ราชันเร้นลับ 875 : มัมมี่
ราชันเร้นลับ 875 : มัมมี่
บ้านเลขที่ 7 ถนนพินสเตอร์ เลียวนาร์ด·มิเชลเดินไปที่โต๊ะอ่านหนังสือ กางกระดาษจดหมายจากนั้นก็หยิบปากกาหมึกซึม กดข้อมือเตรียมเขียนทว่า หลังจากกดจุดสีน้ำเงินเข้มลงบนกระดาษ ปากกาหมึกซึมก็นิ่งสนิท แม้จะพยายามขยับข้อมืออีกหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่เกิดอะไรขึ้นเนื่องจากความลังเลเลียวนาร์ดยกข้อมือขึ้น กดปากกาลง สลับเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมือลอยค้างกลางอากาศแกร่ก! เลียวนาร์ดทิ้งปากกาลง ขยำกระดาษเป็นลูกบอล โยนลงถังขยะที่ปลายโต๊ะอย่างแม่นยำ…บ้านเลขที่ 160 ถนนเบ็คลันด์ ไคลน์หยิบจดหมายจากหนึ่งในสี่ปากของไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ชายหนุ่มชั่งใจสักพัก จนกระทั่งพบว่าสัมผัสวิญญาณมิได้แจ้งเตือนอันตราย จึงแกะซองและนำจดหมายด้านในออกกระดาษมีเพียงหนึ่งแผ่น เนื้อหามีเพียงหนึ่งหน้า และประโยคมีเพียงสองบรรทัด“ดิฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ อยากคุยรายละเอียดต่อหน้า”“ชารอน”ที่แท้ก็จากชารอน… ไคลน์คลายข้อสงสัย หยิบเหรียญทองออกมาทำนายง่ายๆ ต่อหน้าไรเน็ตต์·ไทน์เคอร์ จากนั้นก็หยิบกระดาษอีกแผ่นออกมาเขียนข้อความ“คืนนี้”หลังจากพับกระดาษ ชายหนุ่มกล่าวขณะยื่นให้มิสผู้ส่งสาร“กลับไปหาเธอถูกไหม?”ถ้าไม่ ตนจะได้แนบที่อยู่ทางไปรษณีย์ของชารอนบ้านเลขที่ 126 ถนนการ์ด เขตฮิลสตัน มาดามมาเรีย“ถูก…” หนึ่งในศีรษะผมทองดวงตาสีแดงของไรเน็ตต์ตอบจากนั้นก็อ้าปากและงับจดหมายที่ถูกพับรอจนกระทั่งผู้ส่งสารหายไป ไคลน์ประกอบพิธีกรรมนำยุบพองหิวโหยกลับมายังโลกความจริง จากนั้นก็ ‘ท่องเที่ยว’ ไปยังเกาะใหญ่ๆ เพื่อมองหาโจรสลัดผู้โชคดียุบพองหิวโหยยังไม่ถูกผนึก จำเป็นต้องกินมนุษย์หนึ่งคนทุกวัน ไคลน์จึงแทบไม่มีโอกาสได้ใช้งาน ทุกครั้งที่นำออกมาต้องป้อนอาหารให้เรียบร้อย เมื่อใกล้ครบกำหนดก็จะโยนกลับเข้าไปในมิติหมอก แม้ในแต่ละครั้งจะเรียงลำดับก่อนหลังไม่เหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างมากนักถ้ายุบพองหิวโหยกล้าสร้างปัญหา… เราจะจับป้อนด้วยเห็ด! หลังจากประกอบพิธีกรรมเสร็จ ไคลน์เก็บกวาดและสวมถุงมือหนังมนุษย์แผ่นบาง ก่อนที่ร่างกายจะเริ่มเลือนรางและหายไปโดยสมบูรณ์…หลังจากจบอาหารเย็นและรอให้ยุบพองหิวโหย ‘แหกปาก’ บนมิติเหนือสายหมอกเสร็จ ไคลน์เข้าห้องน้ำโดยอ้างว่าปวดท้อง จากนั้นก็นำถุงมือหนังมนุษย์ลงมาและ ‘ท่องเที่ยว’ ไปยังด้านนอกผับวีรบุรุษย่านสะพานเบ็คลันด์ระหว่างนี้ รูปลักษณ์ชายหนุ่มเปลี่ยนไปอย่างเป็นธรรมชาติ กลายเป็นยอดนักสืบเชอร์ล็อก·โมเรียตี้เจ้าของผมสีดำ เคราดก และสวมแว่นตาหลังจากก้มตัวม้วนขากางเกง ไคลน์หัวเราะกับตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะเดินกดหมวกและผลักประตูไม้เข้าไปในผับสอบถามบาร์เทนเดอร์พร้อมกับสั่งเบียร์นันวีลล์หนึ่งแก้ว ไคลน์เดินมายังห้องบิลเลียดหมายเลขสาม เคาะประตูด้วยนิ้วก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ท่ามกลางเสียงเคาะเป็นจังหวะ ประตูเปิดแง้มพร้อมกับเสียงไม้เสียดสีเอียนตาสีแดงมองสำรวจออกมาข้างนอก ก่อนจะเผยรอยยิ้ม“เชิญเข้ามาได้เลย”เนื่องจากอากาศเริ่มร้อน เด็กหนุ่มมิได้ใส่โค้ทเก่าตัวเดิม แต่เปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ้ตผ้าลินินไคลน์ยิ้มและพยักหน้า อาศัยแสงไฟในห้องบิลเลียดช่วยให้มองเห็นทุกสิ่งมาริคผู้มีผมเผ้าค่อนข้างยุ่งเหยิง สวมเชิ้ตสีขาวและกั๊กสีดำ กำลังโน้มตัวจับไม้คิวในท่าแทงบิลเลียดบางที อาจเป็นเพราะความอลหม่านที่เชอร์ล็อก·โมเรียตี้เคยสร้าง มาริคไม่ได้เสกซอมบี้ขึ้นมาเล่นไพ่กับตัวเอง“ไม่ได้พบกันนาน” ไคลน์เป็นฝ่ายเริ่มทักทายในเวลาเดียวกัน ชารอนเจ้าของหมวกอ่อนใบเล็ก สวมเดรสสีดำหรูหราซับซ้อน ปรากฏกายในท่านั่งบนเก้าอี้สูงปราศจากพนักพิง“สายัณห์สวัสดิ์ มาดาม” ไคลน์หันไปมอง ยิ้มและทักทายชารอนยืนขึ้นในลักษณะที่คล้ายกับลอยตัว จับชายกระโปรงยกขึ้น โค้งคำนับเล็กน้อยแต่สุภาพ ส่วนมาริควางไม้คิวลงพร้อมกับกล่าวเสียงทุ้มแหบ“ยังอยู่ในเบ็คลันด์สินะ”ใบหน้าของอีกฝ่ายยังคงซีดเซียว แต่จิตสังหารในดวงตาสีน้ำตาลจางหายลงมาก คล้ายกับ ‘การระงับแรงปรารถนา’ ส่งผลในเชิงบวกต่อร่างกายแค่มองผิวเผินก็ทราบได้ทันทีว่า การครอบครอง ‘มงกุฎจันทร์ชาด’ ช่วยให้มันไม่ต้องจิตใจแตกสลายทุกครั้งที่เกิดปรากฏการณ์พระจันทร์เต็มดวง ส่งผลให้ไม่ต้องคอยเปลี่ยนยาระงับประสาทบ่อยๆสำหรับคำถามของมาริค ไคลน์ยังไม่ตอบในทันที แต่เดินไปที่โต๊ะบิลเลียด วางเบียร์ลง ยิ้มและกล่าว“ผมเสียใจ… ทั้งที่สัญญาว่าจะขายตะกอนพลังวิญญาณอาฆาตให้คุณ… แต่สุดท้ายกลับต้องเสียมันไป”ดวงตาสีฟ้าอ่อนของชารอนยังคงไม่สั่นไหว ไม่ซักไซ้ถึงสาเหตุ เพียงถามกลับอย่างห่วงใย“แล้วคุณเป็นอะไรไหม?”เธอทราบว่าตะกอนพลัง ‘วิญญาณอาฆาต’ ที่เชอร์ล็อก·โมเรียตี้เอ่ยถึงนั้นเป็นของ ‘พลเรือเอกโลหิต’ เซนอล และเซนอลคือหุ่นเชิดของยอดนักสืบรายนี้ การเสียตะกอนพลังย่อมหมายถึงการสูญเสียหุ่นเชิด และสำหรับผู้วิเศษ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก“ผมสบายดี อย่างน้อยตัวเองก็ยังปลอดภัย” ไคลน์ถอนหายใจพลางยิ้ม“ถึงว่าคราวนี้ไม่เห็นเซนอล…” มาริคพึมพำดูเหมือนว่า ทั้งมาริคและชารอนจะไม่เสียดายตะกอนพลังวิญญาณอาฆาตมากนัก… พวกเขามีช่องทางหรือวิธีอื่นในการครอบครองอยู่แล้ว? ไคลน์วิเคราะห์สถานการณ์ ก่อนจะถามต่อ“คราวนี้มีอะไร?”