ราชันเร้นลับ 886 : เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง
ราชันเร้นลับ 886 : เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง
ครุ่นคิดสักพัก ไคลน์ที่มีแผนมากมายในหัว พยายามจำแนกความคิดของตน จนกระทั่งกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนพรึ่บ! ชายหนุ่มสะบัดกระดาษจนเกิดเปลวไฟลุกไหม้ เงยหน้ามองไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ฝั่งตรงข้าม เตรียมหยิบเหรียญทองโลเอ็นจากกระเป๋าเพื่อจ่ายค่าไปรษณีย์ทว่า มิสผู้ส่งสารหายตัวไปแล้ว ไม่มีใครอยู่ฝั่งตรงข้ามไคลน์ไม่คิดเงิน? ไคลน์ผงะเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว โดยสงสัยว่าไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ที่เคยชินกับการเก็บเงินจากผู้ส่งจดหมายที่ไม่ใช่ตน จะเป็นฝ่ายเรียกร้องค่าไปรษณีย์จากอีกฝั่งก่อนบางที มิสผู้ส่งสารอาจจะไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงใช้ดวงตาทั้งแปดจ้องหน้าเลียวนาร์ดอย่างพร้อมเพรียง ส่งผลให้อีกฝ่ายลนลานและทำตัวไม่ถูก รีบสิ้นสุดพิธีกรรมอัญเชิญจนถูกมิสไรเน็ตต์หักคอ… ไคลน์พ่นลมออกจากซอกฟัน ใช้เหรียญทองที่เพิ่งหยิบออกมา ทำนายเบื้องต้นจนพบว่า เลียวนาร์ดยังมีชีวิตอยู่ดีชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก เก็บเหรียญทองกลับ ตะโกนไปทางประตู“ริชาร์ดสัน”ประตูห้องเปิดออกเงียบงัน บุรุษรับใช้ริชาร์ดสันเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ซักถามด้วยความนอบน้อม“นายท่าน มีอะไรให้ผมรับใช้หรือ?”“เรียกพ่อบ้านให้หน่อย” ไคลน์แอบถอนหายใจขณะสั่ง มันรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตคนรวยที่ต้องจัดการทุกสิ่งผ่านบุรุษรับใช้ ไม่เว้นแม้แต่ในยามอยู่บ้านอย่าเพิ่งเหนื่อย นี่คือการสวมบทบาทอย่างหนึ่ง… ชายหนุ่มรำพันกับตัวเองไม่กี่นาทีถัดมา วอลเตอร์ที่สวมถุงมือสีขาว เดินขึ้นมายังชั้นสามและหยุดยืนต่อหน้าดอน·ดันเตสในท่าทิ้งมือแนบลำตัว เป็นภาษากายพื้นฐานของพ่อบ้านที่กำลังรอนายจ้างออกคำสั่งไคลน์ที่เตรียมคำพูดไว้แล้ว กล่าวอย่างไม่รีบร้อน“ไปที่บ้านของส.ส. มัคท์ บอกกับเขาว่าผมพร้อมจะจ่ายเงินก้อนแรกแล้ว… นอกจากนั้น เตรียมรถม้าให้ผม วันนี้มีแผนจะแวะไปยังกองทุนการกุศลเพื่อการศึกษาในช่วงเช้า จะกลับมาอีกทีช่วงเที่ยง… หากส.ส. มัคท์ไม่ว่างช่วงบ่าย ให้คุณเดินทางไปที่บ้านของศัลยแพทย์อลัน·คริสต์เพื่อแจ้งว่า ผมจะแวะเข้าไปหาในช่วงบ่าย”ไคลน์ถอนเงินสดจำนวนหนึ่งหมื่นปอนด์ออกจากมิติเหนือสายหมอกมาแล้ว ปัจจุบันถูกเก็บอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก รอเวลาที่เหมาะสมสำหรับบรรลุข้อตกลงในธุรกิจค้าอาวุธเถื่อนและเพื่อเป็นการ ‘ตาก’ กลิ่นของออร่าสายหมอกบนธนบัตร ไคลน์ใช้พลัง ‘ท่องเที่ยว’ ส่งตัวเองไปยังทะเล ขณะเดียวกันก็เป็นการหาอาหารมาป้อนให้ยุบพองหิวโหย – ชายหนุ่มกังวลว่า หากอยู่ในเมืองเดียวกัน อามุนด์จะสัมผัสถึง ‘กลิ่น’ ออร่าของสายหมอกสีเทา จากนั้นก็จะตรงมาตามล่าสมบัติที่มันปรารถนา“ครับ นายท่าน” พ่อบ้านวอลเตอร์พยายามข่มความสงสัยในเรื่องที่ นายจ้างของตนไปขึ้นเงินมาตอนไหน เพราะจากความทรงจำของมัน ดอน·ดันเตสแทบไม่ได้แวะไปยังธนาคารเลยอย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องเสียเวลาเป็นกังวล เนื่องจากบรรดาเศรษฐีที่ย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงเบ็คลันด์ โดยเฉพาะคนที่มาจากแคว้นเดซีย์และแคว้นเลียบทะเล มักเก็บเงินสดใส่กระเป๋าไว้เดินทางตลอดเวลา…บ้านเลขที่ 22 ถนนเฟลป์ สำนักงานใหญ่ ‘กองทุนการกุศลเพื่อการศึกษาแห่งโลเอ็น’ไคลน์เดินผ่านประตูหลักเข้าไปข้างใน เดินขึ้นชั้นสอง ตรงไปยังห้องรับรองคณะกรรมการในฐานะกรรมการกิตติมศักดิ์ที่มีส่วนร่วมเฉพาะในกิจการบางอย่าง ชายหนุ่มไม่มีห้องทำงานส่วนตัว แต่สามารถใช้ห้องรับรองของแขกพิเศษมือขวากำหมัดและเลื่อนขึ้นมาจ่อปาก จงใจกระแอมแห้งสองครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องรับรองและนั่งบนโซฟาผ่านไปสักพัก มันลุกขึ้นยืนอีกครั้ง กล่าวกับบุรุษรับใช้ริชาร์ดสันด้านข้าง“ผมจะไปเข้าห้องน้ำ”ติดกระดุมเสื้อผ้าเสร็จ ขณะไคลน์ก้าวเท้าออกจากห้องรับรอง มันเหลือบเห็น ‘จัสติส’ ออเดรย์เดินออกจากห้องทำงานของเธอสตรีสูงศักดิ์รายนี้แต่งกายค่อนข้างเรียบง่าย พื้นหลังของชุดเป็นสีขาว มีลวดลายสีเขียวเข้มแซมบางจุด ปลายแขนเสื้อและคอเสื้อมีรอยจีบ กึ่งกลางหน้าอกเป็นลูกไม้ที่ถูกถักจนดูคล้ายโบดอกไม้เธอมิได้สวมใส่เครื่องประดับ บริเวณเข็มขัดก็ยากจะดูออกว่าแพงหรือไม่ มีเพียงบริเวณแขนซ้ายที่ผิดปรกติ เมื่อแขนเสื้อถูกลมพัดจนแนบติดกับผิวหนัง ไคลน์สามารถมองเห็นรอยนูนเล็กๆ“อรุณสวัสดิ์ครับ มิสออเดรย์” ไคลน์เผยสีหน้าประหลาดใจเมื่อได้พบกันโดยบังเอิญออเดรย์มองไปยังดอน·ดันเตส หนุ่มใหญ่หน้าตาดีเจ้าของจอนสีขาว ขานรับด้วยรอยยิ้ม“อรุณสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ดันเตส”เธออยากจะตอบกลับไปว่า ‘ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ’ เป็นการหยอกล้อเพราะตั้งแต่พิธีเปิด ดอน·ดันเตสก็มิได้แวะเข้ามาที่สำนักงานอีกเลย แต่เมื่อพิจารณาว่าความสัมผัสของทั้งคู่มิได้สนิทสนมขนาดนั้น จึงตัดสินใจกลืนคำดังกล่าวลงคอไคลน์ลูบหน้าผากไปตามไรผม ส่ายหน้าและยิ้ม“ผมต้องขออภัยที่เพิ่งแวะเข้ามาในวันนี้… ช่วงนี้ผมยุ่งมาก และในอนาคตก็น่าจะยุ่งขึ้นไปอีก อาจต้องเดินทางไปยังทวีปใต้เพื่อจัดการกับบางสิ่ง”เหตุผลที่ชายหนุ่มแวะเข้ามาในวันนี้ก็คือ ต้องการบอกให้มิสจัสติสทราบเกี่ยวกับแผนออกเดินทางไปยังทวีปใต้ของตน เป็นการแสดงความจริงใจต่ออีกฝ่าย