ราชันเร้นลับ 892 : การตีความของแต่ละคน
ราชันเร้นลับ 892 : การตีความของแต่ละคน
ไม่ทั้งสอง… ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาเคี้ยวคำตอบของมิสเตอร์ฟูล จากนั้นก็พบว่าตนไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงเดิมที เธอคิดว่าบ้านเกิดของดวงวิญญาณของจักรพรรดิโรซายล์ต้องเกี่ยวข้องกับปัจจัยในเชิงศาสตร์เร้นลับสักเรื่อง เช่น ‘เกาะแห่งนั้น’ หมายถึงอาณาจักรของเทพที่จักรพรรดิศรัทธา และ ‘ส่วนลึกของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว’ เป็นคำนิยามทางอ้อมของ ‘ดินแดนดารา’ หมายถึงจักรพรรดิโรซายล์กำลังวางเป้าหมายของตนไปที่การเป็นเทพ ด้วยเหตุนี้ หลังจากเดอะฟูลกล่าวว่าไม่ใช่ทั้งสอง สมมติฐานเกือบทั้งหมดของเธอจึงถูกลบล้าง มิอาจคิดหาคำตอบอื่นมาชดเชยบางที สิ่งที่ราชินีต้องการถามอาจไม่ใช่เรื่องที่เราเข้าใจ และคำตอบของมิสเตอร์ฟูลกำลังชี้ไปในกระเด็นดังกล่าว… เราเป็นแค่สื่อกลางในการสื่อสาร ไม่สำคัญว่าจะเข้าใจหรือไม่… แคทลียาถอนหายใจ กล่าวขอบคุณอย่างนอบน้อม“ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ”สำหรับสมาชิกคนอื่นของชุมนุมทาโรต์ สมองของพวกมันกำลังว่างเปล่า แม้ทุกคนพอจะทราบความหมายของบ้านเกิดของดวงวิญญาณ แต่ย่อมไม่มีทางเชื่อมโยงเข้ากับ ‘เกาะแห่งนั้น’ หรือ ‘ส่วนลึกของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว’ ดังนั้น แต่ละคนจึงมีการตีความเป็นของตัวเอง แต่เมื่อได้ยินว่า ‘ไม่ใช่ทั้งสอง’ ก็ยิ่งยากจะพบความเชื่องโยงมากกว่าเดิมในจิตใต้สำนึกของ ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์ส ‘เกาะแห่งนั้น’ หมายถึงสถานที่ที่โรซายล์ฝังศพหญิงสาวที่ตนรักมากที่สุด และ ‘ส่วนลึกของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว’ หมายถึงในช่วงบั้นปลายชีวิต จักรพรรดิเอาแต่จ้องมองท้องทะเลดวงดาว‘จัสติส’ ออเดรย์คิดว่า ‘เกาะแห่งนั้น’ หมายถึงเกาะแห่งจิตใจของตัวจักรพรรดิเอง ท้องทะเลคือสติ และด้านล่างเกาะคือจิตใต้สำนึก ส่วนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวหมายถึงผืนนภาแห่งวิญญาณ หมายถึงดินแดนดารา ดังนั้น คำถามที่สอดคล้องกันก็คือ “จักรพรรดิโรซายล์เชื่อมั่นในตัวเอง เทพ หรือธรรมชาติ?”หากคิดในมุมนี้ คำตอบที่ได้รับจากมิสเตอร์ฟูลฟังดูค่อนข้างประหลาด คล้ายกับกำลังบอกว่า จักรพรรดิโรซายล์ไม่เชื่อในสิ่งใดเลย รวมถึงตัวเองดูเหมือนว่าเราจะตีความผิด… แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง มันฟังดูขัดแย้งในตัวเองเกินไป คำตอบของมิสเตอร์ฟูลน่าจะมีความนัยแฝงอย่างอื่นซ่อนอยู่มากกว่า… หรือว่าในช่วงบั้นปลายชีวิต จักรพรรดิโรซายล์เกิดปลงและเริ่มคิดถึงความหมายของธรรมชาติ จักรวาล โลกแห่งเทพ และมนุษย์? จนกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายและไม่เชื่อในสิ่งใดเลย?