ราชันเร้นลับ 881 : ละครเวที
ราชันเร้นลับ 881 : ละครเวที
ครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบที่ซ่อนอยู่ในเงามืด สวมเสื้อคลุมยาวสีดำที่มีผ้าคลุมหัว ใบหน้าถูกปกคลุมด้วยหน้ากากสีทองลวดลายแดงสลับดำ มองไม่ออกว่าอ้วนหรือผอม แต่ไม่เตี้ยแน่นอน สูงอย่างน้อย 1.8 เมตรหลังจากใช้สมบัติปิดผนึกเส้นทางนักจารกรรมขโมยโลงศพของตูตันส์ที่สองมาอยู่ตรงหน้า ร่างของมันพลันซีดจางและโปร่งใส ก่อนจะยืดออกคล้ายเชือกยาวนุ่มๆ‘เชือก’ ที่โปร่งใสจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเส้นนี้ พันเข้ากับโลงศพสีทองอันหนักอึ้งอย่างรวดเร็ว เตรียมนำเข้าสู่โลกวิญญาณทันใดนั้น สายลมกระโชกดังขึ้นข้างใบหูครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบ กรีดเฉือนกับห้วงมิติจนเกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหวบึ้ม!โลงศพสีทองของมัมมี่ตูตันส์ที่สองลอยขึ้นไปในอากาศ ส่วนเชือกโปร่งใสที่สัมผัสกับแรงระเบิดเข้าอย่างจัง หดกลับคืนร่างมนุษย์อย่างรวดเร็วครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบรายนี้พุ่งขึ้นฟ้าในแนวเฉียงอย่างมิอาจควบคุม ก่อนจะแปลงร่างเป็นวิญญาณอาฆาต ไม่สิ วิญญาณมาร ปล่อยให้สายลมอันเกรี้ยวกราดที่ไล่ตามหลัง พัดผ่านร่างกายไปราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นขณะมันกำลังสำรวจการไหลเวียนของกระแสอากาศโดยรอบ พายุทอร์นาโดบนพื้นเริ่มยกตัวสูง พัดพาก้อนหินและเศษกรวดบนพื้นดิน รวมถึงหลังคาอาคารใกล้เคียง ลอยขึ้นฟ้าอย่างโกลาหลในเวลาไล่เลี่ย แม้กระทั่งเกวียนที่เคยวิ่งด้วยตัวเองในตอนแรกก็ยังลอยไปบนฟ้าและแตกกระจัดกระจายท่ามกลางสายลมรุนแรงอาจดูเหมือนโชคดี แต่ความจริงแล้วเป็นแผนที่พวกมันวางไว้ เงาดำในจุดที่ครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบซ่อนอยู่ ไม่มีทหารของโลเอ็นประจำการแม้แต่คนเดียว แถมยังห่างไกลจากถนนสายหลักในเวลาเดียวกัน หญิงสาวซึ่งสวมมงกุฎหนามและชุดราตรีสีดำ ถูกพายุทอร์นาโดขัดขวางจนเคลื่อนไหวไม่สะดวก ร่างกายเสียหลักอย่างมิอาจควบคุม ยากจะเข้าไปใกล้โลงศพสีทองที่ถูกยกลอยขึ้นฟ้า ทำได้เพียงอาศัยการแรงปะทะเพื่อหมุนตัวเองไปด้านหลัง หันหน้าไปทางโกดังที่อยู่ด้านนอกท่าเรือทันใดนั้น เธอมองย้อนกลับไปยังครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบที่ไม่ได้รับผลกระทบจากทอร์นาโด“จองจำ!” หญิงสาวที่สวมหน้ากากสีทองเช่นกัน