออีกฝ่ายกำลังถือถุงกระดาษสองใบที่ส่งกลิ่นหอมรุนแรง“พายเดซีย์?” ฟอร์สโพล่งถามก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความงุนงง “ไหนว่าพักนี้มีงานยุ่ง? ทำไมกลับบ้านเร็วนัก?”ซิลโยนพายเดซีย์ไปทางฟอร์สหนึ่งถุง กล่าวด้วยรอยยิ้ม“บังเอิญผ่านทางมาพอดี แล้วก็ยังไม่ได้กินมื้อเที่ยง ก็เลยพักสักหน่อย”โดยไม่รอให้ฟอร์สถาม เธอกล่าวออกมาเอง“ฉันสะสมคะแนนผลงานมากพอแล้ว! ในไม่ช้าก็สามารถแลกสูตรโอสถนักสอบสวนได้!”แม้งานของเธอในการเฝ้าจับตามอง ‘หัวหน้าราชองครักษ์’ ไวเคาต์สตาร์ฟอร์ด จะยังไม่คืบหน้ามากนัก แต่ก็เป็นงานประเภทที่สามารถสะสมคะแนนผลงานได้เรื่อยๆ ด้วยกิจวัตรประจำวัน ที่ต้องทำมีเพียงการส่งรายงานที่น่าเชื่อถือทุกสัปดาห์ เพียงเท่านี้ก็สามารถรับ ‘เงินรางวัล’ ได้ตามสัดส่วนงาน ดังนั้น เมื่อนำไปรวมกับงานอื่นที่เคยทำสำเร็จในอดีต ซิลสามารถแลกรับสูตรโอสถนักสอบสวนได้ในอนาคตอันใกล้“สักทีสินะ…” ฟอร์สดีใจแทนพวกพ้องจากก้นบึ้ง จากนั้นก็เขย่าแก้วไวน์ในมือแผ่วเบาและกล่าว “ดื่มฉลองกันไหม?”ขณะเดียวกัน เธอหันมาคิดเกี่ยวกับเรื่องของตัวเองนี่ถือเป็นข่าวดี หลังจากกลายเป็นลำดับ 7 ซิลน่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพ ส่งผลให้แผนสำรวจปราสาทโบราณค่อนข้างราบรื่น!ซิลมองไปยังของเหลวใสในแก้วไวน์ ส่ายหัวเล็กน้อย“การดื่มไม่ใช่สิ่งที่ดี!”กล่าวจบ เธอขมวดคิ้ว“นอกจากนั้น ฉันยังเกลียดกลิ่นของมัน”โดยไม่รอให้ฟอร์สพูด ซิลนึกบางสิ่งได้กะทันหัน จึงลุกขึ้นยืนและเดินไปทางประตู“ฉันเห็นกล่องจดหมายเต็ม วันนี้ยังไม่ได้เปิดดูหรือ?”“ยังไม่มีเวลาเลย” ฟอร์สทำหน้าคล้ายกับตนยุ่งมาก ก่อนจะลุกขึ้นและเตรียมเดินออกไปเปิดกล่องจดหมายซิลที่มีความคล่องตัวสูงกว่า เปิดประตูและหยิบทุกสิ่งในกล่องออกมาผ่านไปสิบวินาที หญิงสาวกลับเข้ามาในบ้านพร้อมกับกองหนังสือพิมพ์และจดหมายสองสามฉบับ กล่าวพลางมองไปยังผู้รับ“ทั้งหมดเป็นของเธอ! มีสองฉบับจากสำนักพิมพ์ หนึ่งฉบับเป็นคำเชิญสำหรับเสวนาเกี่ยวกับการผ่าตัด และอีกหนึ่งฉบับมาจากท่าเรือพริสต์”ท่าเรือพริสต์… หัวใจฟอร์สพลันเต้นระรัว รีบวางแก้วไวน์ลงและหยิบจดหมายที่ซิลโยนมาให้แม้จะอยู่ต่อหน้าเพื่อนสนิท แต่ฟอร์สก็เปิดอ่านจดหมายทุกฉบับโดยไม่ปิดบัง พบว่าหนึ่งในนั้นถูกส่งมาจากอาจารย์โดเรียน·เกรย์·อับราฮัม“เมืองกัลเดรอนเป็นสถานที่พิเศษในโลกวิญญาณ ผมไม่สามารถยืนยันต้นกำเนิดของมันได้ ทราบเพียงว่าอันตรายมาก ครั้งหนึ่งเคยมีครึ่งเทพเข้าไปสำรวจ แต่ก็มิได้กลับออกมาอีกเลย… ในตอนที่คุณขายพิกัดของเมืองดังกล่าวให้สมาชิกชุมนุม อย่าลืมเตือนอีกฝ่ายเกี่ยวกับเรื่องนี้”เป้าหมายของมิสเตอร์เวิร์ลคือเมืองที่แสนอันตรายในโลกวิญญาณ? ฟอร์สจ้องกระดาษจดหมายในมือด้วยดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อยหน่วย ‘ถุงมือแดง’ ที่มาถึงเมืองไบลัมตะวันออกแห่งถัดไป เข้าพบกับเหยี่ยวราตรีท้องถิ่นและยืมใช้ห้องทำงาน“ทุกคนพักผ่อนได้ พวกเราจะเริ่มงานในตอนเช้า” โซสต์หยิบนาฬิกาพกออกมาตรวจสอบเวลาในคราวนี้ พวกมันจะโจมตีฐานลับของนิกายวิญญาณ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการมรณาเทียม ขุดคุ้ยหากลุ่มคนที่แฝงตัวอยู่ในเบ็คลันด์สำหรับข้อมูลที่ได้รับจากอูลิก้า สิ่งนี้ถูกส่งกลับไปยังเบ็คลันด์ด้วยโทรเลข สำหรับการดำเนินงานขั้นถัดไป พวกมันไม่ต้องกังวล เพราะท้ายที่สุด หน่วยของโซสต์มิใช่ถุงมือแดงเพียงหน่วยเดียว แถมเหยี่ยวราตรีท้องถิ่นของเบ็คลันด์ก็ยังนับว่าทรงพลังมากขณะเลียวนาร์ด ดาลีย์ และคนที่เหลือเตรียมหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เหยี่ยวราตรีท้องถิ่นที่มีเชื้อสายไบลัมตะวันออกเดินเข้ามาพร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่งและกล่าว“มีโทรเลขใหม่ครับ… จากเบ็คลันด์”โซสต์เหยียดแขนออกไปหยิบกระดาษ คลี่ออกและกวาดสายตาอ่าน ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“เกอร์มัน·สแปร์โรว์ปรากฏตัวอีกครั้ง… สามารถยืนยันว่าเป็นตัวจริงด้วยเทคนิคการทำนาย”เกอร์มัน·สแปร์โรว์… เลียวนาร์ดไม่ประหลาดใจกับข่าวใหม่สักเท่าไร เพราะมันทราบจากดอน·ดันเตสแล้วว่า อดีตเพื่อนร่วมงานของตน ไคลน์·โมเร็ตติ ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่มันถามด้วยความสงสัย“คราวนี้เกอร์มัน·สแปร์โรว์ทำอะไร?”โซสต์มองไปรอบๆ กล่าวด้วยสีหน้าขึงขัง“เขาขึ้นเรือ ‘ทิวลิปดำ’ และเปลี่ยน ‘พลเรือเอกขุมนรก’ ลูเธอร์ไวล์ให้กลายเป็นหุ่นเชิด”“พลเรือเอกขุมนรก?”“ลูเธอร์ไวล์?”“หุ่นเชิด?”ถุงมือแดงต่างส่งเสียงด้วยความประหลาดใจ แม้กระทั่งเลียวนาร์ด·มิเชลก็ยังเผยท่าทีตกตะลึงต้องไม่ลืมว่า ‘พลเรือเอกขุมนรก’ ลูเธอร์ไวล์ผู้สวมแหวนแห่งความตาย มีค่าหัวสูงที่สุดในบรรดาเจ็ดนายพลโจรสลัด แข็งแรงที่สุด และถูกขนานนามให้เป็นอันดับหนึ่งภายใต้ ‘สี่ราชา’ ผู้วิเศษลำดับ 5 ทั่วไปไม่มีทางเทียบติด นอกจากนั้น เกอร์มัน·สแปร์โรว์ยังเป็นฝ่ายขึ้นเรือไปหาด้วยตัวเอง หมายความว่ารอบๆ ต้องเต็มไปด้วยกองทัพอันเดดและผู้ใต้บังคับบัญชาของลูเธอร์ไวล์จำนวนมาก แต่กระนั้นก็ยังสามารถเปลี่ยนให้อีกฝ่ายเป็นหุ่นเชิด!