มาริคชำเลืองไปทางเอียน เด็กชายที่ดูโตกว่าปรกติไม่ถามมากความ เดินออกจากห้องบิลเลียดทันทีพร้อมกับปิดประตูชารอนที่ยังคงมีใบหน้าไร้อารมณ์ราวกับตุ๊กตา ปล่อยให้มาริคเป็นฝ่ายพูด“พรุ่งนี้จะมีเรือจากทวีปใต้แล่นมาจอดในท่าเรือพริสต์ คาดว่าน่าจะเป็นของกองทัพโลเอ็น… เรือลำดังกล่าวเต็มไปด้วยสมบัติและวัตถุโบราณที่ปล้นมาจากที่ราบสูงดวงดาว หุบเขาเพิร์ธ และทุ่งกว้างฮาเก็นติ… จากบรรดาสมบัติทั้งหมด หนึ่งในนั้นคือมัมมี่ เป็นมัมมี่ของกษัตริย์องค์ที่สิบเก้าแห่งอาณาจักรที่ราบสูงฮาเก็นติโบราณ กษัตริย์ตูตันส์ที่สอง… ภาษาโบราณของทวีปใต้มิได้มีรากฐานมาจากภาษาฟุซัคโบราณ แต่เป็นภาษาที่ราบสูงซึ่งมีโครงสร้างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กษัตริย์จะถูกเรียกว่า ‘คาร์ดิฟ’ แต่จักรพรรดิโรซายล์กลับเรียกว่า ‘ฟาโรห์’ ไม่มีใครรู้ว่าเขาถอดรหัสอย่างไรถึงได้คำนี้ออกมา นอกจากนั้น ชื่อ ‘มัมมี่’ ก็ยังมาจากเขา… สรุปโดยสั้น ฟาโรห์หมายถึงบุตรแห่งเทพ หมายถึงกษัตริย์แห่งมวลมนุษย์… ตูตันส์ที่สองเคยเป็นผู้วิเศษลำดับสูง หลังจากที่เขาเสียชีวิต ตะกอนพลังได้ถูกนำกลับไปใช้งานใหม่ เหลือไว้เพียงร่างกายที่ถูกแปรสภาพเป็นมัมมี่… สำหรับผู้วิเศษคนอื่น มัมมี่ตูตันส์เป็นเพียงวัตถุวิญญาณที่เหมาะสำหรับนำไปใช้สร้างซอมบี้… แต่สำหรับพวกเรา มัมมี่ตัวนี้มีความหมายพิเศษ เป็นของสำคัญมาก เป้าหมายของพวกเราคือมัมมี่ตูตันส์ที่สองตัวนี้”มีความหมายพิเศษ? ศพของผู้วิเศษลำดับสูงที่ไม่เหลือตะกอนพลัง นอกจากทำเป็นวัตถุวิญญาณ ยังจะนำไปใช้อะไรได้อีก? สมองไคลน์เริ่มประมวลผล จนกระทั่งฉุกคิดได้ว่า มาดามเฮอร์มิทแห่งชุมนุมทาโรต์เคยขอซื้อเลือดของสัตว์ในตำนานหนึ่งหยดพิธีกรรมสำหรับเลื่อนจากลำดับ 5 วิญญาณอาฆาตไปเป็นลำดับ 4 หุ่นกระบอก? ชารอนมีสูตรโอสถอยู่แล้ว และย่อยโอสถวิญญาณอาฆาตเรียบร้อยแล้วเช่นกัน? อา เธอมักสวมบทบาทเป็นวิญญาณอาฆาตเสมอ โอสถอาจถูกย่อยสมบูรณ์นานแล้ว… แต่จากคำพูดของวิญญาณมารในซากอาคาร ชารอนยังไม่มีสูตรโอสถหุ่นกระบอก… ทุกคนมีช่องทางของตัวเอง ตอนนั้นไม่มี แต่ใช่ว่าปัจจุบันจะไม่มีสักหน่อย… ไคลน์ชำเลืองหางตาไปทางชารอน แต่ก็ไม่พบการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าอีกฝ่าย เธอยังทำตัวเหมือนตุ๊กตามากกว่ามนุษย์ แต่มิได้แผ่บรรยากาศสยองขวัญชารอนนั่งฟังเงียบงัน ทำเพียงเฝ้ามองบทสนทนาระหว่างมาริคและเชอร์ล็อก·โมเรียตี้“ถ้าเป้าหมายเป็นเพียงมัมมี่ลำดับสูงที่ปราศจากตะกอนพลัง