ยกมือซ้ายขึ้นและทำท่าคว้าอากาศครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบนั้นมีสัมผัสวิญญาณเฉียบแหลม สามารถรับรู้อันตรายได้จากโลกวิญญาณโดยตรง จึงชิงลงมือก่อนครึ่งก้าว ใช้กระโดดกระจกหนีไปยังเศษแก้วที่ห่างออกไปราวแปดสิบเมตรขณะนี้ คล้ายกับพายุทอร์นาโดสูญเสียเสถียรภาพ เริ่มสงบลงอย่างรวดเร็วตึง! ตึง! ตึง! เศษสิ่งของที่เคยถูกยกลอย ทยอยร่วงหล่นกระแทกพื้นดิน หนึ่งในนั้นคือโลงศพมัมมี่ตูตันส์ที่สองโครม!แรงกระแทกทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ เค้าโครงด้านนอกของโลงศพที่อยู่ในสภาพร่อแร่เพราะลมพายุ ถึงคราวถูกทำลายโดยสมบูรณ์ฝาโลงศพลอยขึ้นฟ้า ทองคำและอัญมณีในโลกศพส่วนบนกระเด็นลอยไปทุกทิศทางถัดมา โลงศพส่วนล่างกลิ้งไปมาสองสามตลบ กล่องทองคำและภาชนะหยกกลิ้งกระจัดกระจาย ด้านในเต็มไปด้วยอวัยวะภายในซึ่งอยู่ในสภาพเหี่ยวเฉาศพที่ถูกห่อด้วยผ้าลินินสีน้ำตาลอมเหลือง กลิ้งกระเด็นไปในทิศทางหนึ่ง ผิวผ้าชุ่มไปด้วยของเหลวสีแดงเข้มไม่ใช่สิ่งใดนอกจากมัมมี่ที่สร้างจากศพของตูตันส์ที่สอง ลำตัวค่อนข้างบาง สวมหน้ากากทองคำแถบแดงสลับดำเหมือนกับครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบคนเมื่อครู่ บริเวณเบ้าตาฝังอัญมณีสีดำบริสุทธิ์สองเม็ดขณะที่มัมมี่โผล่ออกมา สภาพแวดล้อมโดยรอบเย็นเยียบกะทันหัน และในเวลาเดียวกัน หลังจากกลิ้งไปได้สักพัก โลงศพส่วนล่างหยุดนิ่งในสภาพคว่ำหน้า ของเหลวสีแดงเข้มไหลซึม ฉาบพื้นดินในจุดดังกล่าวจนชุ่มฉ่ำได้เห็นฉากดังกล่าว ครึ่งเทพโรงเรียนกุหลาบที่มาพร้อมกับสมบัติปิดผนึกเส้นทางนักจารกรรมพลันเดือดดาลทันที แต่เพียงไม่นานก็ทำหน้าคล้ายกับฉุกคิดบางสิ่งได้ สายตาเปลี่ยนไปเป็นความตื่นเต้นมันเตรียมหายตัวจากเศษแก้ว ไปโผล่อีกครั้งในดวงตาอัญมณีสีดำบนหน้ากากของมัมมี่ตูตันส์ที่สอง หวังเข้าสิงร่างและพามัมมี่ตนดังกล่าวหนีเข้าโลกวิญญาณ!ทว่า ท่ามกลาง ‘เนตรวิญญาณมาร’ ที่เปิดอยู่ มันพบว่ามัมมี่หันหน้าออกจากตำแหน่งเดิมขณะเดียวกัน มัมมี่ตูตันส์ที่สองซึ่งสวมมงกุฎสีทองเหนือศีรษะ กำลังหันหน้าที่มีดวงตาอัญมณีสีดำไปทางประภาคารแห่งเดียวของท่าเรือพริสต์ฟาโรห์ซึ่งล่วงลับไปนานกว่าหลายร้อยปีรายนี้ ส่งเสียงคำรามต่ำที่ฟังดูไม่เหมือนมนุษย์ ขาผอมๆ ที่พันด้วยผ้าลินินสีน้ำตาลอมเหลืองเริ่มขยับก้าวเดิน จนกระทั่งกลายเป็นวิ่ง!