แม้พวกมันจะไม่ค่อยรู้เรื่อง ‘ผู้ไร้หน้า’ และ ‘นักเชิดหุ่น’ มากนัก แต่เมื่อพิจารณาจากคำว่า ‘หุ่นเชิด’ ทุกคนก็รับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่า จุดจบของ ‘พลเรือเอกขุมนรก’ ลูเธอร์ไวล์ อาจน่าเศร้ายิ่งกว่าความตายแข็งแกร่งขนาดนี้แล้วหรือ? เป็นผลลัพธ์จากการลอบแทรกซึมเข้าไปในประตูยานิสของวิหารนักบุญแซมมวล? เลียวนาร์ดปิดปากเงียบ มิได้ถามสิ่งใดอีกโซสต์เริ่มเล่าต่อ“จากคำบอกเล่าของลูกเรือที่หนีออกจาก ‘ทิวลิปดำ’ ตอนนั้นไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้น เกอร์มัน·สแปร์โรว์ขึ้นเรือพร้อมกับชายอีกคนหนึ่ง และเมื่อ ‘พลเรือเอกขุมนรก’ ลูเธอร์ไวล์เห็นชายคนดังกล่าว มันเลิกต่อต้านทันที รีบหมอบกราบลงบนดาดฟ้าและเรียกขานอีกฝ่ายว่า ‘กงสุลมรณะ’ โดยหลังจากนั้น เกอร์มัน·สแปร์โรว์ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนลูเธอร์ไวล์เป็นหุ่นเชิด”“กงสุลมรณะ…” เลียวนาร์ดเอียงคอโดยไม่รู้ตัว มองไปทางดาลีย์·ซิโมเน่มันเชื่อว่า ลำดับ 5 ของเส้นทาง ‘ผู้เก็บซากศพ’ ควรเข้าใจคำจำกัดความของ ‘กงสุลมรณะ’ดาลีย์ปล่อย ‘หึ’ ในลำคอ ส่ายหน้าและพูด“ฉันทราบเพียงว่า… ในจักรวรรดิไบลัมโบราณ ทายาทโดยตรงของ ‘มรณา’ ซึ่งเป็นผู้ปกครองโลกแห่งความจริง ถูกเรียกว่า ‘กงสุลมรณะ’”“แต่ผู้นำฝ่ายราชวงศ์ของนิกายวิญญาณ ไม่เคยเรียกตัวเองว่า ‘กงสุลมรณะ’ เลยสักครั้ง” ซินดี้ ‘ถุงมือแดง’ อีกคนกล่าวด้วยสีหน้าสับสนนี่คือข้อมูลทั่วไปที่ทราบกันดีในหมู่เหยี่ยวราตรี ผู้วิเศษลำดับ 7 ขึ้นไป รวมถึง ‘ถุงมือแดง’ ล้วนมีสิทธิ์เข้าถึงยิ่งเป็นฝ่ายที่ผลักดันโครงการมรณาเทียม ยิ่งไม่มีใครเรียกตัวเองว่า ‘กงสุลมรณะ’ แม้แต่คนเดียว“ใครจะไปรู้… บางที นิกายวิญญาณอาจเกิดการแตกแยกภายในและแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอีกครั้ง โดยที่ปัจจุบันมีฝ่ายหนึ่งอยู่ข้าง ‘กงสุลมรณะ’” ดาลีย์คาดเดาอย่างเลื่อนลอย ก่อนจะทำหน้าครุ่นคิดและกล่าวต่อ “เกอร์มัน·สแปร์โรว์มีต้นกำเนิดที่ลึกลับมาก ทางเราไม่ทราบจุดประสงค์ของการแอบเข้าไปในประตูยานิส บางที เรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับนิกายวิญญาณ”นิกายวิญญาณตกเป็นเป้าหมายหลักของโบสถ์รัตติกาลมาโดยตลอด ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นฝังรากลึกประโยคเมื่อครู่ทำให้เลียวนาร์ด·มิเชลฉุกคิดบางสิ่ง เพราะมันรู้อยู่แก่ใจว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์คือไคลน์·โมเร็ตติ อีกฝ่ายเข้าร่วมองค์กรลับที่ใช้ไพ่ทาโรต์เป็นโค้ดเนม องค์กรลับที่นับถือ ‘เดอะฟูล’ อย่างแรงกล้า