ระดับการเฝ้าระวังก็ไม่น่าจะสูงนัก ลำพังพวกคุณสองคนน่าจะขโมยได้ไม่ยากไม่ใช่หรือ” ไคลน์ตั้งคำถามด้วยสีหน้าครุ่นคิดตามความคิดของมัน ผู้วิเศษลำดับ 5 นั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง เว้นเสียแต่เรือจะถูกคุ้มครองโดยครึ่งเทพ ลำพังผู้วิเศษในระดับเดียวกันไม่น่าจะหยุดยั้งสำเร็จหากเป้าหมายของชารอนมีแค่มัมมี่ตัวเดียว และเหนือสิ่งอื่นใด ภายในเรือยังเต็มไปด้วยสินค้า คนคุ้มกันต้องกระจายตัวไปตามห้องเก็บของต่างๆ ซึ่งมีสภาพแวดล้อมแตกต่างกันถึงคราวชารอนออกโรงอธิบาย และแน่นอน เธอยังคงตอบห้วนๆ อย่างเป็นเอกลักษณ์“พวกเรากังวลว่านั่นอาจเป็นกับดักของโรงเรียนกุหลาบ… หากไม่มีอันตราย ทางเราจะจ่ายค่าจ้างหนึ่งพันปอนด์ แต่ถ้ามี พวกเราจะคอยดึงความสนใจให้ ส่วนคุณขโมยมัมมี่ให้สำเร็จ ค่าจ้างขึ้นอยู่กับความยากง่าย เริ่มตั้งแต่ห้าพันไปจนถึงหนึ่งหมื่นปอนด์”เข้าใจแล้ว… ไคลน์ไม่ตอบทันที ไตร่ตรองสักพักก่อนจะหันไปถาม“คุณรู้จักหัวขโมยโลกวิญญาณไหม?”วิญญาณอาฆาตถือเป็นผู้วิเศษที่สามารถผ่านเข้าออกโลกวิญญาณได้ง่ายและมีประสิทธิภาพชารอนพยักหน้าพร้อมคำตอบ“ดิฉันสามารถจ่ายค่าจ้างเป็นเงินสดผสมกับข้อมูลของหัวขโมยโลกวิญญาณ”ไคลน์อืมในลำคอและกล่าว“ขอกลับไปคิดดูก่อน จะเขียนคำตอบให้ก่อนเที่ยงคืน”ในฐานะนักทำนายมากประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นภารกิจแบบใด ไคลน์ก็ต้องทำนายยืนยันอันตรายบนมิติเหนือสายหมอกเสียก่อน แต่หนึ่งสิ่งที่มั่นใจได้ก็คือ นี่ไม่ใช่กับดักสำหรับเล่นงานตนแน่นอน เพราะมันไม่เคยมีมัมมี่เป็นเป้าหมาย“ตกลง” ชารอนตอบหน้านิ่งไคลน์ยังไม่กลับทันที แต่เดินไปที่ประตูและเรียกให้เอียนเข้ามา“พักหลังมีข่าวใหม่ๆ ที่น่าสนใจบ้างไหม”เอียนไตร่ตรองสักพัก ก่อนจะเล่าข่าวใหญ่ทีละข่าว“…มีคนมาที่นี่และถามเกี่ยวกับองค์กรที่ศรัทธาเดอะฟูล”ไคลน์ยิ้มมุมปากพลางถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ“ชายผมดำผู้มีดวงตาสีเขียว?”มันสงสัยว่าจะเป็นเลียวนาร์ดเอียนส่ายหน้า“เปล่า… ผมสีดำ ดวงตาสีเข้ม”ใครสักคนจากชุมนุมแสงเหนือ? ไคลน์ใคร่ครวญสักพักก่อนจะถาม“วาดภาพชายคนนั้นได้ไหม?”“…” เอียนผงะเล็กน้อย กล่าวเสียงขื่นขม “ถ้าเป็นแบบนั้น… คุณคงจำไม่ได้ว่าเขาคือใคร?”ทันใดนั้น ชารอนกล่าว“ฉันช่วยได้”“ตกลง” เอียนถอนหายใจโล่งอก ลงมือประกอบพิธีกรรมตามคำแนะนำถัดมา ร่างของเด็กหนุ่มกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะวาดภาพด้วยท่าทางที่คล้ายกับถูกสิงร่างจนกระทั่งออกมาเป็นภาพของชายผมดำหยักศกเล็กน้อย หน้าผากกว้าง แก้มตอบ ดวงตาสีเข้ม สวมแว่นขาเดียวอามุนด์!‘ผู้เย้ยเทพ’ อามุนด์!
คอมเม้นต์