คล้ายกับมันกำลังวิ่งตามหาอิสรภาพ โดยที่ลืมไปว่า ตัวมันเป็นเพียงศพ ศพที่ควรจะนอนนิ่งๆสวบ! สวบ! สวบ! มัมมี่ตูตันส์ที่สองเร่งความเร็วสูงสุดทันทีที่เริ่มออกวิ่งได้เห็นเช่นนั้น สตรีในชุดราตรีสีดำยกมือขวาขึ้น เล็งไปยังมัมมี่ซึ่งกำลังทำตัวผิดธรรมชาติ“คนตายทุกคนจะต้องนอนหลับอย่างสงบ!” หญิงสาวพ่นถ้อยคำภาษาเฮอร์มิสโบราณตึง!มัมมี่ตูตันส์ที่สองย่ำเท้าลงบนพื้น กระโดดสุดแรงไปยังทิศทางหนึ่งจนกระทั่งหลุดพ้นจากขอบเขตของ ‘กฎ’ ฉิวเฉียด หลีกเลี่ยงการนอนหลับพักผ่อนอย่างสงบในจุดห่างออกไป ชายผมดำดวงตาสีทองที่กำลังไล่ล่า ‘ผู้เงียบขรึม’ มาฮามูซี พลันหรี่ตาลง สั่งให้แหวนบนมือส่องแสงระยิบระยับคล้ายผลึกแก้วอีกครั้งร่างของมันปรากฏตัวอีกครั้งด้านหน้ามัมมี่ พยายามขัดขวางมิให้คนตายวิ่งหนีทว่า มัมมี่ตูตันส์ที่สองหักเลี้ยวอีกครั้ง รีบวิ่งตรงไปยังทิศทางหนึ่งมันยังเปลี่ยนทิศทางการวิ่งอีกหลายครั้ง คล้ายกับพยายามวิ่งไปให้ถึงประภาคารด้วยทิศทางไม่ต่อเนื่องภายในใจ ‘ผู้เงียบขรึม’ มาฮามูซีกำลังปั่นป่วน รีบหายตัวและโผล่อีกครั้งบนเศษแก้วใกล้กับมัมมี่โดยใช้เศษแก้วเป็นสะพานเชื่อม มันกระโดดอีกครั้งเข้าไปในดวงตาอัญมณีสีดำบนหน้ากากตูตันส์ที่สอง!แม้ครึ่งเทพของกองทัพโลเอ็นจะตั้งกฎห้ามสิงสู่ ทว่า มัมมี่ฟาโรห์แห่งอาณาจักรที่ราบสูงมิได้เป็นเพียงวัตถุวิญญาณธรรมดา แต่อัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณมหาศาล!เมื่อเห็นว่าพวกพ้องประสบความสำเร็จ ครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบที่มาพร้อมสมบัติปิดผนึกเส้นทางนักจารกรรม เหยียดฝ่ามือซ้ายที่สวมถุงมือดำ เล็งไปยังสตรีสวมชุดราตรี กำหมัดแน่นพร้อมกับบิดเป็นครึ่งวงกลมหญิงสาวตกอยู่ในภวังค์เหม่อลอยชั่วขณะ ก่อนจะพบว่าชุดราตรีของตนกำลังรัดแน่น โดยในขณะเดียวกัน ทหารโลเอ็นบนหลังคาโกดังที่อยู่ห่างออกไป พบว่าพวกตนมิอาจควบคุมปากกระบอกปืนได้ดังใจ ต่างพากันเล็งไปยังทิศทางหนึ่งอย่างพร้อมเพรียงและเหนี่ยวไกทันทีปัง! ปัง! ปัง!แม้แต่สัตว์ประหลาดโลหะที่ควบคุมปืนใหญ่ก็ยังส่งกระสุนขนาดมหึมาไปทางหญิงสาวครึ่งเทพของกองทัพโลเอ็นมิได้พยายามช่วยเหลือพวกพ้อง แต่หันดวงตาสีทองไปยังมัมมี่ตูตันส์ที่สองซึ่งถูกมาฮามูซีสิงร่างจนหยุดเคลื่อนไหว ก่อนจะกำมือขวาแน่นพร้อมกับตวัดรุนแรง“ประหาร!”ความสุขกำลังปรากฏในดวงตา มันไม่สนว่ามัมมี่ตูตันส์จะตายอีกกี่ครั้ง แต่มาฮามูซีที่สิงอยู่ด้านในไม่สามารถทนรับสิ่งนี้ได้แน่!