และปัจจุบันกำลังมีปฏิสัมพันธ์บางอย่างกับนิกายวิญญาณไม่มี ‘กงสุลมรณะ’ ในหมู่สมาชิกนิกายวิญญาณรุ่นปัจจุบัน… ‘พลเรือเอกขุมนรก’ ลูเธอร์ไวล์เรียกได้ว่าเป็น ‘แขน’ ของนิกายวิญญาณ หากจัดการลูเธอร์ไวล์ก็เทียบได้กับจัดการกับนิกายวิญญาณ…ดอน·ดันเตสเคยกล่าวไว้ว่า สมาชิกขององค์กรมาจากร้อยพ่อพันแม่และมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน… จุดประสงค์ของไคลน์คือการแก้แค้น ถ้าอย่างนั้น ใครสักคนในองค์กรอาจมีเป้าหมายเป็นการโจมตีนิกายวิญญาณ? เพื่อคืนชีพให้มรณา หรือไม่ก็สร้างขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง?เมื่อพิจารณาว่าดอน·ดันเตสคือสัตว์ประหลาดที่รอดชีวิตมาจากยุคสมัยที่ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่องค์กรดังกล่าวจะมี ‘กงสุลมรณะ’ จากยุคสมัยโบราณ… บางที ไพ่ทาโรต์ของชายคนนั้นอาจเป็น ‘เดธ’ ก็ได้! ท่ามกลางกระแสความคิดมากมาย เลียวนาร์ดพบว่าตนเริ่มเข้าใจความจริงไปทีละนิดถัดมา มันยังนึกถึงรายละเอียดบางอย่างดอน·ดันเตสเป็นสัตว์ประหลาดที่รอดชีวิตจากยุคสมัยที่สี่…เขารู้จักทวีปใต้เป็นอย่างดี…เขาเพิ่งออกจากเบ็คลันด์และไม่ทราบที่อยู่ปัจจุบัน!เลียวนาร์ดเริ่มตื่นตัว ถือโอกาสที่เพื่อนร่วมทีมกำลังสนทนา หยิบถ้วยชาขึ้นมาจ่อปากพลางพึมพำกับตัวเอง“ตาแก่… เป็นไปได้ไหมว่าดอน·ดันเตสคือกงสุลมรณะ?”พาลีส·โซโรอาสเตอร์ตอบด้วยน้ำเสียงค่อนข้างชรา“ไม่ใช่… กงสุลมรณะแห่งจักรวรรดิไบลัมเป็นทั้งตำแหน่งและสถานะ ขณะเดียวกันก็ยังเป็นชื่อของโอสถลำดับ 2 แห่งเส้นทาง ‘มรณา’ ในช่วงเวลานั้นด้วย”ลำดับ 2… องค์กรลับดังกล่าวมีเทวทูตลำดับ 2… ดวงตาเลียวนาร์ดพลันหรี่ลง กระซิบกระซาบอีกครั้ง“แล้วทำไมคุณถึงมั่นใจว่าดอน·ดันเตสไม่ใช่ ‘กงสุลมรณะ’ ? เพราะเขาไม่ใช่เทวทูตหรือ?”พาลีสหัวเราะในลำคอและตอบ“ไม่เลย เหตุผลไม่ซับซ้อน… เจ้าเองก็ได้เห็นภาพเหมือนของ ‘กงสุลมรณะ’ ตัวจริงมาแล้ว… และในตอนที่เคยสืบสวนคดีฆ่าตัวตายของเวิร์ช เจ้าก็เคยพบตัวจริงของเขามาแล้ว… กงสุลมรณะคืออาจารย์ในภาควิชาประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโฮอี้ อะซิก·อายเกส”อะซิก·อายเกส… เลียวนาร์ดผงะในตอนต้น ก่อนจะตระหนักได้ในที่สุดมันก็เข้าใจว่าทำไมไคลน์·โมเร็ตติถึงสามารถคืนชีพหลังความตาย และทำไมถึงได้เข้าร่วมองค์กรลับที่เกี่ยวกับไพ่ทาโรต์ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยแสดงความพิเศษใดๆ ให้เห็นมาก่อน!นั่นเพราะเบื้องหลังไคลน์มียังสมาชิกขององค์กรลับดังกล่าวคอยให้การสนับสนุน สมาชิกคนสำคัญซึ่งเป็นเจ้าของไพ่:เดธ!…………………………………………….
คอมเม้นต์