ความคิดของแฮงแมนคล้ายกับเฮอร์มิท ส่วน ‘เดอะมูน’ เอ็มลินครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนจะถอดใจเนื่องจากไม่มีข้อมูล ทางด้านเดอะซันมิได้สนใจจักรพรรดิโรซายล์ แต่ก็มิได้ทำลายความเงียบ ก้มหน้าไตร่ตรองในสิ่งที่ตัวเองเตรียมไว้สื่อสารท้ายที่สุด เดอะฟูลที่ปกคลุมด้วยหมอกสีเทา หัวเราะในลำคอแผ่วเบา“เชิญ”“ต้องขอโทษด้วย แต่สมบัติวิเศษของคุณอาจต้องเลื่อนออกไปก่อน”โดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบสนอง มันรีบอธิบายเสริม“ช่างฝีมือคนดังกล่าวป่วยเป็นโรคประหลาด แถมรอบๆ บ้านยังมีคนมาคอยสอดแนมบ่อยครั้ง ส่งผลให้ตารางงานถูกเลื่อนออกไป… ผมจะรีบเดินทางไปตรวจสอบด้วยตัวเอง ดูว่าจะแก้ไขปัญหาให้เขาได้ไหม หาวิธีทำให้เขาหายป่วยโดยเร็วและกลับมาสร้างสมบัติวิเศษของคุณภายในสองสัปดาห์”มันกล่าวอย่างจริงใจ รวมถึงแสดงความขอโทษพร้อมกับอธิบายว่าตนมิได้ละเลย แต่สิ่งที่แฝงมาด้วยก็คือ อัลเจอร์พยายามโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้ช่างฝีมือคนดังกล่าว คล้ายกับกำลังบอกเดอะเวิร์ลว่า หากคุณไม่พอใจ ผมจะเดินทางไปสั่งสอนด้วยตัวเอง และถ้านั่นยังไม่เพียงพอ ผมสามารถมอบที่อยู่ให้คุณ ปล่อยให้คุณไปสั่งสอนด้วยตัวเองช่างฝีมือคนนั้นกำลังตกที่นั่งลำบาก… มิสเตอร์แฮงแมนให้ความสำคัญกับเขามาก… นั่นสินะ ช่างฝีมือที่ยอมรับงานจากผู้วิเศษนอกกฎหมาย ไม่สิ ต้องบอกว่า ช่างฝีมือที่ยอมรับงานจากลูกค้านิรนามนั้นมีน้อยมาก หากรักษาไว้ได้ก็ควรทำ… ไคลน์ไตร่ตรองสักพัก บังคับให้เดอะเวิร์ลตอบกลับเสียงแหบ“ผมอนุญาตให้เลื่อนออกไปได้… แต่ไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว”สิ่งที่ชายหนุ่มพูดออกมาอาจฟังดูธรรมดา แต่อัลเจอร์กลับเกิดความตึงเครียดเมื่อได้ยิน ราวกับสัมผัสได้ถึงจิตสังหารจาก ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์“ขอบคุณที่เข้าใจ” มันกล่าวด้วยสีหน้าสุขุม‘เฮอร์มิท’ แคทลียาที่นั่งฟังสนทนาระหว่างคนทั้งสอง หันไปมองแฮงแมนพลางยกมุมปากเล็กน้อย ดันแว่นขึ้นและพูด“ถ้าคุณแก้ไขไม่ได้ ดิฉันยินดีช่วย”ตามความคิดของเธอ หากปัญหาไม่ร้ายแรงนัก เธอสามารถให้ความช่วยเหลือฟรี เพราะนั่นจะหมายความว่าหลังจากนี้ แคทลียาสามารถข้ามแฮงแมนและติดต่อกับช่างฝีมือได้โดยตรงมีหรือที่ ‘แฮงแมน’ จะไม่เข้าใจเจตนาแท้จริงของนายพลโจรสลัด มันพบว่าพฤติกรรมในเชิงรุกในครั้งนี้ค่อนข้างอุกอาจ สร้างความกดดันให้ตนได้มากระดับหนึ่ง จึงหยุดคิดสักพักก่อนจะตอบอย่างใจเย็น“ขอขอบคุณในความกรุณาล่วงหน้า ผมจะไปบอกกับเขาให้”ในแง่หนึ่ง มันเปิดเผยว่าตนค่อนข้างสนิทกับช่างฝีมือคนดังกล่าว ขณะเดียวกันก็ไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือ เพราะนั่นจะช่วยให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์ไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ การเสียสละบางสิ่งจึงเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้แคทลียาไม่สานต่อหัวข้อเดิม หันมามอง ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์และพูด“คุณพึงพอใจกับข้อมูลของไบลัมตะวันตกไหม?”สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับไบลัมตะวันตกที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์ต้องการ เธอรวบรวมและเรียบเรียงเสร็จตั้งแต่วันพฤหัสบดี จากนั้นก็ส่งให้อีกฝ่ายผ่านผู้ส่งสารประหลาดเธอค่อนข้างยำเกรงและหวาดกลัวมิสเตอร์ฟูล หากมีวิธีการอื่นให้เลือก เธอก็ไม่อยากรบกวนท่านเสียเงินไปตั้งสามร้อยปอนด์ ถ้าข้อมูลบกพร่องหรือไม่ดีพอ เราคงส่งคืนทันทีไปแล้ว! ไคลน์พึมพำพลางบังคับให้เดอะเวิร์ลตอบด้วยการ ‘อืม’ ในลำคอจากนั้น สายตาของหุ่นเชิดหันไปทางเมจิกเชี่ยนฟอร์สพลันกระอักกระอ่วน เหมือนหนูที่กำลังถูกแมวจ้อง อดไม่ได้ที่จะนึกทบทวนว่าตัวเองทำอะไรผิดมาเป็นไปได้ไหมว่า ในตอนที่เราคุยกับซิล เขาจะได้ยินคำนินทาเกี่ยวกับดอน·ดันเตส? หรือเขาไม่พอใจที่เราไม่คืนเงิน? ฟอร์สยังคงนึกถึงภารกิจบอดี้การ์ดเมื่อหลายวันก่อน ตัดสินใจถามอย่างประหม่า“มิสเตอร์เวิร์ล… ม…มีอะไรหรือ?”‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์พยักหน้าและพูด“มีงานให้ทำ… สืบหาข้อมูลเกี่ยวกับเมืองกัลเดรอนในโลกวิญญาณจากตระกูลอับราฮัม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพิกัด”เมืองกัลเดรอน… เหตุใดเดอะเวิร์ลถึงตามหาเมืองลึกลับแห่งนี้? คำสั่งของมิสเตอร์ฟูล? หรือนี่คือหนึ่งในชิ้นส่วนสำคัญของแผนการฟื้นคืนพลัง? ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาพอจะมีข้อมูลของเมืองกัลเดรอนอยู่บ้าง จึงค่อนข้างประหลาดใจสมาชิกคนอื่นๆ ของชุมนุมทาโรต์อย่างเมจิกเชี่ยน ย่อมไม่ทราบว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์กำลังตามหาเมืองแบบไหน ทำได้เพียงปิดปากสนิท โดยจากบรรดาทั้งหมด ‘เดอะมูน’ เอ็มลินรู้สึกคล้ายกับเคยได้ยินมาก่อน แต่นึกถึงแหล่งที่มาไม่ออกผ่านไปสามถึงสี่วินาที ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สฝืนยิ้ม“ไม่มีปัญหา ดิฉันจะช่วยถามให้”“คิดราคาเท่าไร?” เกอร์มัน·สแปร์โรว์ถามเสียงเรียบหนึ่งพันปอนด์! ไม่สิห้าร้อยปอนด์… ไม่สิ ต้องหักจากค่าบอดี้การ์ด… ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สเค้นสมองคิด ก่อนจะตัดสินใจกล่าวออกไปว่า“สามร้อยห้าสิบปอนด์”ถูกมาก… หากไม่นับ ‘เจ็ดริ้วแสงแห่งโลกวิญญาณ’ คงมีเพียงตระกูลอับราฮัมเท่านั้นที่ทราบข้อมูลโดยละเอียดของเมืองกัลเดรอน… อา สำหรับมิสเมจิกเชี่ยน ภารกิจนี้คงเป็นแค่การถามอาจารย์ ไม่น่าแปลกใจที่ราคาค่อนข้างต่ำ… ไคลน์ประหลาดใจในตอนต้น ก่อนจะพบเหตุผลรองรับ จึงบังคับให้เดอะเวิร์ลพยักหน้าแผ่วเบาและตอบ“ตกลง”‘จัสติส’ ออเดรย์ที่เฝ้ามองการค้าขายครั้งนี้ สังเกตเห็นประเด็นที่น่าสนใจดูเหมือนว่ามิสเมจิกเชี่ยนจะหวาดกลัวมิสเตอร์เวิร์ลมาก จนถึงขั้นกลายเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติเธอเคยพบกับดอน·ดันเตสมาก่อน แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์… บังเอิญไปเห็นสิ่งที่น่ากลัวเข้า? ดีล่ะ เราจะนัดพบฟอร์ส ซิล และกายลินภายในสัปดาห์นี้ ดูว่าจะเค้นเบาะแสออกมาได้ไหม… ออเดรย์พยักหน้าเล็กน้อยอย่างครุ่นคิดขณะเดียวกัน เมื่อเห็นว่าเดอะเวิร์ลไม่พูดอะไรต่อ ‘เดอะมูน’ เอ็มลินรีบหันไปมองหน้าเดอะซัน“มีตะกอนพลังของลำดับ 5 แวมไพร์เทียมบ้างไหม?”“ผมยังมีคะแนนผลงานไม่พอ” ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคตอบอย่างไม่เขินอาย ตรงกันข้าม มันรู้สึกว่ามิสเตอร์มูนใจร้อนเกินไป วัตถุอย่างตะกอนพลังของลำดับ 5 มีหรือจะใช้คะแนนผลงานแลกมาได้ง่าย?เอ็มลินถอนสายตากลับด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะฉุกคิดบางสิ่งได้ จึงหันไปมองมิสเมจิกเชี่ยน“ข้าได้เบาะแสของวัตถุต้องสาปและเศษเสี้ยววิญญาณของวิญญาณโบราณมาแล้ว ตอนนี้กำลังรอรายละเอียดที่ชัดเจน… อาจไม่ใช่การส่งมอบวัตถุให้เจ้าโดยตรง แต่เป็นการบอกแหล่งค้นหาที่ใกล้กับเบ็คลันด์”กล่าวจบ เอ็มลินไตร่ตรองสักพัก“สามร้อยปอนด์”กล่าวอีกนัยหนึ่ง เราต้องล่าวิญญาณโบราณด้วยตัวเอง? จากข่าวลือต่างๆ มากมาย นี่คือสัตว์ประหลาดที่ทรงพลัง… หลังจากฟังคำของเดอะมูนจบ ท่าทีตอบสนองแรกของฟอร์สคือความลำบากใจ ท่าทีตอบสนองที่สองคือ หรือว่าตนควรฝากฝังงานนี้ให้มิสเตอร์เวิร์ลช่วยทำแทน? อีกฝ่ายต้องปิดภารกิจอย่างราบรื่นแน่!แต่หลังจากไตร่ตรองว่า ค่าจ้างเดอะเวิร์ลอาจสูงเกินกว่ามูลค่าของวิญญาณอาฆาตโบราณ เธอคิดว่าควรลองทำด้วยตัวเองมากกว่าคงต้องรอให้ซิลกลายเป็น ‘นักสอบสวน’ ก่อน จากนั้นค่อยร่วมมือกัน โอกาสสำเร็จจะมากขึ้น… นอกจากนั้นเรายังมี ‘บันทึกการเดินทางของเลมาโน่’ ภายในนั้นบรรจุพลังของครึ่งเทพจำพวก ‘ทอร์นาโด’ และ ‘อ้อมกอดเทวทูต’ รวมไปถึงพลังลำดับต่ำกว่าครึ่งเทพอีกหลายชนิด เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นสมบัติปิดผนึก… อา เรายังบกพร่องในด้านประสบการณ์ต่อสู้จริง เพราะส่วนใหญ่เอาแต่วิ่งหนี นี่คือโอกาส… ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สรีบตัดสินใจ หันไปกล่าวกับเดอะมูน“ตกลง”หลังจากผ่านการค้าขายอีกสองสามเรื่อง ช่วงเวลาค้าขายก็ถึงคราวสิ้นสุดลง ไคลน์บังคับให้ ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ชำเลืองไปทางแฮงแมนเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปรอบๆ“การสืบสวนเบื้องต้นของผมเกี่ยวกับคดีฆ่าตัวตายของคารอน เริ่มผลิดอกออกผลแล้ว”………………………………….
คอมเม้นต์