พร้อมกันนั้น กระสุนไรเฟิลและกระสุนปืนใหญ่ที่กำลังพุ่งเข้าหาหญิงสาวในชุดราตรี พลันเคลื่อนไหวช้าลงกะทันหัน คล้ายกับตกหลุมอากาศในบริเวณดังกล่าว เป็นการถูก ‘ผลัก’ ด้วยพลังในเชิง ‘กฎ’เหนือศีรษะหญิงสาวในชุดราตรี มงกุฎหนามส่องสว่างอีกครั้ง ‘ทะเลแสง’ ที่รวบรวมไว้ถูกใช้งานจนเกือบหมดในคราวเดียวเพียงพริบตา ครึ่งเทพโรงเรียนกุหลาบที่สวมเสื้อคลุมหัว พบว่าระยะทางระหว่างตนและหญิงสาวถูกลบออกไป กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันถูกดึงให้มาอยู่ตรงหน้าอีกฝ่ายอย่างฉับพลัน ขณะเดียวกันก็เห็นสตรีคนดังกล่าวกำลังยกหมัดขวาแสงสว่างอันเจิดจ้ากำลังควบแน่นในกำปั้นขวาข้างดังกล่าว ก่อนจะก่อตัวกลายเป็นหอกเพลิงสีขาวลุกโชน โดยที่บริเวณคมหอกมีปีกสีขาวสองข้างสยายออก ประหนึ่งได้รับการอวยพรจากเทวทูตทันใดนั้น รูม่านตาของครึ่งเทพโรงเรียนกุหลาบพลันหดลีบ คล้ายกับกำลังได้ยินเสียงฝีเท้าแห่งความตายค่อยๆ ย่างกรายเข้าใกล้ มันพยายามใช้ ‘กระโดดกระจก’ เพื่อสร้างระยะห่าง แต่กลับถูกปีกสีขาวสว่างผนึกเส้นทางโดยรอบเมื่อความกลัวแผ่ซ่านท่วมท้นจิตใจ มันเริ่มคุมสติไม่อยู่ ค่อยๆ หยุดระงับแก่นแท้ของพลังและตัวตนเพียงพริบตา เสียงแผดร้องที่กังวานและเกรี้ยวกราดแผ่ออกไปทุกทิศ ดวงตาของหญิงสาวในชุดราตรีพลันเบิกโพลงหอกสีขาวที่ลุกโชนในมือขวาพลันขาดเสถียรภาพ แตกกระจัดกระจายไปในอากาศ สลายกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยและในจุดใกล้กับมัมมี่ตูตันส์ที่สอง ‘ผู้เงียบขรึม’ มาฮามูซีตัดสินใจเลิกสิงร่าง ปรากฏกายจากความว่างเปล่า ด้านข้างลำตัวมีตุ๊กตาที่ทำจากเศษผ้าตกอยู่บนหน้าอกตุ๊กตามีรอยแตกที่เกือบทะลุไปถึงข้างหลังทันใดนั้น ตุ๊กตาผ้าเก่าลุกขึ้นยืน ใบหน้าที่ปราศจากดวงตาของมันค่อยๆ บิดเบี้ยวทีละนิดประหนึ่งมีชีวิต ตามด้วยแผดเสียงหวีดแหลมอันน่าสะพรึง ส่งผลให้ครึ่งเทพของกองทัพโลเอ็นที่มีดวงตาสีทอง คล้ายกับลำคอถูกบีบด้วยมือล่องหน ลำตัวลอยขึ้นไปในอากาศ ขาทั้งสองข้างพยายามดีดดิ้นต้องขอบคุณตุ๊กตาตัวนี้ มาฮามูซีจึงรอดพ้นจากการถูก ‘ประหาร’ และครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบอีกคนก็ยังรอดจากการถูกหอกไฟเสียบร่างได้เห็นเช่นนั้น ครึ่งเทพรายหลังรีบกระโดดกระจกเพื่อเข้าใกล้มัมมี่ของตูตันส์ที่สองซึ่งยังคงมุ่งหน้าไปทางประภาคาร เตรียมฉวยโอกาสนี้ร่วมมือกับมาฮามูซี ปิดฉากภารกิจตรงหน้าให้เสร็จสิ้นแต่ทันใดนั้น หญิงสาวในชุดราตรีทำการลบระยะทางระหว่างเธอและพวกมันทั้งสอง ปรากฏตัวบนท้องฟ้าเหนือศีรษะมาฮามูซี มงกุฎหนามบนหัวพลันเปล่งแสงที่เจิดจ้าและบริสุทธิ์เธอกดมือขวาลงและเปล่งเสียง“ณ ที่นี่ ศาสตร์เร้นลับจะอ่อนแอลง โลกแห่งความจริงจะเข้มแข็งขึ้น!”เมื่อสิ้นเสียง ตุ๊กตาเศษผ้าเก่าๆ ที่เปื้อนเลือดพลันหยุดการกระทำทันที ส่งผลให้เสียงร้องหวีดแหลมเลือนหาย ช่วยให้ครึ่งเทพของกองทัพโลเอ็นมีเวลาหายใจหายคออีกครั้ง เป็นอิสระจากฝ่ามือล่องหนนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป พลังครึ่งเทพของพวกมันจะอ่อนแอลง และการโจมตีจากโลกความจริงจะเข้มแข็งยิ่งขึ้นกล่าวอีกนัยหนึ่ง บรรดาทหารโลเอ็นที่อยู่ด้านบนโกดังสินค้า รวมถึงรถศึกพลังไอน้ำที่กำลังแล่นมาตามรางเหล็ก จะนำมาชัยชนะมาให้กับกองทัพโลเอ็น!สำหรับกองทัพโลเอ็น กฎเช่นนี้ส่งผลดีกับพวกมันอย่างสุดขั้ว!มาฮามูซีและครึ่งเทพอีกคนของโรงเรียนกุหลาบไม่รอช้า คนหนึ่งพยายามสิงร่างมัมมี่ ส่วนอีกคนหยิบตุ๊กตาผ้าเปื้อนเลือด หมายหลบหนีก่อนที่พลังของพวกตนจะถดถอยแน่นอน หญิงสาวในชุดราตรีและครึ่งเทพตาสีทองไม่มีทางปล่อยให้ศัตรูทำตามอำเภอใจ เตรียมเข้าไปขัดขวางอย่างเต็มกำลัง แต่ทันใดนั้น กลุ่มก้อนแสงพลันพุ่งขึ้นท้องฟ้าในทิศทางหนึ่ง เกิดระเบิดกลายเป็นดอกไม้ไฟหลากสีสันถัดมา สัมผัสวิญญาณของครึ่งเทพทั้งสองถูกกระตุ้นพร้อมกัน ต่างคนต่างหันมายังฝั่งตรงข้ามโดยมิได้นัดหมายถุงมือสีใสโผล่ออกจากความว่างเปล่าใกล้กับจุดที่โลงศพทองคำของมัมมี่ตูตันส์วางคว่ำอยู่ มือปริศนาข้างดังกล่าวคว้าโคลนจำนวนมากที่เปียกชุ่มไปด้วยของเหลวสีแดงเข้มของเหลวเหล่านี้เกิดจากการผสมระหว่างสมองบดและของเหลวในร่างกษัตริย์ตูตันส์ที่สอง เป็นวัตถุดิบสำหรับพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อสร้างมัมมี่ โดยที่อย่างหลังมีส่วนผสมของเลือดผู้ตาย!มาฮามูซีและครึ่งเทพของโรงเรียนกุหลาบที่ครอบครองสมบัติปิดผนึกเส้นทางนักจารกรรม ต่างก็หันไปมองทิศทางดังกล่าวในเวลาถัดมา พบชายคนหนึ่งในชุดสูทสุภาพ สวมหมวกทรงสูงอีกฝ่ายกำลังโน้มตัวหยิบโคลนที่เปียกชุ่มของเหลวสีแดงเข้มระหว่างนั้น มือขวาของชายหนุ่มกดลงบนหน้าอกซ้ายตลอดเวลา คล้ายกับกำลังแสดงความเคารพต่อครึ่งเทพทั้งสี่อย่างนอบน้อมปนยียวน จนกระทั่งชายคนดังกล่าวค่อยๆ เงยหน้าขึ้นในท่าเดิม เผยให้เห็นหน้ากากสีเงิน จากนั้นก็หายตัวไปจากตำแหน่ง เหลือทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า
คอมเม้นต์