หวังว่าสุภาพสตรีชนชั้นสูงรายนี้จะช่วยบริหารจัดการกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ – สำหรับไคลน์ มันหวังจากก้นบึ้งหัวใจว่า ‘กองทุนการกุศลเพื่อการศึกษาแห่งโลเอ็น’ จะสามารถช่วยคนยากไร้ได้มากขึ้น“ไปทวีปใต้?” ออเดรย์เล็งเห็นถึงความจริงใจของดอน·ดันเตส พลางถามกลับอย่างมีชั้นเชิงไคลน์ยิ้มและตอบ“ทำธุรกิจน่ะครับ”ทันใดนั้น ความคิดแรกที่แล่นเข้ามาในหัวออเดรย์ก็คือ: คราวนี้จะมีผู้วิเศษลำดับ 5 คนไหนตายอีก?เมื่อเห็นว่ามิสจัสติสดูเหมือนจะจินตนาการในแง่ลบ ไคลน์เสริมอีกหนึ่งประโยค“เป็นการร่วมมือกับกองทัพเพื่อค้าขายบางอย่าง”หมายความว่ายังไง? ตัวตนดอน·ดันเตสมีไว้เพื่อสืบข่าวจากกองทัพ? ออเดรย์ผงะเล็กน้อย ยกมือขวาขึ้นมาแตะสี่จุดตามเข็มนาฬิกา เผยรอยยิ้มและกล่าว“ขอให้เทพธิดาอวยพรให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด”หลังจากกล่าวคำพูดติดปาก หญิงสาวพลันตระหนักถึงความขัดแย้งในตัวเอง เนื่องจากเธอกำลังขอให้เทพธิดารัตติกาลอวยพรข้ารับใช้ของเดอะฟูล!นี่เท่ากับเป็นการสาปแช่งรึเปล่า… มิสเตอร์เกอร์มัน·สแปร์โรว์จะโกรธไหม? คงไม่หรอก เขาเป็นคนอ่อนโยนมาก แถมเรายังไม่มีเจตนาร้าย… อา หลังกลับจากทวีปใต้ มิสเตอร์ดอน·ดันเตสอาจถูกสวมบทบาทโดยคนอื่น… จะเป็นครึ่งเทพรึเปล่านะ? ออเดรย์ปล่อยความคิดล่องลอยโดยไม่รู้ตัวไคลน์ยิ้มแห้ง วาดพระจันทร์แดงบนหน้าอกอย่างชำนาญ“ขอให้เทพธิดาคุ้มครองพวกเรา”และขอให้พระองค์ไม่ ‘ลงทัณฑ์’ พวกเรา… ชายหนุ่มกล่าวในใจจากนั้น ชายหนุ่มถามอย่างผ่อนคลาย“คุณได้ไปช่วยโปรโมตตามโรงเรียนมาหรือยัง?”“ค่ะ!” เมื่อพูดถึงประเด็นนี้ ใบหน้าออเดรย์คล้ายกำลังส่องประกาย เธอภูมิใจและมีความสุขมากที่ได้ทำประโยชน์ให้กับสังคมอย่างเป็นชิ้นเป็นอันแต่หลังจากผงกศีรษะอย่างกระฉับกระเฉง ความสงสารค่อยๆ เผยให้เห็นในดวงตาสีเขียว“หลังจากตระเวนไปตามโรงเรียนของรัฐหลายแห่ง ดิฉันพบว่ามีเด็กหลายคนที่น่าสงสาร เพื่อที่จะอดออม พวกเขานำขนมปังสีน้ำตาลติดตัวมาเป็นมื้อกลางวัน กินคู่กับน้ำแค่หนึ่งแก้ว”กล่าวถึงตรงนี้ หญิงสาวเงยหน้ามองดอน·ดันเตส กล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิด“ดิฉันทราบดี ในช่วงนี้ พวกเขาคงยังไม่พาไปยังโรงเรียนภาคค่ำและโรงเรียนวันอาทิตย์ ไม่ให้ดิฉันได้เห็นอะไรที่เลวร้ายกว่านี้หลายเท่า… แต่ดิฉันพอจะจินตนาการออก… เหมือนกับคนงานที่มีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่ปีหลังจากเริ่มทำงานในโรงงาน…”นี่คือสิ่งที่ ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์เคยเล่าให้เธอฟัง เป็นสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้นจริงภายในกรุงเบ็คลันด์ อย่างไรก็ตาม หญิงสาวไม่มีโอกาสได้เห็นด้วยตาตัวเอง จึงทำได้แค่นึกภาพตามไคลน์ถอนหายใจ“มันแย่กว่านั้นอีกนะ… ไม่ต้องห่วง ไว้คุณแสดงฝีมือจนได้รับความเชื่อใจ ทางทีมงานจะยอมรับให้คุณเป็นส่วนหนึ่งอย่างแน่นอน”“ค่ะ” ออเดรย์พยักหน้ารับ คล้ายกับกำลังหาทางแสดงฝีมือให้มากขึ้นไคลน์ไม่ได้สานต่อบทสนทนา เพราะท้ายที่สุด นี่เป็นเพียงการพบกันครั้งที่สาม หากคุยกันนานเกินไป เกรงว่าจะถูกสงสัยเข้าชายหนุ่มชี้ไปทางห้องน้ำ กล่าวขอตัวและเดินผ่านไปออเดรย์ยืนมองแผ่นหลังของดอน·ดันเตส เงียบไปสักพักก่อนจะพึมพำ“ยังมีแย่กว่านั้นอีกหรือ…”…หลังจากส.ส. มัคท์นัดให้ไปเจอกันที่ ‘สมาคมนายทหารผ่านศึกไบลัมตะวันออก’ ในช่วงเย็น ไคลน์ทำตามแผนเดิมที่วางไว้ แวะเข้าไปหาศัลยแพทย์อลัน·คริสต์ในช่วงบ่ายสี่โมง“มิสเตอร์ดันเตส พ่อบ้านของคุณยังไม่ได้แจ้งเหตุผลที่คุณแวะเข้ามา” เนื่องจากภรรยาใกล้คลอดในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า นายแพทย์อลันจึงทิ้งงานทั้งหมดและหมกตัวอยู่แต่ในบ้านสำหรับดอน·ดันเตสที่ไม่ได้สนิทกันมากนัก การแวะมาเยี่ยมบ้านอย่างกะทันหันทำให้อลันประหลาดใจพอสมควร แถมยังเป็นคนที่เข้าสังคมไม่เก่ง คำทักทายจึงเป็นการถามเข้าประเด็นไคลน์ยิ้มและตอบ“เรื่องมีอยู่ว่า เร็วๆ นี้ผมต้องเดินทางไปยังทวีปใต้ และอย่างที่คุณทราบ อากาศที่นั่นร้อนชื้น เต็มไปด้วยแมลงและเชื้อโรค ผมอยากเตรียมยาล่วงหน้าเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีคำแนะนำบ้างไหม? ขอโทษที่ต้องรบกวน แต่คุณคือหมอฝีมือดีคนเดียวที่ผมรู้จัก”นายแพทย์อลันเชื่อในคำอธิบาย เริ่มคิดอย่างจริงจังสักพักก่อนจะเขียนชื่อยาให้เมื่อจัดการเสร็จ ไคลน์ที่รับกระดาษโน้ตซึ่งเต็มไปด้วยชื่อยา อ้างว่าตนปวดท้องและขอเข้าห้องน้ำชั้นล่างกระจกห้องน้ำมืดลงทันที คล้ายกับถูกปกคลุมด้วยเงาดำหนาทึบ โดยภายในเงาดังกล่าว รถเข็นเด็กสีดำค่อยๆ แล่นเข้ามาอย่างเชื่องช้า ด้านในมีเด็กถูกห่อด้วยรังไหมสีเงิน“คราวนี้มีอะไรหรือ?” วิล·อัสตินถามเสียงสดใสไคลน์กระแอมแห้งสองหน พยายามยิ้มขณะพูด“น่าจะได้ยินแล้วนี่ ผมจะกำลังจะเดินทางไปยังทวีปใต้… ผมไม่อยากพลาดช่วงเวลาที่คุณคลอด จึงอยากถามว่า คุณมีแผนจะให้ตัวเองเกิดวันที่เท่าไร”วิล·อัสตินดูดนิ้วหัวแม่มือขณะตอบ“ข้าไม่ทราบ”“กระทั่งเทวทูตก็มิอาจควบคุมเวลาเกิดของตัวเอง?” ไคลน์ถามด้วยความประหลาดใจวิล·อัสตินตอบอย่างลังเล“เจ้ายังไม่เข้าใจ… ข้ามีวันที่ในใจแล้วสามวัน แต่ละวันมีความหมายแตกต่างกันไปในเชิงโชคชะตา แต่ข้ายังไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องเลือกวันไหน ตอนนี้ยังมองเห็นเพียงความเลือนราง… เมื่อใกล้จะถึงเวลา ข้าคงรู้เองว่าต้องทำอย่างไร”เป็นพวกหลายใจ? นอกจากนั้นยังฟังดูเหมือนพวกนักต้มตุ๋น… ไคลน์ประสานมือพลางถูกเข้าด้วยกัน“ถ้าอย่างนั้น ผมจะทราบเวลาที่แน่ชัดได้ยังไง? จะได้กลับมาบรรลุขั้นตอนสุดท้ายของธุรกิจพวกเราได้ทันเวลา… เอ่อ นกกระเรียนกระดาษตัวนั้นชำรุดจนไม่สามารถใช้งานได้อีกแล้ว”
คอมเม้นต์